เหลิมยันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เป็นมติพรรค

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเป็นมติพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า

เมื่อวาน(10 ก.พ.) เป็นการประชุมวาระพิเศษที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในวาระ ซึ่งตนได้นำเสนอหลักการกว้างๆ เพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ประมาณวันที่ 11-12 มีนาคม โดยทางพรรคมอบหมายให้ตนเป็นประธาน ส.ส. โดยตนได้อธิบายความให้ที่ประชุมฟัง แต่ไม่ได้ชี้แจงถึงรายละเอียด เนื่องจากเกรงว่าข้อมูลจะรั่วไหล แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ไว้วางใจเพื่อนสมาชิก ซึ่งในตอนท้ายตนได้ถามในที่ประชุมว่าใครเห็นด้วยกับตนให้ปรบมือดังๆ ซึ่งเสียงปรบมือก็ดังกระฮึ่มห้อง จึงคิดว่าน่าจะเป็นมติพรรคได้ แต่อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ หากจะนำเรื่องนี้มาหารือกันอีกครั้งก็สามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะยังมีเวลาเหลืออีก 1 เดือน

 
"บางคน บอกว่าจะวิจารณ์เรื่องนโยบาย แต่ผมยืนสภามานาน ล้มรัฐบาลโดยใช้นโยบาย ยากต่อการสำเร็จ อย่างที่ผมเคยอภิปรายเรื่อง สปก.4-01 เป็นเรื่องข้อกฎหมาย และหลักฐานคราวนี้ ผมมั่นใจว่าดีกว่า สปก.4-01 การอภิปรายยากมาก จะต้องนำเสนอให้ดี ถึงจะเกิดความเข้าใจ เพราะการกระทำครั้งนี้ซับซ้อนซ่อนเงื่อน มุมมองของเพื่อนสมาชิก ผมต้องฟัง ถ้าสุดท้าย พรรคยังไม่ให้ยื่น ผมก็ไม่โกรธเคือง รอได้ แต่หลักฐานที่ผมมีให้รัฐบาลให้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองต่อไปไม่ได้" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว


เมื่อถามว่าหากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ฝ่ายค้านจะเสนอใครมาเป็นผู้นำแทน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ที่ประชุมจะต้องหารือกันอีกครั้ง

เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมติพรรค ตนไม่มีอะไรขัดข้อง หากต้องการให้รัฐบาลบริหารราชการไปก่อน สมัยนี้สมัยหน้าหรือปีหน้าก็ไม่เป็นไร หากพรรคไม่ต้องการให้ยื่นอภิปราย เพราะตนคนเดียวคงไม่สามารถทำได้  ทั้งนี้เมื่อพรรคเห็นว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เก่งเรื่องเศรษฐกิจ จะให้ นายมิ่งขวัญ เป็นผู้เปิดประเด็นในการอภิปราย ตนก็ไม่ขัดข้อง ตนก็จะทำในส่วนของตน เพราะเวลารัฐบาลจะล้มไม่ได้ล้มด้วยคนอภิปราย แต่จะล้มด้วยเนื้อหาสาระ ขอย้ำตนมีข้อมูลมีความหนักแน่น ซึ่งใกล้ๆ จะเปิดเผยแน่นอน 


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านอย่างแน่นอน แต่หากจะให้ทำหน้าที่ไปก่อนก็ได้ ซึ่งสาเหตุที่ไม่รับตำแหน่งมีหลายปัจจัย แต่ไม่ได้เกรงว่าจะมีการยุบพรรค เมื่อถามว่าข้อมูลที่มีจะสามารถเปลี่ยนใจพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้พูดยาก ส่วนการอภิปรายครั้งนี้ตนเห็นว่าเป็นเรื่องของกรรมเก่า

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์