แฉยูเออีไล่แม้วแล้ว


ตร.นำตัว 3 แกนนำนปช. "วีระ-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง" ขออำนาจศาลคุมตัวต่อจนถึง 29 เม.ย. ฝ่ายผู้ต้องหาคัด ค้านอ้างพวกตนชุมนุมโดยสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ทั้งพ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ถือว่าสิ้นสุดไปแล้ว แต่ ศาลไม่อนุมัติ ส่งตัวให้ตร.เอาไปขังต่อ ขณะที่แกนนำเสื้อแดงเชียงใหม่ เดินสายมอบตัวรวดเดียว 3 โรงพัก เพราะโดนคดีนัวเนียต่างกรรมต่างวาระ "มาร์ค"เปลี่ยนตัวทีมรปภ.จากศรภ. เป็นทหารเสือราชินีจากราบ 21 ชลบุรี ขณะที่ฟอร์ดมอบรถกันกระสุนให้ทีมรปภ.ของเทพเทือกไว้ใช้ "สุเทพ"ยอมรับเหนื่อยที่"แม้ว"ยังเคลื่อนไหวไม่เลิก ทางด้านมท.1 สั่งผู้ว่าฯทุกจว.นำมวลชนเข้ากรุงที่ลานพระบรมรูปทรงม้า 5 พ.ค.นี้ เพื่อร่วมพิธีเทิดพระเกียรติในหลวง โต้เปล่าสั่งให้ทุกคนใส่เสื้อน้ำเงิน

-ปู่ชัยตั้งท่าเบรกคลิปสลายชุมนุม

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาว่า เชื่อว่าที่ประชุมคงไม่เกิดปัญหา ถ้าต่างฝ่ายต่างแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ส่วนที่ฝ่ายค้านจะนำคลิปวิดีโอเหตุการณ์สลายการชุมนุมมาเปิดในที่ประชุมนั้น ตนจะขออนุญาตจากที่ประชุมให้ตั้งคณะกรรมการที่มาจากสื่อมวลชน มาพิจารณาคลิปวิดีโอดังกล่าวว่าควรนำมาเปิดเผยหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย และถ้าฝ่ายค้านนำคลิปมาเปิดเผยผู้ที่นำมาต้องรับผิดชอบ ตนจะระมัดระวังเพราะที่ผ่านมามีการนำภาพที่ไม่เหมาะสมมาเปิดเผย ส่วนที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยขู่จะแห่ศพที่อ้างว่าเป็นคนเสื้อแดงและถูกทหารยิงระหว่างการสลายการชุมนุมมาที่สภานั้น ถ้าจะแห่มาต้องขออนุญาตผู้ที่เกี่ยวข้องแต่จะนำเข้ามาในสภาไม่ได้ เพราะจะยิ่งทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น

นายชวรัตน์ ชาญวีระกูล รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงกรณีกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายระดมคนกว่า 2 แสนคนร่วมงานวันฉัตรมงคลโดยให้ใส่เสื้อน้ำเงินว่า ไม่ได้บังคับให้ใส่เสื้อสีน้ำเงิน ใส่สีอะไรก็ได้ ไม่ได้บังคับหรือห้าม เพื่อแสดงความจงรักภักดี ซึ่งสีน้ำเงินเป็นสีของพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว

-มท.1 พร้อมรับมือแดงรวมพล

เมื่อถามว่าแต่การใส่เสื้อสีน้ำเงินจะแสดงให้เห็นว่าเป็นพวกเดียวกับคนกลุ่มเสื้อน้ำเงินหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน คิดดูว่าหากเราเอาสีน้ำเงินออกจากธงชาติจะเป็นสีธงชาติได้หรือไม่ ไม่ใช่การระดมคนมาที่ลานพระบรมรูป ให้คนมาแสดงความจงรักภักดี นายกฯ ไม่ได้เป็นห่วง ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ได้ผ่านความเห็นชอบไปแล้วไม่ได้มีปัญหา เราต้องการให้ประเทศไทยไม่มีสีแดง เหลือง น้ำเงิน ให้เป็นสีเดียวกันคือสีธงชาติ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศรวมพลใน 10 จังหวัดใหญ่ก่อนจะรวมพลครั้งใหญ่อีกครั้ง ได้กำชับแต่ละจังหวัดอย่างไร รมว. มหาดไทยกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้รู้แล้วว่าวิธีป้องกันอย่างไร ซึ่งตนจะกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นพิเศษ ต่อข้อถามว่าต้องเข้มงวดป้องกันไม่ให้เกิดการยึดศาลากลางหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า เรามีมาตรการอยู่แล้ว ซึ่งเป็นมาตรการเด็ดขาด หากละเมิดก็ต้องใช้กฎหมายคุ้มครอง ไม่หนักใจ และตนเชื่อว่าไม่มีเหตุการณ์ใดร้ายแรง ความเจ็บปวดที่ผ่านมาน่าจะเป็นอุทาหรณ์อยู่แล้ว ไม่ควรให้เกิดขึ้นอีก ทุกคนคนไทยด้วยกัน

-สั่งทุกผู้ว่าฯบี้เคเบิล-วิทยุชุมชน

ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์กล่าวในการเป็นประธานการประชุมกระทรวงมหาดไทยผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณผู้ว่าฯ นายอำเภอและข้าราชการทุกฝ่ายที่ช่วยกันดูแลการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ปิดถนนและศาลากลางจังหวัดทำให้เหตุการณ์ลุล่วงไปด้วยดี ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้สิทธิ์ชุมนุมตามรัฐธรรมนูญอีกต่อไป เพราะมีการปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมเกิดความเคียดแค้นชิงชัง ปรารถนาจะกระทำรุนแรงกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นเหตุให้กระทรวงมหาดไทยได้รับความเสียหายและนำไปสู่การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งรัฐบาลสามารถใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ มีเพียงผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเพื่อรักษาบ้านเมืองให้เกิดความสงบร่มเย็น

