รองปธ.วุฒิ เสนอสร้างทำเนียบหลังใหม่ติดกับรัฐสภา ส.ว.สรรหาไม่เชื่อ 19 พ.ย.รุนแรงตามคำขู่ เสธ.แดง


รองประธานวุฒิสภาเผยแนวคิดสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มาจากความเบื่อที่ต้องอยู่ทำเนียบชั่วคราวเสนอสร้างแห่งใหม่ติดกับรัฐสภากัน รมต.เบี้ยวประชุมสภา อ้างที่เก่าแคบเกินไปที่จอดรถก็ไม่มี ส.ว.สรรหาไม่เชื่อ 19 พ.ย.จะมีระเบิดตามคำขู่ "ชัย " ห่วงหลังพระราชพิธีเหตุการณ์จะบานปลายจนประเทศไม่สามารถฟื้นตัว

นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ว่า อาจเป็นแนวคิดที่เกิดจากความเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ความจริงการสร้างทำเนียบรัฐบาลแห่งใหม่ก็เป็นไปได้ เพราะทำเนียบรัฐบาลปัจจุบันมีความคับแคบเวลา ใครมาติดต่อราชการก็ไม่มีที่จอดรถ การย้ายจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง โดยขอเสนอให้รัฐบาลมาสร้างทำเนียบรัฐบาลแห่งใหม่ใกล้กับสถานที่ที่จะสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถ้าอยู่ใกล้ๆ กันรัฐมนตรีจะไม่ได้บ่ายเบี่ยงในการเข้าประชุมสภา

"พื้นที่บริเวณแยกเกียกกาย ถือเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการสร้างหน่วยงานราชการ เพราะพื้นที่ทหารบางแห่งก็ไม่เหมาะกับการตั้งอยู่ในชุมนุม เช่น กรมสรรพาวุธ กรมทหารม้า ฯลฯ ดังนั้น หากรัฐบาลจะสร้างทำเนียบรัฐบาลแห่งใหม่น่าจะใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว"  นายนิคมกล่าว และว่า ส่วนความคืบหน้าในการสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกวดราคาการออกแบบอาคาร คาดว่าประมาณเดือนมกราคม 2552 จะสามารถเปิดให้ประกวดราคาได้

นายนิคมยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองภายหลังงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯว่า เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีปรากฏการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการปรับ ครม. และมีการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โดยประเด็นหนึ่งที่น่าจับตามอง คือ สำนวนการยุบพรรคที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นนี้จึงอาจจะเป็นชนวนให้รัฐบาลยุบสภาในสมัยประชุมสามัญทั่วไปที่จะมีการเปิดสมัยประชุมในช่วงปลายเดือนมกราคม 2552 ได้

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขณะนี้หลายฝ่ายก็มีท่าทีลดราวาศอก ถือเป็นการลดเงื่อนไขความรุนแรงไปค่อนข้างมาก ซึ่งการที่มีกระแสข่าวว่าหลังงานพระราชพิธีอาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นนั้น อาจจะตีตนไปก่อนไข้ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าในวันที่ 19 พฤศจิกายน จะมีเหตุระเบิดตามคำขู่ของ พล.ต.ขัตติยะ

"อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันประคับประคองให้รอดพ้นช่วงนี้ไป เพราะอีกไม่นานกระบวนการยุติธรรมก็อาจจะทำให้ประตูการเมืองเปิด เมื่อนั้นอาจถึงคราวที่มีใครลาออกหรือยุบสภา เชื่อว่าเกินสิ้นปีนี้แน่นอน" พล.อ.เลิศรัตน์กล่าว

แหล่งข่าวระดับสูงจากรัฐสภาแจ้งว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้หารือเป็นการภายในกับตัวแทนคณะกรรมการประสานงานร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) บางคน ถึงกระแสความขัดแย้งที่จะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นภายหลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีฯ ว่าที่ประชุมต่างรู้สึกเป็นห่วงว่าเหตุการณ์จะบานปลายจนประเทศไม่สามารถฟื้นตัวได้ ดังนั้น เพื่อหยุดชนวนความรุนแรงจึงไม่ควรบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่เปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.3) แต่ควรปล่อยให้กระบวนการสานเสวนาดำเนินต่อไป เพื่อให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นพอถึงจุดที่จะต้องแก้ไขสังคมก็จะเรียกร้องให้นำกลับมาแก้ไขอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ช่วงนี้ เพราะตอนนี้ความขัดแย้งมีอยู่ในสังคมค่อนข้างสูง

"ในสมัยประชุมนี้และสมัยประชุมวิสามัญจะไม่มีการบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่วาระ เพราะหากนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาก็จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้กลุ่มพันธมิตรชุมนุม ซึ่งก็จะเป็นเหตุนองเลือดอีก ดังนั้น ทางสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจึงเห็นพ้องกันว่าจะไม่สร้างเงื่อนไขอีก" แหล่งข่าวระบุ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์