เงื่อนไข(ไม่)ปรองดอง เดิมพันสูงลิบเพื่อไทย

"กลุ่มเสื้อแดง" ถูกตั้งคำถามต่างๆ นานา จาก "สังคม" ภายหลังเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครและพัทยา จ.ชลบุรี ในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เห็นผ่านหน้าสื่อขัดแย้งกับคำว่า "สันติ อหิงสาและปราศจากอาวุธ" ตามหลักการของ "คนเสื้อแดง" ที่ประกาศตลอดมา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อเครดิต "แกนนำสำคัญ" หลายคนให้ลดลง แทบสิ้นความน่าเชื่อถือ จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาต่อการเคลื่อนไหวต่อสู้ของ "คนเสื้อแดง" ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง "เรียกร้องประชาธิปไตย" หรือ "ขับไล่เผด็จการ" ไปจนถึง "ล้างระบอบอำมาตยาธิปไตย" จนปัจจุบันแทบจะไม่รู้ว่าจะหาเหตุใดๆ มาอ้างกับสังคมได้อีก

ส่งผลให้หนทางการต่อสู้ที่ตีบตันลงของ "คนเสื้อแดง" พานส่งผลกระทบกับการต่อสู้ทางการเมืองของ "พรรคเพื่อไทย" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก่อนหน้านี้จะพยายามสร้างภาพว่า "แยกกันเดิน" เพียงไรก็ตาม เพราะหนที่สุดแล้วก็พิสูจน์ว่าคนเพื่อไทยอาศัยจมูก "คนเสื้อแดง" หายใจมาตลอด

การต่อสู้ของ "เพื่อไทย" แน่นอนว่าต้องโฟกัสไปที่ภารกิจในสภาผู้แทนราษฎร ต้องไปร่วมต่อสู้ผ่านกระบวนการตรากฎหมายเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่หนที่สุดแล้วก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ลำพังฝีมือ "เพื่อไทย" แต่ฝ่ายเดียวนั้นไม่สามารถล้ม "รัฐบาลอภิสิทธิ์" ได้

"กระแสเสื้อแดง" จึงเป็นตัวช่วยที่สร้างความหวังให้เพื่อไทยได้พลิกสถานการณ์การเมืองของตัวเองบ้าง แต่วันนี้ "เสื้อแดง" แทบจะไม่เหลือราคาอะไรอีกแล้ว!!

การเร่งรีบตั้งกำหนดจุด-ตั้งเวทีปราศรัยในช่วงสัปดาห์หน้า ของ "แกนนำเสื้อแดง" ทันทีที่หลุดพ้นพันธนาการทางกฎหมาย โดยอ้างเรื่องการพูดคุยเพื่อ "สรุปสถานการณ์" และกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวต่อไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นเริ่มเคลื่อนไหวชุมนุม แต่ลึกๆ ก็คือเริ่มหาหนทางในการซ่อมแซมกระแสเสื้อแดง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสงครามครั้งใหม่นั่นเอง

สอดรับกับเกมการเคลื่อนไหวของเพื่อไทยในฐานะพรรคฝ่ายค้าน

ดังจะเห็นได้จากความพยายาม "เล่นแง่" ตั้งเงื่อนไขในการส่งรายชื่อตัวแทน 3 ผู้ทรงคุณวุฒิ และ 9 ส.ส. มาร่วมเป็น "คณะกรรมการแก้ปัญหาทางการเมืองเพื่อความปรองดองและสมานฉันท์ และแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ตามมติของวิป 3 ฝ่าย ที่ได้ประชุมร่วมกันกับ "ชัย ชิดชอบ" ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ล้มการตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อสอบข้อเท็จจริงเรื่องการสลายม็อบเสื้อแดง "เพื่อไทย" ก็อ้างดุ่ยๆ ลุยน้ำครำไปเลยว่า "สภาผู้แทนราษฎร" ควรเป็นหลักในการสืบหาข้อเท็จจริง ในเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองในช่วง 8-15 เมษายนที่เกิดขึ้นให้ได้ก่อน จากนั้นก็ค่อยมาพูดเรื่องการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ ??

เป็นที่มาของการพลิกตัวแบบ 360 องศาของ "เพื่อไทย" ในการฟื้นข้อเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง "คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการสลายการชุมนุมวันที่ 13 เมษายน"

ก่อนขยับเข้าสู่โหมดการทำงานของคณะกรรมการแก้ปัญหาการเมืองฯ ตามเกมที่ "ประชาธิปัตย์" และ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ได้กำหนดไว้ โดยมีคำขาดที่ยื่นให้แล้วว่า ถ้าไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญสอบการสลายม็อบ "เพื่อไทย" ก็จะไม่ร่วมสังฆกรรมใดๆ กับสภา

เพราะความหวาดระแวงและไม่เคยไว้วางใจ เชื่อใจกันของนักการเมือง การเคลื่อนจากฝ่ายรัฐบาลที่ "ไฟเขียว" ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หาทางปลดล็อควิกฤตการเมืองนั้น ถูกพรรคเพื่อไทย แปลรหัสว่า เป็น "อุบาย" ของ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นความชาญฉลาดของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี และพรรคพวก ที่จะดึงเพื่อไทยให้กลับเข้ามาคุยในเวทีสภาและยุติการปลุกปั่นพลพรรคเสื้อแดง

เมื่อมองกันลึกๆ ในประเด็น "ดีกรีความต้องการ" แก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านแล้ว ที่ชัดเจนคือ "ป๋าเติ้ง" บรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เร่งวันเร่งคืนให้มีการแก้รัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรมบรรดาสมาชิกบ้านเลขที่ 111+109 โดยด่วน แต่ก็ปรากฏว่า ในบางซีกของพรรคแกนนำรัฐบาลกลับประกาศขวางเต็มที่เพราะไม่อยากให้ "ผีไทยรักไทย" ฟื้นชีพ

เช่นเดียวกันกับ "ภูมิใจไทย" พรรคร่วมรัฐบาลอันดับรองก็ไม่ประสงค์เช่นกัน เพราะนั่นเท่ากับว่าฐานอำนาจจะถูกสั่นคลอนจากพันธมิตรเก่า มีคนพูดกันว่า บรรดาผู้ถูกตัดสิทธิทั้งหลายกำลังมีความสุขกับการบัญชาการอยู่หลังม่าน และเก็บเกี่ยวดอกผลเงียบๆ โดยไม่ถูกตรวจสอบ เพราะมีลูกน้องออกหน้ารับแทนเป็นอย่างมาก ??

เมื่อไม่ได้เป็นผู้กำหนดกติกาเอง "เพื่อไทย" จึงไม่ผลีผลามที่จะกระโดดร่วมวง ซึ่งเป็นที่มาของความพยายามที่จะพลิกเกมให้มาเป็นของตัวเองด้วยการเสนอตั้ง "กรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการสลายการชุมนุมฯ" แลกกับการเข้าร่วม "คณะกรรมการแก้ปัญหาการเมืองฯ" ของประชาธิปัตย์

เมื่อไปอยู่ในเกมของตัวเองได้ "เพื่อไทย" ก็หวังจะใช้ "ความจริงในมุมแดง" มาซ่อมและสร้างกระแสมวลชนของตนให้กลับมาติดลมบนอีกครั้ง เมื่อเจอ "หมัดสวน" แบบนี้ ต้องวัดใจพรรคสะตอว่าจะการ์ดตกหรือเปล่า !!


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์