สนธิงัดกรือเซะ ด่าพัลลภ ตร.สกัดบึ้ม16พย.


ตั้งด่านทั่วกรุง ระเบิดลงอีกลูก กลางม็อบพธม. นครฯฉุนโกเต๊ก ทำพิธีสาปแช่ง

ตร.ระดมตั้งด่านตรวจทั่วกรุงสกัด คนร้ายขนระเบิดป่วนช่วงหลังพระราชพิธี 16 พ.ย.นี้นายกฯสมชายกำชับตำรวจมาตลอดให้ระวังมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ รองผบช.น.ระบุตร.เข้มงวดมาหลายวันแล้ว จะเห็นได้ว่าจับการ์ดพันธมิตรทั้งพกระเบิดพกปืนหลายราย เตือนประชาชนให้คอยระวังเป็นหูเป็นตา เจอวัตถุต้องสงสัยให้รีบแจ้ง 191 ทันที ขณะที่ระเบิดลงอีกลูกกลางม็อบพันธมิตรกลางดึก โดนสะเก็ดบาดเจ็บไป 4 ราย "ปฐมพงษ์"ระบุคนร้ายยิงเอ็ม 79 จากหลังคาตึกก.พ. แต่ตร.สันนิษฐานเป็นการระเบิดภายในที่ชุมนุมเอง "จำลอง"ปิดปากไม่พูดถึง"พัลลภ"ที่ออกมาปกป้องทักษิณ คนเมืองคอนทำพิธีบวงสรวงพระ บรมรูปทรงม้า ก่อนสาปแช่งสนธิที่พูดจาบจ้วงเรื่องโกเต๊ก "ณัฐวุฒิ"ไม่กล้าตั้งฉายาสนธิเพราะกลัวโดนเสกหนังควายเข้าท้อง ไล่ 40 ส.ว.ไปให้สนธิประพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล

-ระเบิดถล่มพันธมิตรเจ็บ 3

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 11 พ.ย. เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณเต็นท์ของกลุ่มพันธมิตรภายในทำเนียบรัฐบาล ห่างจากเวทีปราศรัยเยื้องไปทางขวามือ 50 เมตร หลังเกิดเหตุการ์ดอาสาได้เข้าไปในที่เกิดเหตุทันที พร้อมกันแนวร่วมพันธมิตรไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า คนร้ายน่าจะขว้างระเบิดเข้ามาแล้วไปตกบนหลังคาเต็นท์ก่อนจะระเบิดขึ้น ทำให้เต็นท์มีรูกว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยถูกสะเก็ดระเบิด 3 ราย รักษาตัวอยู่ในทำเนียบรัฐบาล

ต่อมาเวลา 04.20 น. พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเหตุระเบิดพบว่า น่าจะเป็นการใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม-29 เข้ามา ตอนนี้การข่มขู่คุกคามพันธมิตรไม่ใช่แค่ใช้ระเบิดปิงปอง แต่มีการใช้อาวุธสงครามยิงใส่พี่น้องประชา ชนที่มาชุมนุมกันอย่างสงบ และหลังจากเกิดเหตุได้มีการเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้เพื่อที่จะนำหลักฐานดังกล่าวไปตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด พร้อมทำหนัง สือไปยังพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อให้รับทราบว่าประชาชนถูกคุกคาม ถูกทำร้ายด้วยอาวุธสงคราม เพื่อให้พิจารณาว่าทหารสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนมากน้อยแค่ไหน และขอฝากเตือนพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ที่ออกมาพูดจาข่มขู่ประชาชน หากการกระทำครั้งนี้เสธ.แดงมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ควรจะมีการถอดยศ

-พธม.ฉะแม้วจะโฟนอินอีก

ส่วนบรรยากาศการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรภายในทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้ายังคงมีผู้ชุมนุมปักหลักฟังการจัดรายการข่าวเช้า สลับรายการธรรมะและดนตรีบางตา ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุ การณ์ระเบิดภายในทำเนียบเมื่อคืนที่ผ่านมา จนมีคนเจ็บ 4 ราย ว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลที่จงใจฆ่าประชาชน ส่วนบริเวณรอบนอกทำเนียบยังคงมีการ์ดอาสากองทัพธรรมและนักรบศรีวิชัยคอยดูแลความเรียบร้อย

เวลา 09.09 น. บริเวณเต็นท์ด้านหลังเวทีปราศรัยติดคลองผดุงกรุงเกษม นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตร ร่วมพิธีแต่งงานระหว่างนายเกษมณี เกตุแก้ว อายุ 35 ปี การ์ดนักรบศรีวิชัย ชาวพัทลุง กับ น.ส.คล้อย ทินกระโทก อายุ 34 ปี ผู้ชุมนุมชาวนครราชสีมา จากนั้นแกนนำส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าหอซึ่งเป็นเต็นท์ชั่วคราว

