อภิสิทธิ์ยันการเมืองไทยสู่ความสมานฉันท์

คมชัดลึก :นายกฯ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กล่าวสุนทรพจน์แก่ผู้บริหารกรุงลอนดอนและกลุ่มนักธุรกิจสหราชอาณาจักรในหัวข้อ “การฟื้นฟูความเชื่อมั่น และการขับเคลื่อนประเทศไทย” ณ กรุงลอนดอน


 (14มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ Alderman  Ian  Lude r นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน สำหรับคำกล่าวต้อนรับและรู้ยินดีที่ได้กลับมาอีกครั้ง สำหรับผู้ติดตามการพัฒนาการต่าง ๆ ในประเทศไทยจะทราบดีว่า ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของเรา ขอถือโอกาสนี้ ยืนยันความชัดเจน ณ ที่นี้ว่า ประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติแล้ว การเมืองไทยเข้าสู่ระบบ รัฐบาลบริหารประเทศบนหลักการพื้นฐานประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล โปร่งใส เคารพกระบวนการยุติธรรมและหลักกฎหมาย การเมืองไทยมีเสถีรภาพมากยิ่งขึ้น
 

หลังจากที่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศ  เพื่อเริ่มกระบวนการสมานฉันท์ทางการเมือง รัฐบาลได้มอบหมายให้องค์กรวิชาการที่อิสระทำการศึกษา โดยเชิญทุกภาคส่วนร่วมให้ควมคิดเห็นด้วย  คำเชิญของนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่จะเป็นการให้เกียรตินายกรัฐมนตรีไทยแต่ยังเป็นสัญญาณ ที่สะท้อนให้เห็นถึงนัยสำคัญว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรมั่นใจประเทศไทย และไทยพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ

 อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลส่วนใหญ่กำลังผชิญหน้าในปัจจุบัน คือ ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการเงินที่เรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์ แม้ว่ามาตรการการเงินที่ดำเนินการตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อปี ค.ศ.1997 ทำให้สถาบันการเงินของไทยยืนยัดต่อวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่การลงทุนต่างประเทศและการท่องเที่ยวก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากผลกระทบดังกล่าวได้

 เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็ได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป ทั้งการสนับสนุนสินค้าเกษตร มาตรการเรียนฟรี เงินพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ  การสร้างงาน การฝึกอบรม  การพัฒนาทักษะเจ้าหน้าสาธารณสุข  รวมทั้งมาตรการอื่นสำหรับสนับสนุนบุคคลทุก ๆ กลุ่ม  ซึ่งเป็นมาตรการที่ประเทศอื่นๆ ก็นำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน  เช่นเดียวกับประเทศไทย เพื่อช่วยคนไทยเผชิญต่อวิกฤตปัจจุบันและลดผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจภายในประเทศ

 การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะดำเนินควบคู่ไปกับการรักษาวินัยการเงิน การคลัง  โดยมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจได้ว่านโยบายด้านการเงินการคลังจะทำงานประสานกัน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ การรักษาเสถียรภาพราคาและการจ้างงาน

 นอกจากนโยบายระยะสั้นแล้ว ยังได้มีการกำหนดมาตรระยะกลางและระยะยาว เพื่อสร้างงานและการจ้างงานให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งมาตรการและการฝึกอบรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนกว่า 500,000 คน   การพัฒนาโครงสร้างพื้นนั้นถือเป็นมาตรการระยะยาว เนื่องจากระเบียบการคลังที่กำหนดห้ามมิให้รัฐบาลนำเงินสำรองต่างประเทศออกมาใช้  จึงได้มีการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ  อาทิ รถไฟฟ้า ระบบขนส่งขนาดใหญ่  พลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทส  การบริการจัดการทรัพยากรน้ำ  สุขภาพและการศึกษา ซึ่งเป็นสาขาหลักสำคัญ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว และจะทำให้วิสัยทัศน์ของไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสิตก์ในภูมิอาเซียนเป็นจริงได้

 ประเทศไทยยินดีต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ  ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย  และยืนยันว่า ประเทศไทยมีบรรยากาศที่เอื้อและเป็นมิตรต่อการลงทุนด้วยเหตุผลต่างๆ ดังนี้  ประการแรก  ไทยจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ คือ เมกกะโปรแจกต์  โดยรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการแห่งชาติ  โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลการทำงานร่วมระหว่างภาคเอกชนและรัฐบาล (Public Private Partnership--PPP) ในการกำหนดดำเนินโครงการต่างๆ ในประเทศไทย 
 ประการที่สอง ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา นักธุรกิจและนักลงทุนชาวต่างประเทศในไทยมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับ กฏหมายการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติ  ซึ่งขอยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขกฏหมายดังกล่าว แต่จะใช้กลไกของกฏหมายดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการค้าเสรี การแข่งขันที่ยุติธรรม เน้นความโปร่งใสและเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