นายชวรัตน์กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าฯ และนายอำเภอติดตามข่าวสารและตรวจสอบวิทยุชุมชนและเคเบิลทีวีที่เผยแพร่เนื้อหาหมิ่นสถาบัน ปลุกระดม ยุยงให้เกิดความแตกแยก และมีความผิดต่อความมั่นคงของประเทศอย่างใกล้ชิด หากพบกระทำผิดหรือผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ สามารถบอกเลิกสัญญา สั่งปิด และดำเนินคดีตามกฎหมายทันที นอกจากนี้ทางจังหวัดต้องเยียวยาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จัดชุดมวลชนสัมพันธ์ ปฏิบัติการจิตวิทยาเข้าไปชี้แจง รับฟังปัญหา และติดตามความเคลื่อนไหว และทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครแพ้ใครชนะ ต้องหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน ร่วมกันแก้ปัญหาประเทศ

-ระดมคนทั่วปท.มาลานพระรูป

นายชวรัตน์ยังสั่งการผู้ว่าฯ ให้ร่วมจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 60 ปีแห่งการพระบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 พ.ค.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดนำมวลชนทุกจังหวัดมาร่วมงาน

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ห้ามข้าราชการใส่เกียร์ว่างต่อปัญหาการชุมนุมหรือนัดรวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ วันที่ 25 เม.ย.นี้ที่ จ.สมุทรสาคร และให้รายงานมายังกระทรวงมหาดไทยทุกระยะ

ด้านนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้ขอให้ทุกจังหวัดเร่งทำสงครามข่าวสารเชิงประชาสัมพันธ์ ชี้แจงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน พร้อมสั่งจัดตั้งทีมกฎหมายบังคับใช้อย่างเข้มข้นกับผู้กระทำผิด รวมถึงปรับปรุงงานข่าวในทุกระดับให้มีข้อมูลเพียงพอรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกจังหวัดเพิ่มเวรยามป้องกันสถานที่ราชการให้มากขึ้นด้วย

-มาร์คใช้ทหารเสือราชินีรปภ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์การลอบทำร้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในหลายกรณีและมีการวิจารณ์ถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัย และการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) จนมีข่าวว่านายกฯ จะปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด ปรากฏว่าวันเดียวกันนี้การอารักขาและรักษาความปลอดภัยนายกฯได้มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ ศรภ.ได้ถูกส่งตัวกลับทั้งหมด และได้นำหน่วยเคลื่อนที่เร็ว จากกรมทหาราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมิน ทราชินี ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี มาทำหน้าที่แทน และยังคงใช้เจ้าหน้าที่ทหารจากองพันทหารสารวัตรที่ 11 มาทำหน้าที่เป็นรถนำขบวน และให้การอารักขารักษาความปลอดภัยมาตรการชั้นสูงสุดเช่นเดิม ส่วนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงก็เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ ศรภ.มาใช้ทหารจาก ร.21 รอ.เช่นเดียวกัน

-เทือกบ่นหนักใจแม้วยังเคลื่อนไหว

เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ล่าสุดให้สัมภาษณ์ที่ดูไบว่า ติดตามอยู่ ขณะนี้อดีตนายกฯ อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งฝ่ายรัฐบาลพยายามแจ้งไปยังประเทศต่างๆ ว่าพ.ต.ท.ทักษิณทำผิดอะไรไว้บ้าง เมื่อถามว่ามีความคืบหน้าจากตำรวจสากลในการติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณบ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่มีการแจ้งกลับมา ส่วนจะมีมาตรการอื่นนอกเหนือจากการประสานงานกับตำรวจสากลหรือไม่นั้นกำลังคิดอยู่ เมื่อถามว่าการเจรจาถือเป็นแนวทางหนึ่งด้วยหรือไม่ รองนายกฯ ไม่ยอมตอบคำถาม

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ในการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ นายสุเทพกล่าวว่า "หนัก ใจ" ผู้สื่อข่าวถามว่าการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ ที่ดูไบรัฐบาลจะประสานกับทางการดูไบอีกครั้งหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราทำในขอบเขตความตกลงระหว่างประเทศที่อนุญาตให้ทำได้ ส่วนการนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีนั้นก็ดำเนินการต่อไป เมื่อถามถึงข้อเสนอของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยให้เจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ นายสุเทพไม่ตอบ

-เพื่อไทยร้องกมธ.สอบสลายม็อบ

เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนาย พิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อนายประชา ประสพดี ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบการสลายการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีหลักฐานปรากฏชัดว่ามีทหารหน่วยรบจำนวนมากพร้อมอาวุธสงคราม เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้สูญหายจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ จะส่งซีดีภาพเหตุการณ์มาให้คณะกรรมาธิการในภายหลัง

ด้านนายประชากล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมกรรมาธิการในวันที่ 29 เม.ย.นี้ โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นผู้ควบคุมการสลายการชุมนุม ผู้เห็นเหตุการณ์ ทายาทผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มาสอบสวนต่อไป