นายพิภพ แถลงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินในรายการความจริงวันนี้สัญจร ระบุจะเปิดเผยรายชื่อผู้ที่เป็นศัตรูทางการเมืองว่า พันธมิตรคงไม่มีอะไรตอบ โต้พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่รู้เลยว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะพูดเรื่องอะไรบ้าง ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรระมัดระวังการใช้สื่อของรัฐบาล ไม่ควรใช้คลื่นของ รัฐ ขอให้รัฐบาลดูเรื่องนี้ ไม่ใช่ให้พ.ต.ท.ทักษิณออกมาเคลื่อนไหว จะเกิดปัญหาความมั่นคงของชาติได้

-จำลองไม่ยอมพูดถึงพัลลภ

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร กล่าวถึงการประกาศเปิดเผยรายชื่อศัตรูของพ.ต.ท.ทักษิณว่า คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ แกนนำเองยังไม่ได้ประชุมกัน ต้องติดตามและดูว่าข้อความที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดจะเป็นจริงแค่ไหน ส่วนพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณพร้อมยืนยันเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันนั้น ไม่ขอตอบ จะเป็นการสนับสนุนความชอบธรรมของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ก็ไม่ทราบ ตนไม่ขอเอ่ย ไม่แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะกระทบต่อความเป็นเพื่อนหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า
เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ จปร.7 เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ตนบอกว่าไม่ขอเอ่ยถึงคนนี้ ยังถามกันอยู่ได้

ต่อข้อถามหากความสัมพันธ์กับพล.อ.พัลลภเปลี่ยนไป จะให้ใครเป็นที่ปรึกษา พล.ต.จำลองกล่าวว่า ในที่ชุมนุมมีทั้งพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ และพล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ ปรึกษาใครก็ได้

-ท้า"สมชาย"ฟ้องเรื่องคลิป

เมื่อถามถึงพล.อ.พัลลภระบุมีพันธมิตรที่เป็นเพื่อน จปร.7 บางคนติดต่อมา พล.ต.จำลองกล่าวว่า ไม่ทราบว่าใคร แต่ที่พันธมิตรก็มีพล.อ.ปรีชาเพียงคนเดียวที่เป็นจปร.7 ต่อข้อถามถึงผู้สนับสนุนพันธมิตรลดลง แต่ผู้สนับสนุนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า เราไม่ได้แข่งเรื่องของมวลชน ต่อข้อถามถึงคลิปหน้าเหมือนที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ระบุมีการตัดต่อ พล.ต.จำลองกล่าวว่า นายสมชายเป็นอดีตผู้พิพากษาและอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงควรปฏิเสธให้ชัดว่าไม่ใช่ตัวเอง นายกฯ ประเทศอื่นมีข่าวฉาวขนาดนี้ลาออกไปแล้ว

"เป็นถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังเอาเวลาไปกกสาว ไม่ทำงานหรือยังไง แต่ถ้าไม่ใช่ก็ฟ้องเลยครับ จะได้กอบกู้ชื่อเสียงเกียรติภูมิคืนมา ผมดูแล้วคุณสมชายคงจะรู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนทำ"
พล.ต.จำลอง กล่าว

-ชี้เอ็ม 79 - ยิงจากหลังคาก.พ.

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงเหตุระเบิดเมื่อตอนเช้ามืดวันเดียวกันนี้ว่า พล.อ.ปฐมพงษ์ไปตรวจสอบแล้ว น่าจะเป็นระเบิดชนิดเอ็ม-79 คาดว่าจะยิงมาจากหลังคาสำ นักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย การ์ดพันธมิตรเข้าไปขอความร่วมมือกับก.พ.ร.แล้วว่าให้ตรวจสอบการเข้า-ออกของผู้มาติดต่อให้ดี อย่าให้เข้าไปใช้อาคารในช่วงดึก

เวลา 11.00 น. นายพิภพเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน ที่ถูกสะเก็ดระเบิด พบว่ากลับบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว 1 ราย อีก 3 ราย ยังปักหลักอยู่ภายในทำเนียบ คนแรก คือ นายจรัส ลิ้มสัสนานนท์ อายุ 62 ปี ชาวกทม. ถูกสะเก็ดระเบิดเจาะบริเวณขาซ้ายช่วงหัวเข่า แพทย์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว รายที่ 2 และ 3 ไม่เปิดเผยชื่อ ถูกสะเก็ดระเบิดฝังที่แผ่นหลังหลายจุด อีกรายถูกสะเก็ดระเบิดฝังอยู่สะโพกซ้าย จากนั้นนายพิภพสั่งเจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

