ไทยพีบีเอสขอโทษม็อบเสื้อแดง ตีข่าวหัว2พันฟังโฟนอินทักษิณ

ม็อบเสื้อแดงบุกยึด "ไทยพีบีเอส" เชียงใหม่ พังรั้ว-ล็อกกุญแจปิดทางเข้าออก ขู่เผาสถานี-ตัดน้ำไฟ เหตุไม่พอใจเสนอข่าวรับเงินหัวละ 2,000-3,000 บาท ร่วมงาน "ความจริงวันนี้"

ลั่นพร้อมปักหลักยาว ด้าน 3 สมาคมสื่อออกแถลงการณ์เรียกร้องยุติคุกคาม ผบ.เหล่าทัพถกรับมือแผน "แม้ว" ขณะที่ อนุพงษ์" ประกาศยอมไม่ได้หากมีการดึงฟ้าต่ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และกลุ่มประชาชนที่เคลื่อนไหวและสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กว่า 200 คน นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เดินทางมาชุมนุมและปิดล้อมทางเข้าออกสถานีไทยพีบีเอส โดยมีตำรวจ สภ.สันทราย ส่งกำลังจำนวน 65 นาย ตรึงกำลังรักษาความสงบ โดยมีโล่และอาวุธพร้อมมือ


เมื่อกลุ่มเสื้อแดงมาถึงบริเวณหน้าสถานีไทยพีบีเอส แกนนำได้ลงมาเจรจาให้ตำรวจเปิดประตู เพื่อบุกเข้าไปภายในอาคาร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอม

กลุ่มเสื้อแดงจึงพากันดันและฝ่ากำแพงตำรวจ สามารถพังประตูรั้วด้านหน้าเข้าไปภายในอาคาร โดยนำรถขยายเสียงเข้าไปในสถานี และเข้ายึดปิดล้อมสถานีไว้ ทั้งนี้ หนึ่งในแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวบนรถขยายเสียงว่า จะปิดล้อมสถานีและปักหลักนำอาหารและเต็นท์มาตั้ง เพื่อขอความชัดเจน กรณีการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเมื่อคืนวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ระบุตอนหนึ่งว่า กลุ่มเสื้อแดงจาก จ.เชียงใหม่ รับเงินค่าจ้างจากนักการเมืองท้องถิ่นรายละ 2,000-3,000 บาท เพื่อไปร่วมรายการ "ความจริงวันนี้" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แบ่งเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 500 บาท ค่าอาหารอีกวันละ 200 บาท โดยกำหนดเบี้ยเลี้ยงให้เป็นเวลา 5 วัน เพื่อจูงใจให้ไปร่วมงาน และฟรีค่าที่พักและอาหาร


แกนนำคนดังกล่าวระบุด้วยว่า รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก และจะไม่ยอมเจรจากับผู้บริหารสถานีคนใด นอกจากนายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพียงคนเดียวเท่านั้น


และจะปักหลักชุมนุมบริเวณดังกล่าวจนกว่าจะได้ตามความต้องการ ทั้งยังขู่ให้นำตัวนักข่าวที่รายงาน และแหล่งข่าวที่ให้ข่าวนี้มาชี้แจง พร้อมกับให้ออกมาขอโทษกลุ่มเสื้อแดงผ่านสื่อมวลชน หากนายเทพชัยไม่ยอมลงมาเจรจาในเวลา 16.00 น.วันนี้ จะตัดน้ำตัดไฟทันที
ขณะที่นายวิวัฒน์ไชย สมคำ หัวหน้าศูนย์ข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ภาคเหนือ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้รับทราบข่าวแล้วว่าจะมีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำกำลังมาชุมนุมปิดล้อม เนื่องจากไม่พอใจการนำเสนอข่าวเรื่องการรับเงินเพื่อเข้ามาร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นขอชี้แจงว่า การนำเสนอข่าวในวันดังกล่าวเป็นการนำเสนอข่าวของสถานีที่กรุงเทพฯ โดยเป็นการสัมภาษณ์นักการเมืองรายหนึ่ง ไม่ใช่เป็นการนำเสนอข่าวส่งตรงลงมาจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่อย่างใด



