เติ้งชมอภิสิทธิ์ บอก ทักษิณ เดินคนละทาง

เย็นวันที่ 18 ธ.ค.  นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีคนหนุ่มอายุ 40 กว่าเหมือนต่างประเทศ

เป็นคนที่มีพลังมากพอควร มีประสบการณ์ทางการเมืองมานาน จะเป็นส่วนในการผลักดันในการขับเคลื่อนการทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีเดินสายไปพบภาคเอกชนธุรกิจต่างๆ ซึ่งภาคเศรษฐกิจในตอนนี้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต้องเร่งฟื้นฟูผลักดัน เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาหลังจากเหตุการณ์การยึดสนามบิน รวมทั้งต้องเร่งเรื่องการส่งออก เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศให้มาก ขณะเดียวกัน จะต้องดูแลความเดือดร้อนของประชาชนในทุกด้าน ซึ่งถือเป็นปัญหาหลัก


“ถือเป็นเรื่องท้าทาย ใครมาเป็นนายกฯตอนนี้เหนื่อยมีแต่ความทุกข์ ความสุขหาได้ยาก ก็ต้องให้กำลังใจและผมก็จะติดตามดูการทำงานของนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่เชื่อว่าจะทำได้ดี เพราะบุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์ มีมาก เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กทม. ก็เหมาะที่จะนั่ง รมว.คลัง และต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซากลับคืนมา ทั้งภาคอุตสาหกรรมการเกษตรและการท่องเที่ยว”

เมื่อถามว่า บุคลิกของนายอภิสิทธิ์จะสามารถสร้างความสมานฉันท์ได้หรือไม่ นายบรรหารตอบว่า เชื่อว่าได้ เพราะนายอภิสิทธิ์เท้าติดดินเหมือนกัน

อย่างการเดินสายพบคนนั้นคนนี้ และยังทราบว่าจะเดินทางไปยังภาคอีสานด้วย ขณะนี้ขอให้ดูการทำงานไปก่อน อย่าเพิ่งประเมินว่าทำได้หรือไม่ จะอยู่ยาวหรือไม่ ต้องดูการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน บางครั้งงานก็ต้องเสร็จก่อนคิด เมื่อคิดแล้วจะได้เสร็จเลย ส่วนม็อบสีนั้นสีนี้ขอวิงวอนให้รัฐบาลได้ทำงานสักระยะหนึ่งก่อน อย่าเพิ่งออกมา โดยเฉพาะวันแถลงนโยบายให้เขาทำงานไปก่อน อย่ามาปิดล้อมให้มีปัญหา ตอนนี้ถึงเวลาต้องถอยและเสียสละ เมื่อถามว่า โผ ครม.ของพรรคชาติไทยพัฒนาได้เสนอให้พรรคแกนนำหรือยัง นายบรรหารตอบว่า เรื่องการเมืองตนไม่เกี่ยว แต่คิดว่าเขาจะเสนอชื่อคนที่ดีได้พอสมควร  


เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า นายชุมพล ศิลปอาชาเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีด้วย นายบรรหารกล่าวว่า นายชุมพลเป็นคนเก่ง เคยเป็น รมช.คมนาคม เป็น รมว.ศึกษาธิการ และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร  เพราะฉะนั้นเขามีความรู้ความสามารถ แต่จะได้เป็นหรือไม่ตนไม่ทราบ 



จากนั้น เวลา 17.30 น. นายบรรหารได้ให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางโทรทัศน์สีช่อง 3 ตอนหนึ่งว่า

ก่อนที่จะย้ายขั้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ได้โทร.มาพูดคุย ก็บอกท่านว่าช่วยมาเกือบปีแล้ว ไม่ไหวแล้ว กลัวเจ็บ ลูกๆก็แย่ พรรคก็แย่ ขอไปรักษาไข้ก่อน แต่เราก็ยังเป็นพันธมิตรกันอยู่ แต่ทางเดินก็ไปอีกทางหนึ่ง ท่านก็เฉยไม่พูดอะไร แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ยังดีกันอยู่ ก็เป็นเพื่อนทุกคน ส่วนนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช มาขอเข้าพบก็บอกว่าอย่ามาพบเลยเพราะรัฐบาลเพื่อชาติเป็นไปไม่ได้ และคนที่จะเป็นนายกฯต้องมีบารมีมากพอสมควร อย่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ท่านไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่มีเงิน ไม่มีบารมี และความต้องการของแต่ละพรรคก็ต้องจัดการให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหา ขนาดพรรคประชาธิปัตย์จัดฟอร์มรัฐบาลก็ยังจัดไม่ได้

