ทักษิณยกหูแสดงความเสียใจพปช.ถูกยุบ บรรหาร นัดแต่งดำประชุมพรรค พปช.-ชท.ส่อปิ๋วเลื่อนปาร์ตี้ลิสต์

ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบ 3 พรรค "พปช.-ชาติไทย-มัชฌิมาฯ" หลังแถลงปิดคดีเสร็จ ปธ.ศาลยันตัดสินอิสระ "แม้ว"โทร.หาลูกพรรคทันทีแสดงความเสียใจ "เติ้ง" นัดแต่งดำประชุมพรรค พปช.-ชท.ส่อปิ๋วเลื่อนปาร์ตี้ลิสต์ กกต.ถก3ธ.ค.จัดเลือกตั้งซ่อม

"ทักษิณ"โทร.แสดงความเสียใจ พปช.ถูกยุบ
 
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน (พปช.) พรรคชาติไทย (ชท.) และพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 พรรคนั้น เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม เวลา 14.00 น. ส.ส.พรรคพลังประชาชน จากทุกภาคกว่า 20 คนนำโดยนายวิทยา บูรณศิริ ร่วมแถลงยืนยันความเป็นเอกภาพภายในพรรคพลังประชาชนเพื่อร่วมต่อสู้ทางการเมืองอีกครั้ง โดยนายวิทยา กล่าวว่า หลังที่มีคำตัดสินยุบพรรค ได้รับโทรศัพท์จากพ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่โทรศัพท์มาถึงตน โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 10 นาที  เนื้อหาการพูดคุย พ.ต.ท.ทักษิณแสดงความเห็นใจ และเสียใจ พร้อมกับฝากบอกที่ประชุมส.ส.พลังประชาชนว่า ให้กำลังใจและขอให้ต่อสู้เพื่อรักษาประชาธิปไตยไว้

ทั้งนี้ คาดว่าส.ส.พรรคพลังประชาชนทั้งหมดจะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยก่อนวันที่ 7 ธันวาคมนี้ เพื่อให้ทันต่อการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 2 ธ.ค. มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป โดยตนจะหารือกับตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง

ชาติไทยไหลเข้า"ชาติไทยพัฒนา"
 
นายกฤต รัตนคามินี หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า ภายหลังที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ทนายความของพรรคชาติไทยได้ติดต่อเพื่อขอให้ส.ส.ทั้ง 15 คนของพรรคชาติไทยเข้าเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาทั้งหมด และพร้อมจะเปิดรับทุกพรรคที่มีนโยบายตรงกับพรรคอยู่แล้ว ส่วนบุคคลจะมาเป็นหัวหน้าพรรคฯต้องเรียกประชุมใหญ่ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 ต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคชาติไทยพัฒนาได้จดแจ้งจัดตั้งพรรคเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2551 มีนายกฤต รัตนคามินี เป็นหัวหน้าพรรคฯ โดยปัจจุบันนายกฤตประกอบอาชีพทนายความและเป็นชาวจังหวัดสงขลา

"เติ้ง"เผยมีลางสังหรณ์
 
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกใจหาย เพราะพรรคอยู่มาถึง 34 ปีแล้ว ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ถือเป็นสถาบันการเมืองเช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้ก็เฉย ๆ เพราะอายุมากแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างไรก็ตามต้องรอการประชุมพรรควันที่  3 ธันวาคม ตนจะเปิดใจอีกครั้ง มีลางสังหรณ์ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ศาลรัฐธรรมนูญขอให้พรรคได้ส่งพยานเอกสารมาเพิ่มเติม ซึ่งเราก็ดีใจ แต่อีก 2 วัน ก็มีหนังสือมาถึงพรรคอีกหนึ่งฉบับว่าที่นัดไว้ไม่เอาแล้ว ของดการไต่สวน และวันที่ 2 ธันวาคมให้ไปแถลงปิดคดียุบพรรค เราก็สงสัยว่าต้องมีอะไรแน่นอน
 
เมื่อถามว่ามีการมองว่ามีการตั้งธงไว้แล้ว นายบรรหาร กล่าวว่า ก็คงจะเป็นอย่างนั้น ตั้งธงมาตั้งแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว และศาลรัฐธรรมนูญก็อ้างกกต.โดยไม่พิจารณาอะไรเลย และการเมืองจากนี้จะยุ่ง และนอมินีจะเกิดขึ้นทั่วประเทศ ทุกคนก็หาคนมาแทน ถ้าสามี ภรรยา หรือลูก ถูกบล็อกก็ต้องหาคนมาแทน ตอนนี้มีชื่อพรรคใหม่เรียบร้อยแล้ว จะไม่ไปรวมกับพรรคเพื่อไทย

สั่งแต่งดำประชุมพรรค3ธค.
 
