พท.เตรียมขนคนจับตาเลือกตั้งสกลนคร


พรรคเพื่อไทย โวยโกงเลือกตั้งซ่อม จ.สกลนคร แฉขนคนลงคะแนนล่วงหน้ามากผิดปกติ เตรียมนำองค์กระหว่างประเทศร่วมสังเกตการณ์เลือกตั้งจริง...


วันนี้ (14 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สกลนคร ว่า พรรคเพื่อไทยได้ส่งทีมกฎหมายลงพื้นที่ไปตรวจสอบการเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.พบว่า มีความผิดปกติในการจัดการเลือกตั้งหลายเรื่อง โดยเฉพาะหน่วยเลือกตั้งกลาง อ.สว่างดินแดน ซึ่งมีประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมาก ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 17.00 น. แต่เจ้าหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำหน่วยเลือกตั้งไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 95 พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 และระเบียบของ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2550 ข้อ 161 และ 162 โดยให้ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า เข้าไปใช้สิทธิได้ทันที โดยไม่สอบถามสาเหตุว่า เหตุใดจึงไม่สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งจริงในวันที่ 21 มิ.ย.ได้ ซึ่งผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ได้คัดค้านต่อ กกต.จังหวัด และ กกต.เขตแล้ว เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร่งด่วน

นายพิทยา พุกกะมาน รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.มีผู้มาใช้สิทธิมากผิดปกติ อยากตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการทุจริตเกิดขึ้น ดังนั้นในการเลือกตั้งจริง พรรคเพื่อไทยจะเชิญผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศคือ องค์กรระหว่างประเทศ มาร่วมตรวจสอบและสังเกตการณ์เลือกตั้งในวันดังกล่าว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะเชิญองค์กรใดมาร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา หากจะมีองค์กรจากต่างประเทศมาร่วมตรวจสอบการเลือกตั้ง เพราะเป็นการเชิญมาเพื่อเป็นหลักประกันว่า การเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ ขาวสะอาด อย่าไปมองว่า เชิญมาสังเกตการณ์แล้วต้องเสียอธิปไตย ทุกประเทศทำแบบนี้ ถ้าไม่มีอะไรปิดปังไม่ต้องกลัว

นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน ว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีไปศึกษาโครงการในอดีต 4 โครงการที่มีจอมโปรเจกต์เป็นผู้ปั้นขึ้นมาได้แก่ 1.โครงการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพ จ.ปทุมธานี มูลค่า 1,500 ล้านบาท 2.โครงการโรงงานอัดก้อนยาง 440 ล้านบาท 3.โครงการกล้ายาง 1 ล้านไร่ มูลค่า 1,440 ล้านบาท 4.โครงการเซ็นทรัลแล็บ มูลค่า 1,950 ล้านบาท โครงการเหล่านี้ ล้วนแต่มีปัญหาถูกร้องเรียน ดังนั้นนายกรัฐมนตรีควรไปศึกษาทั้ง 4 โครงการให้ดีว่า ใครเป็นจอมโปรเจ็กต์อยู่เบื้องหลังโครงการเหล่านี้ อย่าให้โครงการรถเมล์ที่ประชาชนเริ่มเรียกชื่อเล่นว่า รถเมล์ น.หนู ย้อนรอยมาซ้ำกับ 4 โครงการนี้อีก นายกรัฐมนตรี ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า วันนี้จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศ หรือรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล ขอให้จับตาดูโครงการเช่ารถเมล์ให้ดี หากโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบ จะมีด็อกเตอร์คนหนึ่งได้ดี โดยจะเป็นว่าที่ปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เห็นว่า 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลยังแก้ปัญหาภาคใต้ไปไม่ถึงไหน ทั้งที่มีฐานมวลชนอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ แต่เหตุการณ์ในพื้นที่กลับยิ่งรุนแรงมากขึ้น จนกระจายไปทั่วภาคใต้ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยขอเสนอการแก้ปัญหาความไม่สงบพื้นที่ภาคใต้ให้นายกรัฐมนตรี พิจารณา 3 ข้อ ได้แก่

1.ให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่รับผิดชอบการแก้ปัญหาภาคใต้จากนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เป็นนายนิพนธุ์ บุญญามณี ซึ่งเป็นผู้ที่ศึกษาปัญหาในพื้นที่มาโดยตลอด

2.ให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้โครงการราษฎร์-รัฐร่วมใจดับไฟใต้ โดยใช้ฐานมวลชนมาร่วมบูรณาการแก้ปัญหา

3.คืนความเป็นธรรมและให้เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมายแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน

4.งบพัฒนาภาคใต้ 18,000 ล้านบาท ต้องทำเพื่อพัฒนาและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่การสร้างภาพแบบลูบหน้าปะจมูก


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์