-ผอ.กอฉ.ออกแนวปฏิบัติขั้นต่อไป

รายงานข่าวเปิดเผยว่า วันเดียวกันพล.ต.ท. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.กอฉ. ตร. กำชับ กอฉ.น.และหน่วยต่างๆ ในสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ ติดตามสถาน การณ์ในพื้นที่ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม การดำเนินคดีกับกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่ม นปช. ฯลฯ ด้วยความยุติธรรม เฝ้าติดตามพฤติกรรมของวิทยุชุมชน เว็บไซต์ต่างๆ การตั้งจุดตรวจค้น การรักษาความปลอดภัยบ้านพักบุคคลสำคัญหรือสถานที่สำคัญ ให้ประชา สัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวรัฐมนตรี ซึ่งมีข้าราชการตำรวจจากหลายหน่วยไปปฏิบัติหน้าที่ โดยให้มีการกำหนดแผนการปฏิบัติ ตรวจสอบข้อมูลการข่าว ระมัดระวังในการปฏิบัติอย่าให้เกิดความเสียหาย ให้มีการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากมีการยกเลิกการประกาศสถาน การณ์ฉุกเฉิน เตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์แนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายและบทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

คำสั่งดังกล่าวระบุว่า ภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการต่อไป 1.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ การเคลื่อนไหวของแกนนำ การเสนอข้อมูลทางเว็บไซต์ เป็นต้น 2.การสืบสวนสอบสวน ติดตามบุคคลตามหมายจับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 3.การประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับประชาชนและสังคม 4.การ เตรียมการรองรับสถานการณ์อาจเกิดขึ้นระหว่างการประชุมรัฐสภา ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนในบริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งจากข้อมูลการข่าวอาจมีแนวโน้มจะรวมตัวกันชุมนุมเคลื่อนไหว ให้มีการเฝ้าฟังและสรุปประเด็นที่นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งออกอากาศทุกเช้าวันอาทิตย์ แล้วนำมาวิเคราะห์ทิศทางนโยบายของรัฐบาล ประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป

-3 มือทุบรถนายกฯที่พัทยามอบตัว

เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์สอบสวนสืบสวนภาค 2 ชลบุรี นายวันเฉลิม กุนเสน อายุ 21 ปี พร้อมด้วยน.ส.จิดาภา ธนหัตถชัย อายุ 47 ปี และนายสมญศม์ พรมภา อายุ 46 ปี ได้เข้ามอบตัวกับพ.ต.อ.กิตติพงษ์ เงามุข รองผู้บังคับการตำรวจภูธร ภาค 2 หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวนสืบสวน กลุ่มเสื้อแดงพัทยาที่ถูกหมายศาลพัทยา ที่ ว.314/2552 จับกุม โดยตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหาหนัก ข้อหาแรก มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ข้อหาที่สอง ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยขัดขวางในการเดินทาง ข้อหาที่สาม มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้ามั่วสุมในการกระทำความผิดนั้น เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพข้อกล่าวหาแรกเพียงข้อหาเดียว ส่วนข้อหาที่ 2 และ 3 ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า กลุ่มของตนเองไม่ทราบจริงๆ ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของนายกรัฐมนตรี

-แกนรักเชียงใหม่มอบตัว 3 โรงพัก

เมื่อเวลา 09.00 น. นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เดินทางเข้ามอบตัวที่ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยมีนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ใช้ตำแหน่งส.ส.ประกันตัวให้นายเพชรวรรต ในวงเงินประกัน 1 แสนบาท ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยผู้กระทำผิดเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำผิดนั้น" เหตุเกิดท้องที่ สภ.สารภีเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตามกระบวนการใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง โดยเบื้องต้นนายเพชรวรรตให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา ขอไปให้การในชั้นศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประกันตัวได้มีชาวบ้านกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 10 คน และพระสงฆ์อีก 1 รูปที่เดินทางจาก จ.ยะลา นำวัตถุมงคล และดอกไม้มาให้กำลังใจ พร้อมกับนำเสื้อแจ๊กเกตสีแดงมาสวมให้นายเพชรวรรตที่บริเวณด้านหน้า สภ.สารภี จากนั้นนายเพชรวรรตได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าจะเดินทางเข้ามอบตัวที่ สภ.แม่ปิง และที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ให้เสร็จสิ้นในวันเดียวกัน

-อ้างไม่รู้มาร์คมาตอนปิดสนามบิน

นายเพชรวรรตกล่าวว่า วันนี้แกนนำทั้ง 3 คนของกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 จะเข้ามอบตัวและยื่นประกันทุกข้อกล่าวหาทั้ง 3 สถานีตำรวจ แต่การประกันตัวที่น่าเป็นห่วงคือ ที่ สภ.ภูพิงค์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีแกนนำถูกออกหมายจับทั้งหมด 3 คน โดยมีน.ส.กัญญาภัค มณีจักร และนายภูมิใจ ไชยยา แกนนำคนสำคัญ ซึ่งทีมงานและสมาชิกกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ต่างก็เป็นห่วงถึงการแจ้งข้อกล่าวหาของตำรวจว่าจะดำเนินคดีในข้อหาอะไร คาดว่าจะมีการยกประเด็นกระทำผิดเนื่องจากอ้างว่าการปิดทางเข้าด้านหน้าสนามบินกองบิน 41 ในวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งนายอภิสิทธิ์เดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ ตนยืนยันว่าเป็นการรวมตัวกันเพื่อแสดงความเห็นไม่พอใจนายกฯ โดยที่ไม่เห็นตัวนายกฯ ด้วยซ้ำไป