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 237  วันนี้ผมถึงขนาดกราบศาลเกือบจะร้องไห้ผมถึงขนาดวิงวอน แต่ก็อย่างว่าเขาเขียนมาล่วงหน้าแล้ว" นายบรรหาร กล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่แถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ นายบรรหาร ได้สั่งประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรควันที่ 3 ธันวาคม เวลา 14.00 น. เพื่อกำหนดท่าและการทำงานทางการเมืองในชื่อพรรคใหม่ต่อไป โดยเน้นให้ทุกคนแต่งชุดดำมาเพื่อประท้วงคำตัดสินดังกล่าวด้วย

เลือกตั้งใหม่30เขต"พปช.-ชท."
 
ข่าวแจ้งด้วยว่า พรรคชาติไทยจะเหลือส.ส.เพียง 15 คน เนื่องจากมีส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคและถูกตัดสิทธิ์ รวม 16 คน โดยเป็นส.ส.สัดส่วน 3 คน

ขณะที่ พรรคมัชฌิมาธิปไตย ไม่มีกรรมการบริหารพรรคที่เป็นส.ส. ส่วนพรรคพลังประชาชน มีกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ 37 คน แบ่งเป็นส.ส.สัดส่วน 12 คน แต่ก่อนหน้านี้ได้ลาออกไปแล้ว 11 คน เหลือเพียงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทำให้ส.ส.สัดส่วนของพรรคพลังประชาชนหายไปแค่ 1 เสียง ขณะที่ส.ส.เขตที่เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนถูกตัดสิทธิ์ 14 คน เหลือส.ส.จำนวน 208 เสียง  
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ได้ประกาศเลื่อนรายชื่อส.ส.สัดส่วนมาแทนส.ส.สัดส่วนที่ลาออกไป 6 คน คือ นายสมัคร สุนทรเวช ,น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ,นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์, นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ,พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้วและ นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ซึ่งจะส่งผลให้ส.ส.พรรคพลังประชาชน หายไป 6 คนทันที

กกต.ถก3ธ.ค.จัดเลือกตั้งซ่อม
 
นายประพันธ์  นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า  ต้องรอผลการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประธานกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตาม มาตรา 95 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และวันที่  3 ธันวาคม กกต.จะหารือการจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วันแทนตำแหน่งส.ส.เขตที่ว่าง และเสนอให้ครม.รักษาการออกพ.ร.ฎ.ประกาศวันเลือกตั้ง ส่วนส.ส.ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคก็จะต้องไปหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน  60 วันตามรัฐธรรมนูญมาตรา  106 (8)

พปช.-ชท.ส่อปิ๋วเลื่อนปาร์ตี้ลิสต์
 
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลจากคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ทำให้มีกรรมการบริหารพรรคที่เป็นส.ส.สัดส่วนพ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ไปด้วย อาทิ พรรคชาติไทย 3 คน ได้แก่ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา และนายวีรศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรค พรรคพลังประชาชน 1 คน คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โดยมีข้อถกเถียงกันว่า จะสามารถเลื่อนผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อส.ส.สัดส่วนของแต่ละพรรคมาแทนได้หรือไม่

กกต.แนะส่งศาลรธน.ชี้
 
นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวว่า เป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎรจะดำเนินการอย่างไร เพราะกฎหมายกำหนดว่า กรณีที่ส.ส.สัดส่วนของพรรคการเมืองใดลาออกหรือเสียชีวิต ให้ประธานสภาฯพิจารณาเลื่อนลำดับขึ้นมาประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 7 วัน
 
"กรณีสส.สัดส่วนที่ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค แม้ส.ส.พรรคที่ถูกยุบจะสามารถไปหาพรรคสังกัดใหม่ได้ใน 60 วัน  แต่ยังมีปัญหาว่า ทำได้หรือไม่ เพราะกรณีที่เป็นบัญชีสัดส่วนของพรรค ก. เมื่อพรรคก.สิ้นสภาพบัญชีจะตกไปด้วยหรือไม่ หากดูในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 109 (2) ว่า เมื่อตำแหน่งส.ส.สัดส่วนว่างลงให้ประธานสภาผู้แทนฯเลื่อนบัญชีรายชื่อของพรรคนั้นขึ้นมาจนหมดซึ่งเมื่อหมดบัญชีของพรรคนั้นก็ให้มีเท่าที่เหลือ" นายประพันธ์ กล่าว
 
