เนวินติวเข้ม รมว.คมนาคมแจงรถเมล์4พันคันในครม.

นายโสภณ ซารัมย์ เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คันของ ขสมก.

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นทั้งคู่เดินทางลงมาจากห้องทำงาน ที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งนายสุเทพปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ และรีบเดินทางออกนอกทำเนียบรัฐบาลทันที
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังการหารือ นายสุเทพได้รายงานให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว และมีการอนุมัติให้บรรจุเป็นวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 มิถุนายนนี้

รายงานข่าวจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แจ้งว่านายสุเทพ ในฐานะรักษาการนายกฯลงนามให้โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีบรรจุเป็นวาระการประชุมครม.แล้ว

หลังนายโสภณเข้าพบนายสุเทพ ซึ่งเสมือนเป็นสัญลักษณ์กดดันทางการเมือง ดังนั้นแกนนำประชาธิปัตย์ จึงมอบหมายให้นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ รายงานให้นายกฯ รับทราบช่วงค่ำวันที่ 2 มิถุนายน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังเดินทางกลับจากประเทศเกาหลี
ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรค ภูมิใจไทย(ภท.) แจ้งเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรค ภท. และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ช่วยซักซ้อมความเข้าใจโครงการรถเมล์ 4,000 คัน ให้นายโสภณ ซารัมย์ เพื่อตอบคำถามที่ประชุม ครม. เพราะที่ผ่านมา ครม.ให้ทบทวน เนื่องจากนายโสภณ ไม่สามารถตอบข้อสงสัยได้ชัดเจน

อย่างไรก็ตามทีมงานนายอนุทินเห็นว่า ถ้ามีคำถามที่ลงลึกในรายละเอียด นายโสภณไม่จำเป็นต้องอธิบาย เนื่องจากระดับผู้บริหารจะรับทราบเฉพาะเรื่องหลักๆ ส่วนรายละเอียดให้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ชี้แจ้ง

"ถ้ารัฐมนตรี ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องซักถามรายละเอียด นายโสภณก็ไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะมีรัฐมนตรีบางคน ที่ต้องการสร้างคะแนนนิยม โดยการซักถามที่ประชุม ครม. ในสิ่งที่ไม่ควรถาม เพราะรู้ว่าจะต้องมีคนนำเรื่องในครม.มาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง และต้องการที่จะเป็นข่าว จึงทำทีเป็นโต้แย้งในที่ประชุม ทั้งที่ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง" แหล่งข่าวกล่าว

นายโสภณ ให้สัมภาษณ์ว่า อธิบายรายละเอียดตัวเลขในโครงการนี้ให้นายสุเทพรับทราบแล้ว

ส่วนที่มีการปรับลดวงเงินลงอีกจาก 6.9 หมื่นล้าน เหลือ 6.7 หมื่นล้านบาท และที่สุดเหลือ 6.4 หมื่นล้านบาทนั้น ไม่อยากให้มองว่าเพื่อหวังให้โครงการผ่าน แต่ปรับตามข้อเท็จจริงโดยตัดค่าความเสี่ยงโครงการ 3% ออกตามความเห็นของสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ทำให้อัตราดอกเบี้ยเหลือที่ 6.725% และตนไม่กลัวเสียหน้าด้วย


"ผมมั่นใจว่าเป็นโครงการที่ดี หากโครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จจากการที่ตอบปัญหาไม่เคลียร์ ก็ยินดีจะไปปรับปรุง แต่หากไม่สำเร็จเพราะพิจารณากันตามกระแส คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก และผมคงรับไม่ได้ " นายโสภณกล่าว

เมื่อถามว่า โครงการนี้กำลังถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนัก ทำไมไม่ชะลอเพื่อพิจารณาความรอบคอบอีกครั้ง

นายโสภณกล่าวว่า " ผมไม่มีปัญหา แต่ต้องมีทางออกให้ผมด้วย ไม่ใช่มาบอกว่าตั้งโครงการมาก็โกงกันแล้ว อภิมหาโกงกันแล้ว ไปเอารถเข้ามาเตรียมไว้แล้ว ทั้งที่มันไม่เป็นความจริงเลย"
เมื่อถามว่า หาก ครม.ไม่ผ่านโครงการนี้ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า จะไปถอนทำไม ใครก็อยากเป็นรัฐบาลกันทั้งนั้น

"ยังอยากเป็นรัฐบาลอยู่ สีทนได้" นายโสภณกล่าว

นายโสภณกล่าว ว่า ส่วนจะทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่เหตุผลว่าไม่ผ่านเพราะอะไร ถ้าไม่ผ่านเพราะเกเรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้ามีเหตุผลก็ฟังได้ ส่วนจะเกเรอย่างไรนั้นไม่ขอบอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)ทำหนังสือให้กระทรวงคมนาคมปรับลดมูลค่าโครงการใหม่จากเดิม 67,992.20 ล้านบาท เหลือ 64,853.20 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายต่อคันต่อวัน ได้แก่ ค่าเช่ารถ 1,885 บาท ค่าซ่อมคงเดิม 2,250 บาท ค่าอี-ทิกเก็ต จีพีเอส 139 บาท ค่าประกันภัย 31 บาท ค่าภาษี 8 บาท และค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ 129 บาท รวมค่าใช้จ่ายต่อคันต่อวัน 4,442 บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวรวมการสำรองรถ 10% และค่ารถที่ 5 ล้านบาทต่อคัน คิดดอกเบี้ยที่ 6.725% และคิดค่าดำเนินงานและผลกำไรที่ 8%
 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์