เวลา 10.00 น.วันเดียวกัน นายเพชรวรรตเดินทางไปยัง สภ.แม่ปิง เพื่อมอบตัวในข้อหาเดียวกับ สภ.สารภีเชียงใหม่ แต่ต่างกรรมต่างวาระ โดยมีกลุ่มสมาชิกคนเสื้อแดงกว่า 20 คนเดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมกันนี้กลุ่มเสื้อแดงกว่า 15 รายเสนอนำโฉนดที่ดินที่มีมูลค่าโฉนดฉบับละ 200,000-6,000,000 บาท เพื่อขอยื่นเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวนายเพชรวรรตอีกด้วย สำหรับวงเงินประกันตัวของนายเพชรวรรตอยู่ที่ 100,000 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายเพชรวรรตได้ตัดสินใจใช้ตำแหน่งข้าราชการซี 8 ของนายอุดม แปงทิศ รองผู้อำนวยการสำนัก งานพื้นที่เขตการศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 ประกันตัวแทน หลังเสร็จสิ้นขบวนการมอบตัวที่ สภ.แม่ปิงเชียงใหม่ นายเพชรวรรตได้เดินทางไปมอบตัวต่อที่ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ พร้อมกับแกนนำที่ถูกออกหมายจับอีก 2 คน

-เชียงใหม่สั่งจับเพิ่มอีก5แดง

เวลา 11.30 น. สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ นาย เพชรวรรต นายภูมิใจ ไชยยา หรือดีเจ.ต้อม นางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจ.อ้อม เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ มีกลุ่มเสื้อแดงมาให้กำลังใจจำนวน 50 คน โดยได้มอบดอกกุหลาบและดอกมะลิให้กับแกนนำทั้งสามคน ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสาม แต่ให้การปฏิเสธ จะขอให้การในชั้นศาล โดยมีนายประหยัด เจริญบุญ อายุ 68 ปี อดีตพนักงานแคชเชียร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาจังหวัดเชียงราย ได้นำโฉนดที่ดินย่านสันป่าข่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จำนวน 1 ไร่ 2 งาน 83 ตารางวา มูลค่า 2.4 ล้านบาท ยื่นประกันผู้ต้องหาทั้งสามคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ โดย พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ นำสำนวนไปขอศาลจังหวัดเชียงใหม่ อนุมัติออกหมายจับแกนนำเสื้อแดงเพิ่มเติม ในเขตท้องที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ อีก 5 คน ประกอบด้วย นายไพฑูรย์ ชูชัย นายมานะ พันธ์ไพบูลย์ นายธานินทร์ ประดิษฐ์พันธ์ นายสุพล ศุภางคะรัตน์ ทั้งหมดเป็นแกนนำกลุ่มเสื้อแดงอีกกลุ่มที่แยกตัวออกจากกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และนายสิงห์คำ นันติ ประธานกลุ่มสี่ล้อรับจ้างสีแดงเชียงใหม่ ซึ่งได้ก่อเหตุไปปิดถนนบริเวณข่วงประตูท่าแพ ซึ่งโดยข้อกล่าวหาเดียวกับแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดยังไม่ได้ติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด


-แดงลำปางมอบตัว 1 กบดาน 1

เมื่อประมาณ 10.20 น นายสมนึก นาคปานเสือ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205-207 ร้านเค้กเยื้อนสยาม ถ.ประสานไมตรี ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ลำปาง และอดีตประธานชมรมฮักลำปาง 51 ที่ถูกหมายจับเลขที่ 54/2552 ลงวันที่ 17 เม.ย.2552 เดินทางเข้ามอบตัวต่อที่ บก.ภ.จว.ลำปาง พร้อมกับนายวราวุธ หน่อคำ ทนายความส่วนตัว นอกจากนั้นยังได้นิมนต์พระครูวิเศษวรกาล เจ้าอาวาสวัดหาดเชี่ยว บ้านกิ่วลม ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง เดินทางมาด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีพล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบก.ภ.จว. ลำปาง พ.ต.อ.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผกก.สภ. เมืองลำปาง พ.ต.ท.โสภณ ผลกันทา รอง ผกก.สภ.เมืองลำปาง พ.ต.ท.สันติ จันทร์ศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง มารับตัวและสอบสวน ขณะที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 30 คน นำดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้นายสมนึกเพื่อเป็นกำลังใจด้วย

ต่อมาพ.ต.อ.นันทวิทย์เปิดเผยว่า จากที่ได้ออกหมายจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงลำปาง จำนวน 2 คน คือ นายสมนึก นาคปานเสือ อดีตประธานชมรมฮักลำปาง 51 และนายณัฐชัย อินทราย เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคนล้านนา 90.25 ในความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน มาตรา 215 และมาตรา 216 ตามประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจร ซึ่งมีความผิดมั่วสุมกันเกิน 10 คนขึ้นไป ยุยงขู่เข็ญก่อให้เกิดความวุ่นวายให้บ้านเมืองและส่งเสริมให้มีการปิดกั้นการจราจร ขณะนี้มีนายสมนึกเข้ามามอบตัวเพียงคนเดียว พร้อมกับได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจึงได้ขอยื่นประกันตัววงเงิน 1 แสนบาท โดยนายสมนึกได้ใช้ตำแหน่งของนายถาวร บุปผาเจริญ สมาชิก อบจ.ลำปาง ประกันตัวออกไป ส่วนนายณัฐชัย อินทราย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกหมายจับอีกคนหนึ่ง คาดว่าจะเข้ามอบตัวในเร็วๆ นี้ ผกก.กล่าว

