พ่อลีเดียโต้ ลูกสาวแต่งทักษิณ


แม้วโผล่สื่อนอก โฆษณาตั้งมูลนิธิ พปช.สู้ยุบพรรค ชิงเปลี่ยนนายกฯ

พ่อ"ลีเดีย"ออกโรงโต้แทนลูกสาว หลังมีข่าวลือจะไปแต่งงานกับ"ทัก ษิณ" ที่เพิ่งหย่าขาดกับ"หญิงอ้อ" บอกคิดไว้อยู่แล้วต้องมีข่าวออกมาแนวนี้ ปลอบลูกสาวอย่าคิดมาก ส่วนตัวยอมรับเคยโทร.คุยทักษิณจริง แต่คุยเรื่องกอล์ฟ ด้านนักร้องสาวปิดปากไม่ให้สัมภาษณ์ เหตุที่ผ่านมาตกเป็นข่าวด้านลบมาตลอด พปช.ยัน"แม้ว" โฟนอินแสดงจุดยืนทางการเมือง 10 ธ.ค.นี้ เผยมาตรการรับมือ "ยุบพรรค" เปลี่ยนตัวนายกฯ ก่อนศาลรธน.จะมีคำสั่งตัดสิน วิปรัฐบาลเสียงแตกผลักดันญัตติแก้ ม.291 เข้าสภา ปชป.ประชุมชี้ขาดส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. 22 พ.ย.นี้ "กรณ์"ยังเป็นเต็ง 1 รอบคัดเลือก "เทพเทือก"โต้เปล่าเตะสกัด พปช.จี้"ประภัสร์"รีบตัดสินใจ ปฏิเสธข่าวทาบ"ปุระชัย"ลงแข่ง

เปลี่ยนนายกฯก่อนยุบ"พปช."

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า วันที่ 10 ธ.ค. จะเห็นการตัดสินใจทางการเมืองที่ชัดเจนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะโฟนอินเข้ามายังรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 4 ที่สนามศุภชลาศัย ส่วนความ พร้อมรับมือหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคนั้น หากพรรคถูกยุบจริงจะไม่เกิดผลกระทบมากนัก เพราะเตรียมการไว้แล้ว โดยจะเปลี่ยนตัวนายกฯ ก่อนการยุบพรรค

"มีข้อเสนอกันว่าเมื่อรู้วันเวลาชัดเจนที่พรรคจะถูกยุบ จะหานายกฯ คนใหม่ที่ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค จะได้ไม่ทำให้กระเพื่อม ขณะนั่งฟังคำตัดสินจากศาล เราก็มีรัฐบาลใหม่ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แม้คนใหม่จะไม่เท่าคนเก่า แต่เมื่อไม่มีทางเลือกเราจำเป็นต้องเลือก เพื่อมีชีวิตเดินหน้าต่อไป ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์บนพื้นฐานของความเป็นจริง" นายจตุพร กล่าว

ส่วนแนวคิดจะดึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นแกนนำพรรครุ่นที่ 3 ลงสมัครส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายจตุพรกล่าวว่า แนวคิดนี้น่าจะเป็นไปได้ จากที่ได้หารือกันในพรรคทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าจะไม่ใช้ทางออกเรื่องการยุบสภาแน่นอน แม้จะยุบสภา ไปแล้วแต่ปัญหาเดิมๆ ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร การใช้กติกาบ้านเมืองภายใต้รัฐธรรม นูญฉบับเดิมคือปี"50 ดังนั้นการยุบสภาจึงไม่ใช่ทางออก

คาดปรับ3เก้าอี้-หลัง26พ.ย.

เวลา 14.00 น. ที่หอประชุมกองทัพเรือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบข้อซักถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอินเข้ามาในรายการความจริงวันนี้สัญจร อีกครั้งในวันที่ 10 ธ.ค. โดยนายสมชาย ได้เดินหนีขึ้นรถกลับออกจากกองทัพเรือทันที

จากนั้นเวลา 14.20 น. นายสมชายเดินทางมาแวะพักที่ศาลาของตระกูลชินวัตร ภายในวัดสระเกศ เพื่อรอเข้าร่วมพระราชพิธีทำบุญพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้เวลา 15.30 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศเดินทางมา แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มาพบนายกฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่เดินทางมา นายสมพงษ์เพียงแต่หัวเราะโดยไม่ยอมตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลา

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ขณะนี้นายสมชายกำลังหารือกับคนสนิทถึงเรื่องการปรับ ครม. ข่าวแจ้งว่าการปรับครั้งนี้จะเกิดขึ้นหลังจากนายกฯ เดินทางกลับจากการประชุมเอเปก ที่ประเทศเปรู หลังวันที่ 26 พ.ย. เบื้องต้นมีข่าวว่าจะปรับและสลับไม่เกิน 4 ตำแหน่ง คาดว่าจะเป็นตำแหน่งรองนายกฯ 1 ตำแหน่ง และจะปรับสลับเก้าอี้รัฐมนตรีอีก 2 ตำแหน่ง

นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกับนายสมชาย เกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งกับนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์

เผย"อ้อ"จะกลับมาสู้คดีเอสซีฯ

ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสมพงษ์ อมร วิวัฒน์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท. ทักษิณ ยังสามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ได้ว่า กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้แจ้งตน แจ้งแต่เรื่องหย่ากับคุณหญิงพจมาน ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปประเทศใดสถานเอกอัครราชทูตจะรายงานให้ตนทราบ ส่วนการขอตัวพ.ต.ท.ทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน อัยการสูงสุดยังไม่ได้ส่งเรื่องมายังกระทรวงการต่างประเทศ และตนยังไม่เห็นระเบียบการถอนพาสปอร์ตแดง ซึ่งเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวคุณหญิงพจมาน เตรียมจะเดินทางกลับประเทศไทยในเร็วๆ นี้ ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเหตุผลในการเดินทางกลับครั้งนี้ เพื่อเตรียมการต่อสู้คดีปกปิดโครง สร้างผู้ถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ที่ยื่นอุทธรณ์ไว้ ให้มีความชัดเจน ส่วนจะกลับมาช่วงใดนั้น น่าจะรอสถานการณ์ทางการเมืองนิ่งกว่านี้และไม่ทราบว่าจะอยู่นานเท่าไหร่

นายไพจิต กล่าวอีกว่า สำหรับข่าวการหย่าของพ.ต.ท.ทักษิณ กับคุณหญิงพจมานนั้น ประชาชนในพื้นที่ยังเห็นว่าการหย่าดังกล่าว ถือเป็นวิบากกรรมทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ไม่ต้องการหย่า แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อให้ชีวิตเดินหน้าต่อไป ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นใจมากขึ้นและยังสนับสนุนเหมือนเดิม

ส.ส.ทยอยบินปลอบ"นายใหญ่"

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชนเผยว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีส.ส.ของพรรค 15 คน จากหลายกลุ่ม เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่ฮ่องกง โดย พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยอย่างเป็นกันเอง ไม่ได้มีสีหน้าที่วิตกกังวลหรือท้อแท้ โดยพ.ต.ท.ทักษิณพูดกับส.ส.เองว่า "ผมเพิ่งหย่ากับคุณหญิง" แต่ไม่มีส.ส.คนใดกล้าสอบถามถึงเหตุผล ได้แต่วิเคราะห์กันเองว่าการหย่าเพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณหญิงพจมาน และครอบครัวเดือดร้อน

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวระบุว่า ช่วงเดือนธ.ค.นี้คุณหญิงพจมาน อาจเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเตรียมการต่อสู้ในคดีปกปิดหุ้นเอสซี แอสเสทฯ ที่ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนหน้านี้ เพราะหลังจากหย่ากับพ.ต.ท. ทักษิณทำให้ข้อจำกัดทางข้อกฎหมายบางอย่างหมดไป ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกำชับส.ส.ในพรรคว่าให้สามัคคีปรองดอง รักกันให้เหนียวแน่น แต่ไม่พูดถึงการปรับครม.ที่จะมีเร็วๆ นี้

แหล่งข่าวเผยว่า การหารือครั้งนี้พูดถึงการเสนอชื่อคนในตระกูลชินวัตรมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณได้แต่รับฟัง ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร โดยกล่าวแบ่งรับแบ่งสู้ว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเป็นใครก็ได้ ขอให้เป็นคนที่สมาชิกในพรรคยอมรับเท่านั้น สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณขณะนี้อยู่ที่ดูไบ จะพำนักอยู่ที่นั่นประมาณ 10 วัน ระหว่างนี้จะมีส.ส. พรรคเดินทางไปพบปะให้กำลังใจอีกแน่นอน

