อภิสิทธิ์โชว์กึ๋น เก่งกว่า .... เยอะ

วันที่ 4 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

พร้อมด้วยแกนนำพรรค ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ ที่หมู่บ้านคอยคุตตั๊กวา เขตหนองจอก โดยนายอภิสิทธิ์ได้ทดลองไถนาด้วยรถไถนา เยี่ยมชมแปลงผัก และบ่อเลี้ยงปลา จากนั้นได้ร่วมเสวนาหัวข้อเศรษฐกิจพอเพียง รูปธรรมในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน กับตัวแทนชาวบ้าน โดยได้มีการเสนอว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะทำนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ต้องทำให้ชัดเจนในทุกพื้นที่ โดยเน้นที่กระบวนการการเรียนรู้ และทำเป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องคิดถึงภาพรวม ไม่ใช่แค่ช่วยให้ฝ่าวิกฤติเฉพาะหน้าเท่านั้น โดยพรรคประชาธิปัตย์คิดถึงการฝ่าวิกฤติและจะต้องนำไปสู่ความแข็งแกร่งที่มีทิศทาง ตรงกับปรัชญาที่เสริมความสมดุล ความยั่งยืน รัฐบาลนี้ก็เคยเข้ามาสู่วงจรนี้ แต่ในที่สุดขาดปรัชญาทิศทางหลัก ทำให้หลงทาง ดังนั้น ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่

เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่


นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ถ้าเป็นโครงการส่วนรวมจะให้เปล่า แต่ถ้าเป็นโครงการส่วนตัวจะให้กู้ยืมก็ต่อเมื่อ ผู้กู้ต้องมีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน และมีองค์ความรู้ มีกลไกของสถาบันศึกษา ที่ใกล้ชุมชนเข้าไปช่วยประชาชน เช่น ใครเป็นหนี้มากเพราะดื่มสุรา ต้องกำหนดว่าจะลดหนี้ให้ ภายใต้เงื่อนไขต้องเลิกสุราก่อน ถ้าเลิกไม่ได้กู้ไปหนี้ก็กลับไปเท่าเดิม ดังนั้น ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะประกาศขึ้นภาษีสุรา บุหรี่ จะเสียคะแนนอย่างไรไม่ว่า เพราะไม่ต้องการให้ดื่มสุราสูบบุหรี่กัน นอกจากนี้ จะต้องสร้างค่านิยมให้ออมในลักษณะของชุมชน แบบนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรได้ ไม่ใช่เหมือนที่ผ่านมา ที่คิดง่ายๆวันดีคืนดีก็ประกาศยกหนี้ แล้วก็กลับเข้าสู่วงจรเดิมเอาหนี้ใหม่ไปล้างหนี้เก่ากลายเป็นหนี้ที่เพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจะแก้ไขการรวมเขตลาดกระบังและเขตประเวศเป็น จ.สุวรรณภูมิ อย่างไร นายอภิสิทธิ์ตอบว่า จะยกเลิกในส่วนของการตั้งเป็นจังหวัดสุวรรณภูมิก่อน

ยังคงเดินหน้าต่อต้านระบอบทักษิณ


นายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังเข้าร่วมเสวนา ถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเป็นพันธมิตรกับพรรคประชาราชว่า หลายเรื่องคิดตรงกัน โดยเฉพาะส่วนที่คิดว่าเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง การปฏิรูปการเมือง และแก้ไขจุดอ่อนของการเมืองที่มาจากระบอบทักษิณ แต่หลังจากการเลือกตั้งคงจะต้องดูจำนวน ส.ส. และดูว่าใครจะไปร่วมงานอย่างไร เมื่อถามว่าจะต้องลงสัตยาบันร่วมกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า คงไม่ต้องแล้ว เพราะสิ่งที่ทุกพรรคจะทำคือการปฏิรูปการเมือง เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่พรรคฝ่ายค้านเดิมไม่ประกาศสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า หากประกาศไปตอนนี้จะรู้สึกแปลกใจด้วยซ้ำ เพราะขณะนี้ทุกคนกำลังเตรียมเลือกตั้ง แต่ถึงเวลาเลือกตั้งจะมีความชัดเจน เพราะประชาชนต้องการทราบจุดยืนของแต่ละพรรค เมื่อถามว่า มองดูเป็นการรุมพรรคไทยรักไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่มีใครรุมใคร ขณะนี้บางเรื่องทุกคนต้องช่วยกันเพื่อการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และแก้ไขปัญหาสิ่งที่ตกค้างมาจากระบอบทักษิณ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกันทำ

ปชป.ระดมกึ๋นถกนโยบายสาธารณะ


นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะประชุมสัมมนาปฏิบัติการเรื่อง ประชาชนต้องมาก่อน ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ โดยมีสมาชิกพรรคทั่วประเทศ อดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี และผู้สมัคร ส.ส.บางส่วน มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมวาระประชาชนที่เกี่ยวข้องในนโยบาย ก่อนที่จะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเป็นวาระประชาชนเป็นนโยบายสาธารณะ ในวันที่ 9 ส.ค. ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปเยือนประเทศพม่า เป็นการเดินทางที่ไม่มีกำหนด มีการปิดบังวาระงาน สร้างความสงสัยให้แก่ประชาชนนั้น ขณะนี้สังคมไทยเริ่มไม่เชื่อถือในตัวนายกฯ แม้ว่าจะระบุว่าไม่มีการเจรจาเรื่องธุรกิจ แต่นายกฯจะต้องประกาศให้ชัดเจน เพราะขณะนี้มีการสงสัยว่าอาจจะมีการเจรจาเรื่องพลังงาน หรือเรื่องการซื้อไม้จากพม่า ทั้ง 2 เรื่องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของคนในรัฐบาลนี้หรือไม่ เนื่องจากหากย้อนหลังไปตรวจสอบดูจะพบว่า การเดินทางไปต่างประเทศน่าสงสัย เช่น เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2545 เดินทางไปอินเดีย เมื่อกลับมาได้ระบุว่าไม่มีการเจรจาเรื่องโทรคมนาคมของบริษัทชินแซทฯ แต่หลังจากนั้นมีการต่อสัญญาดาวเทียมกับชินแซทฯอีก 6 เดือน

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์