สมชายพร้อมเจรจา โชว์เสื้อขาว ยุติความรุนแรง


เครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม เดินหน้าเจรจายุติความรุนแรง "วันชัย วัฒนศัพท์" ยกคณะเข้าพบหารือกับนายกฯ มอบเสื้อขาวสัญลักษณ์ของสันติและการยุติความรุนแรง เผยนายกฯตอบรับดี พร้อมร่วมเจรจากับทุกฝ่ายถ้าไม่ติดธุระสำคัญจะไปพูดคุยด้วยตัวเอง

ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มต่างๆขานรับแล้วกว่า 200 กลุ่ม ส่วนแกนนำพันธมิตรฯนั้นกำลังประสานงานอยู่ ด้าน"สมชาย"โชว์เสื้อขาว รณรงค์ยุติความรุนแรง พร้อมสนับสนุนแนวทางป๋าเปรม-ดร.สุเมธในการเจรจาหาทางออกเพื่อสันติสุข

เผย"หมัก"ออกจากโรงพยาบาลวันจันทร์นี้ จากนั้นวันพุธจะบินไปรักษาโรคมะเร็งที่อเมริกา คาดอยู่ยาวเพราะต้องรักษาต่อเนื่อง เพื่อแผ่นดินยังฟัดกันไม่เลิก "หมอแว"บุกให้กำลังใจรมช.มหาดไทย อัด"ไชยยศ จิรเมธากร"ทำไม่เหมาะสม ขณะที่"ประสงค์ โฆษิตานนท์"ได้รับใบลาคืนแล้ว ด้านกกต.ชี้ใบลาออกมีปัญหา ถ้ามีผู้ร้องก็พร้อมยื่นตุลาการศาลรธน.วินิจ ฉัยสถานภาพรัฐมนตรี ตามมาตรา 182

นายกฯชอบเสื้อ"ยุติความรุนแรง"

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ดอนเมืองว่า เวลา 09.50 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลา โหม เดินทางเข้ามาทำงานตามปกติด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ เสนอให้ปรับครม.เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น นายสมชาย ได้แต่ยิ้มและกล่าวเพียงว่า "เดี๋ยวค่อยพูดกัน" ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุม เพื่อเป็นประ ธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบบางส่วน ได้พากันสวมใส่เสื้อยืดสีขาว ที่มีข้อความว่า "ยุติความรุนแรง" เพื่อรณรงค์ให้ทุกฝ่ายช่วยกันยุติความรุนแรงด้วย

เวลา 14.30 น. น.พ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า และคณะ อาทิ นายเธียรชัย ณ นคร รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเมือง ในฐานะคณะทำงานเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วม สภาพัฒนาการเมือง นายศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์ กรรมการสถาบันสันติศึกษา เข้าพบนายกฯ เพื่อหารือแนวทางการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งของบ้านเมือง และได้มอบเสื้อยืดสีขาวร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงให้นายกฯ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนแถลงข่าว นายกฯ ได้นำเสื้อยืดที่ได้รับมอบมาโชว์ให้กับผู้สื่อข่าว ช่างภาพได้เห็นและถ่ายภาพ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

จากนั้น นายสมชาย แถลงว่า เครือข่ายสาน เสวนาเพื่อสันติธรรม ได้เข้าพบและหารือ ซึ่งตนเคยบอกว่าให้การสนับสนุนแนวทางของเครือข่ายนี้ เพราะเป็นวิธีการหาทางออก ลดความขัดแย้งในบ้านเมือง มีอะไรหันหน้ามาพูดคุยกัน หาเหตุผลตกลงกันว่าควรเดินทางใดเพื่อส่วนรวม เพื่อประชาชนได้รับความสงบสุข ทำมาหากินโดยมีสมาธิ และสนับสนุนแนวทางของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่เห็นว่าการที่จะหารือกันเพื่อหันหน้าเข้าหากันเพื่อสันติสุขนั้น เป็นแนวทางที่ดี

ย้ำทางออกคือตั้งสสร.3 แก้รธน.