"เหลิม"ปัดไม่รู้ปมแม้วเตียงหัก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ได้เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารเย็นกับพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ที่ฮ่องกงจริง แต่ไม่ได้เจอนายเนวิน ชิดชอบ ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง คุยกันเรื่องสมัยอดีตเท่านั้น ส่วนเรื่องการหย่าก็รู้จากสื่อ เพราะตอนไปพบเห็นทั้งสองคนพูดคุยกันปกติดี ไม่น่ามีสาเหตุนำไปสู่การหย่าร้างได้ และคงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าทั้ง 2 คน คนที่ออกมาพูดสู่รู้ทั้งนั้น ไม่มีใครรู้จริง เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ถามคนอื่นไม่ได้และการหย่าก็ไม่มีใครได้ประโยชน์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินหรือคดี ที่รู้อย่างเดียวคือคุณหญิงพจมานไม่ชอบเรื่องการเมือง ไม่อยากให้เล่นการเมือง ที่มีข่าวว่าจะมาเคลื่อนไหวเรื่องการเมือง เป็นเพียงประเด็นโจมตีของสื่อมวลชน

ต่อข้อถามว่าการหย่าร้างเป็นไพ่ใบสุดท้ายในการแก้เกมการเมืองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามพ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวจึงจะได้คำตอบที่ดีที่สุด การหย่าร้างแค่เป็นการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำนิติกรรม ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากอีกฝ่ายเท่านั้น สินสมรสก็แบ่งกันคนละครึ่ง คนที่มาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้เป็นคนอวดฉลาดว่าจะทำให้คดีเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่าได้พูดคุยถึงสาเหตุที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ต้องถามก็รู้ ถูกด่าทุกวันเป็นใครจะยอมได้ ก็จำเป็นต้องออกมาชี้แจง

อ้างไม่เคยคิดนั่งเก้าอี้นายกฯ

ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวที่มีชื่อติดโผเป็นนายกฯ หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรค ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้และไม่เคยคิดในเรื่องนี้ ตนอาวุโสน้อยและไม่เป็นแกนนำพรรค มีคนที่เหมาะสมกว่ามาก พร้อมทั้งยังไม่มีใครมาทาบทามทั้งนายกฯ และรองนายกฯ ที่ว่างอยู่เลย คนพูดอาจดูรายชื่อจากคนที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค หากพรรคถูกยุบก็เหมือนกับการเปลี่ยนเรือเท่านั้น ไม่มีผลอะไร ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาอาจไม่เหมือนกับกรณีพรรคไทยรักไทยก็ได้ อาจเป็น 2 กรณี คือ 1.ไม่ยุบพรรค 2.ยุบพรรคแต่ไม่ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค หากยุบพรรคจริงก็พร้อมลาออกไปอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน หากพรรคเพื่อไทยกลับมาลงเลือกตั้งก็เชื่อว่าจะได้คะแนนเสียงจากประชาชนให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกเช่นเดิม เพราะบารมีของพ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่และขายได้ ชนะขาดแน่นอน และยังต้องเสริมเก้าอี้ในการประชุมสมาชิกพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งด้วยซ้ำ ภาคใต้และกทม.เอาไปเลย แต่ภาคเหนือและอีสานเรากวาดหมดแน่นอน

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในการหาเสียงครั้งต่อไปจะใช้กลยุทธ์เช่นเดิม ถ้าเลือกพลังประชาชนหรือเพื่อไทยก็จะยืนยันแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากไม่ต้องการแก้ก็ไม่ต้องเลือก เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าแก้ไขเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณหลุดคดี ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะขณะนี้คดีทุกอย่างอยู่ในชั้นศาลแล้ว เว้นแต่จะออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรมเท่านั้น

โฆษกรัฐเปิดตู้ป.ณ.-ลุยพบสื่อ

ที่ทำเนียบดอนเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สำนักโฆษกสำนักนายกฯ เปิดตู้ป.ณ.33 ดอนเมือง กทม. รับข้อมูลข่าวสาร ข้อคิดเห็น รวมทั้งข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลจากประชาชน สำนักโฆษกฯ จะนำข้อมูลที่ได้รับมาใช้เป็นเนื้อหาสาระในรายการ "รัฐบาลของประชาชน" "รายการคุยนอกทำเนียบ" และจะนำข้อมูลบางส่วนไปผลิตเป็นสารคดีสั้นเพื่อทำความเข้าใจ และชี้แจงการทำงานให้ประชาชนได้รับทราบ และหารือกันว่าจะเดินทางไปพบปะและพูดคุยกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุและหนังสือพิมพ์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับทราบข้อเสนอแนะในการทำงาน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 20-26 พ.ย. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ มีกำหนดการเดินทางไปประเทศเปรู เพื่อเข้าร่วมประชุมเอเปก จากนั้นวันที่ 29 พ.ย. นายกฯ จะเดินทางไปเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการประชุมอาเซียน ซัมมิท ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งนายกฯ ย้ำว่าขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและเตรียมการให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะถือเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนและคนไทยทุกคนจะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลก อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ละประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูสถานที่และความพร้อมในการจัดการประชุม ปรากฏว่าแต่ละประเทศพึงพอใจและเห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมใช้เป็นสถานที่จัดการประชุม

