แม้วแขวะ! คนแก่บางคนตกยุค

"อดิศร"ฉะอานันท์หวังฟลุกรอบที่3ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ


ทักษิณ ตีสำนวน พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ไม่ทันขาดคำ แขวะ คนแก่ บางคนตกยุคไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ชี้สงครามเย็นยังไม่เลิกรา โวยพวกมองด้านเดียวเป็นพวก so stupid เชื่อมีกลุ่มอนาธิปไตยไม่ยอมรับอำนาจรัฐ-ระบบทุนนิยม แนะนำหนังสือ อย่ากินคนเดียว มีเนื้อหาอย่าเก่งคนเดียว ไม่ใช่สอนคอร์รัปชัน อดิศร ฉะ ผู้ดีรัตนโกสินทร์ หวังฟลุ๊คนั่งเก้าอี้นายกฯ รอบ 3 แถมอ้าง รธน. กระทบชิ่ง ป๋าเปรม ควรเป็นกลาง-ปิดปากพูดการเมือง ส่วน พงศ์เทพ ระบุ กกต.ใหม่ เลื่อนเลือกตั้งให้ยึด 3 ข้อ เผยสูตรปฏิรูปการเมืองให้คนกลางรื้อ รธน. เหมือนเดิม ทรท. เปิดนโยบายสร้างรถไฟฟ้าเอาใจคนกรุงวันนี้ อัดคู่แข่งลอกรถไฟฟ้าทั้งดุ้น ด้าน ปชป. ดีเดย์ 6 ก.ย. เปิดนโยบายเศรษฐกิจ ขณะที่ ศาลอาญา ไม่ออกหมายจับ 7 แกนนำพันธมิตรฯ อ้างหลักฐานอ่อน สุริยะใส ร้องท้าตำรวจจับแกนนำพันธมิตรฯ ต้องจับ แม้ว ฐานนั่งรถไม่มีป้ายทะเบียนด้วย ส่วน ตร.-นอภ. ระดมกำลังคุมเข้มเวทีโค่นทักษิณ อ.ปราณบุรี ฝ่าย กมธ. ส่งรายงานสอบประวัติแล้ว คาดเปิดสภากลางเดือน ก.ย. เลือก กกต.ใหม่ ได้ ขณะที่ ปชป. ตามบี้ สมคิด เปิดผลสอบนอมินี


´แม้ว´เปรยนิ่งเสียตำลึงทอง


เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีท่าทางอารมณ์ดีระหว่างเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อไปเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ที่ตึกสันติไมตรี โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ถูกเชือกกั้นระหว่างทางเดินไม่ให้เข้าประชิดตัวนายกฯ ได้ตะโกนถามว่า เดี๋ยวนี้เข้าใกล้ไม่ได้แล้ว ซึ่งนายกฯ ตอบว่า ดีแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องพูด เมื่อถามย้ำว่า อย่างนี้ข่าวฝ่ายตรงข้ามก็มากกว่าฝ่ายรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวระหว่างเป็นประธานและให้โอวาทกับผู้เข้าร่วมโครงการนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 2 ตอนหนึ่งว่า จำได้หรือไม่ว่าภายหลังจากที่กำแพงเบอร์ลินทลายลง เข้าใจว่าประธานาธิบดีบุชผู้พ่อ ได้กล่าวไว้ว่าต่อไปนี้จะไม่มีการต่อสู้กันทางอุดมการณ์อีกแล้ว จะเกิดแต่ความร่วมมือและการพัฒนาเท่านั้น ซึ่งเป็นความตั้งใจและความเชื่อ เพราะเขาเชื่อว่าหมดยุคสงครามเย็นแล้ว ไม่มีแนวคิดขวาซ้าย มีแต่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น


