สภานร.วอนอภิสิทธิ์แก้เด็กติดเกมส์-การศึกษาใต้

สภานักเรียนไทยวอนนายกฯแก้เด็กติดเกมส์ ขณะที่เด็กใต้วอนรัฐบาลใส่ใจเรื่องการศึกษา อย่ามุ่งแก้ความปลอดภัยอย่างเดียว ด้านนายกฯชมการทำงานสภานักเรียน แนะศธ.ลอกแบบการทำงานของสภานักเรียนมาปรับการเรียนการสอนใหม่ ให้เด็กทำกิจกรรมเพิ่ม เลิกยึดติดเรียนในห้อง ต้องเรียนรู้จริงนอกห้องเรียน

(10ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมประชุมสภานักเรียนไทย หัวใจสมานฉันท์ ยึดมั่นธรรมาภิบาล ที่ตึกสันติไม่ตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยตัวแทนสภานักเรียนฯได้นำเสนอ 3 โครงการ และ 3 ปัญหาเพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข

น.ส.ศิวาพร ขูรีรัง ม.5 ร.ร.ร้อยเอ็ดวิทยาลัย นำเสนอปัญหาเด็กติดเกมส์ว่า แม้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนพยายามแก้ปัญหาเด็กติดเกมส์แต่ยังขาดความจริงจังและต่อเนื่องในการดำเนินการ ปัจจัยส่งเสริมปัญหาจึงมีต่อไป ยังคงมีร้านเกมส์จำนวนมากเปิดใกล้ร.ร. เปิดเกินเวลาและให้เด็กเข้าไปเล่นเกมส์ได้โดยอิสระเสรี มีเกมส์อันตราย เวปไซต์ยั่วยุให้เด็กเข้าไปเล่นเกมส์ที่ไม่เหมาะสม เพราะฉะนั้น อยากขอให้นายกญช่วยจัดกิจกรรมให้เด็กแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ จัดพื้นที่ให้เด็กแสดงออก ที่สำคัญ ขอให้นายกฯช่วยกำกับติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำนินการแก้ปัญหาเด็กติดเกมส์อย่างจริงจัง ซึ่งเชื่อว่าจะทำได้สำเร็จแน่นอนถ้าผู้ใหญ่ให้ความสำคัญแก้ปัญหาจริงจัง

นายธเนศ กุลแอะ ร.ร.ยุพราชวิทยาลัย นักเรียนพิการทางสายตาในฐานะตัวแทนเด็กพิเศษนำเสนอปัญหาว่า การจัดการศึกษาให้เด็กพิเศษมีปัญหาขาดแคลนบุคคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับการจัดการศึกษาพิเศษและมีปัญหาขาดอุปกรณ์กาเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษ โดยเฉพาะ หนังสือ คอมพิวเตอร์สำหรับเด็กที่พิการทางสายตา รวมทั้งอยากให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดเรียนร่วมระหว่างเด็กพิเศษและเด็กปกติด้วย ปัจจุบันมีเด็กพิเศษเรียนร่วมไม่ถึงครึ่งที่มีโอกาสเรียนร่วม สาเหตุเพราะร.ร.ขาดแคลนบุคคลากรดูแลเด็กพิเศษ เพราะฉะนั้น ขอให้ช่วยจัดหาบุคคลากรเพิ่มเติม จากสัดส่วน 1 ต่อ 8 ขอเพิ่มเป็น 1 ต่อ 4

ด้านนายอับดุลอาซิ อับดุลเลาะ ร.ร.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ตัวแทนนักเรียนในพ้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำเสนอปัญหาว่า เด็กใน 3 จังหวัดภาคใต้ขาดโอกาสทางการศึกษาอย่างมาก เพราะร.ร.จำเป็นต้องปิดเรียนในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ เด็กจึงเรียนไม่ต่อเนื่อง มีความรู้ไม่พอที่จะสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้ โอกาสของเด็กใต้ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นั้นมีน้อยมาก แม้มหาวิทยาลัยจะมีโควต้าให้ แต่เด็กก็ไม่มีคุณภาพพอที่จะเรียน ผลผลิตออกมาก็ย่อมไม่มีคุณภาพตาม

