ทักษิณโฟนอิน แฉยิบเบื้องหลังฝ่ายตรงข้าม


เมื่อ 27 มี.ค. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในช่วงเย็นและค่ำ เพิ่มจำนวนเป็นประมาณ 4 หมื่นคน 

ส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่มและเป็นครอบครัว โดยต่างพยายามจะเข้าใกล้เวทีใหญ่บนสะพานมัฆวานฯให้มากที่สุดเพื่อฟังการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่เข้าไปไม่ได้ เนื่องจากมีผู้ชุมนุมนั่งอยู่บนถนนพิษณุโลกแน่นขนัด ท้ายแถวไปถึงแยกสวนมิสกวัน

ทำให้ผู้ชุมนุมต้องไปนั่งดูจอโปรเจกเตอร์ที่ถนนราชดำเนินนอก ซึ่งมีผู้ชุมนุมนั่งอยู่จำนวนมาก โดยรวมมีผู้ชุมนุมนั่งอยู่เต็มถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นถนนนครปฐมและถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม

เมื่อเวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว พูดผ่านระบบวิดีโอลิงค์มายังเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง โดยใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เริ่มจากกล่าวทักทายประชาชนว่า เที่ยวนี้เดินทางเหนื่อย เมื่อคืนวันเดียวเดินทาง 3 ประเทศ เหนื่อยมากแต่คิดว่าเป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ของประเทศในอนาคตข้างหน้า

วัตถุประสงค์ที่มารวมตัวกันที่นี่เพราะอยากเห็นอนาคตของประเทศไทย อนาคตของลูกหลานไทยที่ต้องการเห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง อยากให้อยู่คงไว้ในสังคมไทย อยากให้มีประชาธิปไตยที่แท้จริง


"อยากบอกผู้ใหญ่คนที่มีอายุมากๆ ว่าถึงเวลาหรือยังที่จะคิดถึงลูกหลาน ไม่ใช่เอาชนะคะคานกันเอง เราเรียนรู้สาเหตุของที่ทำให้ประชาธิปไตยไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงกันมานาน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเราไม่พูดความจริง ทำให้การเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตยไม่เคยจบ ถึงเวลาที่ต้องพูดกันอย่างชัดเจน พูดกันจริงๆ เกรงใจกันไม่ได้ เพราะถ้าเกรงใจก็ไม่รู้ความจริง สิ่งที่ตนจะพูดต่อไปนี้ไม่ใช่เพื่อตนแต่เพื่อลูกหลานว่าจะอยู่อย่างไร"


 จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณเอ่ยถึงเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน ว่ามีกลุ่มคนใหญ่คนโตอยู่เบื้องหลัง ทำให้ม็อบมีเส้น  มีสถานีที่ได้รับการคุ้มครอง แม้เลิกปฏิวัติไปแล้วก็ยังคุ้มครอง ให้ออกอากาศล้มล้างรัฐบาล ขณะที่ตนถูกใส่ร้ายว่าไม่จงรักภักดีอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง ณ เวลานั้น ตนยังเกรงใจจึงไม่กล้าพูดชื่อ แต่ในการโฟนอินครั้งล่าสุดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เอ่ยชื่อตัวบุคคลทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 6 คน



พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงบุคคลหนึ่งว่า วันๆ ตีแต่กอล์ฟ บอกว่าตัวเองเป็นพวกไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน บุคคลนี้คงจะโกรธตนที่ย้ายจากตำแหน่ง แต่วันนั้นเป็นเพราะตนโทรไปหาตอนตีหนึ่ง โทร.ไปปลุกท่านถามว่าเกิดอะไรขึ้นจึงเคลื่อนย้ายกำลัง ท่านก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่สับเปลี่ยนกำลังเฉยๆ

แต่สุดท้ายก็ไปมีเรื่องยิงพม่า 300 กว่าศพ ต่อมามีเรื่องการของบ ซึ่งขอไป 300 ล้าน ตนก็ไม่อนุมัติ แต่พี่จิ๋ว(พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ) มาขอร้อง สุดท้ายก็ให้ไป แต่ในที่สุดตนก็ย้ายท่านไปนั่งตำแหน่งอื่น ที่จริงตนไม่ใช่คนอาฆาต ถ้าเรื่องจบก็จบ เหตุการณ์อย่างนี้ใครไม่โดนไม่รู้

 ในตอนท้าย พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองยุบสภา เลือกตั้งใหม่ โดยใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นหลัก ทุกฝ่ายกลับไปที่ของตนเอง รวมถึงส่วนที่ไม่ควรยุ่งการเมือง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์