รวมใจไทยฯแนะดึงป๋า-แม้วเคลียร์ใจ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

มีนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ประธานคณะกรรมการ เป็นประธานการประชุม โดยเป็นการรับฟังผลการทำงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด โดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง กล่าวต่อที่ประชุมว่า คณะอนุกรรมการได้พิจารณาหลายเรื่อง ได้แก่


1.การได้มาซึ่ง ส.ส. ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นชอบให้มี ส.ส. 500 คน แบ่งเป็นระบบเขตเดียวเบอร์เดียว 400 คน ส่วนระบบบัญชีรายชื่อใช้เขตประเทศ 100 คน แต่ไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำร้อยละ 5 จะทำให้พรรคที่มีผู้สนับสนุนน้อยยังมีโอกาสได้รับเลือกมากขึ้น

2.การยุบพรรค มาตรา 68 และมาตรา 237 เกือบทั้งหมดเห็นว่าไม่ควรยุบพรรค แต่มาตรา 237 วรรคสอง ที่ให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปีด้วย อนุกรรมการเกือบทุกพรรคเสนอให้ตัดวรรคดังกล่าวออก เพื่อให้ความผิดของกรรมการบริหารพรรคเป็นความผิดเฉพาะตัว และไม่นำไปสู่การยุบพรรคนั้น


นายประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา คณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมือง กล่าวว่า

คณะอนุกรรมการศึกษาโครงสร้างรัฐธรรมนูญและกฎหมายในประเด็นที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่เป็นธรรม อาจนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา และอาจนำไปสู่การแก้มาตรา 291 ให้มีการตั้งสภาปฏิรูปการเมือง ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อปฏิรูปครั้งใหญ่ในอนาคต

ด้านนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมการสร้างความสมานฉันท์ทางการเมืองของสังคมไทย กล่าวว่า คณะอนุกรรมการเห็นว่า จากการศึกษาพบ 6 ประเด็นที่ตรงกัน คือ

1.ลดวิวาทะทางการเมืองที่มีการตอบโต้ใส่ร้ายกัน
2.รัฐบาลและฝ่ายค้านต้องลดการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง
3.เชิญสื่อมาเป็นภาคีเพื่อลดความขัดแย้ง
4.เจรจากับคู่ขัดแย้งทุกระดับ ทุกองค์กร
5.ทำสมัชชารับฟังความเห็นจากประชาชน เป็นสมัชชาสมานฉันท์ 4 ภูมิภาค และ
6.ผลักดันร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมานฉันท์


"รวมใจไทยฯ"แนะดึง"ป๋า-แม้ว"เคลียร์ใจ

หลังจากนั้น ที่ประชุมเปิดให้กรรมการแสดงความเห็น โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) กรรมการ กล่าวว่า อยากให้ออกวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หากทำได้ ความขัดแย้งจะสงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชุมกว่า 3 ชั่วโมง นายดิเรกกล่าวสรุปว่า สัปดาห์หน้า คณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด ต้องมีข้อสรุป ข้อเสนอ

พร้อมเหตุผลที่ชัดเจนและปฏิบัติได้ โดยคณะกรรมการชุดใหญ่จะพิจารณาไล่ไปสัปดาห์ละคณะอนุกรรมการ เริ่มคณะอนุกรรมการแรกวันที่ 26-28 พฤษภาคม
วันเดียวกัน ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน จัดเสวนาเรื่อง "แก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ ประชาชนได้อะไร" โดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้หากไม่ร่วมมือกันประเทศจะล้มละลาย นายกฯก็ลงรายละเอียดว่าหากแก้รัฐธรรมนูญแล้วทำให้บ้านเมืองมีความขัดแย้งน้อยลง และหากบ้านเมืองสงบ ก็พร้อมยุบสภา การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้นำไปสู่การเลือกตั้ง ต้องเป็นกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับ ในอนาคตอาจมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์