สำหรับความเคลื่อนไหวของคุณยายเนียม พันธุ์มณี หญิงชราที่หมั้นนายกฯอภิสิทธิ์ให้กับชาวอีสานนั้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี ได้เดินทางไปเยี่ยมคุณยายเนียม

ที่นอนพักรักษาตัวที่ตึก 4 ห้องพิเศษ 4 โรงพยาบาลม่วงสามสิบ ตั้งแต่ค่ำวันที่ 17 ธ.ค. ด้วยโรคความดันโลหิตสูง เพราะความปลาบปลื้มยินดีที่เห็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯคนใหม่ ยังไม่ลืมพร้อมพูดถึงคุณยายเป็นคนแรกในวัน รับตำแหน่ง จนทำให้ความดันเพิ่มสูงขึ้น ลูกหลานต้องนำตัวส่งเข้ารับการดูแลจากแพทย์ หลังได้ตรวจรักษาแล้ว แจ้งว่าอาการป่วยเกิดจากความตื่นเต้นดีใจ ไม่มีไข้หรือโรคอื่นเข้ามาแทรกซ้อน จึงให้นอนพักก่อนกลับบ้านได้ตามปกติ  


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แม้จะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล คุณยายเนียมยังนำป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์

ซึ่งมีรูปของนายอภิสิทธิ์ ที่คุณยายเนียมได้เก็บไว้ที่ห้องนอนที่บ้านตลอดเวลา มาไว้ในห้องข้างเตียงด้วย คุณยายเนียมบอกว่ารูปดังกล่าวตามติดคุณยายไปทุกแห่ง เพราะคุณยายรัก อยากให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ทุกคืนก่อนนอนคุณยายจะสวดมนต์ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้นายอภิสิทธิ์ และวันนี้ประเทศไทยก็ได้ นายกรัฐมนตรีชื่ออภิสิทธิ์สมใจ  

คุณยายเนียมยังเล่าต่ออีกว่า ตั้งแต่ตนเองเริ่มมี สิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ตนเองได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด นักการเมืองที่ตนชื่นชอบมีนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เนื่องจากทั้ง 2 คน เป็นคนที่มีบุคลิกลักษณะ เป็นคนอ่อนโยน ไม่มีนิสัยอันธพาลไปผิดกับใคร เชื่อว่าลักษณะเช่นนี้จะสามารถบริหารประเทศชาติไม่ให้เกิดความแตกแยกของคนในประเทศได้ เมื่อมีการเลือกตั้งทุก ครั้ง คุณยายเนียมจะบอกทุกคนในบ้าน ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ ยังเดินบอกกล่าวคนในหมู่บ้านให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ทุกคนก็พร้อมใจกันเลือกพรรคประชาธิปัตย์ยกหมู่บ้าน ทำให้หมู่บ้านของคุณยายเนียมไม่มีความขัดแย้งหรือแตกแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่ายเหมือนเช่นหมู่บ้านอื่นๆ ที่การเมืองเข้าไปทำให้คนในหมู่บ้านเกิดความแตกแยกกัน

เมื่อมีโอกาสได้พบกับนายอภิสิทธิ์ จึงมอบแหวนลงอาคมคาถามหานิยมของพระมหา 9 ประโยค ที่สวมอยู่ในมือมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ให้แก่นายอภิสิทธิ์หวังให้ได้เป็นนายกฯเข้ามาพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรือง พร้อมฝากให้ดูแลประเทศชาติอย่าให้ เกิดความวุ่นวาย อย่าลืมเข้ามาแก้ไขความยากจนของคนอีสานด้วย



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์