´3เหล่าทัพ´ ผนึกกำลังต้านการเมืองล้วงลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงกลาโหมว่า จากกรณีที่ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว. กลาโหม ได้ให้นโยบาย พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.ทหารสูงสุด ให้ทุกเหล่าทัพจัดส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหาร ในวันศุกร์ที่ 21 ก.ค.นี้ ทางเหล่าทัพจะต้องส่งบัญชีรายชื่อให้แก่ พล.อ.เรืองโรจน์

ก่อนส่งมอบให้ รมว.กลาโหมในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ พล.อ.เรืองโรจน์ได้นัดหารือกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก ผบ.ทอ. เพื่อเสนอจุดยืนในการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2549 เนื่องจากเหล่าทัพเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ยังคงมีปัญหา ทำให้ในการคัดเลือกผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งต่างๆต้องมีเหมาะสม

เพื่อรวมพลังต้านการล้วงลูกหรือการแทรกแซงในการปรับย้าย คาดว่ากองทัพบกและกองบัญชาการทหารสูงสุดจะต้องยื้อกันหลายยกเพราะมีแรงกดดันจากภายนอก นอกจากนั้น พล.อ.สนธิได้เข้าหารือกับ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี โดย พล.อ.สุรยุทธ์ได้ให้แนวคิดในการจัดทำโผโยกย้าย ที่ให้คำนึงถึงกองทัพและประเทศ ชาติเป็นหลัก

ตท.10 ย้ำปรับย้ายทหารไม่เกี่ยวกับรุ่น

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ รองเสนาธิการทหาร กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับย้ายจะได้รับการพิจารณาปรับย้ายไปดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นว่า เรื่องนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้กล่าวไปหมดแล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินการ โดยผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้พิจารณา ไม่ ลำบากใจที่เตรียมทหารรุ่น 10 ถูกสังคมมองว่าเข้าไปเกี่ยวพันกับการเมือง ทุกคนทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด และทราบว่าทุกคนทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ เพื่อแผ่นดิน

ภายในรุ่นก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เพราะทำงานตามปกติ สถานการณ์ขณะนี้ไม่เห็นมีอะไร ผมยังไม่เห็นว่ามีใครมองรุ่น 10 เข้าใจสับสนกันไปเองหรือเปล่า ทหารและกองทัพอยู่คู่กับประเทศชาติมาตลอดเวลา และทหารทุกคนรู้หน้าที่ว่าควรทำอะไร ส่วนเรื่องการปรับย้าย กองทัพไม่ได้พูดถึงรุ่น แต่จะพูดถึงผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ความรับผิดชอบ ความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ตามธรรมชาติ พล.อ.ทรงกิตติกล่าว

พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป อดีตเสนาธิการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เรียกร้องให้ทหารรู้จักหน้าที่ของตัวเอง แสดงว่ามีทหารบางส่วนเกิดความแตกแยกว่า ยุคนี้ทหารถูกแทรกแซงไปเยอะ โดยเฉพาะเรื่องรุ่นเตรียมทหาร ทหารไม่ว่ารุ่นไหนจะต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าการที่ พล.อ.เปรมออกมาเตือนครั้งนี้ เพราะเห็นว่าสังคมไทยเกิดความแตกแยกออกเป็น 2 ฝ่าย

โดยเฉพาะฝ่ายทหารกับฝ่ายการเมือง พล.อ.พงษ์เทพตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละประเด็น หากใครคิดแบบนั้นจะ ยิ่งทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาขึ้นมาอีก ใครคิดแบบนั้นคง จะเข้าข้างตัวเอง หรือเพียงแค่หวังผลประโยชน์เสียมากกว่า ดังนั้น อยากให้นึกถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก

กองทัพอย่าฝักใฝ่พรรค การเมือง และอย่าทุ่มเทว่าจะต้องเป็นนักการเมืองคนนั้น คนนี้ ทหารจะต้องไม่ฝักใฝ่ จะต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่ของตัวเอง ไม่อยากให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ใครมี หน้าที่อะไรก็ทำไป ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดความวุ่นวายในกองทัพ และทำให้เสียระบบในการปกครอง




แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