เพื่อไทยระดมสมองสอนมวยรัฐแก้หวัด2009

"เพื่อไทย"ระดมสมองสอนมวยรัฐบาลแก้หวัด 2009 “หมอสุชัย”สับรัฐออกนโยบายสับสน โวถ้าเป็นรัฐบาลสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ งดมหรสพ 10-14 วัน เตือนระวังเดือนส.ค.โรคจะระบาดหนัก ก่อนกลายพันธุ์เดือน ธ.ค

(18ก.ค.) พรรคเพื่อไทยได้จัดเวทีระดมความคิดหัวข้อ “ร่วมฝ่าวิกฤตไข้หวัด 2009” ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์

มีกรรมบริหารพรรคไทยรักไทยและอาสมัครหมู่บ้าน(อสม.)เข้าร่วมฟังกว่า 100 คน โดยนพ.สุชัย เจริญรัตนกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินหายใจเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ประกอบการฉายสไลน์ประกอบการบรรยายว่า เชื้อไวรัสไม่กลัวยา แต่จะกลัวการตัดวงจรชีวิต ถ้าใส่หน้ากากหรือล้างมือเชื้อก็จะตาย แต่เชื้อไวรัสเป็นตัวใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ดังนั้นความรู้เรื่องไข้หวัดอุบัติใหม่จึงยังไม่ตกผลึก ความรู้ที่นักวิชาการหรือแพทย์ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อจึงเป็นข้อมูลที่รับทราบมาจากประสบการณ์ของเม็กซิโกและสหรัฐฯ ผ่านทางอินเตอร์เนตจึงไม่ใช่ความรู้ที่ตกผลึกจนเป็นตำราแพทย์
 
 "เป็นเรื่องแปลกที่ประเทศไทยที่ไม่เคยผลิตวัคซีนใช้เอง ยกเว้นวัคซีคโรคพิษสุนัขบ้า กลับจะมาผลิตวัคซีนใช้กับโรคที่ระบาดอย่างรุนแรงและมีโอกาสกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ขณะนี้ผู้นำรัฐบาลทั่วประเทศกำลังเล่นพนันกันว่าวัคซีนที่จะผลิตขึ้นมาใช้จะได้ผลหรือไม่ ถ้าได้ผลก็ถือว่าได้พนัน ถ้าใช้ไม่ได้ถือว่าแพ้ แต่งานนี้ผมไม่ขอร่วมพนัน เพราะความจริงกระบวนการผลิตวัคซีนนั้นองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ จะใช้เวลาทดลองถึง 2 ปี แต่ครั้งนี้รัฐบาลกลับบอกว่าจะใช้เวลาวิจัยแค่ 3 เดือน ผมบอกเลยว่าไม่มีทางที่จะได้ผลและมีความเสี่ยงมาก อาจใช้วัคซีนไปแค่ 3 เดือนแล้วก็ต้องผลิตใหม่และทำให้เสียเงิน 600 ล้านบาทไปฟรี ๆ เพราะธรรมชาติของการระบาดของโรคไวรัสจะระบาดเป็นระลอก โดยจะระบาดหนักที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคมและเว้นระยะไว้ 2 เดือน จากนั้นจะกลับมาระบาดหนักอีกครั้งในเดือนธันวาคม แล้วเว้นระยะในการพัฒนาสายพันธุ์และระบาดในระลอก 3 และ 4 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนพัฒนาเป็นโรคประจำถิ่น ” นายสุชัย กล่าว
 
 อดีตรมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า

หากรัฐบาลชุดนี้เริ่มปฏิบัติและวางแผนป้องกันโรคอย่างเข้มงวดในเรื่องระบาดใหม่ ๆ จะสามารถควบคุมเชื้อได้ เพราะเราพบคนที่ติดเชื้อคนแรกที่พัทยา จ.ชลบุรี แต่ตอนนี้พัทยาถือเป็นแหล่งแพร่เชื้อ แต่เราก็ประมาทเกินไปและเชื่อว่ามีคนให้ข้อมูลกับนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกฯ แบบผิด ๆ ถ้าตนยังอยู่ในรัฐบาลและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นนายกรัฐมนตรี จะออกนโยบายด้วยการปิดโรงเรียนตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พบผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อช่วงแรก ๆ จากนั้นก็ให้ข้อมูลผ่านทางสื่อโทรทัศน์ทั้งเช้า กลางวัน เย็นเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล รวมทั้งจะงดเว้นไม่ให้จัดมหสพ 10-14 วันเพื่อป้องกันแพร่ระบาดแล้วให้ทำความสะอาดหน่วยงานเพื่อจำกัดเชื้อ แต่ในช่วงต้นการระบาดรัฐบาลชุดนี้กลับให้นโยบายสับสนจึงทำให้ผู้ปฏิบัติไม่กล้าทำงาน ทั้งที่บุคคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพเพียงพอ
 
 ตอนนี้สิ่งแรกที่รัฐบาลจะต้องให้ข้อมูลที่โปร่งใส อย่าให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะยิ่งปิดบังยิ่งเกิดความไม่น่าเชื่อ ผมไม่เห็นด้วยกับกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขจะรายงานข้อมูลเพียงสัปดาห์ละครั้ง เพราะการรายงานเช่นนี้จะทำให้แพทย์ทราบข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขควรรายงานตามองค์การอนามัยโลก( WHO ) ที่รายงานจันทร์ พุธ ศุกร์ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนปิดหูปิดตาแพทย์และประชาชน แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ นโยบายจากการเมืองต้องชัดเจน ไม่ควรอ่านตำรามาบริหาร แต่ควรใช้ประสบการณ์และทฤษฎีมากำหนดนโยบาย อีกทั้งรัฐบาลควรกล้าตัดสินใจ เพราะถ้า พ.ต.ท.ทักษิณยังบริหารอยู่คงไม่ระบาดขนาดนี้
 
ทั้งนี้ขอเสนอมาตรการเข้มงวดสำหรับไข้หวัด 2009 ว่า
 
1. รัฐบาลควรเร่งพัฒนาการให้บริการตรวจชัณสูตรไวรัส 2009 ให้ครอบคุลมและควรให้สร้างห้องวิจัย( Lap ) ทั่วประเทศและรายงานผลให้ทราบภายใน 24 ชั่วโมง 2. จัดหายา Tamiflu ให้เพียงพอและมีนโยบายการจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วยอย่างทั่วถึง 
 
ขณะที่นพ.สุรวิทย์  คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า

สาเหตุที่ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ได้ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีความจริงใจรับฟังข้อมูลที่แตกต่างและข้อเสนอแนะจากคนที่ไม่ใช่กลุ่มหรือพวกเดียวกัน เหมือนที่เราจัดสัมมนาในวันนี้ ตนได้เชิญตัวแทนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) มาแลกเปลี่ยนเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ เนื่องจากมีคนในรัฐบาลแจ้งว่าการจัดสัมมนาของเรามีนัยยะทางการเมืองแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจของการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์