ซัดพวกไม่ยอมรับอำนาจรัฐ


นายกฯ กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ประชาธิปไตยได้พัฒนาขึ้นมาเป็น แนวคิดโลกาภิวัตน์ ส่วนขวาและซ้ายที่ไม่พร้อมที่จะกลับมาสู่ประชาธิปไตยหรือเข้ามาสู่ประชาธิปไตยด้วยใจที่ไม่ค่อยเชื่อก็จะเข้าสู่ระบบที่เรียกว่า อนาคิสม์ (ลัทธิอณาธิปไตย) ซึ่งเป็นพวกที่ไม่ยอมรับความเป็นรัฐ จะไม่ยอมรับอำนาจรัฐ แต่จะเน้นในเรื่องคอมมูนิตี้ และพวกนี้จะไม่ต้องการเห็นอำนาจรัฐมีมาก ไม่ต้องการเห็นกรอบของอำนาจรัฐ ถือว่ารัฐแทบไม่มีอำนาจเลยเป็นเพียงสิ่งสมมุติเท่านั้น และการต่อสู้ทางความคิดนี้ยังอยู่ เราจะเห็นบางพวกที่ไม่เห็นด้วยกับการพัฒนาแนวทางเศรษฐกิจสมัยใหม่ ซึ่งเราถูกบังคับให้อยู่ในกรอบทุนนิยม เพราะประชาธิปไตยคือระบอบทุนนิยม แต่ว่าเราอย่าไปมองอย่างสุดขั้ว ทุนนิยมคือทุนนิยม เราสามารถนำมาแก้ไขปัญหาของประชาชนฐานรากได้ ด้วยแนวคิดซึ่งเหมือนกับการแข่งกีฬาหรือเล่นกอล์ฟแบบแต้มต่อ ซึ่งเราต้องเข้าใจวิธีคิด


แขวะคนแก่บางคนตกยุค


นายกรัฐมนตรี กล่าวแนะนำหนังสือของ ดร.โดเบอร์โน เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Why so stupid" มีเนื้อหาสอนให้มนุษย์รู้จักวิธีคิด การลองคิดในแง่มุมต่าง ๆ คือพยายามคิด ทุก ๆ มุม ไม่ใช่มุมใดมุมเดียว ชอบกันก็บอกว่าดีเหลือเกิน เกลียดกันก็บอกว่าแย่เหลือเกิน วิธีนี้เขาเรียกว่าเป็นวิธี so stupid ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ ก็ต้องให้กลับมาที่หลักธรรม ส่วนอัลวิน ทอฟเลอร์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Culture Shock และคลื่น ลูกที่สามแม้จะอายุมากแต่ก็ไม่เคยตกเคิร์ฟ คนแก่บางคนตกตั้งแต่อายุยังไม่มาก แต่คนคนนี้เป็น คนแก่ที่อยู่กับการเปลี่ยนแปลงตลอด

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของระบบราชการที่อยากจะบอกน้อง ๆ คือ เราเป็นประเทศที่ยึดกับระเบียบและกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เขียนขึ้นโดยนักกฎหมาย แต่ขาดการมองในมุมการบริหารจัดการ เมื่อขาดสิ่งนี้การเขียนกฎหมายจึงเป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการมาก นักกฎหมายหรือนักรัฐศาสตร์จึงต้องเข้าใจในมุมมองการบริหารจัดการ รวมทั้งทฤษฎีระบบ โดยต้องเข้าใจระบบทั้งแบบแยกส่วนและโดยรวม ถ้าไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ก็จะไม่เข้าใจอะไรเลย


แนะหนังสืออย่ากินคนเดียว


พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า มีหนังสือ อีกเรื่องที่ชื่อมันแรงไปนิดหนึ่ง แต่ความหมายไม่ได้แรงตามชื่อ หนังสือดังกล่าวชื่อ Never eat alone หรืออย่ากินคนเดียว เป็นเรื่องเกี่ยวกับแนวทางสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่เกี่ยวกับคอร์รัปชัน เราอยากโตอยากเคลื่อนองค์กรใช่หรือไม่ ดังนั้นอย่าไปคนเดียวหรือเก่งเดียว ให้มีเพื่อนไปด้วย นี่คือหลักการ หลักที่เขาสอนมาคือต้องพยายามสร้างเพื่อน สร้างเครือข่ายที่สามารถหารือกันได้ แน่นอนเมื่อเราโตเร็วก็ต้องไม่ลืมตัว ไม่ลืมพวก ไม่ลืมคนที่เราเคยพึ่งพา ไม่ลืมคนที่เราเคยได้รับคำปรึกษาหรือข้อแนะนำ การแวะเวียนไปหาเขาเป็นประจำก็เป็นสิ่งดี คนเหล่านี้อาจเป็นเพื่อนฝูงครูบาอาจารย์ หรือนายเก่า ๆ ทั้งหลาย นั่นเป็นสิ่งที่หนังสือสอนไว้

