ชัยเสียงอ่อยบอกส.ส.ยื่น2ญัตติได้อ้างไม่ผิด ปชป.จี้ถอนญัตติซักฟอกแค่เกมป่วน พท.สงสัยแผนป้องมท.1


"ชัย"เสียงอ่อนบอก เลขาฯสภายืนยัน ส.ส.ยื่น 2 ญัตติทำได้ อ้างไม่ได้ทำผิด-เป็นกลาง พท.สงสัยแผนป้องมท.1-ไล่ลาออกเสี้ยมพรรคแกนนำคิดยึดเก้าอี้คืน ปชป.จี้"ชัย"ถอนญัตติซักฟอกแค่เกมป่วนนอก-ในสภา พท.คุยปิดลับทีมถล่มสกัดล็อบบี้ถามรมต.มท.ปมหัวคิวอบต.20%

"ชัย"อู้อี้-เสียงอ่อน2ญัตติทำได้

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมากล่าวอ้างระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตเรื่อง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ยื่น 2 ญัตติ คือ 1.เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 185 แห่งรัฐธรรมนูญ และ 2.เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามมาตรา 186 เท่านั้น ว่าเป็นการลงชื่อเพื่อยื่นญัตติซ้ำซ้อนกันหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเขียนไว้ก้ำกึ่ง ไม่เคยบอกว่าทำไม่ได้

นายชัยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ภายหลังแสดงท่าที อาจส่งกรณีนี้ไปตีความ ขณะที่นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยัน ส.ส.พท.สามารถลงชื่อเสนอ 2 ญัตติได้ เนื่องจากเป็นคนละมาตรากันว่า "เป็นคนมอบหมายให้นายพิทูรศึกษาข้อกฎหมายในเรื่องนี้เอง แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นญัตติทั้ง 2 ฉบับ จึงยังไม่ทราบว่ามีปัญหาหรือไม่"

ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัย สมัย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น และยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีอีก 7 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเหมือนกัน ทำไมนายชัยไม่ทักท้วง แต่กรณีนี้กลับทักท้วงนั้น ประธานสภากล่าวว่า "ใครบอกว่าทำไม่ได้ ผมเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตเท่านั้น"

มุขเดิมอ้างไม่ได้ทำผิด-เป็นกลาง

นายชัยยังกล่าวถึงเรื่องที่ ส.ส.พท.ออกมาเรียกร้องให้พิจารณาตัวเอง เนื่องจากการทำงานผิดพลาดว่า"เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของผม ผมทำผิดอะไร เรื่องทุจริตก็ไม่เคยมี ที่ผ่านมาทำหน้าที่เป็นกลาง และอะลุ้มอล่วยกับทุกฝ่าย ไม่เคยเข้าใครออกใคร สื่อมวลชนก็รู้ดี"

ก่อนหน้านี้ ส.ส.พท.เข้ายื่นญัตติ 2 ญัตติ ประกอบด้วย 1.เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ 2.เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล   5 คน ประกอบด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยฯ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยฯ

พท.สงสัยแผนป้องมท.1-ไล่ลาออก

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พท. กล่าวว่า ที่ผ่านมานายชัยทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรผิดพลาดหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีการตีความร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่การทำผิดข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำให้เห็นว่านายชัย ไม่มีความแม่นยำทางกฎหมายและข้อบังคับการประชุม แถมยังมีอาการหลงๆ ลืมๆ อีก ดังนั้น ขอเรียกร้องให้นายชัยใช้วิจารณญาณของตัวเองลาออกจากตำแหน่ง เพราะ พท.จะไม่ยอมเสียน้ำหมึกเพื่อล่ารายชื่อ ส.ส.ถอดถอนนายชัยให้เปลือง

"การออกมาพูดในเรื่องมาตรา 158 และมาตรา 159 ของนายชัยนั้น เหมือนเป็นการปกป้องหัวหน้าพรรคของตัวเอง (นายชวรัตน์  ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย) ไม่ให้ถูกอภิปราย ซึ่งการออกมาพูดของนายชัยเรื่องนี้มีลักษณะเหมือนต้องการให้ประชาชนเข้าใจผิด ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่านายชัยมีเป้าหมายอะไรในใจ ดังนั้น นายชัยควรพิจารณาตัวเองเพราะวันนี้ลูกอุ้มไม่ได้แล้ว" นายสุรพงษ์กล่าว

เสี้ยมพรรคแกนนำคิดยึดเก้าอี้คืน

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าแม้แต่ในซีกพรรครัฐบาลด้วยกันก็คงจะไม่พอใจการทำหน้าที่ของนายชัย โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา นายชัยเลื่อนเรื่องด่วนขึ้นมาอยู่ในวาระการประชุม ซึ่ง พท.ท้วงติงในเรื่องนี้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งฝ่ายประชาธิปัตย์เองก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาช่วยนายชัยแต่อย่างใด ดังนั้น เชื่อได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์คงจะวางยานายชัยให้พ้นจากตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ เพื่อเปิดทางให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ คนของพรรคตัวเองมาดำรงตำแหน่งแทน

