ชูวิทย์ แทงใจ ปชป.รอหิมะตกค่อยเป็นรัฐบาล

ชูวิทย์ เย้ยแสบทรวงรอหิมะตกเมือง


เสนาะอัดยับ"ผีนรก"โกหกผ่านทางวิทยุ..."ชูวิทย์" เย้ยแสบทรวงรอหิมะตกเมืองไทยเลือกตั้งครั้งใหม่"ประชาธิปัตย์" ถึงมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลตอกนโยบาย ปชป.ไม่มีอะไรใหม่ จวกขึ้นค่าแรงทำเองไม่ได้ ต้องผ่านคณะกรรมการไตรภาคี แขวะอย่าทำเป็นพระเอกจบนอกแล้วตอนจบจะแฮปปี้เอนดิ้ง เตรียมเข็นแคมเปญสุดจี๊ดลงชนศึกเลือกตั้ง ฝ่าย "ชิดชัย" อุบไต๋อนาคตการเมือง ขณะที่ "คุณหญิงหน่อย" ปฏิเสธลูกทีมแหยงสนามเมืองกรุงแห่จองตั๋วลงปาร์ตี้ลิสต์ ด้าน "ป๋าเหนาะ"



รำคาญ ! อัดเละผีนรกโกหกประชาชน


รำคาญ ! อัดเละผีนรกโกหกประชาชนชอบจ้อผ่านวิทยุ...เลิกเถอะ ชี้หากยังเลือกตั้ง 15 ต.ค. วุ่นกว่าเก่า ปชป. ตอกนายกฯ เก็บกดไล่ด่าฝ่ายตรงข้ามผ่านวิทยุ "เกียรติ" ตามจิกสอบขายหุ้นชินเชื่อการเมืองแทรกเลยอืด "สาธิต" โวยรัฐ บาลฮุบผลงานสร้างสนามบินหนองงูเห่า พันธมิตรตั้งท่าไล่ "ทักษิณ" หากยังชนะเลือกตั้งกลับมา รณรงค์ทุกมหาวิทยาลัยไล่ให้เว้นวรรค "ยงยุทธ" แย้ม

ส่งให้ทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยแจ้งกับคณะสื่อมวลชน


ญาติ "จ้อน" มีเอี่ยวคดีไม้ยูคาฯ

เตรียมขนคนเชียร์ "ทักษิณ"
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความ เคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ตลอดช่วงเช้าได้เก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านพักซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 กระทั่งเวลา 12.30 น. จึงเดินทางออกจากบ้านพร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา และ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส. แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ห้างสยามพารากอน โดยนายกฯ ส่งให้ทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยแจ้งกับคณะสื่อมวลชนว่า ขอไปเป็นการส่วนตัวไม่ต้องติดตาม ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 14 ส.ค. เวลา 09.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ จะ เดินทางด้วยเครื่องบินจากท่าอากาศยานทหาร (บน.6) เพื่อไปตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ ต่อไป

ร่วมมือ ต้อนรับคณะของนายกฯ


รายงานข่าวจาก จ.ตาก เปิดเผยว่า ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จ.ตาก วันที่ 16 ส.ค. ปรากฏว่าทางจังหวัดมีการสั่งด้วยวาจาลักษณะขอความร่วมมือผ่านไปยังผู้บริหารที่ดูแลทั้ง 5 อำเภอชายแดน คือ แม่สอด พบพระ อุ้มผาง ท่าสองยาง และแร่วมมือม่ระมาด ให้ประสานประชาชนระดมมาอำเภอละ 500 คน เพื่อร่วมที่จะลงพื้นที่ตรวจราชการ ทำให้แต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องวิ่งวุ่นดำเนินการให้ได้

เป็นเรื่องของความในใจตนไม่บอกใคร


"ชิดชัย" อุบไต๋อนาคตตัวเอง
ที่บ้านพักซอยประชาราษฎร์ 10 จ.นนทบุรี พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกฯ และ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการลงสมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อว่า ตนลิขิตตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรค และยังไม่ได้แสดงเจตจำนงว่าจะลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของความในใจตนไม่บอกใคร นอกจากภรรยา เมื่อถามว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขา ธิการพรรคไทยรักไทย จะลงมาสอบถามและจะจัดเรียงตามความเหมาะสม พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่รู้ เพราะยังไม่เคยคุยกัน

