มาร์คพึ่งบารมีเนวิน


โฆษกภูมิใจไทยสอนมวยมาร์คกล้าตัดสินใจให้เด็ดขาดจะซื้อหรือเช่ารถเมล์ 4 พันคัน มิฉะนั้นก็จะซื้อเวลาไปเรื่อยๆ มั่นใจโครงการไม่ล้ม อ้างเป็นประโยชน์ชาวกทม.-ปริมณฑล รัฐบาลวางแผนนายกฯลงพื้นที่อีสาน ประเดิมบุรีรัมย์พึ่งบารมีเนวินไม่ให้แดงป่วน "อภิสิทธิ์-เทพเทือก" เปิดบ้านพิษฯนัด "เนวิน" เคลียร์ปัญหา ด้าน "เหนาะ" แบะท่าร่วมเพื่อไทยอ้างเป็นพรรคที่ออกมาจากหน่อไทยรักไทยที่เคยร่วมสร้างมา แต่ตอนนี้ขาดผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะให้ความอบอุ่น แต่ยังไม่ได้รับปาก ยืนยันทักษิณไม่ได้โทรศัพท์มาทาบทาม ขณะที่โฆษกพท.ก็ยอมรับคุยกันทั้งป๋าเหนาะ และ พล.ต.อ.ประชา เพราะมีแนวทางการเมืองคล้ายกัน สามเกลอแถลงยันเดินหน้ารวบรวมรายชื่อประชาชนยื่นถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้า 1 เดือนไม่ครบ 1 ล้านไม่ทำต่อ อัด "สุรชัย"ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาขวาง "ณัฐวุฒิ"ยันวีระไม่ร่วมรายการมาร์ค เพราะเป็นคนสั่งทหารไล่ยิงเสื้อแดง เย้ยถ้าอยากเรียกเรตติ้งก็ให้แต่งตัวเป็นหมีแพนด้าออกจอดีกว่าจะมาใช้ไม้นี้

น้องแม้วชี้ฎีกา-มติชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงคนเสื้อแดงมีมติถวายฎีกาเพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศว่าเป็นความเห็นของประชาชนที่รักพ.ต.ท.ทักษิณ และอยากให้เดินทางกลับประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง แต่เป็นความเมตตาของประชาชนที่จะขอพระเมตตาจากพระองค์ท่าน ทั้งนี้ การถวายฎีกานั้นทำกันมานาน ชาวบ้านที่ยากจนและถูกโกงที่ดินยังถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ได้ ซึ่งประเด็นของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าครอบครัวชินวัตรเคยมีแนวคิดจะถวายฎีกาช่วยพี่ชายหรือไม่ นายพายัพ กล่าวว่า มีเพียงความคิดเท่านั้นที่ต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ได้ดำเนินการ เมื่อถามว่าจะร่วมลงชื่อถวายฎีกาด้วยหรือไม่ นายพายัพ กล่าวว่า ตนอยากลงชื่อมาก แต่อาจจะไม่สามารถลงชื่อได้เนื่องจากสวมหมวกหลายใบ จึงไม่อยากให้ทุกคนไขว้เขวและเข้าใจผิด

ลูกๆทักษิณมอบเงินการกุศล

เวลา 13.30 น. ที่อาคารชินวัตร 3 นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร่วมมอบเงินรายได้จากการจำหน่ายหนังสือ "คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียกพ่อ" จำนวน 5 แสนบาท เพื่อเป็นการกุศลให้กับ 5 มูลนิธิๆ ละ1 แสนบาท ได้แก่ มูลนิธิช่วยการศึกษาเด็กพิเศษและด้อยโอกาส มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย มูลนิธิสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย และบ้านครูน้อย

น.ส.พินทองทาเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้หารือกับพ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ทั้งสอง ท่านสนับสนุน อยากให้ทำงานช่วยเหลือสังคม กิจกรรมต่อไปต้องดูสถานการณ์ เบื้องต้นคงเป็นงานด้านสังคมเพื่อเด็กและเยาวชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การบริจาคทุนครั้งนี้มีบุคคลใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขานุการส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณมาร่วมให้กำลังใจด้วย

ขอบคุณเสื้อแดงช่วยเหลือพ่อ

จากนั้นนายพานทองแท้ ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มเสื้อแดงรวบรวม 1 ล้านรายชื่อเพื่อถวายฎีกาให้พ.ต.ท.ทักษิณว่า ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ยังไม่ลืมและยังมีน้ำใจให้คุณพ่อ แนวคิดการขออภัยโทษนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ขอขอบคุณแทนพ่อ ส่วนจะร่วมลงชื่อด้วยหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน

เมื่อถามว่าจะทำกิจกรรมหรือไปเคลื่อนไหวหรือไม่ นายพานทองแท้กล่าวว่า ในฐานะลูกอยู่ตรงนี้ก็รักพ่ออยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ไปขึ้นเวทีคงไม่ทำ เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับชัยชนะการเลือกตั้งซ่อมส.ส.อีสานของพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้กล่าวว่า ดีใจที่คนยังคิดถึงพ่อ แต่ที่ตอบไม่ได้มีความหมายเรื่องการเมือง หากพ่อเดินทางกลับมา ก็ไม่อยากให้เล่นการเมืองอีกแล้ว

"ชัยสิทธิ์"ค้าน"ยิ่งลักษณ์"นั่งหน.

ด้านพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ.และอดีตผบ.สส. ญาติผู้พี่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย สนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ว่า เวลานี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ควรลงมาเป็นหัวหน้าพรรค ประสบการณ์ยังอ่อน ตนไม่ได้ค้าน แค่ไม่เห็นด้วย ช่วงนี้ไม่ค่อยติดตามเรื่องการเมือง ไม่อยากยุ่ง พ.ต.ท.ทักษิณคงคิดไว้แล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้ใครเหมาะสมจะขึ้นนั่งหัวหน้าพรรค

พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อนสนิทเตรียมทหารรุ่น 10 ของพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ เพราะช่วงนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงไปดูเรื่องการทำงานด้านการเมืองของพรรคเพื่อไทยในหลายเรื่อง ล่าสุดยังลงพื้นที่ช่วยหาเสียงจนพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งซ่อมในอีสาน แต่พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะเห็นว่ายังไม่ถึงเวลา อีกทั้งยังมีแคนดิเดต อีกหลายคนที่อยู่ระหว่างการพิจารณา

อภิวันท์ระบุแค่มาร่วมงานกัน

ที่รัฐสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. กล่าวถึงกระแสข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ เชิญนายเสนาะ กลับมาดูแลพรรคเพื่อไทยว่า เชิญนายเสนาะกลับมาทำงานร่วมกับพรรค ไม่ได้เชิญมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่คงขอให้มารับตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นตำแหน่งใดต้องพูดคุยในระดับผู้ใหญ่อีกครั้ง นายเสนาะห่วงใยปัญหาบ้านเมือง อยากให้ลดความขัดแย้งลงให้น้อยที่สุด นายเสนาะเป็นหนึ่งที่รวมใจนักการเมืองหลายคนได้ สำหรับการเลือกหัว หน้าพรรคคนใหม่ต้องเป็นมติของส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมด ขณะนี้พรรคมีหัวหน้าที่ดีอยู่แล้วคือนายยงยุทธ มองว่าพรรคประชาธิปัตย์คงเป็นรัฐบาลไปได้อีก 1 ปี จึงยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเวลานี้ หากมีความชัดเจนว่าจะยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ พรรคจึงค่อยเลือกหัวหน้าพรรคอีกครั้ง มาเป็นผู้นำรณรงค์เลือกตั้งครั้งหน้า

เมื่อถามถึงสมาชิกพรรคจะยอมรับนายเสนาะหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ความคิดคนห้ามกันไม่ได้ แต่ส.ส.ส่วนใหญ่ยังคงเคารพนายเสนาะ ต่อข้อถามว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เหมาะสมหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ เป็นความคิดเห็นของส.ส.ในพรรค

เผยที่มา-ชู"ยิ่งลักษณ์"ผู้นำ

เมื่อถามว่าเมื่อใดจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวหัวหน้าพรรค พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้ง 1-2 สัปดาห์คงชัดเจน การเมืองเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชัดเจน เมื่อถามย้ำว่านายเสนาะตอบรับแล้วหรือยัง พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด แต่แนวทางการทำงานไปด้วยกันได้ พรรคให้ความสำคัญกับอุดมการณ์ทางการเมือง การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคได้รับชัยชนะเพราะนโยบายและความนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ

