ดี สเตชั่น หมากสุดท้าย เกม ยื้อลมหายใจ ทักษิณ

การเปิดตัว "สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ดี สเตชั่น" ทำให้เห็นชัดเจนว่า "จุดประสงค์" ที่ซ่อนอยู่นั้นคือ การช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย

แม้ "อดิศร เพียงเกษ" ที่สวมหัวโขนเข้ามารับตำแหน่ง "ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดีสเตชั่น จำกัด" จะบอกว่า "ดี สเตชั่น เป็นการรวบรวมทุนจากพรรคพวกพี่น้องล้านกว่าบาท เพื่อมาก่อตั้งบริษัท โดยไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในสภาพของคนที่ลอยคออยู่กลางมหาสมุทร ที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะถึงฝั่ง แม้แผ่นดินก็ยังไม่มีจะอยู่และแทบจะไม่เหลืออะไร....จึงทำให้ไม่กล้าไปรบกวน"

แต่ไม่ว่าจะเป็น "วีระ มุสิกพงษ์" "จตุพร พรหมพันธุ์" "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" "จักรภพ เพ็ญแข" 3 อดีตแกนนำม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) หรือ "นพดล ปัทมะ" อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี "สุนัย จุลพงศธร" ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ไปจนถึง จาตุรนต์ ฉายแสง หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย และ พงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ

ทั้งหมดล้วนถูกตีตรายี่ห้อ "ทักษิณ" หรา...

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ "ดี สเตชั่น" นั้นถูกเร่งให้คลอดก่อนกำหนดกว่า "เดือนครึ่ง" จากเดิมที่ถูกกำหนดให้ออกอากาศในวันที่ 1 มีนาคม เพื่อใช้เป็นช่องทางในการรุกหนัก "ประชาธิปัตย์"

แต่สถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและรุกเร้า "พรรคเพื่อไทย" อย่างหนักทุกด้าน

ไม่ว่าจะเป็น "รัฐบาลอภิสิทธิ์" ที่เริ่มตั้งหลักได้และอัดฉีดประชานิยม ลงยึดพื้นที่รากหญ้า

ไปจนถึง "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ที่เปิดตัวเข้า "พรรคภูมิใจไทย" พร้อมแผนการดูด "ส.ส.เพื่อไทย" เข้าสังกัด ต่างเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องตัดสินใจเดิน "เกมสุดท้าย" ก่อนกำหนด

เพื่อใช้ค้ำยัน "เพื่อไทย" ให้สามารถยืนอยู่ในสมรภูมิของการต่อสู้ต่อไปได้ ก่อนที่จะต้องหลุดพ้นวงโคจรไป ทั้งๆ ที่ยังไม่มีโอกาสไหว้ครู

ซึ่งที่ผ่านมา "เพื่อไทย" ที่ถูกปลุกปั้นขึ้นมาโดยคนของ "ตระกูลชินวัตร" และ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ไม่เคยสัมผัสกับคำว่า "ชัยชนะ" แม้แต่ครั้งเดียวในการก่อตั้งพรรค มิหนำซ้ำยังดูเหมือนว่าจ สะกดเป็นแต่คำว่า "พ่ายแพ้" ในทุกจังหวะที่จะต้องช่วงชิงทางการเมือง

เพราะ "พลังประชาชน" ถูกสั่งให้ยุบพรรค และถูก "ประชาธิปัตย์" ช่วงชิง "อำนาจรัฐ" "กลุ่มเพื่อนเนวิน" และ "อดีตพรรคร่วม" ไปต่อหน้าต่อตา

ล่าสุด เลือกตั้งซ่อม ส.ส.29 คน เมื่อวันที่ 11 มกราคม แม้ "เพื่อไทย" จะชนะมาได้ 5 เขต จาก "อุดรธานี" "นครพนม" "ร้อยเอ็ด" "มหาสารคาม" และ "ลำปาง" แต่ " 4 เขต" กลับมีข่าวแว่วออกมาว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังตั้งท่าจะสอยลงจากเก้าอี้ ส.ส. ซ้ำอีก

ยิ่งทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า "เพื่อไทย" และ "พ.ต.ท.ทักษิณ" วันนี้แทบจะหมดหนทางในการต่อสู้

โดยเฉพาะ ในเกมของ "สภาผู้แทนราษฎร" ที่บรรดา "แกนนำพรรคเพื่อไทย" เคยคิดกันไว้ว่าจะใช้เป็นเวทีหลักที่ "เพื่อไทย" จะใช้ปัจจัยที่เหลืออยู่มาทุ่มสุดตัว เพื่อดึง "ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน" ให้กลับมาอยู่ในสังกัด เพื่อสร้างสรรค์โอกาสในการ "พลิกขั้ว" ทางการเมืองอีกครั้ง

แต่ด้วยจำนวน ส.ส. "ฝ่ายค้าน" กับ "รัฐบาล" ที่ทิ้งช่วงห่างกันมากขึ้น จากการเลือกตั้งซ่อม ได้ทำให้โอกาสต่างๆ ของ "เพื่อไทย" ลดน้อยลง จนเหลือเพียงไม่กี่ "เกม" ที่จะสามารถเลือกมาใช้ได้

จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ยุทธศาสตร์ "มวลชน" ใหม่ทั้งระบบ ซึ่งถือเป็น "หมากเดียว" และ "หมากสุดท้าย" เพื่อรักษาฐานเสียงและอิทธิพลทางการเมืองของ "พ.ต.ท.ทักษิณ"

และบำบัดอาการ "เสื้อแดงแตก" อย่างเร่งด่วน เพื่อให้กลับมาแข็งแกร่งก่อนการเดินเกมรุกทางการเมือง "รัฐบาลอภิสิทธิ์" อีกครั้ง

ด้วยการอิงแอบ "สิทธิ-เสรีภาพ" ของ "สื่อมวลชน" และหลบหลัง "ประชาธิปไตย"

ในการเดิมเกมปลุกระดมมวลชน ก็เป็น "ช่องทาง" สุดท้ายที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" และ "พรรคเพื่อไทย" พอที่จะอ้างในการ "เงยหน้า" ขึ้นมาหายใจ

ในภาวะที่ตัวเองแทบจะไม่มีโอกาสเคลื่อนไหวอะไรได้อีก...

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์