ต่อมาเวลา 14.30 น. นายอนุพงศ์ ชัยฤทธิ์ บรรณาธิการบริหารฝ่ายเนื้อหาข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เดินทางมาที่ศูนย์ข่าว จ.เชียงใหม่ เพื่อเปิดเจรจากับนายเพชรวรรต

โดยพยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะขอพบนายเทพชัย รวมถึงผู้ประกาศข่าวและแหล่งข่าวที่ให้ข่าวดังกล่าวเท่านั้น และให้ขอโทษที่เผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกไป ไม่เช่นนั้นจะปักหลักชุมนุมต่อไป ตลอดจนจะตัดน้ำตัดไฟของศูนย์ข่าวแห่งนี้ด้วย
เวลา 16.00 น. มีการเปิดเจรจารอบสอง ฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมได้ส่ง น.ส.กัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม นักจัดรายการวิทยุชุมชน 92.5 เมกะเฮิรตซ์ หนึ่งในแกนนำม็อบเสื้อแดง เข้าเจรจาร่วมกับผู้บริหารของสถานีไทยพีบีเอส ซึ่งหัวหน้าศูนย์ข่าวไทยพีบีเอสเชียงใหม่แจ้งว่า ได้ต่อสายตรงรายงานนายเทพชัยทราบตลอดระยะ โดยทราบว่านายเทพชัยได้เรียกประชุมบอร์ดใหญ่ที่กรุงเทพฯ เพื่อหาข้อยุติเป็นการเร่งด่วนแล้ว


อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจที่นายเทพชัยไม่เดินทางมาชี้แจงด้วยตัวเอง จึงประกาศให้พนักงานไทยพีบีเอสออกมาจากอาคาร ไม่เช่นนั้นจะปิดล้อม

ซึ่งหัวหน้าศูนย์ข่าวเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายจึงให้พนักงานทุกคนออกจากอาคาร จากนั้นผู้ชุมนุมได้นำกุญแจไปปิดล็อกประตูทางเข้าออกทุกประตูและยึดสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ และเรียกระดมย้ายเวที นปช.ที่เดิมปักหลักที่โรงแรมแกรนด์วโรรส ให้ย้ายมาชุมนุมที่ศูนย์ข่าวไทยพีบีเอสเชียงใหม่แทน กลุ่มผู้ชุมนุมยังขู่ว่า หากนายเทพชัยไม่เดินทางมาเจรจาด้วยตัวเอง ก็จะปักหลักกดดันไม่มีกำหนด จนกว่านายเทพชัยจะเดินทางมา และขู่ว่าอาจจะเผาสถานีด้วย


แหล่งข่าวพนักงานไทยพีบีเอสเปิดเผยว่า หัวหน้าศูนย์ข่าวพร้อมพนักงานและผู้บริหารระดับสูงที่บินมาจากกรุงเทพฯ ได้เดินทางไปยังเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง

เพื่อหารือกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหากลุ่มม็อบ และแนวทางแก้ปัญหาเรื่องการส่งข่าวและภาพข่าว หลังสถานีถูกยึดจนไม่สามารถออกอากาศและปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยอาจใช้ช่องทางการส่งข่าวทางอินเทอร์เน็ตแทน
ขณะที่นายเทพชัยให้สัมภาษณ์ว่า ในที่ประชุมบอร์ดวันนี้ได้ข้อสรุปว่า สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสพร้อมให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ข้อมูลในส่วนของไทยพีบีเอสยืนยันว่ามีการตรวจสอบแล้ว และเป็นข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงพุ่งเป้ามาที่ไทยพีบีเอสเพียงที่เดียว


นายเทพชัยกล่าวอีกว่า ในส่วนของการดูแลพนักงานที่ติดอยู่ในศูนย์ข่าวนั้น ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในการคุ้มครองดูแลความปลอดภัย

ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าพร้อมให้การดูแล นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพราะเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน และเชื่อว่าในส่วนของบรรณาธิการบริหารฝ่ายเนื้อหาข่าวที่ส่งไปเจรจาจะสามารถหาข้อยุติร่วมกันกับผู้ชุมนุมได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์