รัฐบาลยังไม่พับแผนแก้ม.291

ที่รัฐสภา นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรม การประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจจะไม่บรรจุญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ในสมัยประชุมนี้และสมัย วิสามัญว่า ไม่เป็นความจริง ภายใน 1-2 วันนี้ตนจะนัดหารือกับวิปวุฒิสภา ว่าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ รวมทั้งจะหารือในมาตรา 190 ด้วย เพราะประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัญหาต่อการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการ อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ การเสนอญัตติแก้ไขมาตรา 291 ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแต่เป็นเรื่องที่ดี เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา การแก้มาตรานี้เพียงเพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือส.ส.ร. เท่านั้น วิปรัฐบาลจะยื่นญัตติดังกล่าวต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ภายในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน เพื่อให้นายชัยบรรจุเป็นวาระการประชุม ส่วนจะนำเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่เป็นอำนาจหน้าที่ของประธาน เพราะเมื่อมีสมาชิกรัฐสภายื่นในสิ่งที่ถูกต้อง ประธานก็ต้องพิจารณา

มฌ.-พผ.ชูธงค้านเหมือนเดิม

นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไตย ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมหารือถึงการเสนอร่างพ.ร.บ.การฟอกเงิน และร่างพ.ร.บ.ขั้นตอนและวิธีการทำหนังสือสัญญา ฉบับ พ.ศ.... ควรเสนอเข้าสภาเมื่อใด พร้อมยืนยันในที่ประชุมไม่มีการหารือถึงการจะเสนอร่างแก้ไขมาตรา 291 แต่อย่างใด

ส่วนที่ประธานวิปรัฐบาลระบุว่า วิปรัฐบาลยืนยันจะเสนอร่างแก้ไขมาตรา 291 ให้ทันสมัยประชุมสภานี้ นายเกียรติกร กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ยืนยันไม่มีการหารือเรื่องนี้ ถามวิปคนไหนก็ได้ หากมีการนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภา ตนยังยืนยันเช่นเดิมว่า จะไม่ร่วมลงชื่อสนับสนุน เพราะไม่เห็นด้วย และเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.แต่ละคน ไม่จำเป็นต้องฟังมติพรรค เรื่องนี้ควรชะลอไว้ก่อน

น.พ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อแผ่นดิน วิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินไม่เห็นด้วยที่จะยื่นญัตติในช่วงนี้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง ที่สำคัญอย่าประเมินกลุ่มพันธมิตรฯ ต่ำเกินไป เพราะสถานการณ์ทางการเมืองอาจเกิดความรุนแรงได้ตลอด อีกทั้งผลการประชุมส.ส.ของพรรคล่าสุดก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการแก้รัฐธรรมนูญช่วงนี้ แต่เห็นด้วยที่จะเสนอญัตติในการประชุมสมัยหน้า และควรแก้เฉพาะบางมาตราเท่านั้น ไม่ใช่ตั้งส.ส.ร.3 เพื่อมาแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หรือหากมีการขอชื่อเพื่อสนับสนุนการยื่นญัตติเมื่อไหร่ ส.ส.พรรคเกือบทั้งหมดมีมติเบื้องต้นจะไม่ร่วมลงชื่อเพื่อสนับสนุนแน่นอน

ปลาไหลกั๊ก-รช.หนุนเต็มที่

นายเอกพจน์ ปานแย้ม วิปรัฐบาลพรรคชาติไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่มีการหารือเรื่องการแก้มาตรา 291 แต่ได้หารือนอกรอบหลังการประชุมกับประธานวิป ซึ่งประธานวิปยืนยันจะผลักดันการแก้ไขมาตรา 291 โดยให้เหตุผลว่าอย่างไรก็ต้องแก้เพราะเสียงส่วนใหญ่สนับสนุน ส่วนท่าทีของพรรคชาติไทยยังไม่ได้หารือในที่ประชุมส.ส.พรรค จึงยังไม่มีข้อสรุป แม้ก่อนหน้านี้พรรคชาติไทยจะเห็นด้วยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองยังไม่นิ่ง ตนในฐานะตัวแทนพรรคที่เข้าประชุมวิป ต้องนำเรื่องนี้เรียนต่อหัวหน้าและที่ประชุมพรรค เพื่อรับฟังความเห็นและออกมาเป็นมติพรรคว่าเป็นอย่างไรถึงจะชัดเจน

นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา วิปรัฐบาล กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 291 ในช่วงนี้ เพราะการยื่นเร็วหรือช้าไม่ถือเป็นประเด็น เพราะเป็นการยื่นเหมือนกัน ไม่แตกต่างกันตรงไหน และขอให้กลุ่มที่ต่อต้านได้คิดว่าการยื่นแก้รัฐธรรมนูญนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เพราะทั้งคดียุบพรรค หรือคดีของพ.ต.ท. ทักษิณ ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนที่จะมีการแก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ที่สำคัญบุคคลที่มาทำหน้าที่ ส.ส.ร.3 ก็เป็นคนนอก ไม่มีส่วนได้เสียทางการเมือง ส่วนต่อไปมติพรรคจะเป็นไปในแนวทางใดจะต้องหารือกันอีกครั้ง แต่หากมีการเสนอเพื่อขอรายชื่อสนับสนุนเมื่อไหร่ตนและส.ส.พรรคส่วนใหญ่จะขอลงชื่อสนับสนุน

ปชป.จี้รัฐบาลสกัดข่าว"ทักษิณ"

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค กล่าวถึงข่าวมีอย่างน้อย 6 ประเทศแถบแอฟริกาติดต่ออยากได้ตัวพ.ต.ท.ทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ เสนอให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ รวมถึงเปิดโอกาสให้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ว่า พ.ต.ท. ทักษิณเป็นบุคคลล้มเหลวของสังคมไทย มีคดีติดตัว เป็นผู้ร้ายหนีคดี ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แต่ทำไมได้รับเกียรติจากประเทศเหล่านี้ พ.ต.ท.ทักษิณหนีจากแผ่นดินเกิด ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมไทย ไม่มีความรักและผูกพันต่อประเทศไทยแล้วจะจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อประเทศเหล่านั้นได้อย่างไร เชื่อว่าขบวนการทั้งหมดไม่ได้เป็นกระแสข่าวตามปกติ น่าจะเป็นเรื่องการจัดการอย่างมีระบบ โดยจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์เพื่อสร้างภาพให้พ.ต.ท.ทักษิณมีภาพลักษณ์ดี เป็นบุคคลสำคัญ เป็นนักประชาธิปไตยที่ถูกทำร้ายจากกระบวนการยุติธรรมไทย พยายามสร้างภาพเป็นผู้นำอินเตอร์เพื่อการยอมรับจากนานาประเทศ

นายเทพไทกล่าวว่า นายกฯควรสั่งการกระทรวงการต่างประเทศจับตาความเคลื่อนไหวในลักษณะสร้างข่าวเพื่อทำร้ายประเทศไทย ต้องชี้แจงและตอบโต้กระบวนการของพ.ต.ท.ทักษิณอย่างทันท่วงที ไม่เข้าใจทำไมนายกฯ จึงปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณลอยนวลอยู่ใกล้ๆ ประเทศ ทั้งที่ควรส่งเจ้าหน้าที่ไทยไปดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในฐานะผู้ร้ายหนีคำตัดสินจำคุกของศาล

หวั่นสัญญาณเปิดศึกเต็มรูปแบบ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณจดทะเบียนหย่าคุณหญิงพจมาน ว่า เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อมีการหย่าจริงก็มีเงื่อนไขทางกฎหมายในการจัดการทรัพย์สินที่จะต้องแยกแยะว่าส่วนไหนเป็นของพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนไหนเป็นของคุณหญิงพจมาน ซึ่งจะมีผลในการต่อสู้คดียึดทรัพย์ อาจเป็นเหตุผลของการหย่าก็ได้ พ.ต.ท. ทักษิณเป็นคนไม่ยอมแพ้ ไม่คำนึงถึงวิธีการต่อสู้ เป็นเรื่องหนักใจ น่าจะเปิดสงครามเต็มรูปแบบ ดูจากแนวทางการตัดสินใจและสิ่งที่ทำมาตลอด ตั้งใจจะทำการเมืองแบบแตกหัก หวังเอาชัยชนะให้ได้ รัฐบาลนายสมชายคงไม่ช่วยอะไรได้เพราะรอฟังคำสั่งพ.ต.ท.ทักษิณทุกอย่าง