-ตร.พิษณุโลกประสานเชียงใหม่ล่า

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ได้เร่งประสานให้ตำรวจสภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เร่งตามจับนายอภิชาต อินสอน ตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดพิษณุโลก เลขที่ 233/2552 ลงวันที่ 21 เม.ย. 2552 ซึ่งมีชื่อเพียงบุคคลเดียวพร้อมที่อยู่ 70/6 หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับหมายจับซึ่งเป็นหมายจับตามภาพอีก 3 หมาย เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ แต่ก็เชื่อว่าไม่เกินฝีมือของตำรวจเชียงใหม่ น่าจะสามารถนำตัวมาดำเนินคดีที่พิษณุโลก คาดอยู่ในภูมิลำเนาจ.เชียงใหม่ เพื่อนำตัวส่งมายังสภ. พิษณุโลก ในฐานความผิด ใช้กำลังทำร้ายนายอดิศร ธีรศานติพันธ์ และนางมธุรส ธีรศานติพันธ์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2552

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ทำร้ายคนพิษณุโลกได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ถูกออกหมายจับ 4 คน ตามหมายจับศาลแขวงพิษณุโลก เลขที่ 233-236/2552 ของศาลแขวงจังหวัดพิษณุโลก เหตุเกิดถนนสนามบิน จ.พิษณุโลก ครั้งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา

-ระดมรับมือสมุทรสาคร

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สมุทรสาคร กรณีคนเสื้อแดงจะชุมนุมในวันที่ 25 เม.ย. ที่หมู่บ้านตลาดมหาชัยวิลล่า หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาครว่า จะมีการตั้งเวทีปราศรัยในพื้นที่ด้านหลังตลาด ซึ่งเป็นจัดตลาดนัด เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 5 ไร่ สามารถบรรจุคนได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ในด้านการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองสมุทรสาคร ได้เดินทางไปตรวจดูสถานที่ที่มีการชุมนุม และขอกำลังตำรวจจากจ.ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 กองร้อย รวมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสมุทรสาคร ทั้งหมด 4 กองร้อย และมีกำลังทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน นำเครื่องมือตรวจวัตถุระเบิดมาตรวจในพื้นที่ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายแรงจากผู้ไม่หวังดีด้วย

จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ชัยศรีสาน แกนนำเสื้อแดง ซึ่งเป็นตำรวจรับราชการอยู่กก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงในครั้งนี้ว่า จะมีแกนนำคนดังมาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยหลายคน โดยจะเริ่มเวลาตั้งแต่ 17.00 น. ถึงเที่ยงคืนก็จะยุติ แต่จากการพูดคุยกลุ่มคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่อยากกลับบ้านเพราะเคยค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลมาก่อน ส่วนจะมีการชุมนุมต่อเนื่องหรือไม่ เรื่องนี้ต้องรอฟังเสียงส่วนใหญ่ก่อน คาดว่าจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมประมาณ 5,000 คนขึ้นไป

-ตร.ขัง3แกน นปช.ต่อถึง29เม.ย.

วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการควบคุมตัวนายวีระ มุสิกพงศ์ อายุ 61 ปี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 34 ปี และน.พ.เหวง โตจิราการ อายุ 58 ปี แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีปลุกระดมมวลชนโดยวิธีการใด เพื่อให้ละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายขึ้นในเมืองก่อความไม่สงบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ มาตรา 215 ซึ่งศาลอนุญาตให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไว้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.นั้น

ตามคำร้องสรุปว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อป้องกันมิให้บุคคลผู้ถูกจับ และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสาม กระทำการหรือร่วมกระทำการใดๆ อันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง และ/หรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรงตามความในมาตรา 11(1) มาจนจะครบ 7 วันในวันที่ 22 เม.ย.นี้ แต่จากการสืบสวนหาข่าวพบว่า แกนนำ นปช.บางส่วน ยังมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และนายจักรภพ เพ็ญแข หนึ่งในแกนนำ นปช. ซึ่งยังไม่ได้ถูกจับกุม ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนทำนองว่า "ตอนนี้ผู้คนกำลังหงุด หงิดมาก และพร้อมต่อสู้ เราคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเยอะ และการต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบอย่างแน่นอน เราวางแผนว่า จะเคลื่อนไหวใต้ดินนานตราบเท่าที่ทำได้" ซึ่งสอดคล้องกับคำปราศรัยของนายวีระ ขณะสั่งกับผู้ชุมนุมว่า "ให้สลายตัวไปก่อนแล้วจะกลับมาต่อสู้กันใหม่" ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอศาลอนุญาตขยายเวลาควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสาม ต่อไปอีกมีกำหนด 7 วันไปจนถึงวันที่ 29 เม.ย.นี้

-ขอศาลปล่อยตัว-อ้างอหิงสา

ต่อมาศาลเปิดห้องพิจารณาคดี 801 ทำการไต่สวน นายวีระ นายณัฐวุฒิ และน.พ.เหวง แกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 3 คน ซึ่งถูกคุมตัวที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุม ธานี ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่เนื่องจากระบบสัญญาณขัดข้อง จึงต้องนำตัวแกนนำ นปช.เดินทางโดยรถยนต์สายตรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (191) จำนวน 6 คัน เดินทางมาศาล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยนายจาก สน.ใกล้เคียงมาควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด โดยไม่ปรากฏกลุ่มบุคคลเสื้อแดงเดินทางมาศาล มีเพียงภรรยา และญาติของแกนนำ นปช.ทั้งสามเดินทางมาให้กำลังใจ