นายสมชายกล่าวว่า ตนกับเครือข่ายได้พูดคุยถึงทางออกของบ้านเมืองควรเป็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความเห็นกันหลายอย่าง ซึ่งแนวทางที่จะหารือกันคือเพื่อความปรองดองด้วยเหตุผลนั้นเป็นวิธีที่ดี ปัจจุบันประเทศไทยยึดระบอบประชา ธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเมื่อมีรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกคน รัฐบาลก็ยอมรับ แต่เมื่อวันหนึ่งมีกลุ่มคนหลายกลุ่มหลายคณะรู้สึกว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เพราะควรพัฒนาการเมืองใหม่นั้น ตนได้กล่าวกับเครือข่ายฯว่า แนวทางของตนที่ทำอยู่ และคิดว่าเป็นทางออก คือเราต้องให้ประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วมกันวินิจฉัยและตัดสินใจ ตนจึงสนับสนุนแนวทางการตั้งส.ส.ร. 3 ขึ้นมาพิจารณาปรับปรุง หากใครปรารถนาว่าจะดำเนินการไปอย่างไรก็แสดงความเห็นเข้ามา หรือไปรับเลือกเป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามาดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนนำไปทำประชาพิจารณ์ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่าเอาหรือไม่ แต่ถ้าจะไม่ทำและเห็นว่ายุติตรงนี้ ต้องดูที่ร่างการแก้ไขและหากเป็นเช่นนั้น ถ้าประชาชนทั้งประเทศยอมรับได้รัฐบาลควรจะคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

"ผมคิดว่าทุกคนวันนี้เราต้องยุติความรุนแรง อย่างที่เสื้อที่ได้รับแจกมานี้ เดี๋ยวกลับไปบ้านแล้วจะเปลี่ยนใส่ เพื่อไปเดินที่อื่น นี่เป็นวิถีทางที่ผมเห็นด้วยว่าเราควรอยู่กันด้วยความสงบและเคารพกฎหมาย หากส่วนใดคิดว่าไม่สงบและไม่เคารพกฎหมายนั้น ขอให้ปรับปรุง เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย" นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะที่เห็นด้วยกับแนวทางสานเสวนา แต่ยังมีเงื่อนไขอื่น เช่น การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามานั้นจะนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนได้เชิญผบ.ตร.และผบช.น.มากำชับแล้วว่าให้ดูแลสถานการณ์อย่าให้มีปัญหา เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจใช่หรือไม่ว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น นายสมชาย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร

นายกฯตอบรับ-พธม.ยังไม่มีท่าที

น.พ.วันชัย วัฒนศัพท์ แกนนำกลุ่มสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายกฯว่า ไม่ได้มาเร่งรัด หรือให้คำแนะนำรัฐบาล แต่มาฟังว่ารัฐบาลมองปัญหาความขัดแย้งอย่างไร นายกฯตอบว่ารัฐบาลเตรียมพร้อมป้องกันความรุนแรงไว้แล้ว ปัญหาความขัดแย้งที่ถูกมองว่าถึงทางตันนั้น หากสามารถพูดคุยกับหลายฝ่ายได้จะเป็นเรื่องดี แต่อยากให้ใจเย็นๆ กระบวนการประสานให้ทุกฝ่ายหันมาพูดคุยต้องค่อยเป็นค่อยไป เดินไปช้าๆ แต่ได้ผล หากเร่งรีบเกินไปอาจไม่สำเร็จ ไม่ได้หวังให้เกิดผลแพ้ชนะของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เพื่อหาทางออกให้ประเทศชาติ

เมื่อถามมีฝ่ายใดบ้างที่ตอบรับจะเข้าร่วมการเจรจาในครั้งนี้ น.พ.วันชัยกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสาน คงจะเกิดผลในทางบวก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร จนกว่าจะมีการพูดคุย นายกฯ พร้อมเข้าร่วมเจรจากับทุกฝ่าย โดยระบุว่าถ้าไม่ติดภารกิจอื่นจะเข้าร่วมการเจรจาด้วยตัวเอง

เมื่อถามถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่าจะไม่เจรจาเพราะผ่านจุดพูดคุยกันแล้ว น.พ.วันชัยกล่าวว่า พยายามประสานกับพันธมิตรฯอยู่ บอกว่าเป็นการขอฟังความเห็น หากพร้อมตอบก็ตอบ ไม่ได้บอกว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ เวทีนี้เปิดกว้าง พูดคุยภายใต้กรอบกติกาที่ร่วมกันหาทางออก ไม่ใช่ชี้หน้าด่าใคร