-ใช้เวลา 2 วันรื้อเต็นท์ราชดำเนิน

นายจรัส กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณตี 3 ขณะที่พล.อ.ปฐมพงษ์ลงจากเวทีปราศรัย ตนนั่งฟังปราศรัยอยู่ ไม่นานก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ระเบิดดังกล่าวลงห่างจากที่ตนนั่ง 10 เมตร ทะลุจากหลังคาผ้าใบคลุมแดดสีฟ้าเป็นรูขนาดใหญ่ลงมาที่พื้น แต่ไม่ทราบว่ายิงมาจากทิศทางใด ตนสังเกตผู้ชุมนุมจำนวนมากหมอบอยู่ที่พื้น ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว หลังจากสิ้นเสียงระเบิดมีผู้บาดเจ็บ 4-5 คน ร้องครวญครางอยู่ที่พื้น ส่วนตนถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหัวเข่าขาซ้าย ก่อนมีการ์ดพันธมิตรนำส่งสถานพยาบาลรักษาแผลเบื้องต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุทำเนียบ ห่างเวทีปราศรัยประมาณ 50 เมตร พบหลุมกว้าง 10 ซ.ม. พร้อมกับสะเก็ดระเบิดจำนวนมาก ส่วนหลังจากผ้าใบสีฟ้าเป็นรูกว้าง 1 เมตร มีรอยไหม้ ข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจาย ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยรัศมีของแรงระเบิดในครั้งนี้พบว่าห่างจากจุดเกิดเหตุ 200-300 เมตร วันนี้กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้ามาตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดไหน

เวลา 12.00 น. บริเวณถนนราชดำเนินนอก สะพานมัฆวานฯ จนถึงแยกมิสกวัน การ์ดพันธมิตรและผู้ชุมนุมช่วยกันรื้อและย้ายเต็นท์หลายสิบหลังและข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดเข้ามายังในบริเวณทำเนียบทั้ง หมด คาดว่าใช้เวลาขนย้ายไม่ต่ำกว่า 2 วัน สามารถเปิดถนนราชดำเนินนอกได้เต็ม 10 ช่องทางจราจร แต่ขณะนี้การ์ดพันธมิตรยังคงปิดถนนตลอดเส้นอยู่ โดยนำยางรถยนต์ รั้วเหล็ก กั้นขวางถนนไว้จนกว่าจะขนย้ายหมดถึงจะเปิดให้

-ตร.เตือนระวังระเบิดโผล่

เวลา 12.10 น. ที่บช.น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. แถลงข่าวถึงมาตรการรักษาความปลอด ภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทง พร้อมกับให้ พ.ต.ท.กำธง อุ่ยเจริญ รอง ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.นำเอาตัวอย่างวัตถุระเบิดชนิดต่างๆ มาสาธิตประกอบการแถลงด้วย โดยพล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า วันนี้ขอเรียนให้สื่อมวลชนทราบว่า ขณะนี้มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นรายวัน ฉะนั้นด้วยความเป็นห่วงและห่วงใย โดยเฉพาะยิ่งใกล้เทศกาลวันลอยกระทง จึงฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนทั่วไป ถ้าหากพบเห็นหรือรับแจ้งวัตถุต้องสงสัย ที่มีลักษณะคล้ายจะเป็นระเบิดใช่หรือไม่ใช่ก็ตาม ขอความกรุณาแจ้งต่อตำรวจ นครบาล ทางโทร.191 ซึ่งจะมีชุดเก็บกู้ระเบิดออกไปตรวจสอบ หลายๆ กรณีที่เราไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่วัตถุระเบิด เป็นเพียงแค่วัตถุต้องสงสัยก็ตาม ทางตำรวจเราจะออกไปทำการตรวจสอบทุกเรื่องที่ประชา ชนสงสัยและแจ้งมาทันที

รองผบช.น.กล่าวต่อว่า สำหรับตัวอย่างที่นำมาแสดงให้ดูเพื่อให้ประชาชนเป็นที่สังเกตวัตถุต้องสงสัยต่างๆ จะประกอบด้วยสายไฟ นาฬิกา สิ่งต่างๆ ที่ดูแล้วไม่แน่ใจ อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของประชาชนได้ โดยเฉพาะผู้ไม่ประสงค์ดีก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งจะเห็นว่าปัจจุบันจะมีเหตุอันเกี่ยวข้องกับระเบิดแทบทุกวัน

-ชี้ระเบิดพธม.-ไม่ใช่เอ็ม 79

พล.ต.ต.สุพร กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดในทำเนียบเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ได้รับแจ้งจากวิทยุทหารว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้น ตำรวจเราจะไปทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ แต่ทางฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมห้ามไม่ให้เข้าไปตรวจสอบได้ เราจึงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลรามาฯ มีจำนวน 3 ราย นายสุรินท์ ชันชนะ นายประสิทธิ์ คงฤทธิ์ และนายจรัส ลิ้มสัสนานนท์ ได้รับบาดเจ็บเป็นรอยไหม้เท่านั้น สำหรับในเรื่องทางคดีถ้าทางผู้เสียหายมาแจ้งความตำรวจเราก็จะลงประจำวันไว้ให้ ถ้าพร้อมจะให้เราไปตรวจสอบก็จะเข้าไปทันที แต่ถ้าเขาไม่ยิน ยอม เราก็ทำอะไรไม่ได้ บางครั้งเมื่อเราได้รับแจ้งเหตุแล้วกรณีที่เราไปดูที่เกิดเหตุได้ทันที แต่เมื่อการ์ดพันธ มิตรฯ บอกว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากแกนนำก่อนก็ยังเข้าไปไม่ได้

