เปิดคำให้การพัชรวาท วงษ์สุวรรณ มัดสมชาย-บิ๊กจิ๋วสั่งลุยม็อบ7ตุลาฯ-ส่งคนสนิทคุมผบ.ตร.แจ

พล.อ.พัชรวาทถาม นายกรัฐมนตรี(สมชาย วงศ์สวัสดิ์)ว่า จะเอายังไง นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ผู้ให้ถ้อยคำรีบไป ผู้ให้ถ้อยคำพยายามอธิบายนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีสั่งผู้ให้ถ้อยคำให้รีบไปปฏิบัติ

หมายเหตุ"มติชนออนไลน์" คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)มีมติเห็นชอบตามรายงานของคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 กรณีการสลาบการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม 2551ซึ่งมีผลสรุปว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้สั่งการให้มีการสลายการชุมนุม และ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ รวมทั้งรัฐมนตรีที่อยู่ด้วยในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม แต่มิได้คัดค้านการใช้กำลังและระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม เข้าข่ายเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้บุคคลอื่นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส, ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 295, 297, 288, 289, 84

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)จนถึงนายพลระดับรองผู้บัญชาการและ พ.ต.ท.กว่า 20 นาย อาจเข้าข่ายเป็นความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติและ/หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตร 157, 295, 288, 289, 83 ด้วย
 
ต่อไปนี้เป็นการให้ถ้อยคำที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณให้ไว้ต่อคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 ซึ่งยืนยันว่า  นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้สั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติการเพื่อเปิดทางให้สมาชิกรับสภาเข้าไปประชุมรัฐสภาเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายให้ได้ในเวลา 05.00น.ของวันที่ 7 ตุลาคมโดยไม่ยอมย้ายที่ประชุมตามข้อเสนอของ ผบ.ตร.
-----------------------------------------------
 
ในคืนวันที่ 6 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 23.00 นาฬิกา นายบุญทรง ไม่ทราบนามสกุล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ประสานมา เพื่อขอให้ผู้ให้ถ้อยคำเดินทางไปเข้าร่วมประชุมกับคณะรัฐมนตรีที่อาคารสนามบินดอนเมือง

เมื่อผู้ให้ถ้อยคำเดินทางไปถึง คณะรัฐมนตรีพร้อมแล้วโดยมี พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก, พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายของ นายบรรหาร ศิลปอาชา และบุคคลอื่นๆ อีกหลายคน ผู้ให้ถ้อยคำจำไม่ได้ทั้งหมด ยกเว้นนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ยังมาไม่ถึง

พล.อ.ชวลิต  สอบถามผู้ให้ถ้อยคำว่า มีวิธีการใดที่คณะรัฐมนตรีจะเข้าไปประชุมรัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ได้ ผู้ให้ถ้อยคำแถลงชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

ผู้ให้ถ้อยคำแถลงชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า

1) จะดันเข้าไปได้อย่างไร มีประชาชนจำนวนมากมาย หากดันเข้าไป จะมีคนได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า

2) เปลี่ยนที่ประชุมได้หรือไม่ เนื่องจากมีสถานที่ที่จะสามารถใช้ในการประชุมเป็นจำนวนมากมาย หากจะยืนยันว่าจะประชุมวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ก็สามารถเปลี่ยนสถานที่ประชุมได้ เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเข้ามาประชุม ผู้ให้ถ้อยคำได้โทรศัพท์สอบถามเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการรัฐสภา ผู้ให้ถ้อยคำจำชื่อและนามสกุลจริงไม่ได้ จำได้เพียงชื่อเล่นว่า "น้าหมู" หรือ นางสุวิมล ฯ

ผู้ให้ถ้อยคำแจ้งขอให้ เสนแนะต่อรัฐบาลเพื่อขอให้เปลี่ยนสถานที่ประชุมไม่ทราบว่า จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการรัฐสภาแจ้งกับผู้ให้ถ้อยคำว่า หากจะเปลี่ยนก็ทำได้ง่ายมาก เพียงส่งข่าวผ่านทาง SMS

3) ตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลต้องแถลงนโยบายภายใน 15 วัน ฉะนั้น จึงสามารถประชุมได้ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2551 และรัฐธรรมนูญก็มิได้บัญญัติความผิดไว้

อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่รับข้อเสนอของผู้ให้ถ้อยคำ และยืนยันจะประชุมที่รัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคม 2551
 
พล.อ.ชวลิต จึงสั่งการให้ผู้ให้ถ้อยคำปฏิบัติให้ได้ และได้เรียกผู้ให้ถ้อยคำเข้าไปในห้องเล็กอีกห้องหนึ่ง มี พล.ต.อ.โกวิท  รองนายกรัฐมนตรีไปด้วย และสั่งการให้ผู้ให้ถ้อยคำไปดำเนินการ

