แฉ3หนาตกอับ-ต้องขนของเอง

เข้ามาจัดการเรื่องของใช้ส่วนตัวและขนของออกไป อย่างไรก็ตามพนักงานที่ทำงานอยู่ในกกต.ซึ่งเคยใกล้ชิดและทำงานร่วมกันมากับอดีต 3 กกต.ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ต่างก็ไม่กล้าที่จะเดินทางไปเยี่ยนเยือน หรือเข้าใกล้บริเวณบ้านของอดีตกกต.ทั้ง 3 คน เพราะกลัวในอำนาจของศาลที่ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับอดีตกกต.ทั้ง 3 อีก

และเกรงว่าเป็นเหตุทำให้ถูกถอนการประกันตัวชั่วคราว ฐานขัดคำสั่งศาลที่ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับพนักงาน หรืองานในกกต.อีก ซึ่งก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า "เพื่อความปลอดภัยไม่ให้ถูกศาลถอนประกันตัวชั่วคราว ทำให้เราต้องระวังตัว แม้กระทั่งโทรศัพท์ไปหานายก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะละเมิดคำสั่งศาลไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพนักงานกกต. ขนาดวันที่ศาลให้ประกันตัว ทั้งที่เคยมีหน้าที่ดูแลนายก็คิดว่าน่าจะไปรับนายได้ แต่นายสั่งว่าไม่ต้องเข้ามายุ่ง"พนักงานกกต.ท่านหนึ่งระบุ

ว่า อยากให้คนที่ได้รับการสรรหามาจากสายศาลทั้งหมด เพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นกกต. มาทำงานดูว่างานของกกต.นั้นมันหนักและยากแค่ไหน และการที่จะให้ใบแดง ใบเหลืองผู้สมัครไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และหากได้บุคคลที่มาจากสายศาลทั้งหมดจริง เชื่อว่าไม่น่าจะมีใบเหลืองใบแดงและคงต้องยกคำร้องทั้งหมด และจะได้รู้รสชาติว่าพวกนักการเมืองมันเป็นอย่างไร

แม้กระทั้งเรื่องของการสั่งชะลอการเลือกตั้งส.ว.ที่อดีตกกต.มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจในการที่จะไปสั่งการอะไรได้ เพราะไม่มีอำนาจในการดำเนินการ โดยอำนาจในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งนั้นเป็นหน้าที่ของกกต.เท่านั้น รวมทั้งยังบ่นว่า อยากจะออกจากตำแหน่งเลขาฯ แล้วไม่อยากจะทำแล้ว

เคยมีมติแต่งตั้งโยกย้ายไปเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ทั้งหมด 41 ตำแหน่งนั้นต่างก็หนาวๆ ร้อนๆ เพราะต่างคิดกันว่ากกต.ชุดใหม่ที่จะเข้ามานั้น อาจจะมีการล้างบางกันยกใหญ่ แม้กระทั่งตำแหน่งเลขาฯกกต.ก็ยังเกรงว่าจะยังเป็นคนเดิมอยู่หรือไม่ เพราะมีการพูดกันในกลุ่มพนักงานว่า เลขาฯทำงานไม่เก่ง ไม่แม่นกฎหมาย และโดยมารยาทน่าจะวางมือให้กับกกต.ที่ได้สรรหาเข้ามาใหม่ให้หาบุคคลของตัวเองเข้ามาทำงาน เพราะตำแหน่งนี้เป็นมือเป็นไม้ของกกต.อยู่แล้ว

กล่าวว่า กกต.ชุดใหม่จะต้องพ้นจากความครอบงำของ "ระบอบทักษิณ" และทบทวนการทำหน้าที่ของ พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต.เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับพรรคไทยรักไทยรวมทั้งทบทวนเปลี่ยน กกต.จังหวัดทั่วประเทศ

เพราะส่วนใหญ่เป็นข้าราชการประจำ และหัวคะแนนพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะเกิดความไม่ชอบธรรมในการวินิจฉัยให้ใบเหลือง-ใบแดง นอกจากนี้ควรวางหลักเกณฑ์สร้างบรรทัดฐานใหม่ในการจำกัดบทบาทของรัฐบาลรักษาการว่า เรื่องใดสามารถทำได้หรือทำไม่ได้ โดยไม่ใช้เครื่องมือของรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง


แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า