ต่อข้อถามว่า ที่มีการระบุว่าเป็นระเบิดชนิดยิงด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 นั้น พล.ต.ต.สุพรกล่าวว่า ตามความเห็นของตนที่ไม่ได้เข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ ดูจากข้อมูลข่าวสารที่รายงานออกมาดูแล้วไม่ใช่ โดยระเบิดดังกล่าวเกิดจากภายในบริเวณกลุ่มของพันธมิตร สำหรับการยิงด้วยเอ็ม 79 จะต้องแตกและมีการทำลายหลายๆ อย่าง แต่เราไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ เราจึงไม่สามารถยืนยันว่าเป็นการยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ดูแล้วน่าเชื่อว่าการระเบิดดังกล่าวเกิดจากการระเบิดภายใน ส่วนจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ตนไม่ขอฟันธง เพราะไม่รู้ข้อเท็จจริง สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าได้ตัวผู้ต้องสงสัยมีการตรวจสอบ สอบปากคำแล้วพบว่าไม่ใช่

-ตั้งจุดตรวจเข้ม-สกัดบึ้มป่วน

ต่อข้อถามถึงรายงานข่าวการเตือนของสันติบาลให้ทุกหน่วยระวังการก่อเหตุร้ายด้วยระเบิดหลังวันที่ 16 พ.ย.นั้น พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่าในส่วนของ บช.น.ได้รับการแจ้งเตือนก็ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนหาข่าวและมีการตั้งจุดตรวจค้น จะเห็นว่าเรามีการจับกุมผู้ที่พกพาวัตถุระเบิด ตลอดจนวัตถุต้องสงสัยต่างๆ บช.น.เราระดมกวาดล้างมาตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.แล้วมีการตั้งด่าน ตรวจสกัดจับ พบวัตถุต้องสงสัยจากบุคคลหลายราย แต่ทั้งนี้ยังไม่ถึงขั้นสนับ สนุน ว่าจะเกิดเหตุหลังวันที่ 16 พ.ย. แต่เราก็ไม่ประมาท มีการดำเนินการเป็นพิเศษ สืบสวนหาข่าวในเชิงลึก ทั้งการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เป็นหน้าที่โดยตรงของเราที่จะต้องเพิ่มความเข้ม

"เราเป็นห่วงใยสวัสดิภาพของประชาชนมากกว่า ในส่วนผู้มาร่วมชุมนุมเราไม่ต้องฝากเตือนอะไร เพราะมีวิจารณญาณในการตัดสินใจมาร่วมชุมนุมแล้ว แต่ขอฝากเตือนไปถึงประชาชนทั่วไปในช่วงเทศกาลลอยกระทงอย่าตั้งในความประมาท หากพบวัตถุต้องสงสัยมีพิรุธขอให้แจ้งเตือนมาทางตำรวจเราจะไปตรวจสอบให้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเอง เมื่อรับแจ้งเหตุทางชุดเก็บกู้ฯ ซึ่งมีอยู่ในส่วนของ บก.ตปพ.จำนวน 4 ชุด ปฏิบัติการตรวจสอบในพื้นที่ กทม.พร้อมปฏิบัติตลอด 24 ช.ม." พล.ต.ต.สุพรกล่าว

-เผยสถิติขู่เบิดป่วนกรุงอื้อ

พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ บช.น.เปิดเผยสถิติการรับแจ้งเหตุว่า ศูนย์เทคโนโลยีฯ ได้รับแจ้งเหตุผ่านทางโทร. 191 ในรอบเดือนต.ค. เป็นการโทร.ขู่วางระเบิด 1 ครั้ง ในพื้นที่ บก.น.5 โทร.แจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัย 1 ครั้ง ในพื้นที่ บก.น.6 เดือน พ.ย.ตั้งแต่วันที่ 1-10 พ.ย. ได้รับแจ้งเหตุโทร.ข่มขู่วางระเบิด 3 ครั้ง ขู่วางระเบิดในพื้น ที่ บก.น.1 จำนวน 2 ครั้ง และบก.น.5 จำนวน 1 ครั้ง สำหรับการโทร.รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัย 2 ครั้ง ในพื้นที่ บก.น.1

