มท.เอาแน่ชงครม.ขึ้นเงินเดือนกำนัน-ผญบ.100% ก.พาณิชย์เผย ม.ค.มียอดบริษัทเจ๋งพุ่งกว่า 53%


มหาดไทยเอาแน่ ชง ครม. 24 ก.พ.นี้ ขึ้นเงินเดือน "กำนัน-ผญบ." 100% แต่แบ่งจ่าย 2 ปี "มาร์ค" ให้ความหวังครูเอกชน มีสิทธิได้ 2 พัน สัปดาห์หน้ารู้ผล พาณิชย์ตะลึง ม.ค.บริษัทเอกชนเลิกกิจการพุ่ง 53% ระบุสัญญาณผิดปกติ "กรณ์" จีบ"จีน-ญี่ปุ่น"ร่วมลงทุนเมกะโปรเจ็คต์ 2 ล้านล้าน เผยเอกชน 2 ปท.สนใจเพียบ


นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ "มติชน" ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ กระทรวงมหาดไทยได้เสนอให้พิจารณาเเพิ่มค่าตอบแทนให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และบุคลากรในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนรายละเอียดเม็ดเงินจะเป็นเท่าไรนั้นที่ประชุมจะสรุปสุดท้าย
 
รายงานข่าวแจ้งว่า กระทรวงมหาดไทยจะเสนอให้ครม.พิจารณาการปรับเพิ่มอัตราเงินตอบแทนตำแหน่ง กำนัน ผู้ใหญบ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ โดยแนวทางคือ จะเสนอขึ้นค่าตอบแทน 100% แต่แบ่งจ่าย 2 ปี คือปีงบประมาณ 2553-54 เช่น กำนัน ฐานเงินเดือน 5,000 บาท จะได้เพิ่ม 2,500 บาท เป็น 7,500 บาทในปีงบประมาณ 2553 และปีงบถัดไปจะได้เพิ่มอีก 2,500 บาท เป็น 10,000 บาท เป็นต้น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์"  เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่ประชาชนเป็นห่วง ซึ่งตัวเลขต่าง ๆ ที่ออกมาก็ยืนยันว่าบ้านเมืองเราจะต้องเผชิญกับปัญหาที่ค่อนข้างหนักหนาสาหัส เนื่องจากเศรษฐกิจโลกป่วยรุนแรง ส่งผลให้การส่งออกเดือนมกราคมติดลบถึงร้อยละ 26 -27 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่ก็ใกล้เคียงหรือต่ำกว่าอีกหลายประเทศ  โดนรัฐบาลก็ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น แต่แม้ว่าตัวเลขติดลบและเราจะต้องทบทวนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงมาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง แต่รัฐบาลก็ยังตั้งเป้าที่จะรักษากำลังซื้อเพื่อที่จะหยุดยั้งภาวะการหดตัวของเศรษฐกิจให้ได้ โดยเฉพาะตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 จะต้องหดตัวในอัตราที่ลดลง และตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 -4 จะพยายามกลับคืนสู่เสถียรภาพและการเติบโต โดยจะพยายามทุกวิถีทางให้เศรษฐกิจตลอดทั้งปีอยู่ในแดนบวกให้ได้ ซึ่งเป็นงานที่ยากขึ้น
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการ 2,000 บาท ได้ข้อยุติว่าจะจ่ายเป็นเช็คที่ขีดคร่อม เพื่อให้มีลักษณะคล้ายกับคูปอง เพราะภาคเอกชนสนใจจะร่วมทำรายการส่งเสริมเป็นพิเศษตั้งแต่ 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์และบางรายอาจจะลดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ตั้งใจว่าภายในวันที่ 8 เมษายน เช็ค 2,000 บาท จะไปถึงมือประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ในการได้รับสิทธิ์ โดยเอกชนจะไปจ่ายที่สถานประกอบการ แต่คนที่ไม่ได้ทำงานอยู่ในสถานประกอบการทางสำนักงานประกันสังคมก็จะดูแลให้ สำหรับข้าราชการ จะให้ไปพร้อมกับเงินเดือน นอกจากนี้ ได้สั่งการให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีไปดูเรื่องตัวเลขกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากมีการร้องเรียนให้เข้าไปดูแลครูโรงเรียนเอกชนคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์เป็นต้นไป
 
