ผบ.ทบ.ห่วงผู้นำประชุมอาเซียนพกชุดรปภ.ติดอาวุธมาคุ้มครองไทยจะเสีย ภูเก็ตค้านออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ


ฝึกซ้อมทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเตรียมรปภ.ประชุมอาเซียนเกือบ20 กองร้อย ผบ.ทบ.หวั่นผู้นำขอชุดรปภ.มาเองและติดอาวุธมาเองอาจะให้ประเทศเสียหาย หน่วยงานราชการภูเก็ตค้านออก พ.ร.บ.ความมั่นคงเชื่อต้อนรับได้ไม่ต้องมีกม.คุมหวั่นนักท่องเที่ยวกระเจิง

พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ได้ตรวจการฝึกซ้อมทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต 2 กองร้อย รวม 300 นาย เพื่อเตรียมดูแลรักษาความปลอดภัยช่วงจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา หรืออาเซียนซัมมิท ซึ่งรัฐบาลกำหนดจัดขึ้นที่ จ.ภูเก็ตในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งทำการฝึกที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ สถานที่ฝึกซ้อมชั่วคราว หลัง สภ.เมืองภูเก็ต  เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม มี พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ภูเก็ต เป็นผู้อำนวยการฝึก โดยฝึกการต่อสู้ด้วยกระบอง การเคลื่อนรูปขบวนต่างๆ และควบคุมฝูงชน โดยสมมุติเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่จัดประชุม ทางชุดควบคุมฝูงชน เข้าเจรจา การใช้กำลังเข้าผลักดัน ใช้น้ำจากรถดับเพลิง และแก๊สน้ำตาสลาย ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้

โดย พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า มีความพร้อมเต็มที่เพื่อรองรับการประชุมอาเซียนซัมมิท เชื่อว่าการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะมีทหารเข้ามาช่วยและเชื่อว่าประชาชนไม่ว่าเสื้อสีอะไรหรือกลุ่มใดคงเห็นแก่ชาติบ้านเมือง สำหรับกำลังตำรวจที่นำมาใช้ดูแลรักษาความปลอดภัย ใช้ตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน  14 กองร้อยและขอสนับสนุนกำลังเพิ่มเติมจากตำรวจตระเวนชายแดนอีก 3-4 กองร้อย รวมเป็นประมาณ 17-19 กองร้อย สำหรับการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 นั้น เชื่อว่าคงจะช่วยได้เยอะเพราะว่ามีกฎหมายรองรับในการปฏิบัติหน้าที่ของ ทหารและตำรวจ ส่วนจะสร้างความห่วงกังวลกับฝ่ายอื่นๆ หรือไม่นั้น เห็นว่าคงไม่มี เพราะประเทศไทยประกาศใช้มาเยอะแล้ว น่าจะเป็นความเชื่อมั่นมากกว่า

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์รายการลับลวงพราง ซึ่งออกอากาศทางวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิร์ตซ์ ถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา อาจต้องใช้กำลังทหารเป็นหลักว่า หากต้องการบล็อคไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นตามความคิดของรัฐบาลก็ต้องทำตามนั้น โดยต้องคุยกับชุดรักษาความปลอดภัยส่วนล่วงหน้าของ 15 ชาติที่จะมาคุยเรื่องแผนการรักษาความปลอดภัยก่อน หากไม่มั่นใจอาจจะมีการขอแรงๆ อย่างเอาชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) และติดอาวุธมาเองจะทำให้ประเทศเสียหาย

ผู้ดำเนินรายการถามว่า หากบางประเทศต้องการเอา รปภ.ติดอาวุธมาเองเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า การถือหรือติดอาวุธโดยโจ่งแจ้ง จะไม่มีใครทำตามมารยาท แต่ตนไม่สามารถพูดขณะนี้ได้ ผู้ดำเนินรายการถามว่าจำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก.ความมั่นคงฯ เพื่อให้อำนาจทหาร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เป็นการคิดง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอะไร ถ้าใช้กฎหมายปกติทำได้ก็ทำ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องมาดูว่าจะใช้กฎหมายอะไร ฝ่ายปฏิบัติเลยเสนอไปว่าถ้ามีอำนาจก็รักษาสถานการณ์ได้ แต่ถ้าไม่มีอำนาจเลยก็รักษาสถานการณ์ไม่ได้

ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปัตย์ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาระบุว่าไม่รับประกันความสงบในการประชุมอาเซียนซัมมิทที่ จ.ภูเก็ต ว่าเป็นเรื่องของคนส่วนน้อยที่ต้องการทำลายประเทศ เชื่อว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ต้องการทำลายประเทศ และพรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพร่วมกับคนไทยทุก ทั้งนี้ไม่อยากให้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่ต้องการบ้านเมืองสงบ ขณะนี้ก็มีการเคลื่อนไหว มีการกำหนดจากคนที่อยู่นอกประเทศ

นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มั่นใจว่าชาวภูเก็ตพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี เชื่อว่าจะไม่มีปัญหามวลชนมาประท้วงจนทำให้การประชุมต้องเสียหาย อย่างที่เคยเกิดขึ้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพราะคนภูเก็ตเป็นคนมีเหตุผล และติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาตลอด รวมทั้งจะช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการชุมนุมต่อต้านจนทำให้การประชุมต้องเสียหาย

ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต กล่าวว่า มั่นใจว่าถ้าไม่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ชาวภูเก็ตสามารถที่จะต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ในทางตรงกันข้ามถ้ารัฐบาลจะประกาศ โดยมุ่งไปที่ประเด็นของความมั่นคงปลอดภัยก็ไม่แน่ใจว่าประกาศไปแล้ว จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามถ้าประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ เพื่อให้กองทัพทำงานได้ตามภารกิจ ความรับผิดชอบก็ไม่ขัดข้องและยินดี

นพ.ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน หากประกาศใช้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแน่นอน แต่หากรัฐบาลมองไปถึงความมั่นคงปลอดภัย จำเป็นต้องประกาศใช้ แน่นอนว่า ผลกระทบในแง่ของจิตวิทยาในเมืองท่องเที่ยวนานาชาติภูเก็ต เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแง่ของเป้าหมาย เพื่อให้จัดการประชุมประสบความสำเร็จ มีความจำเป็นต้องประกาศขอให้ประกาศใช้เท่าที่จำเป็นและใช้เวลาสั้นที่สุด ประชุมเสร็จต้องยกเลิกทันที

นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานกิติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะจะส่งผลกระทบกับตลาดการท่องเที่ยวที่เพิ่งฟื้นตัวจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แต่ตนไม่ทราบว่าเหตุผลที่รัฐบาลจะประกาศให้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีสาเหตุหรือมีเหตุผลความจำเป็นอย่างไร เนื่องจากภาคใต้ตอนบนตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ลงไปเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด จึงไม่น่าจะหวั่นวิตกมากเกินไป ที่สำคัญ จ.ประจวบคีรีขันธ์ไม่ได้เป็นพื้นที่ของคนเสื้อแดง

นายรุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองหัวหิน ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะเป็นประตูสู่ภาคใต้ การประกาศ พ.ร.บ.อาจมีผลประทบบ้างกับการท่องเที่ยว แต่ทุกฝ่ายต้องอดทนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ หากการประชุมอาเซียนที่ จ.ภูเก็ตผ่านพ้นไปด้วยดี ภาพลักษณ์ความมั่นใจของไทยในสายตาชาวต่างชาติจะกลับมาและส่งผลดีกับการพัฒนาทุกด้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคิดเห็นของผู้นำท้องถิ่น ผู้ภาคธุรกิจเกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในส่วนของจังหวัดชุมพร และระนอง ต่างเห็นด้วยที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯระหว่างประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เพื่อให้การประชุมบรรลุเป้าหมายและกู้ภาพลักษณ์ของประเทศคืนมาหลังติดลบเมื่อครั้งประชุมที่เมืองพัทยาล้มเหลว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์