นพดล”บี้อภิสิทธิ์”ทวงคืนพระวิหาร

 นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ แถลงข่าวว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึก เพื่อสอบถามไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อถามว่า 1.รัฐบาลมีนโยบายที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารหรือไม่ 2.ที่นายอภิสิทธิ์เคยอภิปรายว่า ไทยยกเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา แต่ที่ดินใต้ปราสาทยังเป็นของประเทศไทย ทั้งๆ ที่กระทรวงการต่างประเทศเห็นแตกต่าง ดังนั้น รัฐบาลจะต้องไปเจรจาขอที่ดินคืน หรือรัฐบาลจะต้องเจรจาขอค่าเช่าจากกัมพูชา หากไม่ดำเนินการแสดงว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาเป็นการจุดกระแสข้ามชาติปาหี่และพูดเท็จ และ 3.นายอภิสิทธิ์เคยคัดค้านว่าแผนที่ชุด L7017 ตรงบริเวณปราสาทพระวิหารไม่ใช่เขตแดนประเทศไทย แต่เท่าที่ตรวจสอบกรมแผนที่ทหาร กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ต่างก็ยอมรับในแผนที่ดังกล่าว และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2541 ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในขณะนั้น ก็ยอมรับแผนที่ โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกาในปี พ.ศ.2541 ตรงนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่นายอภิสิทธิ์อภิปรายในสภาอย่างสิ้นเชิง ว่าไม่ใช่เส้นเขตแดน แต่เวลาทำนายอภิสิทธิ์ไม่ทำตรงกับสิ่งที่พูด จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมีจริยธรรมมากกว่านี้ ให้พูดและทำตรงกัน

 นายนพดลบอกอีกว่า รู้สึกไม่สบายใจท่าทีของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เพราะทราบว่านายกษิตได้พูดและแสดงความเห็นอย่างหยาบคายต่อสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ล่าสุดทราบว่านักการทูตในกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่สบายใจอย่างมาก จึงขอฝากไปถึงนายกษิตว่า รมว.ต่างประเทศที่ดีควรยึดหลัก ดังนี้ 1.คิดก่อนพูด เพราะหลังการพูด คำพูดจะเป็นนายเรา 2.จะต้องไม่เป็นคนกลับกลอก 3.ไม่ควรนำความคิดส่วนตัวไปกล่าวต่อว่าประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และ 4.ไม่ควรโยนความผิดให้ข้าราชการประจำ

เผยแม้วไม่เปิดเผยที่อยู่กลัวไม่ปลอดภัย

 เมื่อถามว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ติดต่อพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บ้างหรือไม่ นายนพดล ในฐานะอดีตที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายฯ กล่าวว่า ล่าสุดได้พูดคุยก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์จะจัดตั้ง ครม.เสร็จสิ้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พักอยู่ที่ไหน เพียงทราบว่าอยู่ในประเทศในทวีปเอเชีย และ พ.ต.ท.ทักษิณก็ทราบข้อมูลมาว่ากลไกอำนาจของรัฐบาลประชาธิปัตย์พยายามสืบหาที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในการเปิดเผยที่อยู่

"สันติ”โร่แจงป.ป.ช.คดีพระวิหาร

 เมื่อเวลา 09.45 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมว.คมนาคม ได้มาที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะทำงานตรวจสอบ กรณีการถอดถอน ครม.สมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ข้อหากระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เรื่องการออกมติ ครม.สนับสนุนประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา โดยใช้เวลาชี้แจงประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงเดินทางกลับทันที โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์

 น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวนคดีการถอดถอน ครม.รัฐบาลนายสมัคร กรณีออกมติ ครม.สนับสนุนประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา กล่าวว่า ขณะนี้มีพียงนายสันติที่มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ส่วนนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และนางอุไรวรรณ เทียนทอง อดีต รมว.แรงงาน ได้ส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาแทน ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ได้แจ้งขอเลื่อนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ซึ่งคณะทำงานก็อนุญาต