เมื่อถามว่าหากนายเสนาะมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคประชาราชจะย้ายมารวมด้วยหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า แนวโน้มน่าจะเป็นอย่างที่ถาม ขณะนี้ยังไม่พูดคุยในรายละเอียดถึงขั้นรวมพรรค แต่มีส.ส.บางคนอยากมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย คงต้องให้เกียรติและขอกับหัว หน้าพรรคก่อน ส่วนร.ต.อ.เฉลิมเสนอชื่อน.ส. ยิ่งลักษณ์เป็นหัวหน้าพรรคนั้น เป็นการพูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร การปราศรัยหาเสียงที่จ.สกลนคร ร.ต.อ.เฉลิมเคยชูตัวเองเป็นนายกฯ 6 เดือนเพื่อ นำพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน ต่อมาร.ต.อ.เฉลิมยอมรับว่าคงเป็นนายกฯ ไม่ได้ จึงเป็นที่มาของการเสนอน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่สุดท้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่สนใจเข้ามาทำงานการเมือง

"เหนาะ"แบะท่าร่วมงานเพื่อไทย

ที่บ้านเมืองทองธานี นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกระแสข่าวการทาบทามเข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันในระดับสมาชิกพรรค แต่ก็ยังไม่ได้หารือกับแกนนำ เป็นในลักษณะที่ลูกหลานมาขอให้ไปช่วยดูแลบ้านเมือง เพราะวิกฤตตอนนี้มีมากมาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับปากอะไร แต่ทุกคนก็รู้อยู่ว่าพรรคเพื่อไทยมาจากพรรคไทยรักไทย ตนก็เป็นคนหนึ่งที่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมา แต่ตอนนี้พรรคเพื่อไทยขาดความอบอุ่น ต้องการผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้ความอบอุ่น เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องพูดคุยกันและถามความต้องการของประชาชนก่อน ส่วนตัวไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ขอให้ประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนอยู่รอดไปตลอดรอดฝั่ง ให้ผ่านวิกฤตไปได้ อย่าให้เรือที่บรรทุกคน 60 ล้านคนต้องอับปางลง ตนไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความต้องการจะทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่า ไม่ใช่ว่าอยากเป็น แต่ตนอย่างไรก็ได้ ที่ทำเพื่อบ้านเมืองและต้องมีหลักการในการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามต่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณโทรศัพท์มาทาบทามหรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่า ไม่ได้โทร.มา ไม่ได้คุยกัน เมื่อถามอีกว่ามองอย่างไรที่ร.ต.อ.เฉลิมมีทีท่าไม่เห็นด้วยให้เป็นหัวหน้าพรรค นายเสนาะกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ขอวิจารณ์เรื่องคนอื่น ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องการเมือง เพราะพี่ชายของตนเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อคืน

เทือกฉุน-สั่งดำเนินคดีแม้วอีก

เวลา 08.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทัก ษิณ ที่ช่วงนี้มีการโฟนอินบ่อยขึ้นว่า ไม่เป็นห่วง เขาก็ทำเป็นธรรมดา แต่คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณต้องค่อยๆ ฟังประชาชน วันนี้ตนคิดว่ามีเสียงเรียกร้องมากขึ้นว่าจะโฟนอินหรือแนะนำเรื่องอะไรก็ได้ แต่อย่าทำให้เกิดความแตกแยก ตนคิดว่าถ้าพ.ต.ท.ทักษิณคิดได้ในแนวนี้ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งตนรับฟังได้ ไม่มีปัญหากับเขา แต่มีหน้าที่อย่างเดียวว่าถ้าเขาทำให้เกิดความแตก แยกเราต้องแก้ไขปัญหานั้น ต่อข้อถามว่ามีการยุให้ล้มรัฐบาลให้ได้ภายใน 3 เดือนรู้สึกกังวลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเขาพูดอย่างนั้นเขาทำผิดกฎหมายจะโดนอีกข้อหาหนึ่ง ตนต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี

เมื่อถามว่ามีการรายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดหรือไม่ มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตาม คิดว่าถ้าพวกเราคนไทยตั้งหลักกันให้ดี ถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักการเมืองคนหนึ่งหรือจะเป็นผู้นำก็แล้วแต่ ความคิดความเห็นของเขาก็ฟังเอาไว้ แต่ถ้าเราตื่นเต้นตลอดเวลาที่พ.ต.ท.ทักษิณจะขยับไปนั่นขยับไปนี่เราก็จะเสียเวลา ขณะนี้เรามาช่วยกันดูว่าในประเทศของเรามีเรื่องอะไรที่ต้องรีบทำรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด ปัญหาของตนในเวลานี้ที่รับผิดชอบ เช่น ยาเสพติด หรือการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนก็ทำของตนไป ในเรื่องความมั่นคงส่วนรวม ตนคิดว่าจะทำให้ทุกภาคส่วน ทุกอำเภอได้เข้ามาทำงานมากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจุดเด่น แต่อยู่ที่ผลงานของรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คนละส่วน ผลงานของรัฐบาลจะค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้น

