เสื้อแดงภูเก็ตออกทัวร์เลี่ยงถูกครหาก่อม็อบป่วนอาเซียน แกนนำเชียงใหม่เจอข้อหาหนักทำร้าย รองผบก.-ตร


แกนนำเชียงใหม่เจอข้อหาหนักหตุขว้างปาก้อนหิน ปาระเบิดปิงปอง และประทัดยักษ์ในการปิดล้อม สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ตำรวจบาดเจ็บนับสิบรอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่ออนุมัติศาลออกหมายจับ"อภิชาติ อินสอน"และพวก ม็อบไม่ไล่ รมต.ถกหวัด2009 เสื้อแดงภูเก็ตแถลงออกนอกพื้นที่เพื่อความสบายใจจนกว่าประชุมอาเซียนจบ

แกนนำเชียงใหม่เจอข้อหาหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม กรณีการดำเนินคดีกลุ่มเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ ที่ก่อเหตุขว้างปาก้อนหิน ปาระเบิดปิงปอง และประทัดยักษ์ในการชุมนุมประท้วงปิดล้อม สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ และหน้าสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เป็นเหตุให้ตำรวจบาดเจ็บนับสิบนั้น พล.ต.ต.สิทธิพร ศรีจันทร์ทับ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (รอง ผบช.ภ.5) ได้ประชุมมอบนโยบายพนักงานสอบสวน โดยเน้นให้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับแกนนำที่ก่อเหตุ

พ.ต.อ.กฤษณพล ยี่สาคร ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจเชียงใหม่ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐานทั้งหมด โดยเฉพาะตัวแกนนำที่ก่อให้เกิดเหตุรุนแรง

พ.ต.ท.บุญรักษ์ คำประพันธ์ รอง ผกก.สส.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ กล่าวว่า มีรายชื่อแกนนำที่ชัดเจนแล้วคือ นายอภิชาติ อินสอน และยังมีแกนนำอีก 2-3 คน ที่กำลังเร่งตรวจสอบชื่อสกุลจริงก่อนดำเนินการต่อไป ส่วนตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 15 นาย รวมทั้ง พ.ต.อ.ประหยัวช์ บุญศรี รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ อยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำในฐานะผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมหลักฐานแจ้งความเอาผิดต่อไป

พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 กล่าวว่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.สิทธิพรดูแลการทำงานร่วมกับชุดคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้น เบื้องต้นสั่งให้ตั้งข้อหาแกนนำคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นตัวการ โดยเฉพาะนายอภิชาติ อินสอน ข้อหามั่วสุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป จนเกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง กระทำผิดกฎหมายอาญา รวมกลุ่มกระทำการยุยงปลุกปั่นให้ร่วมกระทำความผิด และให้สอบสวนเพิ่มเติมการใช้และมีอาวุธ ใช้เครื่องขยายเสียงและสถานีวิทยุระดมและปลุกปั่นคนเข้าข่ายการกระทำความผิดใดอีก เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเป็นกรณีไป และให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างรอบคอบตามขั้นตอน เพื่ออนุมัติศาล จ.เชียงใหม่ ออกหมายจับนายอภิชาติและพวกที่ยังเหลือ

ตร.คุมเข้ม"กรณ์"ตรวจงานไร้ม็อบ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติภารกิจของนายกรณ์ ที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน มีการระดมกำลังตำรวจไม่ต่ำกว่า 1,000 นาย เพื่ออารักขาเส้นทางต่างๆ โดยไร้กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่มาประท้วงขับไล่ ทั้งนี้ นายกรณ์พร้อมคณะไปยังสะพานข้ามแม่น้ำปิง เพื่อตรวจก่อสร้างผนังน้ำปิงฝั่งตะวันออก บริเวณสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ มูลค่า 200 ล้านบาท ตามโครงการไทยเข้มแข็ง และไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติบริเวณศูนย์ฝึกวิชาทหาร (รด.) หนองฮ่อ ของมณฑลทหารบกที่ 33 ถนนคลองชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จากนั้นไปยัง จ.ลำพูน โดยไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ ชุมนุมประท้วง

กลุ่ม"ชม.51" งดไล่ รมต.ถกสู้หวัด

นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ให้สัมภาษณ์ว่า ในการสัมมนาแกนนำเสื้อแดงระดับประเทศ ระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม ที่โรงแรมแกรนด์วโรรส พาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นการให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพราะรัฐบาลไม่ได้สนใจ และระงับป้องกันอย่างจริงจัง ทำให้ประชาชนหวาดกลัว กระทบเศรษฐกิจและท่องเที่ยวมาก ซึ่งมีแกนนำ 60 จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม 60 คน ไม่เกี่ยวกับการประท้วงขับไล่นายกรณ์ และจะหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว เพราะต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่ 2009 สำคัญกว่าขับไล่รัฐมนตรี รอให้ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจและไข้หวัดไปก่อน หากประชาชนเข้มแข็งแล้ว จะกลับมาลุยกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า หากนายอภิสิทธิ์มาพื้นที่เชียงใหม่จะต่อต้านหรือไม่ นายเพชรวรรตกล่าวว่า จะไม่ยุ่งและไม่ไปขับไล่ เพราะยังไม่ถึงเวลาและโอกาสที่เหมาะสม แต่ไม่ทิ้งอุดมการณ์ที่จะขับไล่รัฐบาลที่มาจากเผด็จการ

