ยุทธวิธีเนวิน ย่อยสลายเสื้อแดง

"การเดินทางมาที่พรรคครั้งนี้เพื่อต้องการมาหารือกับนางเยาวภา ว่าจะสนับสนุนงบประมาณในการเดินทางมาร่วมชุมนุมที่รัฐสภาอย่างไรบ้าง หากไม่เห็นด้วย ก็จะโทรศัพท์ไปประสานกับแกนนำแต่ละจังหวัดว่า ไม่ต้องมา เพราะเหนื่อยเปล่า"

คำให้สัมภาษณ์ของ "ขวัญชัย ไพรพนา" ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ภายหลังบุกวางบิลขอน้ำเลี้ยง จาก "เจ๊แดง" "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" น้องสาวนายใหญ่ ถึงที่ทำการ "พรรคเพื่อไทย"

เป็นคำขู่ที่สะเทือนขวัญ โดยตรงต่อแกนนำ "พรรคเพื่อไทย" สายตรงนายใหญ่ ที่นั่งบัญชาการบนหอคอยงาช้าง

สะเทือนขวัญโดยตรงต่อ "แก๊งสามเกลอ" ประกอบด้วย "วีระ มุสิกพงศ์" "จตุพร พรหมพันธุ์" และ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ"

ที่ถูก "ขวัญชัย" ฟาดงวงฟาดงา ว่า แก๊งนี้มีแนวคิด "ศักดินา" คิดว่า "เสื้อแดง" ต่างจังหวัด จะ "ออเดอร์" เมื่อไหร่ก็ได้

ไม่เพียงเท่านั้น การที่ "ขวัญชัย" อธิบายเหตุผลและแจงเป็นฉากๆ ถึงการดำเนินงานมวลชนเสื้อแดง ที่แสนแร้นแค้น และแฉกระบวนการเหลือบไร ที่มี ส.ส.จัดการงบประมาณ แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์ เช่น ให้ 100 เข้ากระเป๋า 80 เหลือ 20 มาทำงาน

สะท้อนความแตกแยกระหว่าง "เสื้อแดงเมือง" ที่คุมโดย "แก๊งสามเกลอ" ซึ่งมีฐานมวลชน ย่านสมุทรปราการ ชลบุรี กับ "เสื้อแดงลูกอีสาน" ซึ่งถือเป็นฐานมวลชนขนาดใหญ่

เป็นคำตอบเหตุการณ์ปาหินและขวดน้ำ ใส่การปราศรัยของ "แก๊งสามเกลอ" เมื่อครั้งบุกถิ่น "บุรีรัมย์" เมืองหลวงของ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ในช่วงที่ผละออกมาร่วมตั้งรัฐบาลกับ "พรรคประชาธิปัตย์" ใหม่ๆ

และคำเตือนแกมขู่ ของ "ขวัญชัย" ที่บอกว่า หากภายในเดือนมีนาคม ยังล้มรัฐบาลไม่ได้ รัฐบาลคงอยู่ยาว นั้นมีความหมายให้ "เจ๊แดง" พิจารณา ในทางว่า ควรจะเลี้ยงดูปูเสื่อทัพใหญ่ในระดับใด

แต่ในทางกลับกัน สาเหตุที่ "เจ๊แดง" ตัดสินใจ ปิดก๊อกเสื้อแดงลูกอีสาน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรู้เท่าทันว่า "เสื้อแดงลูกอีสาน" ได้ถูก "เนวิน" เข้าควบคุมได้เบ็ดเสร็จ

วงในงานมวลชนที่ทำงานมาตั้งแต่ยุค "พรรคไทยรักไทย" รู้ดีว่า "เนวิน" เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งงานด้านมวลชนอีสานมายาวนาน ผ่านเครือข่าย คนรักอุดรฯ และสร้างความสำเร็จมาแล้ว ในการสร้างเสียงโหวตโนร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ในยุค คมช.

