แม้วขอบคุณเสื้อแดงช่วยลงชื่อถวายฎีกา คุยเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลั่นหวังกลับมาตอบแทนบุญคุณ

"ทักษิณ"โฟนอินขอบคุณเสื้อแดงลงชื่อถวายฎีกาเกิน4ล้านชื่อ คุยแผนสร้างทีวีประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ลั่นจะกลับมาตอนแทนบุณคุณผู้สนับสนุน คุยการต่อสู้ของคนเสื้อแดงยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศบนเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ว่าได้นับจำนวนประชาชนลงชื่อเพื่อทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อ 20.20 น.  ว่ามีรายชื่อประชาชนมาลงชื่อจำนวน 4,109,973 คน
 
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินมาที่เวทีเสื้อแดงว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมลงชื่อถวายฎีกาช่วย ดูจากสถานี "ดีสเตชั่น" เห็นชัดเลยว่ากำลังโบกไม้โบกมืออย่างชัด มาจากหลายพื้นที่ของประเทศ ทราบว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งจากพี่น้องถือว่าเป็นเมตตาที่ยิ่งใหญ่มาก วันนี้ได้รับรายงานว่าขณะนี้มีผู้เข้าชื่อทูลเกล้าฯถวายฎีกว่า 4 ล้านคน เป็นสิ่งที่ต้องสำนึกในบุญคุณ เป็นน้ำใจที่ยิ่งใหญ่จากพี่น้องประชาชน ไม่รู้จะพูดอย่างไร อยากเข้าไปตอบแทนบุญคุณด้วยการทำงานให้พี่น้องก็ไม่ได้เข้าไป ถ้าได้เข้าไปตอบแทนแล้วจะได้นอนตายตาหลับ
 
อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตอนที่ตนโดนปฏิวัติปีแรกผมงง คิดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรเพราะโดนกล่าวหายัดเยียดข้อหา ปีที่สองหายงง แต่คิดอะไรไม่ออก ปีที่ 3 เริ่มคิดได้เมื่อออกมาอยู่เมืองนอกนานๆ คิดว่าน่าจะทำอะไรให้พี่น้องไทยในฐานะที่ผมเคยบริหารประเทศไทยมาก่อนและเดินทางไปในหลายประเทศ เห็นว่าหลายประเทศมีการทำสถานีโทรทัศน์เป็นภาษาอังกฤษเพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศของตนเอง เราจึงต้องทำเช่นนั้นบ้างเพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับและเข้าใจของต่างชาติ ผมนึกถึงเทคโนโลยีใหม่เอี่ยมล่าสุดจากที่เดิมไม่เคยทำได้ แต่ตอนนี้สามารถทำได้ไม่ยาก ตนเลยตัดสินใจทำสถานีโทรทัศน์ 100 ช่อง และ 4 ช่องที่คิดไว้ทำเพื่อประโยชน์ให้คนไทย
 
ช่องแรกต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงงานตรากตรำมากว่า 60 ปี เป็นพระเจ้าอยู่หัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว มีโครงการมากมายที่สามารถเอาไปเผยแพร่ได้ ตนเคยไปเล่าให้ผู้นำแอฟริกาฟังและรับอาสาทำแปลงสาธิตเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ ปรากฎว่าเป็นที่ตื่นเต้นของคนแอฟริกา จึงคิดจะเปิดสถานีโทรทัศน์ช่องที่นำพระราชกรณียกิจของในหลวงไปเผยแพร่เพื่อเป็นตัวอย่างที่เป็นประโยชน์ให้แก่ประเทศยากจนที่กำลังพัฒนาให้คนมีกินมีใช้
 
"ปล่อยให้กล่าวหาว่าผมไม่จงรักภักดี ว่าไป คนพวกนี้ ปากกับใจตรงกันหรือเปล่า ผมทำทุกอย่างเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อประเทศ เพื่อสันติสุขที่จะเกิดขึ้นในประเทศของไทย ถ้าประเทศไทยทุกวันนี้ไม่มีความสุขประเทศไทยลำบาก เปรียบเหมือนการจับหนูตัวเดียวแล้วเผาบ้านทั้งหลัง หนูก็ไปแอบอยู่ใต้ต้นไม้ ฝนตกก็ไม่เปียก แดดออกก็ไม่ร้อน เริ่มชินแล้วปรับตัวได้ แต่คนในบ้านสิลำบาก สิ่งที่ต้องทำคือดับไฟ คนเสื้อแดงกำลังช่วยกันดับไฟ" อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าว 
 
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า สำหรับสถานีโทรทัศน์อีกหนึ่งช่อง ตนจะเผยแพร่ให้สินค้าโอท็อปกลับมาเกิดใหม่และจะสนับสนุนให้ส่งขายไปทั่วโลก รวมทั้งสนับสนุนกิจการของผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยด้วย เพื่อเป็นช่องทางให้เกิดการนำสินค้าของไทยไปขายในต่างประเทศ สถานีช่องต่อไปคือช่องการศึกษา การศึกษาไทยไม่ดีพอ เพราะคนส่วนใหญ่เกิดมาในครอบครัวลำบาก การเรียนการสอนก็ลำบาก ตนจึงจะหาครูที่เก่งๆมาสอน ครูไทยไม่พอก็หาครูต่างประเทศมาสอนอีก วิชาในไทยไม่พอก็เอาวิชาเมืองนอกมาอีก ส่วนสถานีช่องสุดท้ายคือช่องคนจน จะพยายามให้คนจนกับคนรวยมาเจอกัน เอาแนวคิดของคนที่ฟื้นจากความยากจนแล้วประสบความสำเร็จมาเสนอว่าใครที่อยากจะพ้นความยากจนต้องใช้เงินเท่าไร และให้คนรวยได้ดูชีวิตคนจนแล้วนำเงินมาช่วยเหลือคนจน ให้เขาได้ฟื้นขึ้นมาทำมาหากินต่อได้
 
"ถ้าใครได้เห็นการต่อสู้ของคนเสื้อแดง ก็จะพบว่าเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของคนทุกระดับชั้นในสังคมไทย เป็นการต่อสู้เพื่ออนาคต เพราะสังคมไทยชอบอยู่แต่กับปัจจุบันและอดีต และพยายามวิ่งกลับไปยังอดีตอยู่ตลอดเวลา" อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าว
 
อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เมื่อไฟหยุดไหม้บ้าน ตนก็จะกลับไปช่วยพลิกฟื้นประเทศไทย แม้จะเป็นงานที่ยาก แต่ก็ไม่ยากกว่างานที่เคยทำมาแล้ว และเชื่ว่าพลังบุญที่พี่น้องทั้งหลายทำให้ตนจะช่วยให้ตนได้กลับไปช่วยพี่น้องผู้ทุกข์ยาก โดยจะพยายามดึงเงินจากต่างประเทศให้มาลงทุนในไทยหลายแสนล้านบ้าน ไม่ใช่ไปกู้เงินต่างประเทศมา
 
"บิล เกตส์เคยกล่าวว่า ถ้าคุณเกิดมาจน ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ถ้าคุณตายจน นั่นเป็นความผิดของคุณ ส่วนคนที่ไม่อยากตายจน แต่ยังตายจนอยู่ นั่นเป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่สามารถสร้างระบบให้คนพ้นจากความยากจนได้" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และว่า อีกไม่นานเกินรอ ตนหวังว่าจะกลับไปอยู่ท่ามกลางพี่น้องที่สนับสนุน จะกลับไปตอบแทนทุกคน และจะกลับไปถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงสบายพระทัย และหวังว่าจะได้กลับเมืองไทยตอนอายุ 61 ปี

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์