พ.ต.อ.ประสงค์ ยอมรับว่า ตั้งแต่มีการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตร และเกิดเหตุระเบิดบ่อยครั้ง ทำให้ศูนย์เทคโนโลยีฯ รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับวัตถุระเบิดลดน้อยลงกว่าช่วงที่ไม่มีการประท้วงชุมนุม ซึ่งแต่ก่อนจะมีคนโทรศัพท์แจ้งเหตุในลักษณะแจ้งเท็จ เช่นนักเรียนนึกสนุกคึกคะนอง ชอบโทร.แจ้งให้ตำรวจไปตรวจสอบเดือนละนับพันราย เมื่อมีการชุมนุม พบว่าสถิติการรับแจ้งเหตุเกี่ยวกับวัตถุต้องสงสัยลดลงไปมาก อาจมีสาเหตุมาจากเกิดเหตุระเบิดของจริงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่เมื่อศูนย์เทคโนโลยีฯ รับแจ้งเราจะประสานให้ท้องที่ไปตรวจพิสูจน์ทุกราย

-ยังไม่มีการสอบคดี"โกเต๊ก"

ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ระบุว่าได้แจ้งให้ตำรวจไปดำเนินการเกี่ยวกับกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ระบุว่าได้นำเอาสิ่งสกปรกผ้าอนามัยใช้แล้วไปป้ายฐานพระรูปทรงม้า นั้น พล.ต.ต. สุพร กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้เลย ขอทำการตรวจสอบก่อน ว่าทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไร และใครเป็นผู้แจ้ง ท่านอาจจะมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะให้ดำเนินการ แต่ทั้งนี้ต้องดูก่อนว่าใครเป็นผู้เสียหาย ต้องขอตรวจสอบดูก่อนว่าใครเป็นผู้เสียหายและเป็นผู้เสียหายที่ถูกต้องหรือไม่ ตนดูแล้วจะเกี่ยวข้องในส่วนของความผิดเรื่อง พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ทำสิ่งสกปรกให้เลอะเทอะ มองดูแล้วเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า

พ.ต.ท.กำธร รอง ผกก.ชุดเก็บกู้ระเบิด ซึ่งมีความคุ้นเคยกับวัตถุระเบิดแทบทุกชนิด ได้แสดงทรรศนะกรณีที่ระเบิดตกใส่เต็นท์พันธมิตร เมื่อช่วงตี 3 ที่ผ่านมาวันนี้ว่า สมมติว่า ถ้าเป็นระเบิดชนิดเอ็น 79 ยิงด้วยเครื่องยิงมาก็จะตกทะลุพลาสติกที่กั้นได้อยู่แล้วเพราะน้ำหนักของลูกระเบิด ซึ่งตัวของมันจะแตกเมื่อตกกระทบ รัศมีทำลายหลังแตกออกไม่เกิน 10 เมตร ตัวผู้บาดเจ็บที่อยู่ในรัศมีจะได้รับสะเก็ดระเบิด ส่วนที่ระบุว่ามีรอยไหม้ทะลุเป็นรูที่พลาสติกนั้นตนไม่ได้เห็นเอง จึงบอกไม่ได้แน่ชัด สำหรับเอ็ม 79 ยิงด้วยเครื่องยิงได้ทั้งวิถีตรง 400 เมตร และวิถีโค้ง 200 เมตร ตนนึกไม่ออกว่าจะยิงหรือขว้างเข้ามา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นระเบิด ปะทัดยักษ์หรือระเบิดปิงปองถ้าใช้ชนวนถ่วงเวลายาวๆ ก็สามารถปาเข้าไปถึง และอาจแตกกระทบพลาสติก

-เสธ.แดงยังขู่พันธมิตรซ้ำ

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงเหตุระเบิดล่าสุดบริเวณสถานที่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรมีผู้บาดเจ็บ 4 คนว่า เคยแจ้งเตือน จะคอยรายงานข่าวสารให้พี่น้องพันธมิตรทราบ ขอบคุณลูกๆ ที่พาพ่อแม่ออกจากพื้นที่พันธมิตร ภาพเมื่อคืนเห็นได้ว่าคนที่โดนเป็นสาวกของโพธิรักษ์ เป็นคนของสันติ อโศกทั้งนั้น คนที่โดนเริ่มเป็นผู้หญิง เริ่มเป็นประชา ชน เพราะนักรบศรีวิชัยเป็นการ์ดเอาตัวรอดไปอยู่ในหลุมในบังเกอร์ เอากระสอบทรายตั้ง 8 ชั้น เอาตาข่ายครอบแล้วหนีไปนอนนอกทำเนียบกันหมด และความจริงผู้ชุมนุมที่เวทีพันธมิตรมีไม่ถึง 20 คน แต่เอาภาพตัดต่อ ทำให้ตัดภาพเห็นเป็น 100 คน จะเห็นได้จากภาพตอนที่ระเบิดลงแล้ววิ่งหนีกันมีคนไม่ถึง 20 คน

"ผมขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายให้ออกไปจากทำเนียบรัฐบาลก่อนวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งมีงานรัฐพิธีระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. ขอให้ยอมจำนนปราศจากเงื่อนไข รีบส่งมอบทำเนียบรัฐบาลให้พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. แล้วให้พล.ต.ต.อำนวยติดต่อเจ้าหน้าที่ทำเนียบมาตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด ตั้งแต่สิ่งของสมัยรัชกาลที่ 3, 4 และ 5 ที่ระลึกจากประธานาธิบดี นายกฯ ต่างๆ มอบให้รัฐบาล แม้กระทั่งเก้าอี้ของรัชกาลที่ 5 ที่ขาหักต้องเสียทรัพย์สิน หลังวันที่ 14 พ.ย.จะประกาศหยุดยิง แต่หลังวันที่ 19 พ.ย. งานราชพิธีเสร็จสิ้น การทอดกฐินหลวงจะเกิดขึ้น กองกำลังไม่ทราบฝ่าย แก๊ง 47 โรนิน ซามูไรไร้สังกัด จะทอดกฐินหลวงแน่นอนเพราะพันธมิตรขาดความชอบธรรม" พล.ต.ขัตติยะกล่าว

-เสธ.หมึกไม่รู้เรื่องพัลลภพบแม้ว

แหล่งข่าวทางทหาร เปิดเผยว่า เบื้องหลังการเดินทางไปประเทศจีนของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.รมน. ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อไปออกรอบตีกอล์ฟกับกลุ่มเพื่อนในก๊วนกอล์ฟที่ออกรอบด้วยกันเป็นประจำ โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว.คมนาคม ที่อยู่ในฐานะ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรมว.พาณิชย์ และนายพิเชษฐ สถิรชวาล ที่สนามกอล์ฟปินกรีนวัลเลย์ ของนายชาญชัย รวยรุ่งเรือง หรือเหยียน ปิน เพื่อนซี้ของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ นายพงษ์ศักดิ์ เป็นผู้ประสาน รวมถึงประสานให้พล.อ.พัลลภได้พบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ประเทศจีนและพักอยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งนี้เช่นกัน โดยพบกันในช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ย. ซึ่งได้ร่วมรับประทานอาหารนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่คณะของพ.ต.ท. ทักษิณ และพล.อ.พัลลภ จะแยกย้ายกันพักผ่อนในประเทศจีน

พล.ท.พิรัช สวามิภักดิ์ หรือเสธ.หมึก เพื่อนร่วมรุ่น จปร. 7 ของพล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าพล.อ.พัลลภเดินทางไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณเมื่อใด เพราะไม่ได้บอกตนหรือกลุ่มเพื่อนล่วงหน้า เมื่อสัปดาห์ก่อนตนยังเจอพล.อ.พัลลภที่เขาใหญ่ ซึ่งมาร่วมงานวันเกิดของ ผู้ใหญ่ที่รู้จักกัน ตนและพล.อ.พัลลภยังนอนคุยกันอยู่เลย แต่ไม่เห็นบอกว่าจะไปจีนหรือไปพบพ.ต.ท. ทักษิณ ทั้งนี้ ตนไม่รู้วัตถุประสงค์ว่าพล.อ.พัลลภคิดอย่างไร ต้องดูกันต่อไปว่าพล.อ.พัลลภจะได้รับบทบาทอะไรในรัฐบาลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมรุ่นยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

-ชี้"พัลลภ"ฉุนลบหลู่พระรูปร.5

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน 1 ในพิธีกรรายการความจริงวันนี้ กล่าวถึงกรณีพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.รมน. ที่ออกมาโจมตีการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า พล.อ.พัลลภคงทนไม่ได้ เหมือนประชาชนเกือบทั้งประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ไสยศาสตร์กับพระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 หลังจากที่มีข่าวนี้มีอดีตผบ.ทบ.ที่เคยเป็นผู้นำประเทศโทรศัพท์มาบอกว่าไม่เห็นด้วย หรือแม้แต่การพยายามปล่อยข่าวว่าจะเกิดความรุนแรงหลังวันที่ 16 พ.ย. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางระเบิดทั่วกรุง เพื่อให้เกิดความรุนแรง และให้ทหารออกมาปฏิวัติ ขอเตือนว่าหากเป็นเช่นนั้นคนอีกกลุ่มคือพวกเสื้อแดงก็พร้อมออกมาทันที จึงขอให้กลุ่มคนที่จะก่อความรุนแรงและกลุ่มที่จะยึดอำนาจต้องคิดให้มากไว้ด้วย

-ส.ว.จัดเสวนาเหตุการณ์ 7 ต.ค.