โดยศาลได้อ่านและอธิบายคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวของพนักงานสอบสวน ให้แกนนำ นปช. ฟังและสอบถามซึ่งแกนนำ นปช.ทั้งสาม แถลงขอคัดค้านโดยอ้างทำนองเดียวกันว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในวันที่ 12 เม.ย. แต่ไม่ดำเนินการผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีภายใน 3 วัน แต่อาศัยความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งความเห็นดังกล่าวไม่ใช่กฎหมาย ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และพวกตนยืนยันให้การชุมนุมโดยสงบ สันติ อหิงสา ไม่ให้ใช้อาวุธ ต่อเจ้าหน้าที่ และยังมีบุคคลภายนอกเข้ามาแทรกแซงการชุมนุม โดยพวกตนสั่งให้มีการสลายการชุมนุมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุม โดยขอใช้อิสรภาพเพื่อปกป้องผู้ชุมนุม แต่ขอสงวนสิทธิในการปกป้องอิสรภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับผู้ชุมนุมกลุ่มอื่น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ฉุกเฉินได้ผ่านพ้นไปแล้วด้วย

-ศาลพิจารณาแล้วไม่ปล่อยตัว

ศาลพิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงปรากฏว่าทั้งสามได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัว อ้างว่าถูกควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการไต่สวน และศาลยังมิได้มีคำสั่งว่า การควบคุมตัวทั้งสามไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงยังฟังไม่ได้ว่าประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ยังปรากฏด้วยว่า ทั้งสามเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดชุมนุม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก และมีบุคคลภายนอกแทรกแซง แต่ขณะนี้ยังมิได้มีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้ทั้งสามกระทำการใดๆ อันอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นอีก และเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง ตามความในมาตรา 11(1) แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณีจึงมีความจำเป็นต้องควบคุมตัวทั้งสามไว้ เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 7 วัน จนถึงวันที่ 29 เม.ย.ตามคำร้องขอ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวแกนนำ นปช.ทั้งสามขึ้นรถยนต์กลับไปควบคุมไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 ต่อไป

-ส่งทนายยื่นร้อง-พรก.จบไปแล้ว

ขณะเดียวกันที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลไต่สวนคำร้องที่นายคารม พลทะกลาง ทนาย ความนปช.ยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัว นายวีระ นายณัฐวุฒิ และน.พ.เหวง ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีปลุกระดมมวลชนโดยวีธีการใด เพื่อให้ละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ 215 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัว ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 เนื่องจากถูกคุมขังโดยมิชอบ เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และไม่ได้ดำเนินการให้ได้รับความเห็นชอบจากครม. ภายใน 3 วันตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 5

โดยนายคารม ทนายผู้ต้องหาขึ้นเบิกความด้วยตัวเองสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าประชุมที่กระทรวงมหาดไทย และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพฯและปริมณฑล ตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 แต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้เป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจสั่งการตามประกาศ แม้ตามกฎหมายให้อำนาจนายกรัฐมนตรีมีอำนาจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังกล่าว แต่กฎหมายก็กำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 3 วัน ตามที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ม.5 ซึ่งเมื่อ ครม.เห็นชอบการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้ว ต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมครม.รับทราบต่อไป

-ศาลรับพิจารณา-ชี้ขาด23เม.ย.

นายคารม เบิกความต่อว่า ปรากฏว่าหลังนายกรัฐมนตรี ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อวันที่ 12 เม.ย. โดยอาศัยอำนาจส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของครม. ซึ่งเมื่อวันที่ 17 เม.ย. มีการประชุม ครม.วาระพิเศษ ก็ไม่ได้ปรากฏว่ามีการนำเรื่องการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้าสู่การประชุมเพื่อขอความเห็นชอบ ครม.แต่อย่างใด โดยจะเห็นได้จากการที่โฆษกรัฐบาลไม่ได้แถลงข่าวให้ทราบและไม่มีบันทึกไว้ในรายงานการประชุม ครม.แต่อย่างใด ดังนั้นจึงเป็นผลให้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.แล้ว การที่พนักงานสอบสวนควบคุมตัว นายวีระ นายณัฐวุฒิ และน.พ.เหวง แกนนำคนเสื้อแดง มาขออำนาจศาลฝากขังในวันที่ 16 เม.ย. ซึ่งศาลอาญาไม่รับคำร้องฝากขัง โดยระบุว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ครั้งละ 7 วันแล้ว ดังนั้นเมื่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังกล่าว สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. จึงขอให้ศาลสั่งให้พนักงานสอบสวนปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสามทันที

ต่อมานายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เข้าเบิกความยืนยันว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำได้ 2 วิธี คือ ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีเพียงลำพัง และครม.ให้ความเห็นชอบ โดยส่วนตัวแม้จะไม่ได้ร่วมประชุมครม. ที่กระทรวงมหาดไทย วันที่ 12 เม.ย. ที่นายกรัฐมนตรีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่เห็นว่า การที่นายกรัฐมนตรีเรียกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 6 คน เข้าประชุมก่อนออก พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ดังนั้นจึงเป็นการที่นายกรัฐมนตรี ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยความเห็นชอบของครม.แล้ว อีกทั้งการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายกรัฐมนตรีได้นำเรื่องการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เข้าสู่ที่ประชุม ครม.รับทราบและให้ความเห็นชอบแล้ว

ภายหลังศาลไต่สวนพยานเสร็จสิ้นแล้ว จึงนัดฟังคำสั่งในวันที่ 23 เม.ย. เวลา 13.30 น.