เหตุผลส่วนตัวเหล่านั้นต้องเรียนว่าสังคมพอรับรู้


เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการลงพื้นที่ภาคอีสานตลอดเวลาถือเป็นยุทธศาสตร์ในการหาเสียงหรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า ตนลงพื้นที่อีสานตั้งนานแล้วเป็นเวลา 20 กว่าปี โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี เพราะเป็นนายกสมาคมชาวจังหวัดอุบลฯ ด้วย การลงพื้นที่ของตนเป็นการตอบแทนแผ่นดินและมาตุภูมิ

ทรท.ยันต้องเลือกตั้ง 15 ต.ค.
ต่อข้อถามว่าในวาระที่อายุครบ 5 รอบ มองการเมืองอย่างไร พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า นักการเมืองก็มีปรัชญาการทำงานเพื่อชีวิตให้ตนเอง ครอบครัว แผ่นดิน ที่ผ่านมาตนพูดเสมอ ข้าราชการหากทำงานและทำหน้าที่แล้วผู้บังคับบัญชาไม่เห็นขอให้นึกว่าทำเพื่อแผ่นดินคิดอย่างนี้จะได้ไม่ท้อ

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้เลื่อนวันเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้ กกต. ชุดใหม่ได้มีเวลาเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งว่า พรรคไทยรักไทยไม่เห็นด้วย เรายังยืนยันว่าการเลือกตั้งควรเกิดขึ้นโดยเร็ว ที่สำคัญได้ทรงลงพระปรมาภิไธยให้มี พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้ง 15 ต.ค. พร้อมกับมีพระกระแสรับสั่งแนบท้ายว่าต้องการให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ดังนั้นทุกฝ่ายต้องพยายามทำให้สำเร็จตามกรอบระยะเวลาดังกล่าว หากไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ควรเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก

"หน่อย" ปัดลูกทีมแหยงพื้นที่
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว. เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าว ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคไทยรักไทยหลายคนเตรียมย้ายไปลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อว่า ส่วนใหญ่เป็นคนที่แจ้งความจำนงและให้เหตุผลส่วนตัวล่วงหน้ามาแล้ว และคนที่มีเหตุผลส่วนตัวเหล่านั้นต้องเรียนว่าสังคมพอรับรู้อยู่ว่าโดนอะไรบ้าง ถูกใส่ร้ายป้ายสี ก็เป็นเหตุผลส่วนตัวที่ทำให้รู้สึกว่าการเมืองสกปรก และไม่ได้ไปขอลงปาร์ตี้ลิสต์ด้วย โดยพร้อมจะ ทำงานให้พรรคอย่างเดียวด้วยความตั้งใจอยากช่วยพรรคให้ผ่านพ้นวิกฤติไป ขอยืนยันว่าไม่มีปัญหาดังกล่าว ไม่มีใครหนี ทุกคนยังสู้

ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าจะขอเก้าอี้ กทม. ในการเลือกตั้งครั้งนี้ 40 ที่นั่ง รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์ใช้การตลาดนำเต็มที่ ฉะนั้นคงต้องตั้งความหวังไว้สูง คงขอแค่ว่าการต่อสู้ขอให้สู้กันด้วยความเป็นธรรม อย่าใช้อำนาจเหมือนตอนเลือกตั้ง ส.ก. และ ส.ข. ตรงไปตรงมาก็ไม่มีปัญหา

"ชูวิทย์" แขวะปชป.ขายฝัน
ที่พรรคชาติไทย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าววิจารณ์นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ว่า นโยบายที่เพิ่มสิทธิสตรีไม่ทราบว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะทำอะไรอีก ในเมื่อรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ชัดเจนว่าให้ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน หรือนโยบายการขึ้นค่าแรง ต้องขึ้นกับคณะกรรมการไตรภาคีที่จะตกลงกันระหว่างรัฐ นายจ้างและลูกจ้าง ถ้านายจ้างไม่เอาแล้วไปปลดลูกจ้างแทนก็จะเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจได้ ไม่ใช่นึกจะพูดก็พูด


ทำตัวเป็นพระเอกในละคร แล้วจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง


นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า หรืออย่างเรื่องการแก้ไขกฎหมายนักการเมืองทุจริตไม่ต้องมีอายุความ ตนก็ชอบใจ แต่อยากให้เน้นถึงนักการเมืองท้องถิ่นด้วย โดยเฉพาะเรื่องการฮั้วประมูลรถดับเพลิง ที่ทำเป็นเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ แต่วันนี้ยังไม่มีใครติดคุกเลย บางคนบอกเซ็นแต่ยังไม่ได้จ่าย บางคนบอกจ่ายแต่ยังไม่ได้เซ็น ซึ่งกฎหมายว่าด้วยการฮั้วระบุว่าแค่ช่วยบอกใครเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ผิดแล้ว ดังนั้นถ้าจะแก้ไขก็ต้องทำให้ครอบคลุม ไม่ใช่ทำตัวเป็นพระเอกในละคร ที่พระเอกจะต้องจบจากเมืองนอก และนางเอกก็ต้องเป็นผู้ดี แล้วจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง

เหน็บเจ็บรอหิมะตกก่อน
"อย่างพรรค ปชป. เลือกตั้งสมัยหน้าขอให้หิมะตกเมืองไทยเสียก่อนถึงจะได้เป็นรัฐบาล เพราะถ้ายกให้ทั้ง กทม. บวกภาคใต้ทั้งภาครวมกันแล้วก็ได้ ส.ส. ไม่ถึง 150 ที่นั่ง ส่วนพรรคชาติไทยก็ได้ 20-25 เท่าเดิม แต่ถ้าจะเอาให้ได้ก็ต้องให้คนเอาปืนไปจี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เว้นวรรคทางการเมือง จะทำให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยสอบตกไปถึงครึ่งสภา แต่อย่าฝันเฟื่องไปเลย เพราะถึงอย่างไรต่อให้คนเอาปืนไปจี้ พ.ต.ท. ทักษิณ ก็ไม่ออก โดยเฉพาะช่วงนี้ที่โดนจนน่วม แล้วบอกว่าคน กทม. ถูกหลอก ผมก็ไม่รู้ว่านาย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ถูกหลอกใช้มาหรือเปล่า" นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมพรรคชาติไทย วันที่ 14 ส.ค. นี้ ตนจะเสนอ แคมเปญการหาเสียงของส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เน้นที่ กทม. โดยจะมีแคมเปญ "ต่อยอดตัดท้าย" หมายถึงพรรคชาติไทยยินดีต่อยอดนโยบายที่ดี ของรัฐบาลชุดนี้แต่จะตัดท้ายนโยบายที่เฮงซวยคอร์รัปชัน เพราะเนื่องจากรัฐบาลที่จะเข้ามาหลังเลือกตั้ง จะมีเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงแค่ 1 ปี จากนั้นต้องยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น เวลาแค่ 1 ปีคงไม่สามารถเดินหน้าในนโยบายใหม่ ๆ ได้

ขอเสนอแคมเปญจี๊ดจ๊าด
รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ระบุว่า นอกจากนี้จะมีการขึ้นแคมเปญ "รู้นะ..คุณทำอะไรอยู่" ซึ่งจะชี้ให้ประชาชนรู้เท่าทันนักการเมือง ว่ามีการโกงกันอย่างไรให้เห็นถึงกระดูก บางพรรคบอกว่าเป็นพรรคจนแต่คนรวย ขณะที่บางพรรครวยแต่คนจน ซึ่งแคมเปญของตนจะปูพรมจนหมดตัว จะมีสีสันจี๊ดจ๊าดไม่จืดชืด ช่วงเลือกตั้งตนชอบของแรง ถ้านายกฯ แรงมา 1 ตนก็จะแรงไป 2 ใครแรงมา 2 ตนก็จะแรงกลับไป 4 รับรองไม่มีสมานฉันท์ และตนก็จะไม่จัดโต๊ะจีนเหมือนพรรคอื่น

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนขอตั้งฉายาพรรคประชาราช ว่าเป็นพรรค 3 เขี้ยว โดยเขี้ยวที่ 1. คือนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เลขาธิการพรรค เขี้ยวที่ 2 คือนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรค และเขี้ยวที่ 3 คือนายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรค ซึ่งทั้ง 3 เขี้ยวนี้เดินไปไหนแม้แต่พรมยังขาดเป็นท่อน ๆ เลย