 ผู้ให้ถ้อยคำได้ออกจากห้องประชุมห้องเล็กนั้น แต่ยังไม่กลับเพราะต้องการพบนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี  พอนายกรัฐมนตรีมาถึงพร้อมกับ พล.ต.อ.จงรักษ์ จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผู้ให้ถ้อยคำถามนายกรัฐมนตรีว่า จะเอายังไง นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ผู้ให้ถ้อยคำรีบไป ผู้ให้ถ้อยคำพยายามอธิบายนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีสั่งผู้ให้ถ้อยคำให้รีบไปปฏิบัติ
 
จากนั้นคณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการประชุมต่อ ส่วนผู้ให้ถ้อยคำกลับไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์อยู่แล้ว ระหว่างนั้นผู้ให้ถ้อยคำได้พยายามติดต่อกับ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ ซึ่งเคยขึ้นพูดบนเวทีของพันธมิตรหลายครั้ง พล.อ.ปฐมพงศ์  พูดกับผู้ให้ถ้อยคำว่า ต้องนำไปปรึกษาแกนนำก่อน แล้วจะโทรกลับมาแจ้งผู้ให้ถ้อยคำ แต่ก็ไม่ได้โทรมาหาผู้ให้ถ้อยคำแต่อย่างใด

 ต่อมา พล.อ.ชวลิต พร้อมด้วย พล.ต.อ.บุญฤทธิ์ รัตนะพรตำรวจนครบาล พล.อ.ชวลิต  เป็นประธานในที่ประชุม  พล.ต.อ.จงรักษ์ จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ด้วยในการประชุมทั้งการประชุมคณะรัฐมนตรี และการประชุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

นอกจากนั้นยังมี พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายความมั่นคง ซึ่งดูแลการปฏิบัติตามแผน ฯ กรกฏ/48,พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พล.อ.ชวลิต  แจ้งว่า คณะรัฐมนตรีมีมติว่า พรุ่งนี้จะต้องไปประชุมเพื่อแถลงนโยบายที่รัฐสภาให้ได้

ผู้ให้ถ้อยคำยืนยันว่า "พล.อ.ชวลิต ฯ เน้นว่า เป็นมติคณะรัฐมนตรี และจะต้องประชุมรัฐสภาให้ได้" การสั่งให้ปฏิบัติหรือไม่จะอยู่ที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ โดยตกลงกันว่า จะเข้าทางประตูทางออกรัฐสภาตรงสามแยกพิชัย โดยต้องเปิดเส้นทางให้มีการประชุมให้ได้ ซึ่งผู้ให้ถ้อยคำรู้สึกเป็นห่วงมาก ขั้นตอนการปฏิบัติจริงๆ แล้ว อยู่ที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ คือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

 พล.ต.อ.ปานศิริ  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุชาติ  ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้ไปประชุมวางแผนกันในกลุ่มเด็ก ซึ่งตามแผนกรกฏ/48 หากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นก็สามารถดำเนินการตามแผนกรกฏได้ทันที พล.อ.ชวลิต ฯ ได้สั่งการให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 05.00 นาฬิกา

เมื่อ พล.อ.ชวลิต ฯ กลับแล้ว ยังคงทิ้ง พล.ต.อ.บุญฤทธิ์ ไว้ควบคุมกำกับดูแลผู้ให้ถ้อยคำด้วย ในลักษณะคอยเฝ้าผู้ให้ถ้อยคำจนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 นาฬิกา พล.ต.อ.บุญฤทธิ์  ได้กลับไปก่อน ส่วนผู้ให้ถ้อยคำกลับตอนสายๆ ผู้ให้ถ้อยคำดูเหตุการณ์ทางโทรทัศน์ ส่วนการรายงานยังไม่มีการดำเนินการตามที่ พล.อ.ชวลิต  สั่งให้เข้าดำเนินการในเวลา 05.00 นาฬิกา เพื่อเปิดช่องทางให้คณะรัฐมนตรีเข้าประชุมให้ได้

การสนธิกำลังจากหน่วยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำลังจากหน่วยใดก็ตาม ผู้บัญชาการเหตุการณ์จะเป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลกำลังพลทุกหน่วยที่เข้าปฏิบัติงานตามแผนกรกฏ ผู้ให้ถ้อยคำดูจากโทรทัศน์ในช่วงเช้า ผู้ให้ถ้อยคำไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถือกระบองแต่อย่างใด

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์