สุเทพ โยนตร.ปฏิบัติตามหน้าที่ถอดยศแม้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 มกราคม มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม

วาระพิจารณากระทู้ถามทั่วไป เรื่อง การเสนอถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ถาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้นายกฯ มอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง เป็นผู้ตอบกระทู้แทน



โดย ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า แม้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง มีมติ 5 ต่อ 4 ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดในคดีที่ดินรัชดาฯ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา


และอยากทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการกับตำรวจนายอื่นๆ ที่อยู่ในกระบวนการถอดยศอย่างไรบ้าง เพราะ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขันธ์ ก็ถูกคำพิพากษาให้จำคุกเหมือนกัน แต่ยังไม่มีกระบวนการการถอดยศ รวมทั้งทหารจะมีกระบวนการในการถอดยศเหมือนกับตำรวจหรือไม่

 

นายสุเทพชี้แจงว่า ได้ทราบข่าวถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณจากสื่อพร้อมกับประชาชนคนอื่นๆ

จากนั้นได้ตรวจสอบโดยสอบถามไปยัง สตช. ถึงหลักเกณฑ์การถอดยศ ทราบว่า มี พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และระเบียบ สตช.ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 โดย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 28, 29 การถอดยศมี 7 กรณี ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องที่สืบเนื่อง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ลงโทษจำคุก 2 ปี แม้ไม่ได้เป็นตามประมวลกฎหมายอาญา แต่โดนลงโทษจำคุกตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องรัฐบาล นายกฯ หรือตน ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือสั่งการ แต่เป็นการทำตามหน้าที่ของตำรวจ โดยเฉพาะกองวินัยและกองกำลังพล ทำหนังสือถึงศาลตรวจสอบผลคดี และศาลแจ้งว่า ถึงที่สุดแล้ว เพราะไม่มีการอุทธรณ์ ตำรวจก็ปฏิบัติไปตามหน้าที่



นายสุเทพกล่าวอีกว่า สำหรับสถิติการถอดยศ เช่น พ.ศ.2534 ก่อนมีระเบียบนี้ มีตำรวจสัญญาบัตร 251 นาย ประทวน 1,909 นาย ถูกถอด

แสดงให้เห็นว่า ตำรวจก็ดูแลเกียรติยศศักดิ์ศรีของตำรวจอย่างเคร่งครัด หรือปี 2547 ที่มีกฎหมายนี้ มีตำรวจสัญญาบัตร 35 นาย ประทวน 203 นาย ถูกถอดยศ ปี 2548 สัญญาบัตร 21 นาย ประทวน 76 นาย ปี 2549 สัญญาบัตร 6 นาย ประทวน 32 นาย ส่วน กรณี พล.ต.ท.ชลอตรวจสอบพบว่า คดียังไม่สิ้นสุด อยู่ในศาล 3 คดี โดยคดียักยอกเพชร อยู่ในชั้นศาลฎีกา คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ คดีหน่วงเหนี่ยวกักขัง อยู่ระหว่างตรวจสอบผลคดีจากศาลอุทธรณ์ และตำรวจยืนยันว่า หากศาลตัดสินถึงที่สุด ก็จะดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการถอดยศ เหมือนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์