ส.ส.พปช.ทำใจรับสภาพถูกยุบ ขนของย้ายไปเพื่อไทยแล้ว ซัดเร่งปิดคดีซ้ำเติมวิกฤต ชาติไทยดันเติ้งสู้หวังรอด


ส.ส.พลังประชาชนทำใจรับสภาพถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ซัดเร่งปิดคดีซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมืองให้เลวร้าย-วิกฤต เจ้าหน้าที่ขนของย้ายไปพรรคเพื่อไทยแล้ว เตรียมประชุมกรรมการบริหารรับสมาชิกใหม่ ชาติไทยยังมีความหวังดัน"เติ้ง"แถลงสู้วันที่ 2 ธันวาคม

นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาการรองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน (พปช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงปิดคดียุบพรรคการเมือง 3 พรรค ประกอบด้วย พปช. ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) ในวันที่ 2 ธันวาคม โดยให้งดไต่สวนด้วยเหตุผลมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้แล้วว่า โดยหลักการจะต้องมีการพิจารณาพยานให้ชัดเจนเสร็จสิ้นกระบวนความ แต่เรื่องนี้อยู่ที่อำนาจของศาลที่อาจจะเห็นว่า พยานมีเพียงพอจะไม่ไต่สวนพยานเพิ่มก็ได้
 
 
นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ส่วนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค พปช.จะเดินทางไปแถลงปิดคดีด้วยตัวเองหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของฝ่ายกฎหมายของพรรคที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม เมื่อแถลงปิดคดีแล้วศาลจะดูจากพยานหลักฐานที่มีทั้งหมด ประกอบกับคำแถลงปิดคดีจากนั้นจึงจะนัดตัดสินอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนแนวโน้มความเป็นไปได้ที่จะมีการตัดสินในวันเดียวกันกับวันนัดแถลงปิดคดีนั้น นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล และขึ้นอยู่กับตุลาการรัฐธรรมนูญว่าจะร่างคำวินิจฉัยส่วนตัวได้ทันหรือไม่

"ผมเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคที่อาจจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง  5 ปี ซึ่งหากถูกตัดสิทธิคงจะกลับไปปลูกผักปลูกหญ้าเป็นเกษตรกรที่บ้านแทน" นายสุขุมพงศ์กล่าว

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พปช. กล่าวว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเร่งปิดคดียุบพรรคในวันที่ 2 ธันวาคมนั้น ถือเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์การเมืองให้เลวร้ายและวิกฤตเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงปิดคดีด้วยวาจา วันที่ 2 ธันวาคม ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ พปช.ทยอยขนเครื่องใช้สำนักงานและเอกสารจำนวนมากออกจากที่ทำการพรรคอาคารไอเอฟซีที ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารชินวัตรไหมไทย ถนนพระราม 4 พร้อมกันนี้ยังมีการทำลายเอกสารและข้อมูลส่วนตัวของอดีตผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ส.ของพรรคอีกด้วย

นายศักดา นพสิทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไปตามกระบวนการ โดย ส.ส.พปช.ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคจะย้ายเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความพร้อมหมดทุกเรื่องแล้ว โดยในวันที่ 30 พฤศจิกายน จะมีการประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย โดยมีวาระสำคัญคือการรองรับการย้ายเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนและการเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค มัชฌิมาธิปไตย(มฌ.)กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญรวบรัด เพราะก่อนหน้านี้เคยเป็นตัวแทนพรรคเข้ายื่นระบุพยานบุคคลและพยานเอกสาร ศาลได้ขอให้ยื่นบัญชีส่วนตัวมาเพิ่มด้วย แต่เมื่อยื่นไปแล้วศาลกลับบอกว่า ไม่จำเป็นต้องใช้จึงไม่เข้าใจว่า จะให้ยื่นไปแต่แรกทำไม อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นคำสั่งศาลก็ต้องปฏิบัติตามไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเมิดศาลได้

ผู้สื่อข่าวถาม ยังมั่นใจเหมือนเดิมหรือไม่ว่าพรรคจะไม่ถูกยุบ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า "พอเห็นกระบวนการทำงานของศาลแล้วขณะนี้พรรคไม่มั่นใจใดๆ เลยว่าจะไม่ถูกยุบและหวั่นเกรงว่าหากแถลงปิดคดีเสร็จสิ้นศาลจะวินิจฉัยทันที"

นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ในฐานะรับผิดชอบคดียุบพรรค กล่าวว่า ในวันที่ 2 ธันวาคม คงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมาพรรคเตรียมการเรื่องการต่อสู้คดีมาอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องสำนวนต่อสู้คดี ที่ได้ส่งไปหมดแล้ว สำหรับการนัดแถลงปิดคดีในวันที่ 2 ธันวาคมนั้น นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย จะเป็นผู้แถลงปิดคดีโดยวาจา ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที เนื้อหาเป็นภาพรวมเกี่ยวกับคดี แบ่งออกเป็น 3 ประเด็นชี้แจง ตามที่มีการตั้งข้อกล่าวหา คือ

1.ยืนยันว่า นายมณเฑียร สงฆ์ประชา อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท ของพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ไม่ได้กระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง 2.เหตุใดจึงไม่สมควรยุบพรรคชาติไทย และ 3.เหตุผลที่พรรคขอพิสูจน์ต่อศาลว่า เหตุใดกรรมการบริหารพรรค จึงไม่สมควรถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง

"เดิมพรรคชาติไทยได้ยื่นขอแถลงเปิดคดีไป เพราะตามกระบวนการตามปกติ จะต้องมีการแถลงเปิดคดี แถลงปิดคดี และการเปิดให้สืบพยาน แต่ศาลไม่ให้สืบพยานเลย ก็ไม่เป็นไร เพราะยังดีที่ได้แถลงปิดคดี เมื่อไม่ให้เปิด ได้ปิดก็ยังดี ซึ่งเนื้อหาคงคล้ายกันกับที่ตั้งใจขอแถลงเปิดคดีไปก่อนหน้านี้ เมื่อไม่มีโอกาสได้แถลงเปิดคดี เราจึงถือโอกาสนี้ แถลงปิดคดี เพื่ออธิบายในภาพรวม โดยนายบรรหารจะเป็นผู้อธิบายทั้งหมด เพื่อขอความเป็นธรรม" นายนิกรกล่าว


ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าขั้นตอนต่างๆ จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือทุกอย่างต้องยึดถือกฎหมาย และว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่ควรกลั่นแกล้งและไม่มีข้อละเว้น  ขอให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และเป็นวิธีการที่รักษาสถาบันตุลาการที่ดีที่สุด
 
 
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวกรณี ส.ส.พปช.ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่จะนำคนเสื้อแดงไปกดดันว่า อย่าไปทำให้เกิดภาพที่ว่า เวลาผู้ไม่สนับสนุนรัฐบาลทำผิดกฎหมาย ก็ย้ำเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย แต่เวลาตนเองทำผิดกฎหมายก็บอกว่าศาลผิด ตรงนี้เห็นว่าเป็น 2 มาตรฐานชัดเจน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์