 ประการที่สาม  สำหรับกฏหมายการค้าส่งและค้าปลีก ไทยเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง และเห็นว่าประเทศสหราชอาณาจักรและบริษัทต่างชาติ อื่นๆในอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งนั้น มีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน  ซึ่งไม่ได้มองว่าเป็นการแข่งขันระหว่างบริษัทต่างชาติกับธุรกิจภายในประเทศ แต่เป็นเรื่องของบริษัทเล็กกับบริษัทใหญ่ที่ต้องพึงพาอาศัยซึ่งกันและกันในโลกแห่งการค้าเสรีและยุติธรรมในยุคใหม่นี้

 อย่างไรก็ตาม การจัดระบบสำหรับควบคุมธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในไทยยังคงมีความจำเป็น โดยคำนึงถึงข้อห่วงใยของผู้ประกอบการท้องถิ่นและนักลงทุนชาวต่างชาติอย่างเท่าเทียมกัน ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่าง Tesco ซึ่งเป็นบริษัทของอังกฤษที่เป็นที่รู้จักและเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกและได้ขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง Tesco ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปีค.ศ. 1998 และลงทุนในประเทศไทยมากว่า 84 พันล้านบาทในธุรกิจค้าปลีก

 นอกจากนี้ยังมีบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆ อาทิ Carrefour หรือ Casino Group ที่มองเห็นโอกาสในประเทศไทย บริษัทอื่น ๆ ของอังกฤษก็มี อาทิ Triumph Motorcycles บริษัท Boots และอื่นอีกมาก ซึ่งยินดีเข้ามาลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลยังเคารพต่อประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา และความสำคัญของนวัตกรรมใหม่ ๆ  ขณะเดียวกันก็รับผิดชอบต่อการเข้าถึงยารักษาโรคในราคาที่สมเหตุสมผล โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขของความตกลงTRIPS เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ไทยปฎิบัติโดบยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศและในประเทศ ให้ความสมดุลระหว่างความห่วงกังวลและผลประโยชน์ของทุกฝ่าย

 นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า ภาคบริการในประเทศไทยไม่มีการเติบโตมาเป็นระยะกว่า 10 ปีแล้ว และยังมีสัดส่วนต่ำเมื่อเทียบต่อเศรษฐกิจโดยรวมและศักยภาพของภาคบริการของประเทศไทยที่มีภาคบริการควรจะมีความโดดเด่น เนื่องจากไทยมีต้นทุนแรงงานเหมาะสม มีประสิทธิภาพในแง่ของความสามารถในการปรับตัวและการพัฒนา เมื่อมองไปยังอนาคต ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทยจะอยู่บนฐานอุตสาหกรรมเกษตรกรรม ซึ่งไทยมีปริมาณการผลิตอาหารจำนวนมาก เพียงพอต่อประชากรภายในประเทศ และเหลือสำหรับการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ

 ขณะเดียวกัน ก็มีแหล่งพลังงานทางเลือกอื่น ๆ  รวมทั้งการพัฒนาเอทานอล และไบโอดีเซล  เพื่อลดการพิ่งพิงแหล่งพลังงานจากต่างประเทศ และสร้างความมั่นคงทางพลังงาน  ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของประเทศ พื้นฐานการเกษตรที่เข้มแข็งจะทำให้ประเทศไทยสามารถเดินต่อไป โดยงไม่ประสบปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับความสามารถในการผลิตอาหาร รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยปริมาณการผลิตที่มากมายนี้  ทำให้ไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกเอทานอลในภูมิภาคนี้ 

 การท่องเที่ยวของไทย แม้จะประสบผลจากการถดถอยของเศรษฐกิจโลก รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญต่อมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ ลดค่าธรรมเนี่ยมการลงจอดเครื่องบิน ยกเลิกค่าวีซ่าสำหรับการพำนักในประเทศไม่เกิน 3 เดือน และอนุญาตให้เข้าชมอุทยานแห่งชาติได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเองเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 900,000 คนต่อปี ก่อนหน้าที่จะมีการนำมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้มาใช้ ผลการสำรวจจาก UK Post Office  Holiday Costs Barometer แสดงให้เห็นว่า เมืองไทย “คุ้มเงิน คุ้มราคา”

 จากแบบสอบถามที่แสดงให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น ค่าอาหาร เครื่องดื่มและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็น ถูกเกินกว่าครึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปอิตาลี ซึ่งแพงที่สุดในประเทศแถบนี้ และค่าใช้น้อยกว่าการท่องเที่ยวในสเปนซึ่งถือว่ามีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดในยุโรปถึงร้อยละ 41 ประเทศไทยได้เสียรางวัล Grand Travel Award 2009 แก่ Oslo ประเทศนอร์เวย์ หลังจากที่ได้รางวัล Best Tourist Destination ติดต่อกันเป็นเวลา 6 ปี ประเทศสวีเดนและไทยยังได้มอบรางวัล Best Tourist Destination