ปชป.จี้"ชัย"ถอนญัตติซักฟอก

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า อยากเสนอไปยังนายชัย ให้ตรวจสอบเนื้อหาญัตติ เพราะมีบางข้อที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและอยากให้ถอนญัตติดังกล่าวออก เพราะหากปล่อยไว้อาจส่งผลทำให้เกิดความวุ่นวายในสภาได้ และอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งในสภา ดังนั้น ประธานสภาควรตัดไฟแต่ต้นลม ส่วนที่วิจารณ์ว่าการที่ประธานสภา ส่งตีความญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เป็นการดึงเกมเพื่อช่วยรัฐบาลนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เพราะเป็นการทำตามระเบียบของสภาไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และแม้ว่าปลายเดือนมีนาคมวาระงานของนายกฯ จะถี่ยิบแต่รัฐบาลก็พร้อมให้อภิปราย 

สำหรับกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พท. ประกาศว่าจะตั้งวอร์รูมซักซ้อมการอภิปรายนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ขอสนับสนุน แต่ไม่อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนเข้าไปดูหนัง เมื่อฉายจริงเพียงครึ่งเรื่องก็ต้องเดินออก

"การที่ ร.ต.อ.เฉลิมประกาศว่าเที่ยวนี้จริงจังโดยเอาตำแหน่งประธาน ส.ส.เป็นเดิมพัน เห็นว่าเป็นการเดิมพันน้อยเกินไป น่าจะใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นเดิมพันน่าจะสมน้ำสมเนื้อมากกว่า เพราะคนในรัฐบาลใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเดิมพัน" นายเทพไทกล่าว

ปักใจแค่เกมป่วนนอก-ในสภา

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการลงพื้นที่ของ ส.ส.พบว่าประชาชนหลายพื้นที่ไม่สบายใจที่ฝ่ายค้านเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรี เพราะประเด็นอภิปรายมีแต่เรื่องเก่าเก็บมาพูดกัน ประชาชนรู้มานานแล้ว ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ พท.ที่ต้องตอบว่าทำไมนำเรื่องเก่าเก็บมาพูด แทนที่จะนำเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลมาอภิปราย 

"การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นการยื่นเชิงสัญลักษณ์ เพื่อสนับสนุนการระดมมวลชนคนเสื้อแดงมากดดันรัฐบาล ในสภาก็ยื่นญัตติก่อกวนในสภา โดยนอกสภาก็ใช้มวลชนคนเสื้อแดงกดดัน อยากบอกไปยังพรรคเพื่อไทยว่า ประชาชนรู้ทันว่าเป็นการร่วมมือกันเพื่อก่อกวน เพราะกลัวว่าประชาชนจะรักนายกฯ อภิสิทธิ์มากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ" นพ.วรงค์กล่าว

"ชำนิ"ประชดให้โฟนอินซักฟอก

นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน ประธานคณะทำงานปฏิบัติการทางการเมือง (วอร์รูม) พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่นายชัยคิดส่งให้มีการตีความการเสนอ 2 ญัตติ คงไม่ใช่เป็นการช่วยรัฐบาล แต่คงมีข้อสงสัยถึงความไม่ถูกต้องของญัตติ จึงอยากให้ตีความเพื่อให้การบรรจุระเบียบวาระเป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัว อยากให้รีบบรรจุญัตติ เพื่อให้มีการอภิปรายตามกรอบเวลาที่กำหนดโดยเร็ว เพราะรัฐบาลจะได้ไม่เสียเวลาในการแก้ปัญหาของประเทศ 

นายชำนิกล่าวว่า ในฐานะที่พรรคเคยเป็นทั้งผู้อภิปรายและผู้ถูกอภิปราย เห็นว่ารูปแบบการอภิปรายครั้งนี้เป็นเพียงความตั้งใจที่อภิปรายแต่ไม่ได้มีข้อเท็จจริงในเรื่องที่จะอภิปราย ต่างไปจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน ที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นเพียงการทำให้กระบวนการครบวงจร ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง และการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในต่างประเทศเท่านั้น เพื่อช่วยกันลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล

"ตอนนี้พื้นที่ในการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มน้อยลง จึงต้องหันมาใช้วิธีการโฟนอินไปยังที่ต่างๆ ซึ่งถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ สภาเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาเพื่อช่วยอภิปรายได้ ฝ่ายค้านคงให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาอย่างแน่นอน" นายชำนิกล่าว
 