-จักรภพเพ้อ-จะติดอาวุธสู้รัฐบาล

วันเดียวกัน นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำม็อบเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์นายโจนาธาน เฮด หัวหน้าสำนักข่าวบีบีซีประจำประเทศไทยว่า ช่องทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองไทยเหลือน้อยลงทุกวัน กลุ่มเสื้อแดงกำลังปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ และอาจติดอาวุธต่อสู้กับรัฐบาล

ที่รัฐสภา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส. พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพ.ต.ท. ทักษิณใช้ประเทศต่างๆ เป็นฐาน รวมทั้งใช้สื่อต่างประเทศโจมตีประเทศไทยว่า รัฐบาลควรใช้วิธีการตอบโต้ โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ ให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือไปยังประเทศทั่วโลกให้คัดค้านการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหาของไทย เพื่อส่งสัญญาณว่าหากปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณใช้เป็นฐานโจมตีรัฐบาลไทยต่อไปความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศไทยกับประเทศนั้นอาจมีปัญหาได้

-มอบรถกันกระสุนรปภ.สุเทพ

"ขณะนี้รัฐบาลยังหลงทางอยู่ การให้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ไปชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องต่างๆ กับสื่อต่างประเทศ ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น" นายนิพิฏฐ์กล่าว และว่า ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องไปไล่จับเอาตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาติดคุก เพราะปัญหามันจะยิ่งมาก คนเสื้อแดงอาจออกมาคัดค้านอีก ทางที่ดีรัฐ บาลควรจำกัดพื้นที่เคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ เพราะจะทำให้เงินทุนของพ.ต.ท.ทักษิณหมดไปเรื่อยๆ ความสะดวกสบายน้อยลง สุดท้ายเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณจนตรอกจะกลับมามอบตัวเอง

เวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดนำรถยนต์โฟร์วีลส์ ฟอร์ด เอฟเวอเรสต์ 2 คันมามอบให้ชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทดลองใช้ รถดังกล่าวประกอบขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษต่างจากรถฟอร์ด เอฟเวอเรสต์ ทั่วไปที่จำหน่ายในท้องตลาด เนื่องจากใช้กระจกนิรภัยกันกระสุนรอบคัน ส่วนตัวถังใช้วัสดุที่มีความหนาแน่นเป็นกรณีพิเศษ ชนิดที่ปืนไรเฟิลยังไม่อาจยิงทะลุได้ ขณะที่ล้อยางมีคุณสมบัติพิเศษ แม้จะถูกยิงจนยางแตกก็ยังสามารถประคองรถต่อไปได้ ทั้งนี้ รถรุ่นดังกล่าวจะผลิตและส่งออกไปยังประเทศที่มีภาวะสงคราม อาทิ อัฟกานิสถาน อิรัก ฯลฯ ราคาคันละ 5-6 ล้านบาท

-กก.สอบ-ประชุมการสลายม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงบ่ายวันที่ 22 เม.ย. มีการประชุมคณะกรรมการรวบรวมและประมวลเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 13 เม.ย.และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง (คปช.) โดยมีนายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรก หลัง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายนัทธีเปิดเผยว่า การประชุมวันนี้วางกรอบและแนวทางการทำงานโดยตั้งคณะอนุ กรรมการขึ้นมา 4 ชุด อาทิ คณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลจากทหาร ตำรวจและพลเรือน คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ คณะอนุ กรรมการประเมินผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การท่องเที่ยว ซึ่งได้วางกรอบว่าจะให้เสร็จภายในวันที่ 30 พ.ค.นี้ โดยวันที่ 27 เม.ย. เวลา 09.30 น. จะประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้งที่กรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ คณะกรรมการไม่มีหน้าที่ชี้ว่าใครผิดหรือถูก เราเพียงรวบรวมข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนเท่าไหร่ และจะเยียวยาอย่างไร ซึ่งจะต้องเชิญผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งทีม รปภ.นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงด้วย เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเชิญนายกฯ มาชี้แจงด้วยหรือไม่ นายนัทีกล่าวว่า เราต้องไปถามข้อมูลจากท่านด้วย

-บช.น.จับตาแดงทำบุญ 23 เม.ย.

ทางด้านพล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงจะมาทำพิธีทำบุญที่สามเหลี่ยมดินแดง ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ว่า เรื่องนี้กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ก็ได้รับการกำชับมาจาก กอฉ.ตร.ให้ตรวจสอบและดูแลเรื่องนี้ หากเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลก็คงทำได้ แต่หากมีการแอบแฝงชุมนุมเรื่องการเมืองคงทำไม่ได้ เพราะมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ ซึ่งเชื่อว่าไม่น่ามีมือที่ 3 เข้ามาเพราะมีพ.ร.ก.อยู่ ส่วนกลุ่มเสื้อแดงที่ถูกออกหมายจับ 20 คน หลังก่อเหตุที่กระทรวงมหาดไทยขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา ซึ่งบช.น.ก็ให้รอง ผบช.น. แต่ละท่านรับผิดชอบหมายจับ ซึ่ง บก.ก็รับหน้าที่ไปติดตามแล้วโดยแบ่งงานให้กองสืบแต่ละแห่งคอยติดตาม และให้เปิดเผยความคืบหน้าทุก 18.00 น.ของทุกวัน

ถามว่ากรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณไปให้สัมภาษณ์นิตยสารต่างประเทศ เรื่องนี้เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ โฆษก บช.น.กล่าวว่า บช.น.มอบหมายให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ตรวจสอบอยู่ การเผยแพร่ตรงนี้ทางสันติบาลคงตรวจสอบอยู่ด้วย หากเข้าข่ายผิดใครที่ไปโพสต์ภาพ หรือขยายความต่อก็คงโดนด้วย จึงขอเตือนไว้

