ทักษิณเต้น-แก้ตัว

วันที่ 13 มี.ค.เวลา 15.00 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์รายวัน เจแปน ไทม์ส ของญี่ปุ่น  ฉบับภาษาอังกฤษ เผยแพร่ข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว

และต้องการกลับประเทศไทยเพื่อเล่นการเมืองว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกันนี้ ได้โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า หนังสือพิมพ์เจแปนไทม์สมาสัมภาษณ์จริง แต่ที่มีข่าวลงว่าได้ขอพระราชทานอภัยโทษแล้วเป็นข่าวที่ลงคลาดเคลื่อน เพราะไม่ได้ให้สัมภาษณ์ไปว่าได้ยื่น ขอพระราชทานอภัยโทษ 3 ครั้ง เพียงแต่พูดไปว่าได้ กราบบังคมทูลไป 3 ครั้ง เพื่อถวายรายงานตอนเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าความจะได้ทราบไปถึงหรือไม่ และการกราบบังคมทูล 3 ครั้งนั้น ก็เกิดขึ้นก่อนที่จะมีคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดาภิเษกออกมา ดังนั้น ไม่มีทางที่จะเป็นการขออภัยโทษได้ 

แนะทางแก้ ศก.เพื่อประชาคมโลก 

นายพงศ์เทพ ยังกล่าวถึงการที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์ว่าการกล่าวปาฐกถาเรื่องเศรษฐกิจเสนอแนะการแก้วิกฤติเศรษฐกิจ ให้กับจีนและสหรัฐฯ เป็นการสอนหนังสือให้สังฆราชว่า การกล่าวปาฐกถาในครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้หวังผลที่จะกระทบใคร แต่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโลกโดยรวม ในการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกครั้งนี้ ไม่เคยเห็นมีใครประกาศตัวเป็นสังฆราชสักคน มีแต่คนใบ้กินกันหมด คนอย่างนายโอบามานั้นเขาเป็นคนที่รู้ตัวเองดีว่ายังต้องเรียนรู้อีกเยอะ เขาเป็นนักกฎหมายไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ เชื่อว่าโอบามาต้องฟังคนมากมายหลายฝ่าย ไม่คิดว่าเขาจะเป็นแบบที่นายเทพไทพูด ขนาดนักเศรษฐศาสตร์เก่งๆ ได้รับรางวัลโนเบล เขายังต้องฟังความเห็นซึ่งกันและกัน เพราะจะได้ประโยชน์มากกว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดก็มีมุมมองที่จะเป็นประโยชน์จริงๆ
 

โต้แทน “ทักษิณ” ไม่เคยขออภัยโทษ 

ทางด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. แถลงข่าวกรณีที่สื่อต่างประเทศเสนอข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ 3 ฉบับว่า ไม่เป็นความจริง ตนติดต่อกับอดีตนายกฯและทราบว่าหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 จนถึงปัจจุบัน อดีตนายกฯ ไม่ได้ถวายฎีกา ข้อเท็จจริงเรื่องนี้คือ เมื่ออดีตนายกฯประสบเหตุจนต้องไปพำนักในต่างประเทศ ก็ได้จัดทำจดหมายถวายรายงานข้อเท็จจริงเรื่องราวต่างๆแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจดหมาย 3 ฉบับนั้น จัดทำขึ้นก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาคดีซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ยืนยันอดีตนายกฯ ไม่เคยขอฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เรื่องนี้อาจมีความคลาดเคลื่อนข้อเท็จจริงที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม แนวคิดของอดีตนายกฯจะเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ 


“เทือก” ปิดปากไม่พูดเรื่อง “ทักษิณ”
 

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศฮ่องกง โดยเฉพาะที่ระบุว่าได้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องมาก่อน และเคยบอกแล้วว่าไม่พูดเรื่องคุณทักษิณอีกแล้ว เมื่อถามว่าเรื่องนี้ถือเป็นพระบรมราชวินิจฉัย นายสุเทพตอบว่า ไม่ขอออกความเห็น ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ที่อยู่ๆจะขอพระราชทานอภัยโทษ โดยไม่เข้ามาต่อสู้คดีในประเทศไทยให้เสร็จสิ้นกระบวนความ นายสุเทพตอบว่า “ผมไม่อยากให้ความเห็นเรื่องนี้” เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจว่าหากกลับมาแล้วได้เลือกตั้งใหม่ก็จะได้รับชัยชนะแน่นอน นายสุเทพกล่าวย้ำว่า ก็ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องนี้อีก เมื่อถามอีกว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่วางมือทางการเมืองจริงใช่หรือไม่ นายสุเทพส่ายหัวพร้อมกับบอกว่าขอไม่พูด 
 