"เสนาะ" อัดผีขี้จุ๊จ้อผ่านวิทยุ
ที่บ้านพักเมืองทองธานี นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช แถลงถึงแนวนโยบายของพรรคที่จะใช้ในการหาเสียงว่า พรรคประชาราชจะใช้นโยบายฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะเรื่องน้ำ เพราะเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของชาติ เพราะน้ำท่วม น้ำแล้ง สร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างใหญ่หลวงทุกปี ส่วนกองทุนหมู่บ้านเราจะเปลี่ยนกติกาเป็นระบบสหกรณ์ที่ยั่งยืนมั่นคงมากกว่า นอกจากนี้ยังมีแนวคิดฟื้นฟูการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่วันนี้เรามีความฟุ้งเฟ้อเกินไปไม่ยึดตามระบบเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งจะฟื้นฟูเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต การอยู่ร่วมกันแบบไทยที่มีคุณธรรม และจริยธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าคนกท.ถูกบิดเบือนข้อมูล นายเสนาะตอบว่า มันถูกบิดเบือนไปหมด ตนไปคุยกับคนในกระทรวงกลาโหม เขาบอกว่าวันเสาร์อยากจะฟังโน่นฟังนี่ แต่ดันมีรายการผีนรกโกหกประชาชน ไม่รู้เมื่อไหร่จะเลิกซะที ส่วนตัวก็อยากให้เลิกได้แล้ว เอารัดเอาเปรียบเขามามาก พูดไปก็มีแต่คนด่ามากกว่าคนฟัง

ชี้เลือกตั้ง 15 ต.ค. วุ่นกว่าเดิม
นายเสนาะ ยังกล่าวถึงการกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. โดยหลายฝ่ายพยายามผลักดันให้มีการเลือกตั้งให้ทันในวันดังกล่าวว่า หากยังปล่อยให้มีการเลือกตั้ง 15 ต.ค. ก็ถือว่าขัดต่อพระราชกฤษฎีกา ที่ทรงระบุว่าให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม มันจะฉาวโฉ่ยิ่งกว่าวันที่ 2 เม.ย. เสียอีก เพราะเห็น ๆ กันอยู่ว่าอำนาจรัฐ อำนาจเงิน มันยังคงอยู่ ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอให้เลื่อนเลือกตั้งเป็นวันที่ 10 ธ.ค. นั้น เพราะยังเปิดทางให้สามารถย้ายพรรคกันได้เผื่อมีกรณียุบพรรค แต่ถ้ายุบหลังจากมีการเลือกตั้งไปแล้วอาจทำให้เกิดปัญหาขายตัว ประมูล ส.ส. กันวุ่นวายอีก

นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะนำเงินไปแก้ปัญหาความยากจน 2 แสนล้านบาทว่า รัฐบาลไม่มีเงินแล้วอย่าว่าแต่ 2 แสนล้านเลย แค่ 3 พันล้านบาทยังไม่มี เคสที่ชัดเจนคือการซื้อหุ้นธนาคารทหารไทย ที่ไปบีบธนาคารออมสินไปซื้อหุ้น อสมท เพื่อมาซื้อหุ้นของธนาคารทหารไทย วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้รัฐบาลเป็นพ่อค้า กำลังจะทำให้ธนาคารออมสินที่เป็นเงินออมของเด็ก ๆ เสี่ยงต่อการขาดทุน นอกจากนี้ยังทำหลายเรื่องส่อเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 87 หากพรรคประชาราชได้เข้าไปเป็นรัฐบาลจะยกเลิกตรงนี้ พร้อมทั้งเอาเงินคืน คงจะต้องฟ้องยึดทรัพย์ตามกระบวนการ เมื่อรัฐบาลไทยรักไทยหมดอำนาจ

ปชป.ตอกนายกฯ เก็บกด
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ระบุว่าคนกรุงเทพฯ ถูกหลอกว่า เป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น ซึ่งสิ่งที่นายกฯ พูดเป็นสิ่งที่เก็บกดในใจจากการแพ้การเลือกตั้ง ส.ก. ส.ข. จึงคิดว่าคนกรุงเทพฯถูกหลอก แต่ทั้งนี้ตนเห็นว่า นายกฯหลอกคนกรุงเทพฯไม่ได้มากกว่า และเชื่อว่าคนกรุงเทพฯจะให้บทเรียนกับนายกฯ หากยังไม่เปลี่ยนวิธีการมองคนในประเทศที่คนเป็นนายกฯควรมองด้วยความเป็นธรรม และเท่าเทียมกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม สิ่งที่รับไม่ได้ คือการที่นายกฯใช้รายการวิทยุเป็นการแก้ตัว ใส่ร้ายป้ายสีบุคคลในสังคม เป็นพฤติกรรมที่สะท้อนว่านายกฯชอบพูดข้างเดียว แต่ตัวเองกลับไม่อยากฟังคนอื่นตำหนิ