"เนวิน" จึงได้รับความไว้วางใจจาก "พ.ต.ท. ทักษิณ" ให้เป็นหัวจ่ายน้ำเลี้ยงที่รับท่อตรงมาอีกที รวมทั้งงานวางระบบยุทธศาสตร์ต่างๆ

โดยมีชื่อ "เนวิน" "ขวัญชัย" "ธีระชัย แสนแก้ว" "อุทัย แสนแก้ว" น้องชาย "ธีระชัย" และ "นิสิต สินธุไพร" ร่วมวงวางยุทธศาสตร์ด้วยกันแทบทุกครั้ง คนเหล่านี้มีสายสัมพันธ์แนบแน่นต่อกันเป็นที่สุด

ไม่เว้นแม้น้ำเลี้ยง "เสื้อแดงเมือง" ของ "แก๊งสามเกลอ" "เนวิน" ยังเข้าไปดูแลให้ แม้ในช่วงที่น้ำเลี้ยงเริ่มพร่อง ในการจัดงานความจริงวันนี้สัญจร ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551

น้ำเลี้ยงที่ไม่พอจ่าย ในส่วนของค่าเวทีและเครื่องเสียง ได้ถูกปิดบัญชีโดยการบริหารจัดการของ "เนวิน"

แต่ทว่า วันนี้ ระบบบริหารจัดการและหัวจ่ายน้ำเลี้ยงในยุค "พรรคเพื่อไทย" โดยการนำของ "สายตรงนายใหญ่" ได้เปลี่ยนไป

หลังวันที่ไม่มี "เนวิน" "นายใหญ่" ได้มอบให้ "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" ทนายส่วนตัว และ "บุญทรง เตริยาภิรมย์" ส.ส.เชียงใหม่ เป็นตัวประสานงานกับ "เสื้อแดงเมือง" โดยใช้ทุนสำรองจ่ายของ "เจ๊แดง" ไปพลางๆ เนื่องจากกระบวนการจัดส่งน้ำเลี้ยงจากต่างแดนทำได้ลำบาก

กอปรกับ ผลสัมฤทธิ์ของการเคลื่อนไหว โดย "เสื้อแดงเมือง" ไม่ได้ผลในเชิงคุณภาพมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ซึ่งรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดีช่วยแก้เกมให้ "พรรคประชาธิปัตย์"

ทำให้ "เจ๊แดง" เริ่มจ่ายน้ำเลี้ยงแบบกะปริบกะปรอย

ยังไม่นับภาวะขาดนักยุทธศาสตร์ที่เฉียบคม การบริหาร "เสื้อแดงเมือง" โดยสายตรงนายใหญ่ จึงยังเน้นรูปแบบเดิม คือ การยึดติดภาพ "พ.ต.ท.ทักษิณ" มากกว่าเดินหน้าตรวจสอบถ่วงดุล ความไม่ชอบมาพากล ซึ่งเป็นประเด็นสาธารณะ ของรัฐบาลประชาธิปัตย์

ขณะที่ภายใน "พรรคเพื่อไทย" เอง ยังมีปัญหาการงัดข้อกันของแกนนำ ดังนั้น "ยงยุทธ ติยะไพรัช" แกนนำเพื่อไทย ที่เคยพยายามเข้าถึง "เสื้อแดง" เพื่อขอบริหารจัดการมวลชนใหม่ จึงถูกตีกันอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะเดียวกัน ความห่างเหิน ระหว่าง "สายตรงนายใหญ่" กับ "เสื้อแดงลูกอีสาน" ก็เริ่มก่อตัวขึ้น พร้อมๆ กับการก่อตัวของความใกล้ชิด ที่ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" เข้ามาสวมแทน

กรณี ครม.เห็นชอบ คำสั่งแต่งตั้ง "อุทัย แสนแก้ว" น้องชาย "ธีระชัย" ที่เป็นเพื่อนตายกับ "ขวัญชัย" เป็นที่ปรึกษา รมช.คมนาคมของ "ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ" จาก "กลุ่มเพื่อนเนวิน"

เป็นการบ่งบอกว่า กระบวนการย่อยสลาย "เสื้อแดง" ได้เกิดขึ้นแล้ว

วันนี้ความฝันของวลี "แม่น้ำร้อยสาย" ของ "แก๊งสามเกลอ" ที่มวลชนจะหลั่งไหลมาจากทั่วภูมิภาค ดูท่าจะเลือนราง

ภาพรวมพลนับแสน ที่ราชมังคลากีฬาสถาน อาจเป็นภาพสุดท้าย ที่จะใส่กรอบเอาไว้เป็นที่ระลึก

จึงเป็นเหตุให้ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ถึงกับต้องออกโรงเอง ด้วยการโฟนอินผ่าน "ดี สเตชั่น" ในวันที่ 25 มกราคม

คล้ายหนังจีน ที่เมื่อใดถึงคิวเจ้าสำนักต้องออกโรงเอง แสดงว่าเมื่อนั้น กำลังใกล้ถึงตอนอวสานแล้ว

แบบนี้ "รัฐบาลประชาธิปัตย์" นั่งยิ้มได้ทั้งวัน..

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์