 น.ส.สมลักษณ์ กล่าวต่อว่า หากผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาคนใดไม่ยอมมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะทำงาน โดยไม่แจ้งเหตุผล ก็จะถือว่าไม่ติดใจในการแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นคณะทำงานก็จะสรุปสำนวนคดี เพื่อส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาต่อไป

กกต.เผยยอดผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม 83 คน

 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กกต.ได้รับรายงานจาก กกต.ประจำจังหวัด ที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างจำนวน 29 ตำแหน่ง ใน 22 จังหวัด 26 เขตเลือกตั้ง ว่า จากการเปิดรับสมัคร ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 22-26 ธันวาคม 2551 อันเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัครนั้น ปรากฏว่ามีผู้สมัครทั้งสิ้น 83 คน จาก 13 พรรคการเมือง โดยแยกเป็นชาย 60 คน และหญิง 23 คน พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครมากที่สุด 19 คน รองลงมาพรรคชาติไทยพัฒนา 13 คน เขตที่มีผู้สมัครมากเป็นอันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ เขต 10 มีผู้สมัครทั้งสิ้น 5 ราย ในขณะที่จังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุด คือ ปทุมธานี เขต 1 ราชบุรี เขต 1 ศรีสะเกษ เขต 2 สระบุรี เขต 2 สิงห์บุรี เขต 1 อุทัยธานี เขต 2 ซึ่งมีผู้สมัครเพียง 2 ราย จาก 2 พรรคการเมืองที่แข่งขันกัน

วิน จยย.บุกทภ.1 ทวงสัญญาทหาร

 วันเดียวกัน กลุ่มแกนนำวินรถจักรยานยนต์รับจ้างจาก 50 เขต กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,000 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.ธนา รำพึงกิจ ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นตัวแทนรับหนังสือ หนังสือดังกล่าวระบุว่า กลุ่มแกนนำวินรถจักรยานยนต์รับจ้างต้องการเรียกร้องให้ทหารออกมาแก้ไขปัญหา กรณีที่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ออกมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ด้วยการเก็บส่วย และเก็บค่าเสื้อ รวมทั้งปัญหาเรื่องป้ายขาวที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เข้าสู่ระบบ ในฐานะที่กองทัพมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลความมั่นคงของบ้านเมือง และเป็นทหารของประชาชน ซึ่งในครั้งที่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มีการเรียกกลุ่มวินรถจักรยานยนต์เข้าไปพูดคุย เพื่อไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งกองทัพรับปากและยืนยันว่าจะดูแลกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ วันนี้ทางกลุ่มจึงขอมาทวงสัญญา และขอให้ทหารออกมาดูแล ไม่ให้ผู้ที่มีอิทธิพลเข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เพราะตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาล มีกลุ่มอิทธิพลขึ้นมาจากส่วนการเมือง เข้ามาเปลี่ยนแปลงและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไป

ปลุกผียายเนื่อมทวงคืนที่ดินอัลไพน์

 นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้ออกมาระบุชัดเจนว่า จะให้กรมที่ดินเข้าไปตรวจสอบนิติกรรม และกระบวนการออกเอกสารสิทธิที่ดินของบริษัทอัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด บริษัทอัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ซึ่งไปซื้อเอกสารสิทธิที่ดินมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทั้งที่เป็นที่ดินวัด ซึ่งนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่บริจาคที่ดิน 924 ไร่ ให้แก่วัดธรรมาธิการาม จ.ปทุมธานี ซึ่งแม้ตอนนี้ เรื่องจะระงับไปแล้วหลังจากนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้มีความเห็นสั่งยุติเรื่อง ทำให้ไม่ต้องมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าว แต่ก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อหวังผลการเมือง แต่หากพบว่ากระบวนการต่างๆ ในการออกเอกสารหากทำผิด ก็ต้องมีการฟ้องเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์