รายงาน-สหายดาวแดง ปิดประตูอีสานประสาน ทัพแดง ยึดเมืองหลวง

คมชัดลึก : ใกล้วันดีเดย์ 8 เมษายน ยุทธการ "โค่นระบอบเปรมาธิปไตย" การเคลื่อนไหวระดมมวลชนในพื้นที่ภาคอีสานก็ยิ่งคึกคัก


 มิเพียงแต่หัวคะแนนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่จัดเตรียมผู้คนเดินทางสู่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น

 บรรดา "อดีตนักรบดาวแดง" หรือ "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน" (ผรท.อีสาน) ได้นัดหมายกันอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ปฏิบัติตามข้อตกลงในนโยบาย 66/2523 ดังที่เคยยื่นข้อเรียกร้องผ่าน บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม

 โดยวางแผนรวมพล 3 พันคน มาชุมนุมที่เขื่อนลำตะคอง ในวันที่ 9 เมษายน เพื่อยื่นคำขาดให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้องโดยทันที หากยังเล่นเกมซื้อเวลา ผรท.กลุ่มนี้จะปิดถนนมิตรภาพ ทั้งขาขึ้น ขาล่องทันที

 และมีรายงานข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ระบุว่า แกนนำ ผรท.กลุ่มนี้ ได้เปิดการเจรจาขอความช่วยเหลือจาก ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และตกลงกันว่าจะแยกชุมนุมกันคนละจุด สวมเสื้อคนละสี

 แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือ กดดันรัฐบาลอภิสิทธิ์ !

 ความเดิมจากตอนที่แล้ว เรื่องมีอยู่ว่ารัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้อนุมัติงบประมาณจำนวนหนึ่งช่วยเหลือกลุ่ม ผรท.ภาคอีสาน กว่า 2 พันคน โดยจ่ายเป็นเงินให้คนละ 1 แสนบาท

 ด้วยเหตุนี้ กลุ่ม ผรท.ที่ไม่ได้ลงชื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาล และกองทัพ ช่วยเหลือตามนโยบาย 66/2523 จึงลุกขึ้นมาโวยวายว่า ทำไมพวกเขาไม่ได้ ?

 อันนำไปสู่การจัดตั้งองค์กร "กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน" ดำเนินการล่ารายชื่อ ผรท.ที่ตกค้าง และยื่นข้อเรียกร้องผ่านรัฐบาลสุรยุทธ์อีกครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ กระทั่งมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จากรัฐบาลสมัครจนผ่านมาถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ พวกเขาได้รวมตัวเรียกร้องกันอีกหน

 แต่คราวนี้ กลุ่ม ผรท.อีสาน ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ

 1.กลุ่ม ผรท.ที่มีแกนนำชื่อ "สหายดำริ" ไสว แสงชาติ อดีตนักรบดาวแดงแห่งเขตงานภูสิงห์ หนองคาย

 กลุ่มนี้มี ผรท.กว่า 14 จังหวัดเป็นสมาชิก ทั้งอีสานใต้และอีสานเหนือ จำนวนกว่า 3 พันคน และได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรเงินช่วยเหลือให้ คนละ 6 แสนบาท

 ล่าสุดกลุ่ม ผรท.สายสหายดำริ ได้เสนอให้รัฐบาลจัดตั้ง "คณะกรรมการแก้ไขปัญหา ผรท.อีสาน" โดยมี สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน ซึ่งมีข่าวว่า จะมีการนำเสนอรายชื่อคณะกรรมการ เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันอังคารนี้

 แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผรท.กลุ่มดังกล่าวได้ประสานไปยังแกนนำคนเสื้อแดงอุดรฯ ขวัญชัย ไพรพนา และมีการประชุมระดับแกนนำ ผรท.ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองอุดรฯ ไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว

 จึงเป็นที่มาของข่าว "สหายดาวแดง" จับมือ "กองทัพแดง" ในยุทธการโค่นอำมาตยาธิปไตย

 ซึ่งเท็จจริงอย่างไร ก็ต้องรอดูการประชุมครั้งสุดท้ายที่บ้านน้อมเกล้า อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ก่อนสหายเก่าเคลื่อนพลสู่ลำตะคอง

 2.กลุ่ม ผรท.ที่มีแกนนำชื่อ "สหายชัด" สุเนตร แก้วคำหาญ อดีตนักรบดาวแดงแห่งเขตงานดงมูล กาฬสินธุ์  ผรท.กลุ่มนี้ได้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับ "สภาประชาชน 4 ภาค" ของ ประภาส โงกสูงเนิน และเตรียมยื่นข้อเรียกร้องให้ช่วยเหลือตามนโยบาย 66/2523 คนละ 1 แสนบาท ผ่าน ชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรฯ ที่จะเดินทางไปเยี่ยมศูนย์อพยพคนไทยพลัดถิ่น อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ในวันที่ 6  เมษายนนี้

 สำหรับจุดยืนทางการเมือง ผรท.กลุ่มนี้ไม่ได้ยืนอยู่ข้างเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง แต่เห็นว่าบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้า ม็อบเสื้อแดงต้องหยุด และไม่เห็นด้วยกับการโจมตีประธานองคมนตรี และองคมนตรีบางท่าน

 สงครามชีวิต "สหาย 6 แสน" กับ "สหาย 1 แสน" ก็ต้องเข้ามาเกี่ยวพันกับการเมืองจนได้

 เห็นทีกองทัพภาคที่ 2 คงต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดเสียแล้วกระมัง ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลาย และต้องจำแนกแยกแยะให้ชัดว่าใครเป็นสหายตัวจริง ใครเป็นสหายตัวปลอม ?

 ที่สำคัญการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่ม ผรท. ก็ต้องแก้ให้ตรงจุดและสอดคล้องกับความเป็นจริง

 มิเช่นนั้นแล้ว อดีตสหายส่วนใหญ่ที่ฐานะไม่ต่างจากคนรากหญ้า จะตกเป็นเหยื่อของ "นายหน้าค้าสหาย"? และหลุดเข้าไปวังวนเกมอำนาจของนักเลือกตั้ง !


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์