ขู่เพื่อไทยตั้งทักษิณนั่งกุนซือส่อขัดกม.ถึงขั้นยุบพรรค

กกต.ขู่ เพื่อไทย ตั้ง"ทักษิณ" ที่ปรึกษา ส่อขัด ก.ม.ถึงขั้นยุบพรรค พท.ไม่สนยันดูกฎหมายมาดีแล้ว สวนกลับเลือกปฏิบัติ ปชป.เหน็บ หวังแค่ทุนอย่างเดียว ไม่มีทางดึงเพื่อนเนวินกลับได้ โหร คมช.ชี้ผ่านเมษา "มาร์ค"อยู่ยาว

ความเคลื่อนไหวในการปรับกลยุทธ์สู้รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดก็มีแนวคิดที่จะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาพรรค แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาเตือนว่าอาจมีปัญหาถึงขั้นยุบพรรคได้

นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ระบุว่า แม้กฎหมายจะไม่ระบุว่า ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่สามารถเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองอื่นได้ แต่ต้องระวัง เพราะอาจมีผู้ร้องเรียนภายหลังส่งเรื่องให้ กกต.วินิจฉัย ซึ่งหากวินิจฉัยว่าผู้ที่ถูกแต่งตั้งมีความผิด หรือส่อไปในลักษณะกระทบความมั่นคงของประเทศ ขัดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคทันที

นางสดศรีกล่าวอีกว่า ไม่ทราบจุดประสงค์ที่พรรคเพื่อไทยจะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา เพราะอะไร เนื่องจากต้องมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน และคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เช่นเดียวกับพรรคเพื่อแผ่นดิน เคยส่งเรื่องให้วินิจฉัยกรณีคล้ายกันมาแล้ว และที่ประชุมก็มีมติว่า ไม่เหมาะสม พรรคเพื่อแผ่นดินก็ไม่ตั้งที่ปรึกษาซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวในกรณีเดียวกันว่า ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคมองว่า การตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาได้พิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และไม่มีกฎหมายระบุว่าต้องส่งรายชื่อที่ปรึกษาต่อ กกต. จึงขอยืนยันว่าพรรคจะไม่ถอดชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา

"ต้องถามกลับไปที่นางสดศรีว่าเหตุใดจึงไม่แสดงความคิดเห็น หรือไปจับผิดกรณีที่ นายเนวิน ชิดชอบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย ที่มีส่วนร่วมในการเปิดตัวพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น การที่นางสดศรี มุ่งประเด็นมาที่พรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว เหมือนเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะก่อนหน้านี้พรรคได้ทำหนังสือต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนายเนวิน นายสมศักดิ์ ที่อยู่เบื้องหลังการจับขั้วรัฐบาล และตั้งพรรคการเมือง โดยมีภาพนายเนวินไปกอดคอกับนายอภิสิทธิ์ ยืนยันได้ชัดเจน แต่ กกต.ไม่ดำเนินการอะไร แต่กลับพยายามจะโยงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณให้ประเด็นทางการเมือง เพื่อหวังให้เกิดการยุบพรรครอบ 3" นายสุรพงษ์กล่าว

นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดสายตาของกกต.จึงจ้องแต่จะจับผิดพรรคเพื่อไทย ทั้งที่มีอดีตกรรมการบริหารบางคนที่ถูกตัดสิทธิ เช่น นายเนวินเข้าไปมีบทบาทอย่างชัดเจน จึงอยากเตือนไปยัง กกต.และที่ผู้อยู่เบื้องหลังว่า ถึงแม้ว่านางสดศรีจะมาจากเผด็จการก็ควรจะอ่านกฎหมายให้รอบคอบ ไม่ควรออกหน้าออกตาให้มากจนเกินไป ขอประกาศแทนกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ถ้ามีการยุบพรรครอบ 3 ประชาชนจะไม่ยอม และเชื่อว่าจะมีคนไปตั้งพรรคชื่อพรรค “เพื่อกู” ขึ้นมาอีกครั้ง

นายอดิศร ในฐานะประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ดีทีวี กล่าวถึงความพร้อมในการออกอากาศว่า ในวันที่ 19 มกราคม นี้ ทีมงานจะทดลองออกอากาศตั้งแต่เวลา 06.00 น. ผ่านสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 ตนจะจัดรายการ “คุยกับอดิศร” ตั้งแต่เวลา 14.00-15.00 น. โดยเนื้อหาจะพูดถึงหลักการประชาธิปไตย ตลอดจนข้อมูลเชิงลึก เช่น เรื่องการตั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ไม่ชอบธรรม และในอนาคตจะเปิดข้อมูลที่ทหารมาแทรกแซงการเมืองในเชิงลึก เพราะขณะนี้มีข้อมูลจากข้าราชการประจำ และคณะกรรมาธิการการทหาร เรียบร้อยแล้ว