วิปรบ.งัด4ยุทธศาสตร์ร่วม

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงภายหลังเป็นประธานประชุมวิปรัฐบาล ว่า ที่ประชุมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์เพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนให้รัฐบาลมีโอกาสบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างต่อเนื่อง กู้วิกฤตเศรษฐ กิจและการเมืองเพื่อให้รัฐบาลผ่านพ้นวิกฤตเหล่านี้โดยเร็วที่สุด วิปรัฐบาลจึงกำหนดยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ 1.รวมกันเราอยู่ หมายความว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะทำงานร่วมกัน ต่อไปนี้การขับเคลื่อนนโยบายทุกพรรคร่วมรัฐบาลจะพูดตรงกันและเป็นเสียงเดียวกันว่าเรามีนโยบายรัฐบาลในการดำเนินการทำงานร่วมกัน รัฐมนตรีของทุกพรรคจะทำงานโดยยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก เพราะเชื่อมั่นว่า 269 เสียงของรัฐบาลเป็นฐานที่จะฟันฝ่าทำงานให้ประชาชน ได้รับประโยชน์สูงสุด ก็น่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชน

2.กอบกู้เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญของรัฐบาล เพราะปัญหาปากท้องถือเป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสินค้าทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ผลไม้ มันสำปะหลัง ข้าว ที่ต้องแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม 3.ใกล้ชิดประชาชน เราเห็นตรงกันว่ามีความจำเป็นต้องให้นายกฯและรัฐมนตรีลงไปเยี่ยมเยียนและใกล้ชิดประชาชน เชื่อว่าไม่มีใครกีดกันความปรารถนาดีของฝ่ายรัฐบาลที่จะทำงานให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และเห็นว่าต่อไปนายกฯ หรือรัฐมนตรีน่าจะเข้ามาร่วมประชุมวิปรัฐบาลเพื่อรับฟังเสียงสะท้อนความคิดเห็นจากแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล

4.โชว์ผลงานในพื้นที่ ในบางพื้นที่มีเฉพาะ ส.ส.ฝ่ายค้านเท่านั้น รัฐบาลไม่สามารถทะลวงลงไปเพื่อทำความเข้าใจผลงานของรัฐบาลได้ ประชาชนอาจเข้าใจผิดว่ารัฐบาลไม่ทำงานอย่างเป็นรูปธรรม จึงต้องการให้รัฐบาลประชาสัม พันธ์เชิงรุกทั้งในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ การแก้ไขปัญหาทางการเมือง ยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ด้านนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน และทุกพรรคการเมืองจะต้องร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นี้

เตรียมเปิดฉากบี้พท.ในอีสาน

นายชินวรณ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งซ่อมที่จ.สกลนคร และ จ.ศรีสะเกษ เห็นว่าฝ่ายค้านใช้ยุทธศาสตร์การพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรม และหาเสียงกับความนิยมของพ.ต.ท.ทักษิณ วิปยอมรับว่าการเลือกตั้งซ่อมใน 2 จังหวัดดังกล่าวเป็นกรณีตัวอย่างที่จะต้องนำมาศึกษาต่อไป แต่เชื่อว่าไม่สามารถนำมาเป็นยุทธศาสตร์ในการหาเสียงโดยภาพรวมของฝ่ายค้านได้ เพราะหากรัฐบาลได้ขับเคลื่อนในทิศทางเดียวกันอย่างมีพลัง จะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจว่าการรวมตัวของรัฐบาลครั้งนี้ ต้องการรักษาประโยชน์ของประชาชน และคิดว่าเมื่องบประมาณของรัฐบาลลงไปสู่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมจะทำให้คะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลดีขึ้น