เมื่อถามถึงนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปรา การ พรรคพลังประชาชน ระบุพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศไทยโดยไม่อุทธรณ์คดี พร้อมขู่ว่าหากพ.ต.ท. ทักษิณติดคุกจะเกิดความรุนแรงทันที นายสุเทพกล่าวว่า การปลุกระดมประชาชนไม่ใช่เรื่องง่าย หาก พ.ต.ท.ทักษิณทำเช่นนั้นจะเจอประชาชนต่อต้าน เจอมวลชนจริงๆ ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณเลือกวันที่ 10 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญโฟนอินเข้ามา นายสุเทพกล่าวว่า เขาเลือกวันไหนก็ได้ ตั้งใจจะท้าทายทุกอำนาจเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้รับบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สักวันแน่ๆ ไม่คิดว่าเขาชนะ สุดท้ายจะแพ้ประชาชน

เชื่อปรับครม.ไม่ช่วยให้ดีขึ้น

ต่อข้อถามถึงการที่นายกฯ เตรียมปรับครม.เร็วๆ นี้ จะทำให้การเมืองรุนแรงขึ้นหรือคลี่คลายลง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น แต่ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลอาจดีขึ้น อาจเปลี่ยนขั้วหรือยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ก็ได้ จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ รัฐบาลที่จะตั้งใหม่ต้องมีรูปแบบพิเศษ เป็นตัวแทนของหลายภาคส่วน ไม่ใช่ของพรรคการ เมือง แต่เรื่องนี้ก็หวังยาก ฉะนั้น โอกาสที่จะเกิดขึ้นมากกว่าคือการเลือกตั้งทั่วไป

เมื่อถามถึงการผลักดันบุคคลในตระกูล"ชินวัตร"มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุเทพกล่าวว่า สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยเป็นของพ.ต.ท.ทักษิณ ทำเพื่อพ.ต.ท. ทักษิณและครอบครัว การนำบุคคลเหล่านี้มาเป็นหัวหน้าพรรคจึงไม่น่าแปลก

ต่อข้อถามว่ามีข่าวหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พ.ต.ท.ทักษิณมองนายกฯคนใหม่ไว้แล้ว เช่น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน นายสุเทพกล่าวว่า แสดงว่าพ.ต.ท.ทักษิณมีอำนาจจริงๆ ใน พรรค มีอำนาจเหนือนักการเมืองเหล่านี้ ฉะนั้นสั่งอะไรก็ได้ทุกอย่าง

จับตา"พัลลภ"กลับกอ.รมน.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหย่าระหว่างพ.ต.ท. ทักษิณกับคุณหญิงพจมานที่ถูกมองเป็นเกมการเมืองว่า ไม่ทราบ อยากให้รอฟังเจ้าตัวเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนข้อเสนอให้ถอนพาสปอร์ตทั้งหมดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อไม่ให้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ได้นั้น ต้องถามกระทรวงการต่างประเทศ เพราะมีการโยนไปมากับนายกฯ ทั้งที่กระทรวงต้องตัดสินใจไปตามระเบียบ กรณีที่ดูเหมือนว่าพ.ต.ท.ทักษิณพยายามเปิดเกมสู้กับทุกฝ่ายนั้น เป็นเรื่องธรรมดา พ.ต.ท. ทักษิณต้องต่อสู้เพื่อตัวเอง ส่วนจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองบานปลายหรือไม่ เราได้หวังว่าท่านจะหยุดเพื่อเห็นแก่บ้านเมือง แต่หากไม่หยุดเราก็ทำอะไรไม่ได้ รัฐบาลเองก็ไม่จริงจังในการทำให้ปัญหายุติ

ต่อข้อถามถึงข่าวรัฐบาลจะแต่งตั้งพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.รมน. กลับมาเป็นผู้ช่วยผอ.รมน. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะเป็นจริงหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ตนเป็นห่วงการแก้ปัญหาที่ต้องใช้สันติวิธี หากยังอยู่ในกรอบนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่หากไม่ใช้วิธีนี้ก็กังวลว่าทุกอย่างจะวุ่นวายขึ้นไปอีก ส่วนที่พล.อ.พัลลภมีภาพของคนที่ชอบใช้ความรุนแรง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่นโยบาย ใครไปอยู่ตรงนั้นก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล เพราะกอ.รมน.เป็นหน่วยงานของรัฐ เมื่อถามว่าเป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ว่าจากนี้ไปการแก้ปัญหาพันธมิตรจะใช้ความรุนแรงมากขึ้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขณะนี้นายกฯยังย้ำเรื่องสานเสวนาอยู่ แต่ยังไม่เห็นมีรูปธรรมในการขยับเรื่องดังกล่าว