เมินดีทีวีนำเทป “ทักษิณ” ฉายซ้ำ 

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีดีทีวีจะทำคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของฮ่องกง เมื่อวันที่ 12 มี.ค. มาออกอากาศซ้ำทางสถานีดีทีวีว่า เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงต้องการแสดงความเห็น แต่เป็นความเห็นเดิมๆ การที่ดีทีวีจะนำมาเผยแพร่ซ้ำ คงเป็นการทำตามผังรายการ หากมีเนื้อหากระทบบุคคลใด ก็เป็นเรื่องบุคคลนั้นต้องดำเนินการตามกฎหมาย รัฐบาลคงไม่ไปทำอะไร แต่วันนี้ต้องตั้งคำถามว่า การเสนอความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาประเทศอย่างไร รัฐบาลถือว่าเป็นความเห็นของคนคนหนึ่ง ไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ให้ความสำคัญ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่ารัฐบาลลอกนโยบายของรัฐบาลที่แล้วมาใช้ นายสาทิตย์หัวเราะพร้อมตอบว่า รัฐบาลอื่นก็คิดเป็น
 

รัฐบาลไม่รู้เรื่องยื่นขออภัยโทษ


ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาที่ดูไบ โดยผ่านวีดิโอลิงก์ไปยังประเทศฮ่องกงและให้สัมภาษณ์ว่าได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลขออภัยโทษถึง 3 ครั้งว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะไม่มีคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาพูด เป็นเรื่องไม่บังควร การอภัยโทษถือเป็นพระราชวินิจฉัย ซึ่งการประกาศแบบนี้เสมือนเป็นการกดดันพระราชอำนาจ โดยเฉพาะการระบุว่าหากได้รับการอภัยโทษมาแล้ว มวลชนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณจะสบายใจและหยุดต่อสู้และไม่เคลื่อนไหว ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะตรวจสอบหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการทำเรื่องกราบขออภัยโทษจริงหรือไม่ นายเทพไทตอบว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบเพราะเรื่องนี้มีขั้นตอนที่ชัดเจนออยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไม่มีใครที่ทราบเรื่องนี้เลย เนื่องจากเรื่องต้องผ่านราชเลขาและสำนักงานองคมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออก มาชี้แจงเองว่า มีการยื่นเรื่องจริงหรือไม่ 

จวก “ทักษิณ” ตีสองหน้าผ่านสื่อ 

เมื่อเวลา 17.30 น. นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินผ่านวีดิโอลิงก์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศว่าได้ทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้วว่า ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกคน ทุกฝ่าย หากผู้นั้นหรือฝ่ายนั้นๆ มีความหวังดีต่อประเทศชาติ แต่การเดินสายของ พ.ต.ท.ทักษิณที่พูดผ่านสื่อต่างประเทศอย่างหนึ่ง แต่เมื่อโฟนอินมาที่ประเทศ ไทยเพื่อให้ปรากฏเป็นข่าวก็จะพูดอีกอย่างหนึ่ง เช่น กรณีที่ระบุว่าได้ทำหนังสือเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษถึง 3 ฉบับแล้ว ผ่านหนังสือเจแปนไทม์ ของญี่ปุ่น โดยพูดในลักษณะผูกโยงเงื่อนไขการได้รับอภัยโทษกับเงื่อนไขด้านมวลชน แต่กลับให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษก ส่วนตัวออกมาให้ข่าวปฏิเสธกับสื่อในประเทศไทยว่า พ.ต.ท. ทักษิณไม่ได้เขียนจดหมายเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ กรณีนี้ถือว่าไม่เหมาะสมตั้งแต่แรกในการออกมาเปิดเผยกับสื่อต่างประเทศ เห็นได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะไม่ให้พื้นที่ข่าวในสื่อทั้งในและนอกประเทศของตนลดลง 

นายกฯใช้โอกาสนี้เรียกความเชื่อมั่น


โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ได้รับการยืนยันจากนายกฯว่า การไปปาฐกถาของนายกฯ ที่ประเทศอังกฤษ จะใช้โอกาสนี้สร้างความมั่นใจในทุกด้านที่จะรักษาชื่อเสียงของประเทศชาติในสายตาของอารยประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง หรือเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมและนานาชาติ เช่น การประกาศเอาจริงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอดีต ในหลายกรณี อาทิ การหายตัวของทนายสมชาย นีละไพจิตร หรือการฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ของรัฐบาลในอดีตที่อ้างว่าทำสงครามกับยาบ้า จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่นายกฯจะเรียกความเชื่อมั่นในทุกๆด้านในการเดินทางไปเป็นแขกของรัฐบาลอังกฤษในครั้งนี้ โดยเฉพาะการปาฐกถาเกี่ยวกับประชาธิปไตยในประเทศไทย ซึ่งจะมีสื่อมวลชนให้ความสนใจร่วมซักถาม.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์