พล.ต.ต.สุพรกล่าวอีกว่า ช่วงเช้าทางเลขาฯ ศาลรัฐธรรมนูญมาพบผบช.น.ในเรื่องการดูแลความปลอดภัย ก็ได้จัดกำลังเพิ่มไป โดยทาง บก.น.6 ก็จะดูแลเป็นพิเศษ พร้อมเพิ่มกำลังสายตรวจ 191 เข้าไปตรวจตราในบริเวณดังกล่าวมากเป็นพิเศษ

เมื่อถามเรื่องความชัดเจนคดีนายจักรภพหลบหนีออกนอกประเทศ โฆษก บช.น.กล่าวว่า เรื่องนี้ตรวจสอบกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ว่าออกตามเส้นทางปกติหรือไม่ รวมทั้งบุคคลอื่น หากออกตามเส้นทางปกติก็น่าจะมีหลักฐานอยู่ แต่ยังไม่ได้รับการยืน ยันมา

-บัวแก้วเผยบุกไปร้องยูเออี

นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงการเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ภายหลังได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้แทนพิเศษร่วมกับนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช. พาณิชย์ เดินทางไปกรุงอาบูดาบี ของยูเออี ระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย. เพื่อนำหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณในคดีซื้อขายที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปี และคดียุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจล ไปมอบให้สำนัก งานตำรวจยูเออีและกระทรวงต่างประเทศยูเออี รวมถึงการจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับยูเออีว่า เมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ตนเคยได้รับมอบหมายให้เดินทางไปยังยูเออี เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความห่วงใยของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ หวังว่าจากการที่ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ทางยูเออีจะไม่ยินยอมให้พ.ต.ท. ทักษิณหรือบุคคลใดก็ตาม ใช้ประเทศเป็นฐานขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งทางยูเออีรับปากตามคำขอดังกล่าวของฝ่ายไทย

นายพนิช กล่าวว่า ส่วนที่ตนและนายอลงกรณ์เดินทางไปยูเออีครั้งล่าสุด มีการพบกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ รักษาการปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรมเอเชีย และอธิบดีกรมการกงสุลของยูเออี แจ้งถึงการยกเลิกหนังสือเดินทางทุกฉบับของพ.ต.ท.ทักษิณ และการออกหมายจับของพ.ต.ท.ทักษิณในทุกคดี ทำให้ทางยูเออีทราบแล้วว่าพ.ต.ท.ทักษิณดำเนินการที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อไทย อีกทั้งตนมอบจดหมายของชมรมมุสลิมไทยในกรุงเทพฯ ที่ยื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตยูเออีในประเทศไทยไปให้ทางการยูเออีด้วย เพื่อให้ทราบว่ามีการทำร้ายชุมชนชาวมุสลิมในกรงุเทพฯ ทางชมรมจึงต้องการให้ยูเออีรับทราบว่าไม่ควรเป็นที่พักพิงของผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองและทำร้ายชุมชนชาวมุสลิม ซึ่งผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศของยูเออีรับทราบ และยืนยันว่าจะไม่ยินยอมให้ใครก็ตามเข้ามาขับเคลื่อนทางการเมือง แล้วส่งผลความเสียหายต่อประเทศที่เป็นมิตรกับยูเออี

-โดนยูเออีบี้ไปแล้วห้ามกลับ

นายพนิช กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศของยูเออีบอกกับตนว่า พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาพำนักในยูเออีในฐานะนักธุรกิจ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางการยูเออีแจ้งให้พ.ต.ท. ทักษิณทราบแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เหมาะสมที่จะพำนักอยู่ในยูเออีอีกต่อไป เนื่องจากมีการใช้ประเทศของเขาในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศอื่น แต่ปรากฏว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากยูเออีไปแล้ว เมื่อค่ำวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่าไปยังประเทศใด นอกจากนี้ ทางยูเออีได้รับหมายจับในคดีต่างๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณจากตำรวจสากลแล้ว และยูเออียืนยันว่าจะไม่ยินยอมให้ใครเข้ามาขับเคลื่อนทางการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะยูเออีให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มากกว่าความสัมพันธ์กับคนคนหนึ่ง

ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ทางยูเออียังระบุว่าไม่ต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามาในประเทศอีก ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางเข้ามาในยูเออีอีกด้วยหนังสือเดินทางของประเทศอื่น ก็จะต้องมีการพิจารณาถึงเจตนาของการเข้าประเทศ แต่ทางการยูเออีสามารถควบคุมตัวพ.ต.ท.ทักษิณไว้ เพราะมีหมายจับของพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณยังถือสัญชาติไทย ตลอดจนยังใช้ชื่อเดิมอยู่ตามที่ปรากฏในหมายจับ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายของประเทศของเขาที่สามารถนำไปสู่การส่งตัวกลับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทั้งหมดนี้ เป็นการใช้ช่องทางขั้นตอนทางการทูต

-ตามล่าจักรภพด้วยอีกราย

นายพนิช กล่าวว่า ได้แจ้งผลความคืบหน้าจากการไปยูเออีครั้งนี้ให้นายกฯ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ รับทราบแล้ว นอกจากกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ยังจะมีการดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เดินทางออกนอกประเทศแล้วและเตรียมการเคลื่อนไหวต่อไป ซึ่งล่าสุดให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศอย่างไม่เหมาะสม เมื่อตำรวจออกหมายจับนายจักรภพ แล้วประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด จากนั้นทางอัยการสูงสุดจะส่งหมายจับมาให้ทางกระทรวงการต่างประเทศ แปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเรื่องไปยังตำรวจสากลที่จะแจ้งไปยังประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่ายของตำรวจสากล ในการติดตามตัวนายจักรภพต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์