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเตรียมดึง พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษานั้นถ้าไม่ผิดกฎหมายก็สามารถทำได้ แต่อยากเรียน พ.ต.ท.ทักษิณว่า วันนี้บ้านเมืองบอบช้ำมามาก อยากให้ช่วยกันมาคลี่คลายปัญหาของบ้านเมือง

นายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาพรรคว่า เป็นเพียงการหลอก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้มาช่วยเรื่องทุนเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว คนอื่นๆ เดินไปไกลแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณยังจมอยู่กับอดีต จึงไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไรกับข่าวพรรคเพื่อไทยจะใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดึงส.ส.เพื่อนเนวินกลับไปร่วมรัฐบาล เพราะเป็นไปไม่ได้

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายว่า เพื่อพิจารณากฎหมายทุกฉบับที่เข้าสภาและนำมาขับเคลื่อนนโยบาย และเพื่อให้งานด้านกฎหมายรวดเร็วขึ้นควบคู่ไปกับงานด้านกฤษฎีกา แต่คณะกรรมการชุดนี้ไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ซึ่งนายกฯ จะเป็นผู้แต่งตั้งภายหลัง

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายจะไม่ทำงานด้านกฎหมายของรัฐบาลอย่างเดียว แต่เป็นที่ปรึกษากฎหมายอื่นๆ ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการทาบทาม ซึ่งนายกฯ มีดำริต้องการให้แก้ไขความขัดแย้งในบ้านเมือง ต้องการเห็นความยุติธรรมและความเป็นธรรม ดังนั้น คณะกรรมการเหล่านี้จะดูแลภาพรวมในเรื่องปัญหาของคดีและกฎหมาย โดยจะมาช่วยเร่งรัด ทำให้รู้สึกว่ามีความเป็นธรรมมากขึ้นในการแก้ไขปัญหา เป็นการแนะแนวทางต่างๆ ให้แก่รัฐบาล ทำให้รัฐบาลตัดสินใจได้ดีขึ้น

สำหรับความคืบหน้าการจัดรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในระหว่างเวลา 09.00-10.00 น. วันที่ 18 มกราคม นี้ เจ้าหน้าที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีได้มาจัดเตรียมสถานที่บริเวณห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ ได้คัดเลือกประชาชนจากทั่วประเทศ จำนวน 39 คนมาร่วมรายการด้วย และอาจเปิดโอกาสให้ได้ซักถามด้วย ทั้งยังได้จัดเตรียมห้องสีเขียวสำหรับผู้สื่อข่าวและผู้ติดตามด้วย เนื้อหาของรายการจะเป็นการชี้แจงแนวทางการทำงานของรัฐบาล รวมถึงการเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 17 มกราคม ส่วนรูปแบบของรายการจะมีทั้งรายการสด และสัญจรไปตามสถานที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยให้จับตาเกมในสภา โดยเฉพาะกรอบการเจรจาอาเซียน และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายกลางปี เพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจการจัดงบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่กระจุกอยู่ในกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแลว่า ในวันจันทร์ที่ 19 มกราคม นี้ วิปรัฐบาลจะประชุมกัน โดยจะพิจารณากรอบการประชุมสภาในวันที่ 21-22 มกราคม และพิจารณากรอบการประชุมร่วมสภาวันที่ 26-27 มกราคม เรื่องกรอบการเจรจาอาเซียน

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหาเรื่องการดูแลเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะได้เสนอหลักการในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลว่า ให้ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลเข้าชี้แจงรายละเอียดต่อที่ประชุมพรรคของตัวเอง และขอให้วิปช่วยประสานงานไปยัง ส.ส. และรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยกันตรวจสอบองค์ประชุม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายที่รัฐบาลเสนอ เบื้องต้นได้ตั้งเป็นคณะทำงานควบคุมเสียง ส.ส.ในสภา โดยกำหนดให้วิป 1 คน ดูแล ส.ส. 5 คน

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการประสานงานด้านการเมือง ซึ่งมีตนเป็นหัวหน้าคณะประสานกับรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาล และยังมีคณะทำงานด้านกฎหมาย ที่มี นายทิวา เงินยวง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน มีหน้าที่ประสานข้อกฎหมายกับ ครม. จึงมั่นใจว่าเสียงรัฐบาลที่มีอยู่ 261 เสียงจะเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง และโหวตในแนวทางเดียวกัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์