3เกลอความจริงฯ แฉ กองทัพ ร่วมดัน ปชป. จัดตั้งรัฐบาล

"วีระ" นำทีมแฉ "ทหาร" อำนวยการสร้างรัฐบาล"ปชป." ยัน "อภิสิทธิ์" ไม่มีสิทธิเป็นนายกฯ ปลุกระดมเสื้อแดงชุมนุมขวางจนถึงที่สุด 13 ธ.ค.นี้ หลังปูด "มาร์ค" หนีทหาร ปรากฎมีอีเมล์แก้ต่างแทน โชว์ภาพยืนยันไม่ได้หนี

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าด้านผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้และอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปก.) นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งร่วมกันแถลงที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม โดยนายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจน มีความพยายามจัดตั้งรัฐบาลโดยการจัดการของฝ่ายอื่นนอกเหนือระบบรัฐสภา โดยได้รับคำยืนยันชัดเจนจากนักการเมืองคนสำคัญ 2 คน ว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม มีการพบกันที่บ้านของนายทหารใหญ่เพื่อให้พรรคการเมืองยอมรับรัฐบาลใหม่ภายใต้การอำนวยการของทหาร โดยอ้างว่ารับคำสั่งมาอีกต่อหนึ่ง

"มันเป็นลักษณะของการรัฐประหารซ่อนรูป ส่วนการตั้งรัฐบาล เราไม่ขัดข้อง ให้ใครจัดตั้งหรือเป็นนายกฯก็ได้ แต่ขอให้เป็นกรอบของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย แต่เมื่อใดเป็นการอำนวยการสร้างของทหาร ถือเป็นวิธีการที่เรารังเกียจและต่อต้าน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐประหารซ่อนรูป ซึ่งการปล้นการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งนี้แพงที่สุดกว่าการปฏิวัติยึดอำนาจทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะการทำรัฐประหารซ่อนรูปครั้งนี้ ทำให้เสียหายหลายแสนล้านบาท ทั้งยึดทำเนียบ สนามบิน และยุบสามพรรค โดยหวังว่าจะให้แนบเนียน แต่คนก็จับได้" นายวีระกล่าว

นายวีระกล่าวว่า การแทรกแซงของทหารต่อการเมืองมีมาตั้งแต่ปี 2523-2531 และมีความพยายามหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม แต่ก็ล้มเหลวไป

"นี่ยังไม่ทันครบหรือเข้ารอบปี ก็กลับมาวังวนเก่า มันเป็นพฤติกรรมที่ผู้รักประชาธิปไตยต้องต่อต้าน เราไม่ได้ต่อต้านตัวบุคคล แต่ต่อต้านความคิดที่ทหารเข้ามาแทรกแซง แล้วทำมากินปูนร้อนท้อง ออกมาบอกว่าทหารไม่เกี่ยวข้อง อะไรกัน เดินทางจากพรรคประชาธิปัตย์ถึงโรงแรมสุโขทัยใช้เวลาสองชั่วโมง แล้วเลี้ยวเข้าไปใน ร.1 พัน 1 ได้อย่างไร และการที่นักการเมืองสยบสมยอมทหาร ถือเป็นการทรยศต่อประชาชน ซึ่งนักประชาธิปไตยยอมไม่ได้ ครั้งนี้เราจะดูต่อไปว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร ผมมาแถลงถึงประชาชนถึงเสื้อทุกสีผู้รักประชาธิปไตยว่า จะยอมให้เกิดเรื่องนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเสื้อแดงต้องเตรียมการกันล่วงหน้า เราจะต้องทำความเข้าใจกันครั้งใหญ่ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ในรายการความจริงวันนี้สัญจรที่สนามศุภชลาศัย ผมจะพูดให้รายละเอียดเรื่องรัฐประหารซ่อนรูปว่าเป็นอย่างไร" นายวีระกล่าว
 


ด้านนายจตุพรกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภา ขอประณามพฤติกรรมของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่เข้ามายุ่งและบงการการจัดตั้งรัฐบาล เป็นการแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตย

ไม่อยากให้ใครมาเรียกว่าเผด็จการหัวเถิก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของทหาร การที่ ผบ.ทบ.ปล่อยให้ให้พันธมิตรมายึดทำเนียบ สนามบิน เสียหายนับแสนล้านบาท แล้วให้ยุบสามพรรค เพื่อให้เกิดสิ่งเหล่านี้ คิดหรือว่าประชาชนจะรับได้ และคิดว่านายอภิสิทธิ์ เววชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีสิทธิที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่วันเดียว


นายจตุพรกล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ไปด้วยเหตุผลทางการเมือง ดังนั้น ตัวนายอภิสิทธิ์ที่ไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารจะเป็นนายกฯได้อย่างไร 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายจตุพรได้ชูเอกสารกล่าวหานายอภิสิทธิ์ไม่ได้เกณฑ์ทหาร ก่อนกว่าเสริมว่า สรุปว่าครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ ผบ.ทบ.กวาดต้อนนักการเมือง เพื่อให้คนหนีทหารขึ้นมาเป็นนายกฯ

"ท่านทำลายประชาธิปไตยไม่ได้ง่ายต่อหน้าต่อตา ทั้งหมดชี้ให้เห็นว่ามีการพยายามเปลี่ยนขั้วทางการเมือง โดยให้ ผบ.ทบ.มาเดินเกม ประเทศไทยหลังจากนี้จะไม่มีความสงบสุขอยู่อีกเลย เพราะเอาคนหนีเกณฑ์ทหารมาเป็นนายกจะต้องได้รับการขัดขวางจากประชาชนจนถึงที่สุด ทำไมไม่รัฐประหารไปเสียเลย ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้ออกมา อย่ามาเป็นเผด็จการหัวเถิก ส่วนในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอิน พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดทุกเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทุกเรื่องที่เป็นการนำพาการโค่นล้มประชาธิปไตย"นายจตุพรกล่าว
 
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า  อยากฝากไปยังแม่ทัพนายกองว่าไม่มีสิทธิจะมาจับขั้ว ทำขั้วการเมือง อย่าแอบทำอย่าทำลับๆ ล่อๆ ให้ปล้นกันดีกว่าเป็นตีนแมวย่องเบา 


พ.ต.ท.สมชาย  เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การดำเนินการเช่นนี้ของทหารถือเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ยอมรับ รวมทั้งจะเป็นการทำลายศรัทธาภาพพจน์ของกองทัพอีกด้วย ดังนั้น การกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ นำข้อมูลโจมตี นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ  ว่าไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร จึงไม่สามารถที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น

ปรากฏว่า ล่าสุด ได้มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เมล) ส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก โดยมีข้อความว่า "ใครว่าอภิสิทธิ์หนีทหาร" พร้อมแนบรูปภาพนายอภิสิทธิ์ สวมเครื่องแบบสีเขียว ระบุยศ นนท. สังกัดกองวิชากฎหมาย และสังคมศึกษา ร.ร.จปร. อ.เมือง จ.นครนายก รวมทั้งมีภาพถ่ายหมู่ที่มีนายอภิสิทธิ์รวมอยู่ในภาพนั้นด้วย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์