ปชป.ยังไม่ชัดผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีชื่อนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็น 1 ในตัวเลือกลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรค ว่า ไม่ทราบแต่ละชื่อมาจากที่ไหน พรรคกำหนดประชุมคณะกรรมการสรรหาและกรรมการบริหารพรรคเรียบร้อยแล้ว ตามระเบียบพรรคต้องขอความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งจะประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 22 พ.ย. คาดว่าจะได้ชื่อบุคคลที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเลย

ส่วนที่มีข่าวอยากได้คนนอกเป็นผู้สมัครมากกว่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งเป้าไว้อย่างนั้น แต่ก็เปิดกว้าง บุคคลภายนอกติดต่อเข้ามาเราก็จะพิจารณา แต่ไม่ได้ตั้งธงว่าต้องเป็นคนนอกหรือคนใน และหากเป็นนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กทม. และรองหัวหน้าพรรคก็ต้องคิดถึงปัญหาเรื่องเลือกตั้งซ่อม ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งในข้อพิจารณาและมีเสียงทักท้วงมาเหมือนกัน

เมื่อถามว่าหาก ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคกังวลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กังวล ทุกครั้งที่ส่งผู้สมัครลงก็มีคู่แข่งอยู่แล้ว พรรคไม่ได้หวั่นไหวอะไร ถือว่าการแข่งขันเป็นเรื่องปกติธรรมดา

"เทือก"โต้ข่าวเตะสกัด"กรณ์"

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีชื่อ นายพรวุฒิ สารสิน เป็นตัวเลือกลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่า ไม่เคยได้ยินมาก่อน และมีโอกาสเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม นายสุเทพยังเผยว่า ขณะนี้มีบุคคลที่มีชื่อที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกแล้ว 9-10 คน เป็นบุคคลที่เป็นส.ส. บุคคลที่ทำงานให้พรรค และคนนอกพรรค

เมื่อถามว่าในใจมีคนที่เหมาะสมหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า คิดไว้แล้ว 1-2 คน แต่ขอไม่เปิดเผย มีทั้งที่เป็นส.ส.และไม่ได้เป็นส.ส. กำลังชั่งใจอยู่ ส่วนที่มีข่าวว่านายกรณ์อาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากนาย สุเทพ เพราะขัดแย้งกันอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นข่าวที่ตลกมาก และเป็นตลกที่ไม่ค่อยดี จริงๆ แล้วตนกับนายกรณ์ชอบกันมาก เพราะคิดอะไรส่วนใหญ่เหมือนกัน นายกรณ์เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่จะเป็นหลักของพรรคในอนาคต ตนให้การสนับสนุนนายกรณ์ค่อนข้างมาก ไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครปล่อยออกมา เพื่อประโยชน์อะไร ต่อข้อถามว่านายกรณ์เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในใจใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายกรณ์เป็นคนหนึ่งที่ตนเห็นว่าจะทำหน้าที่เป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้ดี แต่ปัญหามีอย่างเดียวคือนายกรณ์เป็นส.ส. หากไปลงสมัครก็ต้องเลือกตั้งซ่อม ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ตนหนุนเต็มกำลังไปแล้ว

