2หนุ่มโรฮีนจา เผย แฉวิธีผลักดันโรฮีนจา ให้อดข้าว-ว่ายน้ำกลับไทย

2หนุ่มโรฮีนจา เผย แฉวิธีผลักดันโรฮีนจา ให้อดข้าว-ว่ายน้ำกลับไทย

แฉวิธีผลักดัน"โรฮีนจา" ให้อดข้าว-ว่ายน้ำกลับไทย

2 หนุ่มโรฮีนจา เผยผ่านล่าม ระบุ ตม.ไทยใจดีให้ข้าวให้น้ำผลักดันกลับบ้านเกิด แต่พอไปถึงกับถูก ตม.ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เหลียวแล ปล่อยอด สุดท้ายทนไม่ไหวต้องหนีความหิว คว้าเชือกผูกขวด-แกลอนเป็นทุ่นว่ายน้ำเข้ามาฝั่งไทยอีกครั้ง วันพฤหัสที่ 21 พฤษภาคม 2558 เวลา 16:12 น. จากกรณีตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองระนอง เข้าตรวจสอบชายต้องสงสัย 2 คนว่าจะเป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เดินเตร็ดเตร่บริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ฝ่ายงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองระนองเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นายอาเมรามัน อายุ 24 ปี และ นายอับดุลมะยี อายุ 23 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวได้ให้การผ่านล่ามชาวเมียนมาว่า เป็นชาวโรฮีนจา มาจากรัฐอาระกัน โดยก่อนหน้านี้ถูกตํารวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) จับกุม ก่อนดำเนินการผลักดันตามขั้นตอนกฎหมาย ใช้เวลานานเกือบ 30 วัน ซึ่งระหว่างนั้นมีการดูแลเป็นอย่างดี กระทั่งถูกปล่อยตัวไปยังเกาะสอง แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาะสองกลับผลักดันออกมาอีก ด้วยการให้ว่ายน้ำเข้ามาฝั่งไทย มีการผูกขวด และแกลอนเป็นทุ่น พอผ่านบ้านของชาวบ้านก็เข้าไปขอข้าวขอน้ำกินประทังชีวิต กระทั่งเดินเท้ามาเรื่อย ๆ จนถูกจับกุมดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่บันทึกคำให้การไว้เป็นหลักฐาน แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าว กระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง"

 


2หนุ่มโรฮีนจา เผย แฉวิธีผลักดันโรฮีนจา ให้อดข้าว-ว่ายน้ำกลับไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การดำเนินการส่งตัวไปยังภูมิลำเนาเดิมของทั้งสองตามกฎหมายนั้น พบว่า ทางตม.ไทยผลักดันออกไปทางเรือ แต่ทาง ตม.ประเทศเพื่อนบ้านไม่มารับตัว และไม่ให้อาหารการกิน อ้างว่าไม่ใช่พลเมืองในประเทศ ทำให้ชาวโรฮีนจาดังกล่าวทนไม่ไหวหนีตายว่ายน้ำข้ามมาฝั่งไทยอีกครั้ง จนถูกจับกุมใน จ.ระนอง อย่างไรก็ตามชาวโรฮีนจายืนยันว่าถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจผลักดันตามขั้นตอนอีกครั้งก็คงจะซ้ำรอยเดิม ต้องว่ายน้ำข้ามกลับมาอีกแน่นอน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ ตม.ของไทย ก็ยังไม่ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด."

ขอบคุณ: http://www.dailynews.co.th/regional/322789


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์