ก่อนหน้านี้ เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา คณะอนุ กรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ในคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล คณะอนุกรรมาธิการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตของน.ส.อังคณา หรือโบว์ ระดับปัญญาวุฒิ ในเหตุการณ์หน้าลานพระบรมรูปฯ วันที่ 7 ต.ค. ในคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข และคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและติดตามสถานการณ์ความรุนแรงและปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกันจัดเสวนาเรื่อง "รายงานผลการตรวจสอบเหตุการณ์ความรุนแรงวันที่ 7 ตุลาคม"

พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นตำรวจเก่า คิดว่าการสลายการชุมนุม ตำรวจคงไม่มีความรู้ในการใช้อาวุธ และไม่ทราบว่า ตชด.เบิกแก๊สน้ำตามาจากไหน เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. รัฐบาลต้องตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์ขึ้นมารับผิดชอบ เพราะเป็นผู้สั่งการเพียงคนเดียว และจากกรณีที่พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากรองนายกฯ ก็ยังไม่มีผู้มารับผิดชอบต่อ และเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น เนื่องจากตำรวจมาจากหลายหน่วยงาน หลายโรงพัก ทำให้มีความสับสนในการสั่งการ ดังนั้น ผบ.ส่วนหน้าจะต้องมาเล่นในสนามจริงๆ ไม่ใช่อยู่ที่บชน. แล้วฟัง ว. เพื่อสั่งการเท่านั้น

-ชี้น้องโบว์ไม่ได้พกระเบิด

ด้านพล.อ.ต.น.พ.วิชาญ เบี้ยวนิ่ม อนุกรรมาธิการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตฯ และหัวหน้าหน่วยนิติเวช ร.พ.รามาธิบดี ผู้ชันสูตรศพน.ส.อังคณา กล่าวว่า น.ส. อังคณา เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล เมื่อศพมาถึงพบว่า ปนเปื้อนแก๊สน้ำตา จึงต้องล้างหลายครั้งก่อนชันสูตร เมื่อชันสูตรพบว่า เสื้อผ้าฉีก มีรอยไหม้ดำ บาดแผลใหญ่บริเวณอกด้านซ้ายต่อเนื่องมาถึงแขน ขนาด 40x14 ซ.ม. ลึกถึงซี่โครง ซี่โครงหักตลอดแนว ปอดช้ำเลือดออกกระจาย ม้ามแตก เยื่อหุ้มหัวใจและผนังทะลุ เมื่อส่องกล้องจุลทรรศน์พบชัดเจนว่า เป็นเพราะแรงอัดและความร้อน สารเคมีที่ปนเสื้อผ้าก็เป็นสารประกอบของระเบิดแก๊สน้ำตา ไม่ใช่ระเบิดปิงปองหรือระเบิดสังหาร และเป็นการระเบิดใกล้ตัว ไม่ได้ชิดตัว จึงไม่ใช่การพกระเบิดแล้วระเบิดเอง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา อนุกรรมาธิการติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองฯ กล่าวว่า สตง. ตรวจพบว่ากองพลาธิการและสรรพาวุธ สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ ซื้อระเบิดแก๊สน้ำตาจากจีน โดยเป็นแบบขว้าง 17,000 ลูก เมื่อปี 36-38 แบบยิงจำนวน 40,800 ลูก เมื่อปี 36 และยังพบว่า รองผบ.ตร.คนหนึ่ง ขอระเบิดแก๊สน้ำตาจาก 4 หน่วย ซึ่งเป็นอาวุธเก่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 51 โดยระบุชัดว่า "ขอชนิดขว้างผลิตในประเทศจีน" เพื่อควบคุมการชุมนุม ไม่ใช่ขอ กองพลาธิการ นอกจากนี้ พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้เชี่ยวชาญสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาให้ข้อมูลว่าระเบิดแก๊สน้ำตาดังกล่าว มีซีโฟร์ 7 กรัม จุดชนวนแล้วพุ่ง 200-300 ฟุต ต่อวินาที สามารถเป็นอันตรายต่อร่างกาย และในลูกระเบิด ส่วนผสมที่เป็นแก๊สน้ำตาจะเสื่อมใน 5-8 ปี ส่วนส่วนผสมที่เป็นซีโฟร์ ไม่หมดอายุ ทั้งนี้ระเบิดแก๊สน้ำตาดังกล่าว ตำรวจเรียกคืนมาเก็บหมด เพราะใช้ตั้งแต่พฤษภา 35 และหมดอายุแล้ว นอกจากนี้ ฝ่ายตำรวจยังเคยระงับการซื้อระเบิดแก๊ส น้ำตาจากจีนเพราะพบว่า ร้ายแรง ไม่รู้ว่าทำไมจึงนำกลับมาใช้อีก ส่วนฝ่ายตำรวจใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาไปจำนวนเท่าใด อนุฯ กำลังตามตรวจสอบอยู่

-ฮึ่มจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล กล่าวว่า รัฐบาลน่าจะยับยั้งตั้งแต่สลายการชุมนุมในครั้งแรก เนื่องจากรู้ดีว่าแก๊สน้ำตาส่งผลให้เกิดความเสียหายรุนแรง แต่กลับใช้การสลายการชุมนุมที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ตนอยากตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐถึงมีการเก็บกวาดหลักฐานเร็วมาก ซึ่งตามหลักสากลควรพิสูจน์หลักฐานก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการทั้ง 3 คณะยังมีมติว่ากรณีการสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค. หากฝ่ายรัฐบาลยังไม่แสดงความรับผิดชอบ หรือยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส.ว.จากทั้ง 3 คณะกรรมา ธิการ จะรวบรวมรายชื่อส.ว. 1 ใน 3 เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ในสมัยประชุมสามัญหน้า ช่วงปลายเดือนม.ค.