เผยชื่อ"กรณ์"ยังเป็นเต็งหนึ่ง

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า 2 รายชื่อที่อยู่ในใจของนายสุเทพ คือ นายกรณ์ และม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ส.ส.สัดส่วน ขณะที่ส.ส. กทม. ส่วนใหญ่ของพรรคให้การสนับสนุนนายกรณ์ เนื่องจากเป็นคนหนุ่มไฟแรงและมีความเหมาะสมด้านคุณสมบัติ เป็นที่รู้จักของคนกทม.ในทุกระดับ อย่างไรก็ตาม ในพรรคมีหลายคนที่ต้องการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ทั้งนายเกียรติ สิทธีอมร รมว.เงากระทรวงพาณิชย์ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.สัดส่วน ซึ่งนายสามารถพยายามต่อสายถึงแกนนำพรรค ให้เหตุผลว่าเคยเป็นอดีตรองผู้ว่าฯ กทม.มาก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า บุคคลที่เป็นตัวเต็งคือนายกรณ์ ซึ่งมีคะแนนนำเหนือกว่าคนนอกพรรคที่ได้รับการเสนอชื่อด้วย สำหรับปัญหาเลือกตั้งซ่อมส.ส.นั้น พรรคไม่กังวล เพราะหากพรรคต้องส่งนายกรณ์ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็จะชี้แจงเหตุผลที่เหมาะสม เชื่อว่าชาวกทม.จะยอมรับและให้การสนับสนุนของพรรค สำหรับแคนดิเดตคนนอกที่มีเคยเปิดเผยชื่อออกไป ทั้งหมดได้ปฏิเสธการทาบทามแล้ว ทำให้พรรคต้องพิจารณารายชื่อจากบุคคลภายในพรรคอย่างเดียว ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์นัดประชุมส.ก.และส.ข. ช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย. เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าจะเสนอชื่อบุคคลใด และเช้าวันที่ 21 พ.ย. พรรคนัดประชุมส.ส.กทม.เพื่อหารือในเรื่องเดียวกันเพื่อหาข้อสรุปที่จะนำเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่มีนายบัญญัติเป็นประธาน

พปช.จี้"ประภัสร์"รีบตัดสินใจ

ด้านพรรคพลังประชาชน นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.การพัฒนาสังคมฯ แกนนำภาค กทม. พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า พรรคพยายามสรรหาคนที่เหมาะสมหลายคน รวมทั้งนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครของพรรคครั้งที่แล้ว มีหลายคนที่เสนอตัวลงสมัคร มีทั้งคนที่ทำงานให้พรรคอยู่แล้ว และคนนอกพรรคที่เคยทำงานด้านสังคม หรือในองค์กรเอกชนขนาดใหญ่เหมือนนายประภัสร์ หลักเกณฑ์การคัดเลือกคือ คนที่ทำงานได้ มีเวลาทุ่มเททำงาน และประสบความสำเร็จด้วยตัวเองมาแล้ว

นายอุดมเดช กล่าวว่า คนที่จะได้รับคัดเลือกต้องช่วยตัวเองเรื่องเงินได้ในระดับหนึ่ง แต่เป็นเรื่องรอง แม้งบฯ เลือกตั้งต้องใช้ทุนสูงและจำเป็น แต่เราอยากได้คนที่เหมาะสมจริงๆ หากนายประภัสร์มาลงครั้งนี้น่าจะได้คะแนนมากขึ้นจากครั้งที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคด้วย ประกอบกับครั้งแรกนายประภัสร์มีเวลาหาเสียงสั้นมาก แต่วันนี้สังคมเริ่มรู้จักนายประภัสร์มากขึ้น นายประภัสร์ไม่ปฏิเสธที่จะลงอีกครั้ง แต่ขอดูเงื่อนไขบางอย่างอยู่

นายวัฒนา เซ่งไพเราะ คณะทำงานภาคกทม. พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ไม่เข้าใจและแปลกใจที่นายประภัสร์ลังเล ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายประภัสร์เริ่มเข้าใจการทำงานด้านการเมืองดีแล้ว คิดว่าหากยังไม่ติดสินใจให้ชัดเจนคงจะทำให้การเตรียมตัวหาเสียงล่าช้าเหมือนครั้งที่ผ่านมา ขอให้รีบตัดสินใจเพราะเท่าที่เห็นนายประภัสร์ทำงานได้ดีมาก

ยันไม่ได้ทาบ"ปุระชัย"มาลง

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ผอ.การเลือกตั้งกทม. พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เบื้องต้นได้หารือกับนายประภัสร์ให้กลับมาลงสมัครอีก ซึ่งนายประภัสร์ไม่ได้รังเกียจและไม่น่าจะมีปัญหา อย่างไรก็ตาม มีบุคคลที่พรรคทาบทามไว้หลายคน เป็นทั้งบุคคลในพรรคและบุคคลภายนอก ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ ส่วนร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ พรรคไม่ได้ทาบทาม เพราะเคยทาบทามแล้วแต่ร.ต.อ.ปุระชัยไม่ให้ความสนใจ ที่สำคัญยังติดปัญหาเรื่องคดีหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว

วันเดียวกัน ที่สำนักงานกกต.กทม. มีการประชุมเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายประณต นันทิยะกุล กกต.กทม. ในฐานะประธานการประชุม เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า วันที่ 21 พ.ย. จะเสนอรายชื่อกกต.ประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครชุดใหม่ เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. ในฐานะผอ.การเลือกตั้งกทม. นาย ประวิทย์ ขุนแขวง พล.ต.ต.เอกรัตน์ ม

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์