มาร์คแนะใช้กม.กับคนเสื้อเหลือง-แดงเท่าเทียมกัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ล่าสุดมีการโยกย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ว่า เท่าที่ฟังดูเหมือนกับยังไม่ทิ้งการเจรจา และฟังดูแล้วเหมือนกลุ่มสานเสวนาก็ยังพยายามอยู่ ซึ่งตนยืนยันว่าการเจรจาเป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่นั้นขอให้เก็บเกี่ยวบทเรียนของวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา และขอให้ยึดตามที่ได้ประกาศไว้ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตราฐานสากล ต้องมีความละมุนละม่อม และถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงอะไรก็ตามที่นำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งตนอยากวิงวอนทั้ง 2 ฝ่าย และหากมีความคืบหน้าในการเจรจาก็ควรทำให้ชัดเจน เพื่อลดแรงกดดันของทั้ง 2 ฝ่ายที่อยู่ในสนามด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการโยกย้าย ผบ.ตร. ครั้งนี้เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า มีความกังวล เพราะเท่าที่เคยสัมผัส ผบ.ตร.ในช่วงหลายเหตุการณ์มา ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กับการที่ต้องไม่เกิดความสูญเสีย หรือรุนแรงกับประชาชน ตนพบท่านแต่ละครั้งจะด้วยเหตุบังเอิญหรืออะไรก็ตาม ท่านเป็นคนห่วงใยเรื่องนี้ และตนสังเกตว่า ผู้ที่ปฏิบัติที่ยึดถือแนวทางนี้ก็จะถูกกันออกจากกระบวนการแก้ไขปัญหา ตรงนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใย แต่ถ้ารัฐบาลมีความคิดเจรจาก็ต้องไปในทิศทางในให้ได้
“ผมยืนยันกับทั้งกลุ่มพันธมิตร และรัฐบาลว่า ถ้าคิดจะปฏิเสธการเจรจานั้น ผมคิดว่าเป็นการคิดผิด ผิดกับประโยชน์ส่วนร่วมของบ้านเมือง และผิดสำหรับการที่ 2 ฝ่าย จะได้มีโอกาสยืนยันความคิดของตนเอง ที่เป็นเรื่องที่ถูกต้องด้วย ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเชาวรัตน์ ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี ติดต่อมาให้เป็นคนกลางในการเจรจาหรือยัง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตี ได้ให้นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งมาเป็นทางการว่า ในส่วนที่เคยขอให้ตนช่วย ทางรัฐบาลไม่ขอให้ดำเนินการตามนั้น โดยไม่ได้เหตุผลอะไร เพียงแต่ขอบคุณที่ตน ได้แสดงความตั้งใจและได้ดำเนินการไป แต่รัฐบาลขอยุติในเส้นทางนั้น ทั้งนี้ ตนสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการสานเสวนา เพราะตนไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่เป็นปัญหาอยู่แล้ว ถ้าอยากให้ช่วยก็ยินดี แต่ถ้ารัฐบาลมีหนทางอื่น เช่น การสานเสวนามีความสำเร็จ ตนจะยินดีมาก เพราะสิ่งที่ตนต้องการเห็นมากที่สุด คือ ความสงบเรียบร้อย ไม่ต้องการเห็นความสูญเสีย แต่ต้องการให้สถานการณ์เข้าสู่ความปกติ ความเดือดร้อนให้เรื่องเศรษฐกิจจบลง ถ้ารัฐบาลมีแนวทางที่ทำได้จริงตนก็อยากเห็น และให้เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความสงบเรียบร้อยควรให้จบก่อนวันที่ 5 ธ.ค.นี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ความสงบเรียบร้อยอย่ามองเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า เพราะถ้าไปแก้ปัญหาผิดวิธี แก้หนึ่งอย่างก็จะไปเกิดเป็นสิบอย่าง ในที่สุดก็จะเป็นปัญหายืดเยื้อต่อไป ดังนั้น อยากให้รัฐบาลตระหนักเรื่องนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางของนักวิชาการที่เสนอให้นายกรัฐมนตรี ลาออกหรือยุบสภายังใช้ได้อยู่หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า เรื่องการยุบสภา หากพูดในหลักการ เป็นสิ่งที่ตนเคยเสนอมาแล้วเพราะเห็นว่ามีเหตุผล แต่คิดว่าวันนี้ที่ไม่เกิดขึ้น เพราะไม่มีการพูดคุย เช่น กรณีที่คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม(คตร.) มีการประชุมนั้น ก็ไม่เคยพูดคุยกับรัฐบาล หรือกลุ่มพันธมิตรฯเลย เมื่อไม่มีการพูดคุยข้อเสนอจึงออกมาไม่ตรงใจทั้ง 2 ฝ่าย จึงถูกปฏิเสธ และจริงๆแล้วการเสนอต่อสาธารณชนก่อนเสนอต่อคู่กรณีจึงเป็นเรื่องอยากที่จะเกิดขึ้นได้ ตรงนี้ควรจะเป็นบทเรียนด้วย ดังนั้น ในระยะหลังตนจึงพยายามอย่างยิ่งว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ ทำอย่างไรให้มีการพูดคุยกันก่อน และทางออกจะเป็นอย่างไรก็ต้องผ่านกระบวนการพูดคุย การยอมรับ ความไว้วางใจ หรือไว้เนื้อเชื่อใจก็จะเกิดขึ้น ตนมองว่าเป็นเรื่องยากที่ใครจะเสนออะไรผ่านสื่อ หรือสาธารณะและ 2 ฝ่ายจะตกลงกัน ผมมองไม่เห็นเพราะเป็นเรื่องอยากมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการทำงานของพล.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย จะสามารถควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงได้สำเร็จได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพล.ต.อ.โกวิท ไม่มีความใส่ใจเรื่องของผลกระทบความรุนแรงมาโดยตลอด ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าห่วง และทัศนคติของพล.ต.อ.โกวิท ที่เห็นจากการตอบกระทู้ถามในสภา ยิ่งน่าเป็นห่วงใหญ่ตรงนี้ต้องบอกตรงๆว่า การตัดสินใจเลือกใช้คนของนายกฯ ไม่ได้เป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็หวังว่า รัฐบาลจะตั้งหลักได้ และคิดได้ ที่สุดแล้วกระบวนการเจรจาจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าพล.ต.อ.โกวิท จะเลือกใช้วิธีกับกลุ่มพันธมิตรฯ แบบเร็วและแรงม้วนเดียวจบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่าสถานการณ์วันนี้ไม่มีทางม้วนเดียวจบ ไม่มีทางที่จะมีฝ่ายไหนชนะม้วนเดียวจบ และสถานการณ์วันนี้ไม่มีทางที่ฝ่ายไหนจะชนะได้โดยเด็ดขาด และถ้าเหตุการณ์จะเกิดม้วนเดียวจบทางหนึ่งทางใด ประเทศชาติก็จะมีปัญหายืดยื้อต่อไป
ส่วนที่นายกฯ ระบุว่า หากมีเงื่อนไขให้นายกฯ ยุบสภา หรือ ลาออก ก็จะไม่มีการเจรจานั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า อยากย้ำว่า นายกฯควรยึดประเทศชาติเป็นหลัก อย่ายึดตำแหน่งเป็นหลัก เราไปบังคับท่านไม่ได้ และขอย้ำอีกครั้งว่า ข้ออ้างที่ว่า ถ้ามีการลาออก หรือยุบสภา จะขัดกับระบบประชาธิปไตยนั้น ถือว่าไม่เป็นเรื่องไม่เป็นสาระเลย ไปถามนักรัฐศาสตร์ที่ไหนก็ได้ ไม่มีใครเรียกร้องการยุบสภา หรือลาออก จากผู้นำที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เฉพาะผู้นำที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้นที่ต้องยุบสภา หรือลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ดังนั้น จึงตรงกันข้ามกับสิ่งที่นายกฯพูด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนศูนย์บัญชาการไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า อย่างที่เคยพูดแล้วว่า ตนอยากให้บ้านเมืองกับเข้าสู่ปกติ และขอย้ำอีกครั้งส่าการบังคับใช้กฎหมายทำแล้วต้องไม่ไปสร้างปัญหาเพิ่มเติม ที่สำคัญคือการบังคับใช้กฎหมายต้องแสดงออกถึงความเสมอภาค
“ผมตกใจนิดหน่อย ผมไม่ทราบว่าเขาสรุปข่าวมาถูกหรือไม่ ว่า นายกฯ พูดว่า เฉพาะฝ่ายพันธมิตรเท่านั้น ที่กำลังทำผิดกฎหมาย ผมขอถามว่า การฆ่าคนที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อหน้าคนทั่วประเทศ เพราะมีการบันทึกภาพอยู่ไม่ผิดกฎหมายหรือ และคนเหล่านั้นอยู่เหนือกฎหมายได้เพียงเพราะว่าสนับสนุนนายกฯสมชายใช่หรือไม่ อันนี้คือสิ่งที่ทำให้เรื่องไม่จบ ผมยืนยันว่าการบังคับใช้กฎหมาย ต้องใช้กับทุกคน ทุกกลุ่ม จะเสื้อแดง เสื้อเหลือง ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่วิธีการบังคับใช้กฎหมาย ต้องทำอย่างชาญฉลาดพอที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ใช่ทำให้บ้านเมืองตกในภาวะที่มีปัญหารุนแรงมากขึ้น”นายอภสิทธิ์ ระบุ

ผู้นำฝ่ายค้านฯแนะ"เสื้อแดง"อย่าดึงศาลเข้าวงขัดแย้ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตัดสินคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย ในวันที่ 2 ธ.ค. ว่า ไม่ทราบว่าขั้นตอนต่างๆจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือทุกอย่างต้องยึดถือกฎหมาย และว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่ควรกลั่นแกล้งและไม่มีข้อละเว้น ขอให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และเป็นวิธีการที่รักษาสถาบันตุลาการที่ดีที่สุด ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ในวันดังกล่าวจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงไปบุกล้อม ศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนอยากให้ทุกคนได้พยายามรักษาสถาบันที่ไม่ควรจะต้องเข้ามาอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง
“ผมเรียนว่า อย่าไปทำให้เกิดภาพที่ว่า เวลาผู้ไม่สนับสนุนรัฐบาลทำผิดกฎหมาย ท่านก็ย้ำเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย แต่เวลาตนเองทำผิดกฎหมายก็บอกว่าศาลผิด ตรงนี้เห็นว่าเป็น 2 มาตรฐานชัดเจน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นว่ากำลังใช้กฎหมู่เหนือกฎหมายหรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นความรุนแรง และอย่าไปดึงศาลเข้ามาสู่ความขัดแย้ง เพียงเพราะเราไม่พอใจผลการตัดสิน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์