นายประพันธ์ กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญมาตรา 106 ที่ระบุเหตุของการสิ้นสภาพส.ส.ก็ไม่ได้เขียนไว้ว่าเมื่อพรรคถูกยุบแล้วส.ส.สัดส่วนต้องหมดสภาพไปด้วย เพราะในมาตรา 106 (8) เขียนไว้ว่า หากส.ส.ในพรรคการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ ไม่สามารถหาพรรคใหม่สังกัดได้ใน 60 วัน ให้ถือว่าสิ้นสภาพส.ส. จึงเป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนฯ จะพิจารณาหรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ส่วน ส.ส.ที่อยู่ระหว่างการถูกพิจารณาใบเหลืองและใบแดงของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งนั้นถือว่า  ยังมีสถานะภาพส.ส.อยู่จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง โดยระหว่างนี้จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ใน  60 วันเพื่อรักษาสถานภาพส.ส.แต่คดียังติดตามอยู่  
 
ศาลรธน.สั่งยุบ"พปช.-ชท.-มฌ."
 
ก่อนหน้านี้ นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์นัด 3 พรรคการเมือง ประกอบด้วยพรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคพลังประชาชน นัดแถลงปิดคดีด้วยวาจาในคดียุบพรรคการเมืองจากกรณีที่อัยการสูงสุด ในฐานะผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยุบพรรคทั้ง 3 พรรคการเมือง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่ห้องพิจารณาคดี 1 สำนักงานศาลปกครองสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ
 
เวลา 12.30 น. หลังจากที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงปิดคดีด้วยวาจาเสร็จสิ้น ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัฌชิมาธิปไตย โดยไม่รอพรรคพลังประชาชนซึ่งไม่ได้ส่งตัวเข้าแถลงปิดคดี
 
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้เริ่มอ่านคำวินิจฉัยคดีในส่วนพรรคพลังประชาชน โดยมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคพลังประชาชน
 
และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคมัฌชิมาฯ และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี ส่วนพรรคชาติไทย ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 สั่งยุบพรรคชาติไทย และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี โดย 1 เสียงข้างน้อยในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือนายนุรักษ์ มาประณีต
 
โดยทั้ง 3 พรรค ศาลฯได้วินิจฉัยว่ามีความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และมาตรา 237 วรรคสอง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ซึ่งอยู่ในตำแหน่งในขณะที่กระทำความผิดเป็นระยะเวลา 5 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสี่และมาตรา 237 วรรคสอง 

(คลิกอ่านคำพิพากษา)

ปธ.ศาลรธน.ยันมีอิสระไร้กดดัน
 
ทั้งนี้ นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้กล่าวก่อนที่จะอ่านคำวินิจฉัย ว่า การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญเป็นอิสระไม่มีการแทรกแซงหรือมีใครมากดดัน โดยศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติเอาไว้ และในสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นเช่นนี้ คำวินิจฉัยของศาลย่อมจะส่งผลให้มีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย  แต่ก็ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นและยอมรับคำวินิจฉัยตามระบอบการปกครองโดยกฎหมาย 

"เติ้ง-เป้า"แถลงปิดเสียงสั่นเครือ
 
สำหรับการแถลงปิดคดีด้วยวาจานั้น ในส่วนพรรคชาติไทย นอกจากนายบรรหารแล้ว ยังมีส.ส.พรรคเข้าร่วมฟังแถลงปิดคดี อาทิ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ส.ส.สัดส่วน นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี นายประภัตร โพธสุธน ส.ส.สัดส่วน ทั้งนี้ นายบรรหารแถลงปิดคดีด้วยวาจาเป็นเวลา 20 นาที โดยตอนท้ายของการปิดแถลงคดี นายบรรหารได้พนมมือขึ้นต่อหน้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "ผมขอกราบอาศัยบารมีของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง  9 ท่านก็สุดแท้แล้วแต่จะกรุณา แต่พรรคชาติไทยจะมีอยู่หรือไม่ผมขอกราบวิงวอน" จากนั้น เป็นการแถลงปิดคดีด้วยวาจาของนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยใช้เวลา 35 นาที
 
ส่วนพรรคพลังประชาชน นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ถามเจ้าหน้าที่ว่ามีตัวแทนของพรรคพลังประชาชนเดินทางมาแถลงปิดคดีหรือไม่ เมื่อทราบว่าไม่มี ประธานศาลรัฐธรรมนูญ จึงอ่านกระบวนการพิจารณา ว่า ขณะนี้เวลา 11.15 น. โดยที่ศาลได้นัดผู้ถูกร้องเพื่อแถลงปิดคดีในเวลา 10.00 น. เมื่อเป็นเช่นนี้ถือว่าผู้ถูกร้องในส่วนของพรรคพลังประชาชนไม่ติดใจ จึงให้รอรับฟังคำวินิจฉัยวันนี้