 เช่นเดียวกัน หวังว่ามาตรการรณรงค์การท่องเที่ยวประเทศไทย จะสามารถโน้มน้าวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษให้เห็นว่าประเทศไทยยังยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ไปค้นหาจุดหมายปลายทางที่หลายหลาย วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนรู้จักใช้เงินอย่างชาญฉลาด และหวังว่าข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ เพียงพอที่จะทำให้เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยในวันหยุดครั้งต่อไปพร้อมไปกับโอกาสทางธุรกิจ ด้านการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีขับเคลื่อนประเทศไทยในฐานะหุ้นส่วนในภูมิภาคนี้และในโลก โดยยึดมั่นต่อการค้าเสรีที่เป็นธรรม ทรัพย์สินทางปัญญา สันติภาพและความมั่นคง ความมั่นคงทางพลังงานและสิ่งแวดล้อม ปกป้องคุณค่าประชาธิปไตย สนับสนุนสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม

 การปฏิรูปด้านโครงสร้างที่สำคัญที่เกิดขึ้น ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียปีค.ศ. 1997 ทำให้ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ยังคงแข็งแรง การจัดประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 ที่หัวหินชะอำ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำได้ส่งสัญญานกี่ยวกับการตัดสินใจของเอเชียที่สำคัญเในหลายๆเรื่อง ซึ่งจะช่วยอาเซียนให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงภายใต้การบังคับใช้กฎบัตรอาเซียน      ในการประชุมสุดยอดอาเซียนได้มีการหารือถึงวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ วิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตการเงิน

 โดยผู้นำทั้งหมดต่างเห็นพ้องกันว่าจะต่อต้านระบบคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศแต่ยืนยันที่จะให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการและเงินทุน รวมถึงนักธุรกิจอย่างเสรีด้วย นอกจากนี้ยังต้องการที่จะปฏิรูประบบการเงินระหว่างประเทศให้มีความเชื่อถือได้ เที่ยงตรง และครอบคลุมยิ่งขึ้น อาเซียนและประเทศคู่เจรจาทั้งสามอันได้แก่ จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในเอเชียและภูมิภาคอื่น

 การรวมกลุ่มของประชาคมจะมีประชากรมากกว่าสองพันล้านคน GDP รวมกว่าเก้าแสนล้านเหรียญสหรัฐ ฯ และมีเงินสำรองระหว่างประเทศกว่าสามแสนหกหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 ที่จัดขึ้นที่ภูเก็ตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ประชุมเห็นพ้องที่จะต่อยอดข้อริเริ่มเชียงใหม่ (CMIM) โดยขยายวงเงินจาก 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เป็น 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ และพัฒนากลไกการบริหารจัดการ CMIM ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

  ซึ่งผู้นำอาเซียนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีคลังทำงานร่วมกับประเทศคู่เจรจาทั้งสามต่อไป ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนยังได้มีการพูดคุยถึงวิกฤตโลกร้อน ความมั่นคงทางพลังงาน และอาหาร ซึ่งผู้นำต่างก็เห็นด้วยที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างกันในเรื่องอาหารทั้งแง่การผลิตและการแบ่งสรร เช่นเดียวกันกับความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานทางเลือกและพลังงาน เพื่อที่จะไม่มีวันหมด

 ซึ่งได้แนวคิดนี้ได้เสนอต่อประชุมเศรษฐกิจโลก ณ กรุงดาวอส ว่าในเรื่องความมั่นคงทางอาหารนั้น ต้องแน่ใจว่าไม่มีการบิดเบือนทางราคา ในฐานะประธานอาเซียนนายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่จากนาย Gordon Brown นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เชิญให้เข้าร่วมการประชุม London Summit ที่จะจัดขึ้นภายในสามอาทิตย์ข้างหน้านี้ และพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิก G20 เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินโลก  เชื่อว่าหากผู้นำทั้งหลายมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะช่วยให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำได้  และเห็นว่ารัฐบาลอังกฤษและภูมิภาคยุโรปจะเปิดตลาดให้มีการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรม

นายกรัฐมนตรีหวังว่าการประชุม London Summit ครั้งนี้จะก่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมกันป้องกันไม่ให้วิกฤตนี้ลุกลามไปยังประเทศที่ยากจน เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากประเทศที่ยากจนเหล่านี้อาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก  ทั้งนี้ ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ประเทศไทยพพร้อมจะให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับอังกฤษ ยินดีต้อนรับและสนับสนุนนักธุรกิจ และนักลงทุนที่สนใจลงทุนในประเทศไทยและภูมิภาคนี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์