นายองอาจ กล่าวอีกว่า สถานการณ์บ้านเมืองมีวิกฤติหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจแต่รัฐบาลละเลยที่จะพูดถึง เพราะตั้งโจทย์ผิดเอาเงินเป็นตัวนำในการแก้ปัญหา ใช้ตัวเลขจีดีพีเป็นตัววัดในทุกเรื่อง เศรษฐกิจไทยในเวลานี้ไม่ได้เกิดจากรัฐบาล แต่เติบโตไปตามภาวะเศรษฐกิจโลก แทนที่รัฐบาลจะคุยโม้โอ้อวด ควรแสดงแนวทางในการแก้ปัญหามากกว่า

ตามจิกสอบขายหุ้นชินคอร์ป
นายเกียรติ สิทธิอมร กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี การสอบสวนบริษัทนอมินีในเรื่องการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินการตรวจสอบโดยกระทรวงพาณิชย์ว่า จะเห็นได้ชัดว่ามีความพยายามในการเตะถ่วงการสอบให้ไปเสร็จหลังเลือกตั้ง ด้วยการตั้งคณะกรรมการ ใหม่ขึ้นมาทับซ้อนกับคณะกรรมการชุดเดิมที่มีอยู่ และมีการอ้างถึงการยื่นเอกสารเพิ่มเติม จึงเป็นข้อสงสัยว่าทำไมจึงมายื่นเอกสารเพิ่มเติมกับฝ่ายการเมือง และการอ้างว่าการสอบบริษัทนอมินีเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยนั้นเป็นการอ้างที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการดูถูกคนไทยและศาลไทย เรื่องนี้เป็นกระบวนการเพื่อต้องการฟอกคนกระทำความผิด น่าจะนำมาเป็นกรณีต้นแบบ

นายเกียรติ กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจ สอบใกล้เสร็จแล้ว แต่มีการยื้อโดยส่งเรื่องดังกล่าวไปให้กระทรวง เป็นผู้ดำเนินการ รวมทั้งมีการแต่งตั้งปลัด และ รองปลัดกระทรวงเข้ามาตรวจสอบจึงทำให้เห็นว่าข้าราชการประจำต้องการที่จะช่วยเหลือฝ่ายการเมือง ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีการช่วยเหลือจริงบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการชุดใหม่ที่เข้ามาตรวจสอบก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

โวยฮุบผลงานเปิดสนามบิน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในรายการวิทยุนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน ถึงสาเหตุที่ต้องเปิดสนามบินสุวรรณภูมิให้ทันตามกำหนดเดิมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักธุรกิจและทำให้เศรษฐกิจขยายตัวว่า พรรคอยากชี้แจงว่า ความจริง ครม. ในอดีตมีมติให้ก่อสร้างและเซ็นสัญญาในรัฐบาลชวน 2 แล้วมีหลายรัฐบาลเข้ามาดำเนินการต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามทราบว่ามีหลายประการที่ไม่เอื้อต่อการเปิดสนามบิน พรรคจึงเห็นว่าไม่ควรรีบเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะ เชื่อว่าขณะนี้ยังไม่มีความพร้อมถึง 100%

นายสาธิต กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ จึงตั้งคำถามว่ามีความรีบเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะมีเหตุผล 2 ประการ คือ 1.รัฐบาลต้องการเปิดสนามบิน เพราะมีผู้มีอำนาจต้องการใช้เงินจากการเปิดสนามบินไปใช้ในการเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องเปิดสนามบิน เพื่อเบิกเงินงวดสุดท้ายของบริษัทรับเหมา และการเรียกรับเงินประกันคืนตามสัญญาค้ำประกัน 2.หวังผลจากการหาเสียง ตนขอฝากถึงนายกฯ และ รมว.คมนาคมว่าไม่ควรแอบอ้างว่าเป็นผลงานของพรรคไทยรักไทยเพียงพรรคเดียว