นายชินวรณ์กล่าวว่า ในเมื่อเรามียุทธศาสตร์ทำงานร่วมกันอย่างชัดเจนแล้ว ก็ไม่ควรพูดเรื่องที่ผ่านมา หรือเรื่องในอดีต วันนี้เราควรพูดกันถึงเรื่องพรุ่งนี้เพื่อไปสู่อนาคตที่ดีกว่า อย่างกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเพื่อขอกลับไทย ทั้งๆ ที่มีสิทธิ์ที่จะเดินทางกลับและดำเนินการตามกฎหมาย กรณีนายวีระพยายามให้ประชาชนเข้าชื่อถวายฎีกา ทุกคนรู้ว่ามีเป้าหมายอย่างไร จึงไม่ควรให้ความสำคัญหยิบยกขึ้นมา ส่วนการชุมนุมของนปช. หากเป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ ตามกฎหมายก็ทำได้ แต่ถ้ามาสร้างความรุนแรงทำร้ายประเทศรัฐบาลมีหน้าที่ในการรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป ช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ วิปได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ เพื่อนำประเด็นเหล่านี้ไปพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ

โต้อ่อนข้อให้พรรคภูมิใจไทย

นายชินวรณ์กล่าวว่า ที่ประชุมวิปเห็นว่าในการเปิดประชุมสมัยสามัญ จะนำร่างพ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2552 กลับเสนอเข้าสภาอีกครั้ง และการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เงินกู้นั้น วิปเห็นว่าควรต้องเร่งดำเนินการ เพราะการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก รัฐบาลต้องนำเม็ดเงินมาแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน

เมื่อถามว่าการที่วิปรัฐบาลต้องกำหนดยุทธศาสตร์ 4 ด้าน เป็นเพราะพรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่าถ้าไม่ให้งบฯในพื้นที่อีสานแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจะกอดคอกันตาย นายชินวรณ์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ต้องการให้เห็นเจตนารมณ์ร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะถือว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้มาจากการเสียสละของทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าจากนี้ไปพรรคร่วมจะไม่มีการออกมาทวงงบฯ หรือทวงความช่วยเหลือจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว นายชินวรณ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าการจัดสรรงบประมาณเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยที่ไม่ได้ยึดผลประโยชน์ของพรรค หรือของส.ส.เป็นรายบุคคล นายกฯมีแนวทางการจัดสรรงบประมาณอย่างนี้ และเข้าใจว่าทุกพรรคได้รับนโยบายและแนวทางนี้เพื่อไปทำงานร่วมกันต่อไป

"หยัด"นัดถก"สุทัศน์-ลูกโต้ง"

รายงานข่าวแจ้งว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน และกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้นัดแกนนำภาคอีสานของพรรค ประกอบด้วย นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัด ส่วน รองหัวหน้าพรรค นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.สัดส่วน หารือกันที่พรรค ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 15.00 น. เพื่อพูดคุยถึงการทำการเมืองในภาคอีสาน รวมถึงการวางตัวผู้สมัคร เป็นที่น่าสังเกตว่าการนัดประชุมแกนนำภาคอีสานครั้งนี้ ไม่มีคนสายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค อาทิ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วนแต่อย่างใด ทั้งที่นายวิฑูรย์ เป็นถึงแกนนำภาคอีสาน การนัดประชุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการนัดหลังจากที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งซ่อมในภาคอีสานถึง 2 จังหวัดซ้อน และนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนก่อน พรรคภูมิใจไทย ออกมาทวงงบประมาณจากรัฐบาล โดยอ้างข้อตกลงที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไว้ว่าจะให้พรรคภูมิใจไทยทำพื้นที่ภาคอีสานให้

ด้านนายสุทัศน์ กล่าวยอมรับว่าในวันที่ 2 ก.ค. นายบัญญัติ ได้นัดตนและนายไกรศักดิ์ มาหารือกันจริง โดยจะพูดคุยกันถึงการเมืองในภาคอีสาน ตนยืนยันมาตลอดว่าภาคอีสานยกให้ใครไปทำแทนไม่ได้ เราต้องทำด้วยตัวของเราเอง การประชุมครั้งนี้อาจมีการหารือถึงการวางตัวผู้สมัครส.ส.อีสานในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย

"วีระ-จตุพร"ชี้แจงยื่นถวายฎีกา

เวลา 10.25 น. ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว สถานีดีสเตชั่น นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำรายการความจริงวันนี้ ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการถวายฎีกาเพื่อขอพระราช ทานอภัยโทษพ.ต.ท.ทักษิณ