"ชวรัตน์"ย้ำแจงได้-ไม่หนักใจ

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล กล่าวย้ำอีกครั้งว่า ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะฝ่ายค้านอภิปรายในสิ่งที่ตนทำมาแล้ว และจำได้ว่าทำอะไรไปบ้าง เพียงแต่นำเรื่องที่ทำไปเล่าให้สภาฟังก็เท่านั้น ทั้งนี้มั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ และไม่จำเป็นต้องตั้งคณะทำงานมาเตรียมข้อมูล หรือไปติวเข้มอะไร เพราะทำอะไรด้วยตัวเอง เพียงแต่มาฉายหนังรอบ 2 ให้ดูเท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แปลกใจหรือไม่ที่ชื่อหลุดจากโผอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไปแล้ว แต่กลับมาอยู่ในโผในนาทีสุดท้าย นายชวรัตน์หัวเราะก่อนกล่าวว่า "เขาอาจขาดเอกภาพในการวินิจฉัย"
 
พท.คุยปิดลับทีมถล่มสกัดล็อบบี้

สำหรับการเตรียมการอภิปรายของฝ่ายค้านนั้น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พท.หนึ่งในทีมอภิปราย กล่าวว่า หลังจากประชุมทีมอภิปรายที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 มีนาคมไปแล้ว จากนี้ไป ส.ส.ผู้อภิปรายนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 5 คนนั้น จะแบ่งเป็น 6 ทีม ตามจำนวนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย โดยคณะทำงานชุดย่อยนี้จะติวเข้มกันเฉพาะกลุ่มและประเด็นที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ส่วน ส.ส.คนใดอยู่ทีมไหนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเรื่องนี้จะเก็บเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาอภิปรายจริง เพื่อเป็นการป้องกันการถูกล็อบบี้ ข่มขู่ หรือกดดันจากฝ่ายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม พรรคได้ตั้งวอร์รูม เพื่อเป็นเซ็นเตอร์กลางในการสนับสนุนข้อมูลของทีมอภิปราย โดยมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ช่วยดำเนินการส่งข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ

ถามรมต.มท.ปมหัวคิวอบต.20% 

นายวรวัจน์กล่าวถึงกรณีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ระบุหากนายสุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ที่ถูกย้ายเป็นผู้ตรวจราชการ นำข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ไปให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลถือเป็นการเสียมารยาทว่า การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ขอถามไปยังรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า เคยได้ยินหรือไม่ว่ามีคนไปเจรจากับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โดยระบุว่าจะจัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่ให้ แต่ต้องแลกเปลี่ยนด้วยเงินร้อยละ 20 จากงบประมาณทั้งหมดเป็นการตอบแทน ซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนมาจาก อบต.ของ จ.แพร่ และเชื่อว่ากรณีนี้จะเกิดกับ อบต.ทั่วประเทศด้วย

"เรื่องเงิน 1 แสนบาทที่เป็นข่าวออก (แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระบุบริษัทคิงเพาเวอร์จ่ายให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์) มาก่อนหน้านี้นั้น ผนเห็นมากับตาว่าเป็นเรื่องจริงที่พรรคประชาธิปัตย์นำเงินจำนวนดังกล่าวใส่ซองของพรรคมาแจกให้กับ ส.ส.ที่สภา ทั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เคยพูดมาเสมอว่าพรรคได้หักเงินเดือน ส.ส.ประชาธิปัตย์เข้าพรรค จึงไม่ทราบว่าเงินจำนวน 1 แสนที่พรรคประชาธิปัตย์แจก ส.ส.ทุกคนนั้นมีที่มาจากไหน แต่พรรคเพื่อไทยมีคำตอบให้แล้วในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้" นายวรวัจน์กล่าว

อีกปมแสวงหาประโยชน์จากรสก.

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พท. หนึ่งในทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า เป็นผู้รวบรวมข้อมูลในการอภิปรายจากคณะทำงานทั้งหมดว่ามีประเด็นใดบ้าง โดยประเด็นหลักจะเป็นไปตามกรอบที่พรรคยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ส่วนประเด็นที่เป็นไฮไลต์สำคัญนั้นพรรคเพื่อไทยต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเริ่มนัดประชุมเพื่อซักซ้อมเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดอภิปรายจริง

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม ทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ พท.อีกคน กล่าวว่า ประเด็นที่พรรคเตรียมซักฟอกนายชวรัตน์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำหน้าที่ซึ่งถือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีความสำคัญ และมีบทบาทรองจากนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ดังนั้น การบริหารงานจะต้องมีวุฒิภาวะ และจะต้องเป็นผู้บริหารตัวจริง บำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนอย่างชัดเจน แต่พรรคพบหลักฐานว่าการบริหารงานของนายชวรัตน์เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองในการบริหารงานในกระทรวงมหาดไทย และการบริหารงานในรัฐวิสาหกิจในกำกับกระทรวงมหาดไทยด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐวิสาหกิจที่อยู่ในการกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ขณะที่การไฟฟ้านครหลวงอยู่ในกำกับของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์