แฉ "ทักษิณ" จ้องโยนบาป
เมื่อเวลา 13.00 น. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กรุงเทพฯ จัดเสวนาร่วมกับ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคมมหาวิทยาลัยรังสิต เรื่อง "เลือกตั้ง 15 ต.ค. ผ่าทางตันการเมืองได้หรือไม่" โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ รักษาการ ส.ว. กรุงเทพฯ กล่าวว่า ฟันธงได้เลยว่าการเลือกตั้งถ้าไม่เลื่อนจากวันที่ 15 ต.ค. ปัญหาจะมาก สร้างความเสียหายกับบ้านเมืองมาก และ พ.ต.ท. ทักษิณ จะกลับมาอยู่อีกไม่รู้กี่ปี ทางที่ดี พ.ต.ท. ทักษิณ ควรเว้นวรรคทางการเมืองและเลื่อนการเลือกตั้งออกไป

นายวิทยา เชียงกูล คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคมมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยยอมรับหลักการประชา ธิปไตยเลย ขณะนี้ใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งก็ยังทำอะไรหมิ่นเหม่ ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นผู้นำในโลกคนเดียวที่มีลักษณะเฉพาะตัวมุ่งทำเพื่อความร่ำรวยให้กับบางตระกูลเป็นเรื่องสำคัญ และการเลือกตั้งก็พยายามเอาเปรียบ และจะทำให้การเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค.มีปัญหา เพื่อจะโยนความผิดให้ กกต. ชุดใหม่และศาลฎีกา

ตั้งท่าไล่หากชนะเลือกตั้ง
ส่วน นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขอให้ช่วยกันจับตา หากการเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค. มีเรื่องการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งก็ขอให้ผู้พบเห็นไปร้องเรียนต่อ กกต.ชุดใหม่ทุกวัน ไปร้องเรื่อย ๆ เพราะเห็นแล้วว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่มีจิตสำนึกทางการเมือง ต้องเอากฎหมาย จัดการ และหากยังกลับมา พันธมิตรฯก็จะเคลื่อน ไหวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เว้นวรรคออกไปจากการเมืองให้ได้


การติดตามการทุจริตตัดไม้สวนป่ายูคาลิปตัส


รศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชา การปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย กล่าวว่า ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติบทบาทได้แล้ว เพื่อจะได้มีความสุขในบั้นปลายชีวิต และตนจะประสานกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ในการรณรงค์ต่อต้านระบบทักษิณต่อไป

แย้มญาติ "จ้อน" เอี่ยวไม้ยูคาฯ
นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามการทุจริตตัดไม้สวนป่ายูคาลิปตัส จ.มุกดาหาร ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ว่า ภายหลังจากตนเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ปรากฏว่า คดีได้มีความคืบหน้า โดยเจ้าพนักงานสอบสวน ได้สอบ 3-4 คนที่อ้างตัวเป็นนายหน้าเรียกรับเงินบริษัทเอกชนแล้ว และยังพบด้วยว่ามีบางคนพฤติกรรมคล้าย นักเลง มีความสัมพันธ์ทางญาติกับนายอลงกรณ์ โดยระบุว่าเป็นพี่เขย ตอนนี้ดูว่าบุคคลต่าง ๆ เกี่ยวพันกันอย่างไร แต่เบื้องต้นพบว่ามีเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว เลยมาอ้างว่า เอาเงินให้ รมต. แล้วบังคับกันเองให้ลงนาม

นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า สิ่งที่กำลังสอบ อีกอย่าง คือ ข้อมูลดังกล่าว มาจากตู้ ป.ณ. ของพรรคประชาธิปัตย์จริงหรือไม่ หรือมาจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นญาตินายอลงกรณ์ เรื่องนี้คนที่เกี่ยวข้องหลายคนเป็นคนเมืองเพชร นายอลงกรณ์ ก็มาเชื่อว่าตนรับเงิน ทั้งที่ความจริงแล้ว สวนป่าผืนดังกล่าว ยังไม่เคยอนุมัติให้ทำไม้กับบริษัทนายณรงค์ด้วยซ้ำ วันนี้ตนรอให้การในชั้นศาลแล้ว และกำลังให้ตรวจสอบให้ชัดเจนเรื่องเส้นทางการเงิน ว่าเงินจ่ายไปแล้วอยู่ที่ใคร เรื่องนี้เมื่อมีความชัดเจนของขบวนการทั้งหมด ตนจะแถลงข่าวเป็นทางการอีกครั้ง


แหล่งที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์