"อ๋อย" เตือนแดงเชียงใหม่ทำเกิน

ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเป็นสิ่งที่เกินเลยไป เคยเสนอหลายครั้งแล้วว่า ให้กลุ่มแกนนำเสื้อแดงควรหันหน้าเข้ามาคุยกัน เพื่อแสดงถึงจุดยืนในการต่อสู้ หากชัดเจนแล้วว่าเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยไม่ใช้ความรุนแรงก็จะเป็นประโยชน์ และอย่าไปคิดว่าสิ่งที่พันธมิตรฯทำได้ กลุ่มเสื้อแดงก็ทำได้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเกิดจากความคับแค้นใจ แต่แกนนำก็ต้องหารือและทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งกลายเป็นการเผชิญหน้า

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ทั้งนี้ มองการแสดงออกดังกล่าวทำให้เห็นว่าความขัดแย้งในสังคมไทยยังคงอยู่และมีกระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐานและย่ำยีกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการกดดันพนักงานสอบสวนในคดีที่กลุ่มพันธมิตรยึดสนามบิน ทั้งที่การตั้งข้อกล่าวหามีเหตุผลชัดเจนเพียงพอ แต่กลับมีการข่มขู่ด้วยการใช้กำลังจนทำให้พนักงานสอบสวนสับสน หรืออาจจะยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหา อย่างที่รู้กันอยู่ว่ากลุ่มพันธมิตรทำอะไรไม่ผิด ท่าทีแบบนี้จึงเกิดปัญหา

จี้แก้รัฐธรรมนูญปัญหาหลัก

"ที่ผ่านมารัฐบาลแสดงท่าทีถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรไม่ชัดเจน โดยเฉพาะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ก็พยายามบอกว่าคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล อาจจะเป็นปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว แม้ว่านายกฯจะออกมาบอกว่าจะไม่ให้คดีนี้เป็นมวยล้ม ซึ่งทิศทางเหล่านี้ทำให้แนวทางการสืบสวนไม่ชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทำงานได้ลำบาก เพราะมีคนระดับรัฐมนตรีไปปกป้องอยู่เบื้องหลัง และมีความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม นี่จึงเป็นการซ้ำเติมกระบวนการยุติธรรม ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ในสังคมทนไม่ได้" นายจาตุรนต์กล่าว และว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ให้รัฐมนตรีบางคนหยุดพูด แต่จะต้องทำให้ประชาชนทั้งประเทศเกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมด้วยการแก้หลักใหญ่คือรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะแก้ไขเรื่องนี้ และเมื่อมีความเป็นยุติธรรมเป็นที่ยอมรับของคนในสังคมแล้วก็ให้มีการเลือกตั้งใหม่

เสื้อแดงภูเก็ตแถลงออกนอกพื้นที่

ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสุนทร โต๊ะหมาน แกนนำกลุ่มพิทักษ์ประชาธิปไตยภูเก็ต หรือคนเสื้อแดงภูเก็ต พร้อมสมาชิกกลุ่มประมาณ 50 คน เดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากาศ เข้าพบนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นแถลงการณ์กลุ่มพิทักษ์ประชาธิปไตยภูเก็ต ฉบับที่ 3 ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือในช่วงที่มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคมนี้

นายสุนทรกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงภูเก็ตจะเดินทางตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม จะกลับ จ.ภูเก็ต หลังจากประชุมเสร็จสิ้นลง เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ และจะไม่ก่อความวุ่นวายหรือปั่นป่วนการประชุม แต่ถ้ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น กลุ่มคนเสื้อแดงไม่เกี่ยวข้องใดๆ และการเดินทางออกไปครั้งนี้ไม่มีใครกดดัน

ปัด"ณัฐวุฒิ-จตุพร-กี้ร์"อยู่ภูเก็ต

"ส่วนข่าวลือที่ว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง กบดานอยู่ที่ จ.ภูเก็ต เป็นเพียงข่าวลือ เชื่อว่าการประชุมครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดี การเดินทางครั้งนี้จะไปยังกรุงเทพมหานคร จ.เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัด เหมือนเป็นการทัศนศึกษา" นายสุนทรกล่าว

นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดงแจ้งว่าจะไปดูแพนดาที่ จ.เชียงใหม่ หลังการประชุมอาเซียนเสร็จสิ้นแล้วจะกลับมา แม้กลุ่มคนเสื้อแดงออกจาก จ.ภูเก็ตแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังติดตามด้านการข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น
 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์