“ อยากให้รัฐบาลไม่ใช่ส่งแต่กำลังตำรวจ ทหาร เข้าไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ขอให้ส่งบุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะด้านเข้าไปด้วย อย่าเน้นแต่เรื่องความปลอดภัย ต้องเน้นเรื่องการพัฒนาการศึกษาด้วย ดังนั้น ขอให้นายกฯและรมว.ศธ. ส่งบุคลากรที่มีความสามารถฉพาะด้านเข้าไปพัฒนาบ้านเมืองด้วย ซึ่งผมยืนยันว่า เยาวชนในพื้นที่นั้นพร้อมที่จะรับความรู้อยู่แล้ว “นายอับดุลอาซิ กล่าว

ด้านนายณัฐพงศ์ สมพันธุ์ ร.ร.ลานสภาประชาสรรค์ จ.นครศรีธรรมราช ประธานสภานักเรียนไทย 2552 นำเสนอ 3 โครงการที่สภานักเรียนไทยฯจะดำเนินการในปี 2552 ว่า สภานักเรียนจะทำโครงการ 3 ด้าน คือ ด้าน พฤติกรรมเด็กและเยาวชน ด้านวัฒนธรรมไทย และด้านสิ่งแวดล้อม โดยด้านสิ่งแวดล้อมจะทำโครงการ”นักสืบสิ่งแวดล้อม “ นั้น จะส่งเยาวชนไปเป็นนักสืบ สำรวจ สืบค้น สอดส่องปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพื่อชี้ให้คนในสังคมเห็นถึงการกระทำที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมและหาทางแก้ปัญหา ขณะเดียวกันการทำกิจกรรมดังกล่าวจะกระตุ้นให้เยาวชนรักสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

นายธีรธรรม วงศ์สา ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ รองประธานสภานักเรียนไทย กล่าวว่า ด้านวัฒนธรรม จะทำโครงการ “ แผนที่วัฒนธรรม “ ใช้เครือข่ายสภานักเรียนประสานไปยังนักเรียน เยาวชนในพื้นที่ร่วมกับปราชญ์ชุมชนในท้องถิ่นจัดทำแผนที่วัฒนธรรมของชุมชนบอกแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยววัฒนธรรมในชุมชน ซึ่งจะช่วยทำให้เราเกิดความรักและหวงแหนในวัฒนธรรมของตน รวมทั้งจะมีโครงการลานวัฒนธรรม เปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ในท้องถิ่น เข้ามาถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคลทั่วไป

น.ส.ปิยะนาถ สิริรัตนาวงศ์ ร.ร.สายธรรมจันทร์ จ.ราชบุรี เลขาประธานสภานักเรียนไทย กล่าวว่า ด้านพฤติกรรมเด็กและเยาวชนนั้น จะทำโครงการ “ ห้องเรียนชีวิต “ จัดหาอาสาสมัครมาสำรวจและสรุปปัญหาพฤติกรรมเด็กและเยาวชน แล้วจัดอบรมทักษะชีวิตให้เยาวชนเพราะปัจจุบันเด็กไทยขาดทักษะการใช้ชีวิตทำให้ตกเข้าไปอยู่ในปัญหาต่างๆ เช่น ยาเสพติดและมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับฟังข้อเสนอจากตัวแทนสภานักเรียนไทยว่า รูปแบบการทำงานของสภานักเรียนไทยที่มีประชุมตัวแทนนักเรียนแล้วนำเสนอข้อเสนอพร้อมร่วมมือกันทำกิจกรรมนั้น เป็นการเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตยในทางสร้างสรรค์ที่น่าซาบซึ้ง ในสังคมเวลาคิดถึงเรื่อง ปชต. จะคิดถึงเรื่องการแข่งขัน การเลือกตั้ง การช่วงชิงเรื่องอำนาจ ลุกลามไปถึงปัญหาผลประโยชน์ ที่จริงแล้ว หลักการสำคัญของ ปชต. คือ ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ และสามารถใช้สิทธิ เสรีภาพในการมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของตัวเอง ใช้สิทธิเสียง ร่วมทำงานกับผู้อื่น นำมาสู่ข้อเสนอในการแก้ปัญหา