นายวีระกล่าวว่า เกิดจากการปราศรัยหลายสถานที่ คนเสื้อแดงประสบปัญหาปากท้อง ฟังพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงเกิดแรงบันดาลใจว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศจะทำให้ชีวิตดีขึ้น การทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาจะทำในส่วนของรายการความจริงวันนี้ หรือในส่วนของ 3 เกลอเท่านั้น ความเห็นที่แตกต่าง โดยเฉพาะนายสุรชัย แซ่ด่าน ไม่ใช่ความแตกแยก เราเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ควรก้าวก่าย อยู่เฉยๆกันดีกว่า สำหรับแบบฟอร์มการขอพระราชทานอภัยโทษเริ่มแจกให้คนเสื้อแดงในวันที่ 2 ก.ค. มารับได้ที่สถานีดี สเตชั่น อาจตั้งเต็นท์ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ให้เสื้อแดงมาลงชื่อกัน ยืนยันว่าจะรวบรวม 1 ล้านรายชื่อให้ครบภายในสิ้นเดือนนี้ หากทำไม่เสร็จขอยอมแพ้ ไม่ทำต่อ แล้วแต่พระบรมราชวินิจฉัย

นายวีระกล่าวว่า เนื้อหาแบบฟอร์มมีใจความคร่าวๆ คือ 1.บอกถึงปัญหาความทุกข์ของพสกนิกรที่เดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจ 2.ทุกข์ของพสกนิกรที่เกิดจากกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นมาตรฐาน โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้รับผลกระทบจากกระบวนการที่ไม่เป็นมาตรฐาน ทั้ง 2 ข้อนี้เป็นเหตุต่อเนื่องจากการยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 ส่วนที่กล่าวหาว่าเป็นการกดดันพระองค์ท่านนั้น คนที่ให้ความเห็นเช่นนี้จะมาตัดสินได้อย่างไร จะรู้น้ำพระทัยของพระองค์ได้อย่างไร สุดท้ายต้องแล้วแต่พระองค์ท่านจะทรงวินิจฉัย การยื่นถวายฎีกาเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ที่ผ่านมาก็มีผู้ยื่นในลักษณะนี้แล้วไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่มีข้อขัดข้องหมองใจอะไร เช่น การรวบรวมรายชื่อ 2 แสนคนของหลวงตามหาบัวที่ถวายฎีกา กรณีคนเสื้อแดงก็เช่นกัน ถ้าไม่สำเร็จตามเป้าประสงค์ แม้ผลลัพธ์จะออกมาเช่นไรเราก็เคารพ ไม่ทวงถามอะไรทั้งสิ้น

"จตุพร"โต้สุรชัยอย่าก้าวก่าย

ด้านนายจตุพรกล่าวว่า กรณีนายสุรชัย แซ่ด่าน ที่ไม่เห็นด้วย ความเห็นต่างถือเป็นสิทธิ์ แต่ขอเตือนว่าถ้าไม่เห็นด้วยอย่าให้สัมภาษณ์ตามสื่อ กลุ่มความจริงวันนี้ไม่ใช่ลัทธิบ้าคลั่งคอมมิวนิสต์ วันนี้โลกไปไกลแล้ว ถ้านายสุรชัยไม่ร่วมด้วยก็ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องความจงรักภักดีของพวกเรานั้นยืนยันว่าแนวทางการต่อสู้คือตั้งแต่พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ลงมา ไม่มีเหนือกว่านั้น เมื่อเราจำกัดความสู้อยู่ตรงนี้จึงไม่มีปัญหาเรื่องความจงรักภักดี

นายณัฐวุฒิกล่าวถึงนายกฯ เชิญนายวีระเป็นพิธีกรรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ว่า การตอบปฏิเสธของนายวีระทำให้นายอภิสิทธิ์รู้ซึ้งถึงความอับอาย ไม่ต้องพยายามชักชวนคนเสื้อแดงไปพูดคุยหรือจัดรายการด้วย เราไม่ไป เพราะคนเสื้อแดงยังจำกรณีนายอภิ สิทธิ์ใช้ทหารยิงกลุ่มผู้ชุมนุม ใช้กลุ่มคนเสื้อน้ำเงินทำร้ายคนเสื้อแดง ทั้งยังออกหมายจับอีกหลายคดี จึงไม่มีทางไปร่วมออกรายการกับนายอภิสิทธิ์ แต่ถ้านายอภิสิทธิ์ต้องการสร้างเรตติ้งในรายการ ให้แต่งชุดหมีแพนด้าออกรายการหรือเปลี่ยนชื่อรายการมาเป็น "เชื่อมั่นประเทศไทยกับมาร์คแพนด้า" รับรองเรตติ้งกระฉูดแน่ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์อย่ามักง่ายทางการเมืองหรือตีกินแบบไม่อาย ไม่มีใครหลงกลอย่างเด็ดขาด