"ผมคาดหวังที่จะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกวุฒิสภาในการผ่านงบประมาณตัวนี้ในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปตามตารางเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยในการประคับประคองสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยมาตรการเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาว โดยเห็นว่า 30 ปีข้างหน้าไทยจำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะต่าง ๆ ทั้งแหล่งน้ำ คมนาคม การสื่อสาร ระบบขนส่งมวลชน และการศึกษา  เพื่อให้ไทยหลุดพนจากวิกฤติและพร้อมจะเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหาร อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับฐานความรู้และความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนศุนย์กลางการท่องเที่ยว ซึ่งต้องใช้วงเงินเกือบ 2 ล้านล้านบาท แต่ไม่ได้มาจากงบประมาณอย่างเดียว จะมีแหล่งเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเงินกุ้ การเข้าร่วมลงทุนของเอกชน ที่อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด ทั้งตัวงบประมาณและแผนให้เอกชนมาร่วมงานกับรัฐ
 
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมทวิภาคีระหว่างไทยกับจีน และไทยกับญี่ปุ่นว่า ในส่วนของจีนได้หารือถึงการเปิดโอกาสให้ 2 ประเทศ ร่วมลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยจะเปิดโอกาสให้ทั้งเอกชนไทยและเอกชนต่างประเทศเข้าร่วมลงทุนกับรัฐบาลได้ โดยขณะนี้มีบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ของทั้งไทยและจีนให้ความสนใจค่อนข้างมาก ส่วนการหารือกับญี่ปุ่นได้ข้อสรุปที่จะร่วมกันยกระดับสาธารณูปโภคของไทยให้มีการพัฒนาดีขึ้น รวมทั้งหารือในบางมาตรการเพื่อให้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เจเทปปา) สามารถนำมาปฏิบัติได้จริงมากขึ้น เนื่องจากบางข้อตกลงยังไม่สามารถนำมาใช้ได้จริง
 
"ในการหารือร่วมกันระหว่างไทยกับญี่ปุ่น และไทยกับจีน ผมเชื่อว่าจะทำให้ไทยสามารถยก ระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและผลักดันการลงทุนมูลค่า 2 ล้านล้านบาทให้เริ่มเดินหน้าได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า" นายกรณ์ กล่าว
 
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  เดือนมกราคม 2552  มีบริษัทเลิกกิจการ 1,307 ราย เพิ่มขึ้นถึง 53.7% จากเดือนเดียวกันปีก่อน โดย 3 ธุรกิจแรกที่เลิกกิจการสูงสุดคือ รับเหมาก่อสร้าง 69 ราย อสังหาริมทรัพย์ 45 ราย ด้านบริการ 43 ราย ขณะที่เงินทุนจดทะเบียนที่ยกเลิกสูงสุดเป็นรับเหมาก่อสร้าง 300.24 ล้านบาท รองลงมาเป็นธุรกิจขายปลีกหนังสือ และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่มี 3,303 ราย เพิ่มขึ้น 25% โดยธุรกิจที่ก่อตั้งใหม่เพิ่มสูงสุด ได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง 395 ราย อสังหาริมทรัพย์ 150 ราย บริการ 135 ราย
 
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปกติการเลิกกิจการช่วงต้นปีจะมีจำนวนน้อย แต่ปีนี้ค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นสัญญาณผิดปกติ ขณะที่ยอดตั้งบริษัทใหม่ต้นปีเป็นภาวะปกติของทุกปี และน่าสังเกตว่า ธุรกิจที่ปิดกิจการส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากยอดขายลดลง จนขาดสภาพคล่องทางการเงินเพื่อใช้หมุนเวียน ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็ไม่อนุมัติสินเชื่อและเข้มงวดมากขึ้น คงต้องรอดูสถานการณ์อีก 1-2 เดือนจึงจะระบุได้ว่าผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและกระทบต่อภาวะว่างงานหรือไม่
 
นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะโฆษกภาคกลาง พรรคเพื่อไทย แถลงที่พรรคเพื่อไทย ถึงมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า การส่งออกที่ติดลบถึงร้อยละ 26.5 ต่างจากเดือนมกราคม 2551 ที่การส่งออกขยายตัวถึงร้อยละ 36 จะส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ จะทำให้คนตกงานกว่า 2 ล้านคน จึงอยากถามรัฐบาลว่ารัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้ การที่รัฐบาลแจกเงินจำนวน 2 พันบาท ให้กับผู้ประกันตนนั้น ถือเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด เพราะคนที่ได้เงินจำนวนดังกล่าวยังไม่ตกงาน ขณะที่คนที่ไม่มีเงินเดือนจะไม่ได้รับเงิน 2 พันบาท นี้ ถือว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ไม่สร้างความสมดุล วิธีแก้ปัญหาคือรัฐบาลต้องมองการแก้ปัญหาระยะยาวโดยจะต้องสร้างงาน ไม่ใช่ให้เงินแค่ 2 พันบาทแล้วก็จบ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์