ทั้งนี้ โครงการที่สภานักเรียนเสนอนั้น สะท้อนถึงรากฐานของสังคมได้มากกว่าข่าวสารประจำวันที่เน้นแต่นำเสนอข่าวเฉพาะหน้า คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางการเมือง แต่โครงการที่สภานักเรียนเสนอเป็นโครการแก้ปัญหาพื้นฐานที่กระทบทุกคน เป็นปัญหารากฐานของสังคมจริงๆ นอกจากนั้น รูปแบบของการทำโครงการของสภานักเรียนฯน่าจะสะท้อนกลับไปยังผู้จัดการศึกษา เพราะระบบการจัดการศึกษาในปัจจุบันนึกถึงแต่ห้องเรียน หลักสูตร ตำราเรียน ส่าเหตุจากที่ระบบการศึกษาของเรามีการแข่งขันกันมาก ทำให้ผู้ปกครอง ผู้กำหนดนโยบาย มุ่งหลักสูตรให้เด็กมีความรู้ในโรงเรียน ในสิ่งที่เด็กควรเรียน แต่ตนเชื่อว่า การเรียนรู้ ต้องเรียนรู้ในรูปแบบหลากหลายจะได้ผลมากกว่า โดยเฉพาะการเรียนรู้ปชต. คุณธรรม จริยธรรม ยากที่จะเรียนรู้ในห้องเรียน ต้องอาศัยการฝึกฝนและปฏิบัตจริงหล่อหลอม

“ ปัจจุบัน ศธ. มีภาระเฉพาะหน้าในเรื่องสร้างโอกาสทางการศึกษา นโยบายเรียนฟรีจำเป็นต้องทำให้เกิดขึ้นจริง และเป็นความตั้งใจรัฐบาลทำให้เกิดในปีการศึกษา 2552 เพราะเรื่องรียนฟรีนี้เขียนในกฎหมายป็นสิบปีแล้วแต่ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ แต่เมื่อเรียนฟรีดำเนินการไประยะหนึ่งหนึ่งแล้ว ศธ.น่าจะมีเวลาคิดเรื่องการปรับการจัดการเรียนการสอน สะท้อนในสิ่งที่สภานักเรียนไทยนำเสนอ โดยอาจปรับให้หลักสูตรตั้งแต่ระดับประถมศึกษาขึ้นไปนั้น ไม่ต้องเรียนในห้องเรียนทั้ง 5 วัน อาจจะมีหนึ่งวันหรือสองวัน ที่ใช้เวลาซักครึ่งวันให้เด็กได้ทำกิจกรรม เช่น กีฬา เข้าไปสัมผัสชุมชน เชื่อว่าทาง ศธ.จะนำแนวคิดไปดูว่า จะปรับการเรียนการสอนให้สอดคล้องอย่างไร “ นายกฯ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาเด็กติดเกมส์นั้นยอมรับว่า แก้ยากจริง ๆ และ โทษเด็กไม่ได้ ผู้ใหญ่บางคนยังติดสิ่งที่ไม่สมควรติด ทั้งนี้เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากลองสิ่งยั่วยวน เมื่อลองแล้วก็ติดจนยากถอนตัว อย่างไรก็ตา มาตรการสำหรับแก้ปัญหที่คิดออกมานั้น อาจปฏิบัติได้ระดับหนึ่ง แต่จะพบว่า การแก้ปัญหานี้ไม่ง่าย บางมาตรการอาจทำได้สำเร็จแต่ไม่ได้หมายความว่า ปัญหาจะหมดไป อย่างกรทำโซนนิ่ง ถึงทำได้สำเร็จ แต่ไม่ได้หมายความว่า เด็กจะแสวงหาแหล่งเกมส์ที่อื่นแทนไม่ได้ ส่วนการจะไปควบคุม จำกัดเด็กไม่ให้เล่นคอมฯนั้น ก็ไม่สามารถทำได้และไม่ควรควบคุมด้วย เพราะโลกยุคปัจจุบัน เด็กจำเป็นต้องใช้คอมฯเพื่อเรียนรูเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากแต่ต้อง กำกับให้เด็กอยู่กับคอมฯในกรอบเวลาเหมาะสม ให้เล่นเกมส์สร้างรรค์ เกมส์ที่ไม่สร้างค่านิยมผิด ๆ ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งเป็นหน้าที่ทุกฝ่ายที่จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาแต่ไม่มีอะไรดีเท่ากับการทำให้เด็กรู้จักสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง สร้างวินัยให้ตัวเอง และสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็ก

นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาเด็กพิเศษนั้น จริง ๆ แล้ว ศธ.พยายามทำเรื่องนี้มาประมาณสิบปี ตนรู้เพราะในช่วงนั้นเป็นกรรมาธิการการศึกษาของรัฐสภาได้เสนอเรื่องนี้อย่างเป็นระบบและได้รับการตอบสนองจากกระทรวง หน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างดี ภายหลังมีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ สร้างความตื่นตัวให้กับการจัดการศึกษาพิเศษแต่ยากที่สุด คือ การจัดหาบุคคลากร แม้มีเงินใช้ว่าจะหามาได้ แต่ตนได้บอกรมว.ศธ.ไปแล้วว่า ต้องพัฒนาหลักสูตรผลิตครูที่สร้างคนมีความพร้อมมาทำหน้าที่ตรงนี้ได้

“ ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาการจัดการศึกษาในภาคใต้นั้น ในวันอังคารที่ 13 ม.คนี้ รองนายกฯ ที่ดูแลด้านนี้ จะตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีขึ้นมาดูแลปัญหาภาคใต้โดยเฉพาะ ไม่ใช่ดูเฉพาะปัญหาความมั่นคงอย่างเดียว เพราะปัญหาภาคใต้นั้น ไม่สามารถแก้ได้โดยใช้นโยบายกำลังคน ตรงกันข้ามทางออกในการแก้ปัญหานั้น จะผูกกันใกล้ชิดกับนโยบายอื่น โดยเฉพาะนโยบายการศึกษา วัฒนธรรม จะต้องจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เป็นการจัดการศึกษาที่หลากหลาย กลมกลืน สอดคล้องกับวิถีชีวิตในพื้นที่ “ นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายว่า หลังจากนั้น นายกฯได้เป็นประธานเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ 4 ประเภท คือ พื้นที่เรียนรู้ พื้นที่เล่น พื้นที่สื่อ และพื้นที่ความคิด โดยนายกฯ กล่าวภายหลังว่า คำขวัญวันเด็กนั้น ฉลาดคิด คือ มุ่งหวังให้เด็กซึ่งอยู่ในโลกยุคข่าวสารได้เรียนรู้ รู้จักคิด เลือกสื่ออย่างสร้างสรรค์ ในส่วนของรัฐบาลจะพยายามเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชน จิตบริสุทธิ์ เป็น ความหวังในมุ่งหวังในความดีงาม ให้เด็กมีคุณธรรม จริยธรรม จิตอาสา มีสุขจากาการเป็นผู้หให้ มีความเสียสละ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีของสังคม ซึ่งรัฐบาลจะต้องส่งเสริมใหเกิดกิจกรรมบ่มเพราะนิสัยรักความดีแก่เด็ก

ส่วนจุดประกายฝันนั้น ต้องการ ให้เด็กทุกคนค้นพบพลังของตัวเอง มีแรงบัดาลใจใช้ชีวิตมีเป้าหมาย มีระเบียบแบบแผน ที่สุดเด็กมีที่ยืนในสังคม ซึ่งหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องสร้างโอกาสที่หลากหลายในสังคม ผูกผันสามาคี คือ เรียนกรู้อยู่ร่วมกันกับผู้อื่น หลอมร่วมพลังสร้างสรรค์ของเด็ก ทำให้ประเทศของเราสงบสุข เป้นบ้านเมืองน่าอยู่ ซึ่งตนและรัฐ ทำหน้าที่ให้พร 4 ประการเป็นจริง คือ 1 ทำให้พื้นที่สร้างสรรคสำหรับเด็กมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยต้องเพิ่มกลไกสนับสนุนการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ เช่น มีกองทุนทำหน้าที่นี้ ระดมทรัพยากรจากการมีเทคโนโลยีสมัยใหม่

2.ส่งเสริมกลไกการเรียนรู้สำหรับเด็ก โดยระดมความร่วมมือทุกภาคส่วนที่มีภารกิจเพื่อการพัฒนาของเด็กให้ทำหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันมีองค์กรที่ทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่แล้วแต่ขาดการขยายผล ขาดสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันให้เด็ก 3. รัฐจะต้องส่งเสริมการทำงานทุกภาคส่วน เชิญภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้รู้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนากลไกการเรียนรู้สำหรับเด็ก

4.ในส่วนภูมิภาค มีองค์กรปกครรงส่วนท้องถิ่น กลไกระดับท้องถิ่นจำนวนมาก ที่มีทรัพยากรและอยู่ใกล้ชิดชุมชน ใกล้ชิดร.ร. เพราะฉะนั้น จะต้องดึงบทบาทองค์กรท้องถิ่น เข้ามาทำงานการศึกษา สร้างพื้นที่สร้างรรค์ให้เกิดความกว้างขวางมากขึ้น ทำให้เกิดสภาวะแวดล้อมเอื้อต่อการพัฒนาเด็กมากขึ้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์