กกต.แจง-ยกคำร้องส.ส.ปชป.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึง กกต.ยกคำร้องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้ทำหนังสือส่งตัว ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 19 คนไป ช่วยงานที่กระทรวงวัฒนธรรมว่า กรณีดังกล่าว นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ยังไม่ได้เซ็นแต่งตั้งส.ส.ทั้ง 19 คน อีกทั้งการสอบสวนยังพบว่า ส.ส.ทั้ง 19 คนไม่ประสงค์จะเข้าไปรับตำแหน่งในกระทรวง ที่ประชุม กกต.จึงมีความเห็นเสียงข้างมากว่า การกระทำดังกล่าวไม่เป็นการแทรก แซงและก้าวก่ายการทำงานในกระทรวงวัฒน ธรรม ส่วนที่มี กกต. ท่านหนึ่งมีความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเข้าไปแทรกแซงนั้น ถือเป็นดุลยพินิจของ กกต.ท่านนั้น

เมื่อถามว่า กกต.เกรงใจรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า เราไม่ได้เกรงใจและไม่เข้าข้างใคร การที่บางคนเห็นว่าการทำหนังสือส่งตัวเป็นการก้าวก่ายนั้น แต่เราเห็นตรงข้าม เพราะยังไม่มีการกระทำใดเกิดขึ้น ซึ่งเราพิจารณาตามข้อเท็จจริงทุกประการ

นายประพันธ์กล่าวถึงการพิจารณา 28 ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ว่า สำนวนการสอบสวนของอนุกรรมการได้สอบเสร็จสิ้นแล้วและเสนอมาให้ กกต.พิจารณา แต่ กกต.ขอนำไปศึกษาดูรายละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าต้องส่งกลับคืนให้อนุกรรมการสอบเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะหลังจากนำไปศึกษาแล้วต้องนำกลับมาหารือร่วมกับ กกต.ท่านอื่นอีกครั้งว่าจะพิจารณาและลงมติได้เลยหรือไม่ ตนได้ดูสำนวนผ่านๆ เท่านั้น พบว่ามีบริษัทที่เพิ่มเข้ามาจาก 14 บริษัท แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐหรือเป็นบริษัทที่ผลิตสื่อหรือไม่ อีกทั้งยังไม่ทราบว่าส.ส.บางคนถือหุ้นเท่าไร หรือการถือมีมาก่อนหรือหลังรับตำแหน่งส.ส.

"มาร์ค-เทือก"รุดเคลียร์เนวิน

เมื่อเวลา 12.10 น. หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการประชุมครม. เศรษฐกิจที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯ รีบเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปบ้านพิษณุโลกทันที โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางมารออยู่ก่อนแล้ว ทั้ง 3 คนได้นัดพบกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย การมาหารือครั้งนี้ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ไปเป็น การส่วนตัว ขอไม่ให้สื่อมวลชนติดตาม อย่างไรก็ตาม เมื่อนายเนวินมาถึงได้หลบไปเข้าประตูด้านหลังบ้านพิษณุโลก เนื่องจากเห็นกลุ่มผู้สื่อข่าวมาดักรออยู่หน้าบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าหารือพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นการหารือเรื่องการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 พรรค โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่จัดสรรให้กับพรรคภูมิใจไทยไม่เป็นไปตามที่ตกลง รวมถึงโครงการต่างๆ ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอเข้าที่ประชุมครม. แต่ ครม.มีมติไม่เห็นชอบ

