เสื้อแดงโว ทักษิณ เล็งโชว์กึ๋นแก้เศรษฐกิจ

วานนี้ (10 มี.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  แถลงว่า ในกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพปฏิรูปการเมืองนั้น เป็นการดำเนินการที่ลับลวงพราง

เนื่องจากก่อนหน้านั้นมีบุคคลสามกลุ่ม คือ คนใหญ่โตในรัฐบาล กลุ่มคนสีเขียว และกลุ่มคนในสถาบันพระปกเกล้าบางคน ไปนัดหารือกันในโรงแรมแห่งหนึ่งก่อน แสดงให้เห็นว่าเป็นการเริ่มละครบทที่หนึ่งของละครน้ำเน่า เพื่อตบตาประชาชน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงใจที่จะปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง

ด้าน นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าสถาบันพระปกเกล้าไม่เห็นด้วยที่สถาบันพระปกเกล้ารับเป็นเจ้าภาพ

เพราะหลังการยึดอำนาจปรากฏว่าบุคคลกรบางคนในสถาบัน ทำตัวที่คอยรับเผด็จการ โดยขาดความเป็นกลางและยังไม่เป็นอิสระจากคมช. ดังนั้นจะรวบรวมรายชื่อศิษย์เก่าของสถาบันเพื่อแสดงออกว่ายังมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเช่นนี้ พร้อมล่ารายชื่อถอดถอนกรรมการสถาบันฯชุดนี้ด้วย เป็นการแสดงออกทางสังคม แม้ไม่มีกฎหมายรองรับ

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะคณะทำงานฝ่ายการเมืองพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันมีโอกาสได้สนทนากับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

โดย พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้จะแสดงความเห็นเสนอการใช้งบประมาณ 7-8แสนล้านบาท เพื่อแก้เศรษฐกิจของไทยทั้งระบบให้แข็งแรงและยั่งยืน ทั้งนี้ตนเห็นว่ารัฐบาลคุณหนูอย่าทำงานงอแง โทษการทำงานของรัฐบาลชุดอื่น ขอให้เปิดใจกว้างรับฟังคนที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ที่แสดงออกถึงความหวาดกลัวแม้แต่เสียงโทรศัพท์พ.ต.ท.ทักษิณที่โฟนอินในเวทีคนเสื้อแดง จึงพยายามศึกษาวิดิโอลิงค์ในเวทีคนเสื้อแดง เพื่อให้เห็นภาพและเสียงท่าน ถ้าทำแบบนี้ได้นายอภิสิทธิ์อาจจะเป็นลมตกใจลาออกไปเลยก็ได้ ฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์ อย่าออกอาการวิตกกังวล ลุกลี้ลุกลนจนเกินไปกับการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยในวันที่ 12 มี.ค. ท่านยืนยันจะปาฐกถาประเด็นเศรษฐกิจโลกผ่านวิดิโอลิงค์ จะวิเคราะห์ถึงการรับมือและแนวทางแก้ไข

แกนนำ นปช. กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรทำใจให้สงบและมองข้อเสนอดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการแก้เศรษฐกิจอย่างไร คงไม่มีใครปฏิเสธว่าหากเทียบนายกฯและรมว.คลัง กับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว กระดูกมันคนละพ.ศ

นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังได้พูดด้วยว่ากรณีที่รัฐบาลพยายามประสานกังหลายประเทศเพื่อควบคุมตัวท่านกลับประเทศไทย ล่าสุดมีความพยายามประสานกับรัฐบาลฮ่องกง ทั้งที่ไม่เคยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน และฮ่องกงเป็นภาคีกับสหประชาชาติ มี3ข้อหลักที่หลายประเทศยึดถือ คือ 1.ไม่รับระบบศาลเดียว เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตัดสินคดีที่ดินรัชดาโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.ไม่รับคดีความที่เกี่ยวข้องกับการเมือง 3.การทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ความผิดทางอาญาต้องตรงกับความผิดทางอาญาของอีกประเทศหนึ่งด้วย การตัดสินจำคุกคดีที่ดินรัชดา น่าจะเป็นคดีเดียวที่ภรรยาซื้อที่ดินอย่างถูกต้องทุกประการแต่สามีกลับถูกตัดสินจำคุก ที่ฮ่องกงไม่มีจึงไม่เข้ากับหลักเกณฑ์ดังกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์นั้น เรตติ้งไม่ดีถ้าเป็นรายการสถานโทรทัศน์ของเอกชนรับรองถูกปรับออกจากผังไปแล้ว

แสดงให้เห็นคนฟังไม่มีความเชื่อมั่นต่อนายอภิสิทธิ์ จึงไม่มีประชาชนติดตามฟัง เท่าที่ดูรายการอื่นตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นรายการการ์ตูนสำหรับคุณหนู ดังนันรายการของนายกฯน่าจะปรับให้เป็นรายการสำหรับคุณหนูจะดีกว่า ไม่เหมือนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีประชาชนเฝ้าติดตามฟังทั้งประเทศ เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์นิตยสานฟาร์อิสเทิร์นอิโคโนมิคส์ เปรียบเปรบตัวเองเป็นหมาและพร้อมเชื่องได้อีก นายณัฐวุฒิตอบว่า เป็นคำอุปมาอุปไทยที่ท่านอธิบายต่อสังคมไทยว่า เป็ฯคนที่เคยทำงานให้บ้านเมือง แต่ไม่วายถูกย่ำยี ไม่ว่าจะถูกกล่าวหาอย่างไรก็ตามหากได้รับโอกาสก็พร้อมกับมาตั้งใจรับใช้ทำงานให้บ้านเมืองนี้อีกครั้ง

ด้าน นายอิทธิเดช  แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีโยกย้ายข้าราชการระดับ10 จำนวน28ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เสนอว่า รู้สึกเห็นใจผู้ว่าราชการจังหวัดที่ถูกโยกย้าย

ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่ควรมุ่งเน้นบริหารสีเสื้อและปัญหาทางการเมืองมากว่าแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน การโยกย้ายผวจ.นั้นคนที่มาใหม่ก็ต้องมาปรับกลยุทธ์การทำงานใหม่อีก อย่างไรก็ดีการโยกย้ายครั้งนี้เชื่อว่าจะเกิดความกระด้างกระเดื่องต่อข้าราชการที่ถูกโยกย้ายอย่างไม่มีเหตุผลอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน การโยกย้ายเพียงเพื่อให้ผวจ.คนใหม่มาควบคุมเสื้อแดงนั้นมองแล้วไม่ใช่หน้าที่ของผวจ. และยิ่งมีการโยกย้ายลักษณะนี้เชื่อว่าจะทำให้เกิดความแตกแยกยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดที่ปล่อยให้คนเสื้อเหลืองชุมนุมได้ในจังหวัดนั้นๆก็ไม่เห็นว่ารัฐบาลจะจัดการหรือสั่งโยกย้าย.