-นายกฯให้รอผลวิทยาศาสตร์

ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงคณะกรรมาธิการวุฒิสภาที่ศึกษาพิจารณาเหตุการณ์ 7 ต.ค.สรุปว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจละเมิดสิทธิมนุษยชนในเหตุการณ์สลายม็อบว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการฯ เมื่อถามว่าจะส่งผลอะไรต่อรัฐบาลและจะนำมาพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ คงจะแจ้งให้รัฐบาลทราบ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการแจ้ง เพิ่งทราบจากสื่อมวลชน

เมื่อถามว่าแสดงว่ารัฐบาลจะฟังเฉพาะแต่กรรมการที่ฝ่ายรัฐบาลตั้งขึ้นมาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครตั้งคณะกรรมการสอบบ้าง แต่ดูอยู่ว่าใคร ทำอะไรผลออกมาเป็นอย่างไร สุดท้ายอะไรที่เป็นผลทางวิทยาศาสตร์หรือผลแท้จริงออกมา แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นผลการสรุปของกรรมการชุดใดออกมาเลย

-ย้ำให้ระวังมือที่ 3 ป่วนระเบิด

เมื่อถามถึงฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเตือนให้ระวังเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กทม.หลังวันที่ 16 พ.ย. นายกฯ กล่าวว่า ความจริงเราระมัดระวังกันอยู่แล้ว ตั้งแต่มีเหตุในหลายๆ จุด ได้กำชับให้ระมัดระวังเพราะอาจมีมือที่สามหรือมืออื่นๆ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา มีการจับผู้ต้องสงสัยที่มีวัตถุระเบิดได้ ตนเป็นห่วงจึงอยากให้ทุกฝ่ายระวัง ส่วนของประชาชนก็เช่นกันโดยเฉพาะช่วงเทศกาลลอยกระทง หากหลีกเลี่ยงในพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่ที่วุ่นวายได้ก็ขอให้หลีกเลี่ยง ตนเป็นห่วงจริงๆ

เมื่อถามว่าได้รับรายงานจากการข่าวหรือไม่ว่าในวันดังกล่าวจะมีเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้รับการข่าวอะไร อีกทั้งวันที่ 16 พ.ย. ยังอยู่ระหว่างพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คิดว่าทุกคนควรจะนิ่ง เพื่อถวายความอาลัยและแสดงถึงความจงรักภักดี ไม่ควรเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น ต่อข้อถามว่ามีรายงานข่าวว่าผู้ก่อเหตุต้องการดิสเครดิตและต้องการทำให้เห็นว่ารัฐบาลอ่อน แอ นายสมชาย กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ส่วนเรื่องว่ารัฐบาลอ่อนแอหรือไม่ อยู่ที่แต่ละคนจะวิเคราะห์

ผู้สื่อข่าวถามถึงพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร ระบุเหตุยิงระเบิดเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาลเป็นฝีมือฝ่ายเจ้าหน้าที่และรัฐบาลต้องรับผิดชอบ นายกฯ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามพร้อมเดินหนีขึ้นไปยังห้องทำงานทันที

-พปช.จวกพธม.ตามราวีหมัก

เวลา 14.00 น. มีการประชุมส.ส.พรรคพลังประชา ชน จากนั้นร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงว่า ที่ประชุมยังพูดถึงนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถูกกลุ่มพันธมิตรในสหรัฐถือป้ายประท้วงในช่วงการเดินทางไปรักษาตัว ที่ประชุมเห็นว่าเป็นการตามราวีอย่างไม่เลิกรา ไม่ให้เกียรติ เปิดเผยตัวเองของกลุ่มพันธมิตรว่าไร้น้ำใจอย่างโหดเหี้ยม ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนต่างเห็นใจกับนายสมัครมาก กรณีพ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกกลุ่มพันธมิตรโจมตี หากจะประกาศตอบโต้ชี้แจงข้อเท็จจริงก็ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะประชาชนคนไทย ส่วนสิ่งที่พันธมิตรกระทำอยู่นั้น เมื่อลัทธิจำลองที่มีสันติอโศกเป็นพื้นฐาน มีคำสอนเกี่ยวกับหลักเหตุผล ไม่เชื่อเรื่องไสย ศาสตร์ มารวมตัวกับลัทธิสนธิที่เน้นเรื่องไสยศาสตร์ สร้างความงมงาย เป็นผีบุญยุคไฮเทค ถือเป็นกลุ่มที่ดำเนินการอย่างเลอะเทอะเปรอะเปื้อน เราจึงไม่ให้ราคาในการตอบโต้

ต่อมาเวลา 14.50 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 6 นาย ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อตรวจสอบและเก็บ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์