"มาร์ค"พึ่งบารมี"เน"-ลงบุรีรัมย์

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพื้นที่ที่ทางแกนนำรัฐบาลเตรียมให้นายกฯ ลงพบประชาชนในภาคอีสาน เบื้องต้นได้ข้อสรุปคร่าวๆ ว่าจังหวัดแรกที่จะลงไปคือ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย สามารถควบคุมได้ กำหนดการนั้นจะจัดให้นายกฯ เดินทางไปหลังกลับจากการเยือนกลุ่มประเทศอาเซียน ในส่วนที่เหลือ โดยเมื่อกลับจากการเยือนอาเซียนก็จะเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ก่อนถึงจะลุยในภาคอีสาน จากนั้นจะเดินทางไปภาคเหนือ โดยจะกำหนดวันที่แน่นอนอีกครั้งหนึ่ง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการจัดคาราวานพรรคภูมิใจไทยที่จะลงพื้นที่ภาคกลาง จะใช้รูปแบบเดิมคือให้นายเนวิน ไปเป็นวิทยากรพิเศษ แม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในภาคอีสานที่เห็นได้จากผลการเลือกตั้งซ่อมจ.ศรีสะ เกษ ที่ผ่านมาก็ตาม แต่นายเนวิน ยืนยันที่จะใช้รูปแบบเดิมต่อไป เพราะเชื่อว่าหากทำไปเรื่อยๆ ก็จะได้รับการยอมรับจากประชาชนในที่สุด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมลงพื้นที่ภาคอีสานของนายกฯช่วงกลางเดือนก.ค.ว่า นายกฯมีหน้าที่ไปดูแลทุกข์สุขของประชาชนอยู่แล้ว เมื่อนายกฯไปจังหวัดไหน พวกเราที่เป็นรัฐมน ตรีต้องร่วมคณะเพื่อดูแลประชาชนด้วย ส่วนนายสุเทพที่เพิ่งถูกกลุ่มเสื้อแดงขับไล่ระหว่างลงพื้นที่เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. คงแล้วแต่ละพื้นที่ อยากให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อไปแก้ไขปัญหา เอาประโยชน์ไปสู่พื้นที่ ดังนั้นต้องให้โอกาสรัฐมนตรีแต่ละคนได้ลงพื้นที่กัน ในส่วนของพรรคนอกเหนือจากสั่งให้ส.ส.ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนตลอดเวลาแล้ว พรรคยังเตรียดจัดคาราวานภูมิใจไทย ครั้งนี้จะลงไปในจังหวัดภาคกลาง แต่ยังไม่ได้ระบุจังหวัดที่ชัดเจน ไม่ใช่การไปหยั่งเสียงอะไร เป็นเพียงไปพบประชาชนเพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนมากำหนดเป็นนโยบายของพรรค

พท.รับแล้ว-จีบเหนาะร่วมพรรค

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร.ต.อ.เฉลิมเสนอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ว่า ร.ต.อ.เฉลิมมองว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีความรู้ความสามารถ เป็นนักบริหารมืออาชีพ จึงเสนอให้เป็นผู้นำพรรค แต่เจ้าตัวปฏิเสธแล้วเพราะยังไม่พร้อม ไม่เคยคิดจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือแม้แต่นายกฯ และมีภารกิจทางด้านธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบอยู่ การเดินทางไปช่วยหาเสียงเพราะพรรคทำหนัง สือเชิญไป อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างพรรคยังไม่มีในขณะนี้ หัวหน้าคนเก่ายังทำหน้าที่ได้ดี พรรคเพื่อไทยเน้นการบริหารในรูปแบบของคณะกรรมการขับเคลื่อน ไม่ใช่ดี เด่น ดัง คนเดียว

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไปทาบทามนายเสนาะมาร่วมงานด้วยนั้น ความจริงนายเสนาะก็มีทิศทางการเมืองเหมือนกับพรรคเพื่อไทย ที่เห็นบ้านเมืองมาก่อนการเมือง อีกทั้งเคยอยู่ร่วมกันมา ในทางการเมืองนายเสนาะกับพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แกนนำพรรคเพื่อดิน ยังประสานกันตลอด อนาคตอาจร่วมงานกัน นอกจากนี้ยังมีบางคนบางกลุ่มในพรรคร่วมขณะนี้ ต่อสายมาคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทยอยู่ตลอด เป็นการเชื่อมโยงทางใจเพราะอนาคตอาจมาอยู่พรรคเดียวกัน หรือร่วมรัฐบาลกัน เนื่อง จากเห็นแล้วว่าการบริหารของรัฐบาลล้มเหลว ขณะที่ประชาชนยังคงศรัทธาพรรคเพื่อไทย เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีอยู่ 2 กลุ่ม แต่ไม่ขอเปิดเผย ส่วนอนาคตหากมีส.ส.พรรคภูมิใจไทยขอกลับเข้ามาพรรค ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของที่ประ ชุมส.ส.ว่าจะให้กลับมาร่วมงานหรือไม่ รวมทั้งฟังเสียงประชาชนที่จะให้คำตอบด้วย

"เทพไท"ด่าวีระไม่รับเชิญมาร์ค

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรค กล่าวถึงนายวีระปฏิเสธเข้าร่วมเป็นพิธีกรรับเชิญในรายการ "เชื่อมั่นประ เทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่า น่าเสียดาย นายกฯต้องกา

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์