ต่อมาเวลา 17.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีแห่งสหสาธารณรัฐแทนซาเนียและนำตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้นมีการหารือทวิภาคี และในช่วงค่ำนายกฯ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯ แห่งสหสาธารณรัฐแทนซาเนียและภริยา ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล


อดิศรฉะอานันท์หวังฟลุก


นายอดิศร เพียงเกษ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและให้ประชาชนเลือกข้างความถูกต้องว่า แม้ว่านายอานันท์เคยรับใช้บ้านเมืองในยามวิกฤติ แต่นายอานันท์ถือกำเนิดจากครรภ์มารดาที่เป็นเผด็จการทั้ง 2 ครั้ง ไม่ใช่เกิดจากเสียงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงนี้จึงไม่เป็นกลาง นายอานันท์สอนประชาธิปไตยแบบแม่ปูบอกให้ลูกปูเดินให้ตรง แต่ตัวเองเดินไม่ตรง ไม่ได้ซึมซับประชาธิปไตยทั้ง ๆ ที่นายอานันท์เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีรักษาการไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งเป็นความรับผิดชอบสูงที่ยิ่งใหญ่ ถ้าจะถามหาความรับผิดชอบกับผู้นำนั้นก็ควรจะต้องให้เกียรติกับผู้นำด้วย เว้นแต่นายกฯ จะเสียชีวิตมีอันเป็นไป จึงขอตราหน้านายอานันท์ว่าหวังจะฟลุกอีกเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ หรือคิดว่าวิกฤติบ้านเมืองในอดีตจะกลับคืนมา


กระทบชิ่ง็ป๋าเปรมิอีกคน


"หากเป็นพรรคการเมืองจะวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นสิทธิเสมอภาค แต่คนอื่นไม่ควรมาวิจารณ์ เพราะตำแหน่งต่าง ๆ ในรัฐธรรมนูญมี กฎกติกาอยู่ อย่างประธานองคมนตรีและองค มนตรีเป็นตำแหน่งที่เป็นกลางทางการเมือง เป็นที่ปรึกษาและคอยให้คำปรึกษาต่อองค์พระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้นตำแหน่งประธานองคมนตรี จึงปลอดการเมืองและเป็นกลาง อยากให้ทุก ตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญเป็นกลาง อย่าชี้ซ้ายชี้ขวาจะทำให้ประชาชนสับสน และอยากให้ทุกคนควรเคารพกติกาอย่างแท้จริง คนไหนเป็นกลางก็ควรเป็นกลาง ไม่ควรพูดพาดพิง ชี้ถูกชี้ผิด แม้จะแต่งเครื่องแบบก็ไม่เกี่ยวกับหน้าที่" นายอดิศรระบุ

เมื่อถามว่า ประเมินสถานการณ์อย่างไรที่บุคคลสำคัญและอดีตนายกฯ ออกมาวิจารณ์รัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงนี้นายอดิศร กล่าวว่า คนที่พ้นจากตำแหน่งอาจเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองต้องการอะไร แต่ต้องสำนึกด้วยว่าตำแหน่งอำนาจหน้าที่ก็มีวันเกษียณ ถ้าไม่รู้จักเกษียณก็เกินไปแล้ว ทุกคนควรรู้ตำแหน่งตัวเอง


ทรท.ให้ยึด3ข้อเลื่อนเลือกตั้ง


นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค กล่าวว่า การเลื่อนวันเลือกตั้งเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ที่จะเป็นผู้กำหนด หากเลื่อนการเลือกตั้งใหม่ทุกฝ่ายจะต้องยึด 3 กรอบ สำคัญ คือ 1.พระราชกระแสรับสั่งที่มาพร้อมกับพระราชกฤษฎีกาแก้ไขวันเลือกตั้งว่าการเลือกตั้งจะทำให้ประเทศกลับสู่ปกติ 2.รัฐธรรมนูญที่ระบุว่า ในกรณีที่มีการยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน แสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต้องการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้มีรัฐสภาและรัฐบาลเข้ามาทำหน้าที่ และ 3.การยึดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าต้องมีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นับจากวันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ

รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายปฏิรูปการเมืองของพรรคนั้นจะนำเสนอในช่วงที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามพรรคเคยประกาศแนวทางไว้แล้วเมื่อครั้งมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยเสนอให้คนกลางเป็นผู้เข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญ


เย้ยปชป.ลอกรถไฟฟ้าทั้งดุ้น


ที่พรรคไทยรักไทย น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย แถลงว่า วันที่ 2 ก.ย. เวลา 10.30 น. แกนนำพรรคนำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรค จะร่วมกันแถลงนโยบายก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เท่าที่ ติดตามการแถลงนโยบายการก่อสร้างรถไฟฟ้าของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการลอกเส้นทางของพรรคไทยรักไทยทั้งดุ้น ทั้ง 7 เส้นทางตรงกับที่พรรคได้นำเสนอไว้ 10 เส้นทาง ซึ่งของพรรคประชาธิปัตย์มีระยะทาง 136 กิโลเมตร แต่ของพรรคไทยรักไทยมีระยะทางถึง 336 กิโลเมตร และบางเส้นทางได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น เส้นทางแอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสัน-สุวรรณภูมิ โดยเส้นทางนี้พรรคประชาธิปัตย์เสนอว่าจะใช้งบก่อสร้าง 5.6 หมื่นล้านบาท แต่เราได้ทำไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท และจะพาสื่อมวลชนไปดูโครงการ


วอนสังคมยึดหลักสมานฉันท์


น.ต.ศิธา กล่าวต่อว่า ปีนี้เป็นการ ฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และในปีหน้าจะ เป็นวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ที่มีบางส่วนบอกว่าเป็นข้าราชการเป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงอยาก จะบอกว่าประชาชนคนไทยทั่วประเทศก็เป็นประชาชนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นกัน เราควรจะร่วมมือร่วมใจกันสร้างความสมานฉันท์ในสังคม เพราะคนไทยทุกคนมีความจงรักภักดี และคงไม่มีพ่อคนไหนอยากให้ลูกทะเลาะกัน แล้วมาอ้างว่ารักพ่อ ในช่วงเวลา 2 ปี อยากให้ประชาชนตระหนักไม่นำเรื่องนี้มาใช้แบ่งฝักแบ่งฝ่ายประหัตประหารกันในสังคม

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ออกมาระบุว่าการบริหารงานไม่ถูกต้องจะเกิดหายนะ และไม่ควรนับถือคนมีเงินที่เป็นคนเลว โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ทุกคนก็เห็นด้วยตามแนวคิดของท่าน รวมถึงเรื่องคนเลวก็ไม่ควรนับถือไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่ก็ตาม


6 ก.ย.ปชป.เปิดนโยบายศก.


ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้าม ไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันที่ 6 ก.ย. นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ จะประกาศวาระประชาชนด้านเศรษฐกิจ เพื่อเสนอตัวเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทย ซึ่งหลังจากที่พรรคได้ประกาศวาระประชาชนด้านต่าง ๆ ทำให้มีประชาชนหลายฝ่ายให้ความสนใจ วิพากษ์วิจารณ์ สอบถามอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะวาระประชาชนด้านขนส่งมวลชนที่พรรคได้ประกาศว่าจะสร้างเส้นทางรถไฟฟ้า 7 สาย ทำให้รัฐบาลพรรคไทยรักไทยรีบประชุม ครม.ออกมาชูนโยบายรถไฟฟ้า 10 สาย ทั้งที่ล่าสุดพรรคไทยรักไทยประกาศสร้างเพียง 3 สาย จึงเห็นได้ว่าคำประกาศของพรรคไทยรักไทยเปลี่ยนเสมอทำให้ประชาชนสับสน เพราะการสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของประชาชนในการดำเนินชีวิต เช่น การซื้อบ้านใหม่ที่ต้องมีการคำนึงถึงการเดินทาง


ต้องฟังคำป๋าเปรม-อานันท์


ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่า พรรคไทยรักไทยจะทยอยเปิดนโยบาย เพราะกลัวพรรคประชา ธิปัตย์จะไปลอกนั้น นายองอาจ กล่าวว่า พรรคไม่จำเป็นต้องไปลอกนโยบายใคร เพราะวาระประชาชนของพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้นจากการศึกษา วิจัย และรับฟังเสียงของประชาชน แต่พรรคไทยรักไทยกลับเป็นผู้ที่ต่อยอดนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือกองทุนต่าง ๆ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรับฟังการเสนอแนะของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ และนายอานันท์ เพราะท่านทั้งสองพยายามบอกให้ประชาชนรับทราบความจริงในสังคมว่าเป็นอย่างไร ส่วนความเห็นของการเลื่อนวันเลือกตั้งนั้น ควรจะรอให้มี กกต.ชุดใหม่เข้ามาพิจารณา และประสานกับรัฐบาลในการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ซึ่งทุกพรรคการเมืองอยากให้มีการเลือกตั้ง แต่ต้องเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม จึงต้องให้เวลา กกต.ชุดใหม่ในการเข้ามา จัดการเลือกตั้ง การรีบเร่งอาจจะเกิดปัญหาข้อกฎหมาย และจะทำให้เกิดปัญหายุ่งยากขึ้นอีก


คาดเลือก กกต. กลางเดือนก.ย.


ที่รัฐสภา นายสุนทร จินดาอินทร์ รักษาการ ส.ว.กำแพงเพชร ในฐานะประธานคณะ กรรมาธิการเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติและความประพฤติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุมว่า คณะกมธ.ฯ ได้พิจารณารายงานเสร็จสิ้น และได้ส่งรายงานให้รักษาการประธานวุฒิสภาแล้วเพื่อรักษาการประธานวุฒิสภาจะได้ดำเนินการขอพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญต่อไป โดยคาดว่าน่าจะส่งให้ ครม. พิจารณาได้ภายในวันที่ 5 ก.ย. ส่วนการเปิดสภาเพื่อเลือก กกต.น่าจะเป็นสัปดาห์ถัดไป

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ รักษาการ ส.ว.กรุงเทพฯ ในฐานะเลขานุการคณะกมธ.ฯ กล่าวว่า จากการพิจารณาได้สรุปเอกสารลับ 2 ชุด ซึ่งถือว่ามีความหนามากที่สุด คือ เอกสารที่เกี่ยวกับความเป็นกลางทางการเมืองมีความหนา 217 หน้า และเอกสารเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ มีความหนา 190 หน้า


ศาลไม่ออกหมายจับพันธมิตร


วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา นายอำนวย ธันธรา อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาและองค์คณะผู้พิพากษา มีคำสั่งให้ยกคำร้องของ พล.ต.ต. ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบช.น. โดยไม่อนุมัติให้ออกหมายจับแกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย น.ส.รสนา โตสิตระกูล นายสุริยะใส กตะศิลา นายสุวิทย์ วัดหนู นายอวยชัย วะทา นายเพียร ยงหนู นายศิริชัย ไม้งาม และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้ต้องหาคดีก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 และ 216 ที่ร่วมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ชุมนุมปราศรัยตามสถานที่ต่าง ๆ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ถือว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 วรรคหนึ่ง และแม้จะมีการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ขาดความยำเกรง แต่ไม่มีเจตนาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนที่จะเป็นการก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร

ชี้หลักฐานตำรวจไม่มีน้ำหนัก
ส่วนคำปราศรัยของ น.ส.รสนา ที่เรียกร้องไม่ให้ประชาชนเสียภาษีนั้น เมื่อพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีเจตนาให้ผู้ชุมนุมต่อต้านสินค้าของบริษัทเอกชนบางราย ส่วนการเลื่อนจ่ายภาษีและการหยุดงานเป็นมาตรการต่อไปที่อาจนำมาใช้เมื่อ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง เมื่อผู้ร้องยังไม่มีหลักฐานตามสมควรว่านายสุริยะใสกับพวกรวม 7 คนน่าจะได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 และ 216 จึงไม่มีเหตุเพียงพอที่ศาลจะออกหมายจับตามคำร้อง

สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 108, 114 และ 148 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 19, 39, 54 และ 57 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 และ 9 นั้นเห็นว่ามีโทษปรับสถานเดียว เมื่อผู้ต้องหาไม่หลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุอันตรายอื่น ประกอบกับหมายเรียกของผู้ร้องระบุความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 เท่านั้นจึงยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องได้มีหมายเรียกผู้ต้องหาไปรับทราบข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ. 3 ฉบับดังกล่าว ดังนั้นจึงชอบที่ผู้ร้องจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาใหม่ได้ แต่ชั้นนี้ศาลสมควรให้ยกคำร้องขอออกหมายจับ

สุริยะใสตีปีกจัดชุมนุมใหญ่
นายสุริยะใส กล่าวภายหลังรับทราบคำสั่งศาลว่า คำสั่งศาลตอกย้ำชัดเจนว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ ยึดกรอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยสันติและปราศจากอาวุธ และข้อกล่าวหาของตำรวจไม่มีหลักฐานอันสม ควร ็ถ้าตำรวจออกหมายเรียกอีก โดยส่วนตัวจะไม่ไปรายงานตัวเช่นเดิม ถ้าตำรวจจะขอหมายจับก็พร้อมชี้แจงต่อศาลอีกครั้ง ส่วนข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ถ้าออกหมายเรียกนั้นก็ต้องเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เพราะนั่งรถไม่มีป้ายทะเบียนิ ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ตำรวจตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองกลั่นแกล้งผู้บริสุทธิ์ เพราะสุดท้ายตำรวจอาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และจะกลายเป็นผู้ร้ายเสียเอง

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า พันธมิตรฯ มีความมั่นใจในการเคลื่อนไหวต่อไป โดยเฉพาะการเตรียมการชุมนุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเร็ววันนี้จะต้องเดินหน้าต่อไป และ 5 แกนนำก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายึดแนวทางสันติวิธีและอหิงสธรรม พรรคไทยรักไทยอย่าออกมาขู่ ถ้าเห็นว่าผิดกฎหมายก็ขอให้ดำเนินคดีได้เลยเพื่อจะได้ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินว่าใครผิดใครถูกและจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป

สั่งตร.คุมเข้มเวทีโค่นทักษิณ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ จะเปิดปราศรัยโค่นระบอบทักษิณในวันที่ 3 ก.ย. ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ช่วงนี้อยู่ในระหว่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจึงอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 44 (5) หากมีการใส่ร้ายด้วยความเท็จทำให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม และ กกต. มีอำนาจออกคำสั่งหยุดการกระทำได้ ที่สำคัญควรหรือไม่ที่จะไปจัดปราศรัยในพื้นที่ที่จะยกเป็นจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ

พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิ์วงศ์ ผบก.จว. ประจวบฯ เปิดเผยว่า ได้เตรียมกองร้อยควบคุมฝูงชนที่ 1 จำนวน 300 นายไว้ในที่ตั้งและพร้อมเดินทางไปถึงที่ปราศรัยภายใน 5 นาทีหากมีเหตุรุนแรง รวมทั้งได้ประสานกับสันติบาลเพื่อรักษาความปลอดภัยแกนนำทั้งฝ่ายหนุนและต้านรัฐบาล และยืนยันว่าจะไม่สกัดกั้นประชาชนที่จะไปร่วมฟังการปราศรัยของแกนนำพันธมิตรฯ ขณะที่นายธวัชชัย วิสมล นายอำเภอปราณบุรี เปิดเผยว่า ได้เตรียมอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) 20 นาย และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อีก 25 นายเพื่อเสริมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบบริเวณพื้นที่ปราศรัย

ยกคำร้องคดีแม้วพักร้อน
ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่นายการุณ ใสงาม รักษาการ ส.ว.บุรีรัมย์ และพวกยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษา การนายกรัฐมนตรี และ ครม. ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากการลาพักร้อนของ พ.ต.ท.ทักษิณในช่วงก่อนหน้านี้ ถือว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ได้พ้นสภาพจากการเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และไม่รับคดีดังกล่าวไว้พิจารณา เพราะคดีดังกล่าวไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของศาลปกครองที่จะรับไว้พิจารณาและวินิจฉัยได้ อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยขอบเขตอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลไว้แล้ว รวมทั้งผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว

นายนิติธร กล่าวว่า กรณีของตนแม้ ศาลจะอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้เดือดร้อน แต่ตนเห็นว่ากระทรวงการคลังเป็นผู้เสียหายโดยตรง ดังนั้นตนจะไปร้องกระทรวงการคลังให้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท. ทักษิณ ในฐานะเป็นผู้เสียหาย โดยเฉพาะการลาพักร้อนทำให้กระทรวงการคลังเสียหาย ทั้งนี้ตน กำลังพิจารณาอยู่ว่า ถ้าหากกระทรวงการคลังไม่ร้อง ตนในฐานะที่เป็นผู้เสียหายจะยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีต่อศาลปกครองได้เองหรือไม่

ยุทธตู้เย็นเซ็นด่วนย้ายอธิบดี
อีกเรื่องหนึ่ง นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงนามในคำสั่งย้ายนายฉัตรชัย รัตโนภาส อธิบดีกรมป่าไม้ มาประจำสำนักงานปลัดกระทรวง ทส. แทนว่า ไม่ได้เป็นการย้ายฟ้าผ่าอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เห็นว่านายฉัตรชัยจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ต.ค. นี้แล้ว จึงไม่อยากให้ยุ่งยากเรื่องการสอบสวนหาผู้กระทำผิด แล้วให้นายไพศาล กุวลัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการ ทส.ไปรักษาการแทนโดยยังไม่ได้แต่งตั้งใคร เพราะเร็ว ๆ นี้ กรมป่าไม้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะรวมกันอยู่แล้ว

ด้านนายฉัตรชัย กล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าจะถูกย้ายกะทันหัน และไม่ทราบว่าถูกย้ายเพราะสาเหตุใด เข้าใจว่านายยงยุทธอาจต้องการให้มีผู้ประสานงานต่อที่กรมป่าไม้ เพราะผู้บริหารของกรมจะเกษียณพร้อมกันทั้งหมด

ข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่นายยงยุทธลงนามในคำสั่งปลดดังกล่าวเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค. อาจเกิดจากข่าวการลักลอบขนไม้พยุงออกจากป่า จ.มุกดาหาร ไปยังแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว แล้วประทับตราในสะหวันนะเขตก่อนส่งต่อไปยังประเทศจีน ซึ่งการลักลอบดังกล่าวมีการตั้งข้อสงสัยว่ามีข้าราชการกรมป่าไม้เกี่ยวข้องด้วย และได้มีการย้ายป่าไม้จังหวัดไปแล้ว 1 คน

ปชป.จี้สมคิดิเปิดผลนอมินี
ที่กระทรวงพาณิชย์ นายเกียรติ สิทธีอมร คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังเข้ายื่นหนังสือถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เพื่อให้เปิดเผยผลสอบการเป็นผู้ถือหุ้นแทน (นอมินี) ของบริษัทกุหลาบแก้ว ในการซื้อหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ภายใน 7 วัน โดยนายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับหนังสือแทนว่า หากพ้นกำหนดแล้วยังไม่ได้รับคำตอบก็จะดำเนินการตามช่องทางกฎหมายอื่นต่อไป และถ้าซื้อเวลานานออกไปจะยิ่งพิสูจน์ว่าละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่

นายเกียรติ กล่าวว่า โครงสร้างบริษัทกุหลาบแก้วชี้ว่าเป็นนอมินีชัดเจน เพราะไม่มีบริษัทไหนที่มีทุนจดทะเบียนแค่ 1 แสนบาท แต่ไปซื้อหุ้นเป็นหมื่นล้านบาท หรือแม้แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ในบริษัทถือหุ้น 51% แต่ขอรับส่วนแบ่งแค่ 3% เท่านั้น ็ผมอยากพบนายสมคิด เพราะรู้สึกว่า นายสมคิดจะลอยตัวต่อเรื่องนี้มาตลอด และนายอภิสิทธิ์ อยากจะเจอด้วย พยายามนัดมาเป็นสัปดาห์แล้ว แต่คิวไม่ว่างเลย ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป้าหมายชีวิตของนายสมคิดคืออะไรแน่ การพิสูจน์เรื่องนี้ต้องใช้ความกล้าหาญ แต่เข้าใจว่าทำได้ยากเพราะไปเกี่ยวกับคนที่โอบอุ้มกันมาก่อน.




แหล่งข่าว เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์