เผยขานรับแล้วกว่า200กลุ่ม

เมื่อถามถึงท่าทีของรัฐบาลจริงใจแก้ปัญหาโดยการร่วมเจรจาหรือไม่ น.พ.วันชัยกล่าวว่า เท่าที่ฟังและอ่านท่าทีของนายกฯ ก็พูดคุยอย่างลูกผู้ชาย เมื่อถามว่าแต่ส.ส.ในรัฐบาลยังเคลื่อนไหวที่สุ่มเสี่ยงทำให้เกิดความขัดแย้ง น.พ.วันชัยกล่าวว่า เมื่อหัวหน้ารัฐบาลตัดสินใจ เราจะใช้กติกาว่าเริ่มการเจรจาแล้ว ต้องไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่บั่นทอนความสำเร็จของการเจรจา หากสื่อมวลชนและประชาชนทุกฝ่ายพูดเสียงเดียวกัน ไม่มีใครกล้าบั่นทอนไม่ให้การเจรจาสำเร็จ

"การยุติความรุนแรงที่พวกเรารณรงค์อยู่นั้นได้รับเสียงตอบรับจากทุกฝ่าย มีกลุ่มต่างๆต้องการเข้าร่วม 200 กลุ่ม ถือเป็นภาพบวก ทุกคนอย่าเพิ่งเบื่อกระบวนการเจรจานี้ เพราะอยู่ระหว่างเปลี่ยน แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส ให้ประชาชนได้เรียนรู้การพัฒนาประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง" น.พ.วันชัยกล่าว

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้ผู้มีบารมีเป็นคนกลางเจรจา น.พ.วันชัยกล่าวว่า ตนสอบถามนายกฯ ได้คำตอบว่าหากขับเคลื่อนกระบวนการเป็นกลุ่มจะดีกว่าตัวบุคคล การทำงานเพียงคนเดียวอาจตกเป็นเป้าหรือถูกโจมตีได้ เมื่อทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันจึงจะสรุป หากเห็นไม่ตรงกันก็เดินหน้าพูดคุยกันต่อ สื่อต้องช่วยกันสร้างแนว ทางสันติ

เมื่อถามกังวลหรือไม่ว่าการเจรจาครั้งนี้อาจไม่ได้ผล น.พ.วันชัยกล่าวว่า เรายึดคติว่าอย่ากลัวที่จะเจรจา อย่าเจรจาด้วยความกลัว ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดเหตุรุนแรงก่อนการเจรจานั้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ความรุนแรงหรือความขัดแย้งต่างๆในโลกนี้ สุดท้ายต้องจบลงที่การเจรจาทั้งสิ้น คนที่ตนอยากให้ร่วมเจรจามีทั้งรัฐบาล พันธมิตรฯ ฝ่ายค้าน ประธานวุฒิสภา กลุ่มนปช. ทหารและตำรวจ รวมถึงกลุ่มต่างๆที่ต้องการเข้าร่วม เพื่อช่วยกันหาทางออกให้กับปัญหา

ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ร่วมเจรจาด้วย น.พ.วันชัยกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณหลุดจากวงจรการเมืองออกไปไกลแล้ว เราคงไม่สามารถประสานให้เข้าร่วมได้ และคงไม่มีความจำเป็น

พปช.ขอบคุณคำแนะนำของ"จิ๋ว"

ที่พรรคพลังประชาชน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ เสนอให้รัฐบาลแก้วิกฤตการ เมืองโดยปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่ว่า ทุกคนเป็นห่วงบ้านเมืองด้วยกันทั้งนั้น ส่วนแนวคิดของพล.อ.ชวลิตนั้น เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ระบอบรัฐสภา ซึ่งเราต้องขอบคุณกับคำแนะนำที่ดี และเชื่อว่านายกฯจะรับไปพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้เพียงใดและรายละเอียดจะเป็นอย่างไร จะปรับเล็กหรือปรับใหญ่ขนาดไหน จะมีคนนอกเข้ามาทั้งหมดเพื่อลดแรงกดดันทางเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องที่นายกฯจะพิจารณา

ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ในส่วนของพรรคพลังประชา ชน ยืนยันว่าไม่มีการบีบให้นายสมชาย ลาออกจากนายกฯ ในที่ประชุมส.ส.พรรคเราได้ยืนยันมาตลอดว่าจะสนับสนุนนายสมชายต่อไป ทั้งนี้ ยุคของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ กับยุคนายสมชาย มีความแตกต่างกัน เพราะนายสมชาย เป็นคนที่รับฟังความเห็นของส.ส.ในพรรค ทำให้สื่อสารโดยตรงกันได้และเข้าใจกันมากขึ้น

"หมัก"เตรียมไปรักษาตัวอเมริกา

"ยืนยันส.ส.ทุกกลุ่มในพรรคไม่มีการบีบให้นายสมชายลาออก ขอแค่นายสมชายยืนยันจะไม่ลาออกหรือยุบสภา พวกเรายินดีสนับสนุน โดยเฉพาะแนวทางตั้งส.ส.ร.3 เพื่อแก้ปัญหาการเมือง ถือเป็นแนวทางที่ดีและสร้างประโยชน์สูงสุด เมื่อ ส.ส.ร.3 ได้ร่างรัฐธรรมนูญกติกาใหม่ที่เป็นที่ยอม รับเรียบร้อยแล้ว จะเสนอให้ยุบสภา คาดว่าไม่เกิน 4-5 เดือน แล้วค่อยมาเลือกตั้งกันใหม่ ขอให้ทุกคนที่ออกมาเรียกร้องได้ใจเย็นๆ" ร.ท.กุเทพกล่าว

รายงานเปิดเผยว่าสำหรับความคืบหน้าอาการป่วยของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพักรักษาตัวด้วยอาการโรคมะเร็ง อยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์นั้น ล่าสุดนายสมัครมีกำหนดจะออกจากโรงพยาบาลในวันจันทร์ที่ 3 พ.ย.จากนั้นในวันพุธที่ 4 พ.ย.ก็จะออกเดินทางไปสหรัฐ อเมริกา เพื่อเข้ารักษาตัวที่ฮุสตัน เมดิคัล เซ็นเตอร์ รัฐเท็กซัส ซึ่งคาดว่าจะอยู่นาน เนื่องจากต้องพักรักษาให้ยาอย่างต่อเนื่อง

สภาทนายแถลงประณามทักษิณ

ที่สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน นายเดช อุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ออกแถลง การณ์สภาทนายความประณามการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ที่ถูกจำคุก 2 ปี โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลง การณ์ผ่านสื่อไทยและต่างประเทศที่มีเจตนาลบหลู่ระบอบการศาลยุติธรรมและทำให้ต่างชาติเข้าใจผิดพลาดในความโปร่งใสและความเป็นธรรมของศาลไทย ดังนั้น สภาทนายความ จึงเรียกร้องให้บุคคลและส่วนราชการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉียบขาดในกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่มีอำนาจสั่งการและควบคุมกรมประชา สัมพันธ์ ต้องห้ามไม่ให้เสนอข่าวหรือเกื้อกูลผู้กระทำความผิดและถูกศาลลงโทษแล้วทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านสื่อของรัฐ

หากคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ถึงที่สุดแล้ว สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของการให้ยศตำแหน่ง "พันตำรวจโท" ต้องดำเนินการปลดและถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นผู้ที่ต้องได้รับคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษจำคุกแล้วโดยทันที ขณะเดียวกันสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดที่พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับกลับคืนโดยเร็ว เพราะการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ หมิ่นต่อกระบวน การของศาลยุติธรรมนั้นไม่อาจยอมรับได้ จึงไม่ควรได้รับให้มียศหรือมีสิทธิในเครื่องราชอิสริยาภรณ์ใดๆ อีกต่อไป

"หมอแว"อัด"ไชยยศ"ทำไม่เหมาะ

เวลา 13.20 น. น.พ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส. นราธิวาส และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัด ส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน เข้าพบนายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย ที่ห้องทำงาน ภาย ในกระทรวงมหาดไทย โดยใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมง

จากนั้น น.พ.แวมาฮาดี เปิดเผยว่า ตนมาให้กำลังใจนายประสงค์ หลังเกิดเหตุการณ์ที่นายไชยยศ จิรเมธากร โฆษกพรรค เรียกร้องนายประสงค์ ลาออก และนำหนังสือลาออกมาแสดง เรื่องนี้ถือว่าจบแล้วและหนังสือลาออกไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะนายกฯ ไม่ได้รับหนังสือ ส่วนที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตหัวหน้าพรรค ระบุหนังสือลาออกมีผลแล้วนั้น ยืนยันว่าหนังสือนั้นไม่มีผล เพราะถือว่าเป็นเอกสารปลอม ไม่ว่าจะปลอมทั้งหมด หรือปลอมเพียงบางส่วน ถือเป็นเอกสารปลอมทั้งฉบับ อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีการปลอมวันที่

น.พ.แวมาฮาดีกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหาย ถูกสังคมมองในแง่ลบ จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไข ส่วนพรรคจะดำเนินการอย่างไรกับนายไชยยศหรือไม่นั้น ต้องรอให้มีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน เพราะเมื่อนายสุวิทย์ลาออก กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดต้องรักษาการ คาดว่าจะมีการประชุมใหญ่เพื่อสรรหากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในเดือน พ.ย.นี้ จึงขึ้นอยู่กับกรรมการชุดใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งตนเห็นว่านายไชยยศกระทำการที่ไม่เหมาะสม และพรรคจะต้องนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียน

เผยได้รับหนังสือลาออกคืนแล้ว

ด้านนายประสงค์กล่าวว่า เรื่องนี้จบแล้ว ตนไม่ต้องการให้โต้เถียงกันไปมาอีก และได้รับจดหมายลาออกฉบับนั้นคืนมาแล้ว ถือว่าจบ ขอให้คิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนจะทำหน้าที่ต่อให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ตนจะยังไม่เซ็นเอกสารหรือคำสั่งใดๆ แล้วจะเริ่มเซ็นเอกสารทั้งหมดที่มีอยู่จำนวนมากในสัปดาห์หน้า

รายงานข่าวแจ้งว่า แกนนำพรรคเพื่อแผนดิน ได้ประสานไปยังนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เพื่อนำจดหมายดังกล่าวคืน โดยนายสมพงษ์ ยังไม่ได้นำจดหมายเสนอต่อนายกฯ นอกจากนี้ในวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา นายประสงค์ ได้ทำหนังสือถึงนายกฯ ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมภาคใต้ ระบุว่า "หากผมประสงค์ที่จะลาออกจากตำแหน่ง ขอให้ผมเป็นผู้ยื่นหนังสือด้วยตัวเอง ดังนั้น หนังสือต่างๆ ที่จะมีผู้อื่นยื่นไปนั้น ไม่ถือว่าเป็นความประสงค์ของผม" โดยนายสมชาย ได้ลงนามรับทราบในหนังสือดังกล่าวแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการสรรหากรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดินชุดใหม่นั้น จะเสนอชื่อนายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นหัวหน้าพรรค และจะเสนอชื่อนายประสงค์ เป็นรองหัวหน้าพรรคด้วย แต่นายประสงค์ ไม่ต้องการเป็นกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายประสงค์จะลงสมัครส.ส.เพชรบูรณ์ เกรงว่าหากมีอุบัติเหตุทางการเมือง พรรคถูกยุบ จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปด้วย

กกต.พร้อมยื่นศาลรธน.วินิจฉัย

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงแนวทางการสานเสวนาหาทางออกให้กับปัญหาว่า การเจรจาน่าจะดีกว่าต่างคนต่างพูด นิสัยคนไทยน่าจะลองมาพูดคุยกันดู ดีกว่าไม่คุยกันเลย อย่างน้อยช่วยลดความรุนแรงได้ระดับหนึ่ง เมื่อถามว่ากกต.จะอาสาเป็นตัวกลางเจรจาหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า กกต.คงไม่เข้าไปยุ่งเพราะไม่ใช่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ปล่อยให้ฝ่ายที่มีหน้าที่โดยตรงดำเนินการจะเหมาะสมกว่า ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงจากการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนปช.วันที่ 1 พ.ย. โดยพ.ต.ท. ทักษิณจะต่อสายโฟนอินเข้ามาด้วยนั้น ในฐานะคนไทยรู้สึกเป็นห่วง เวลานี้สังคมแบ่งขั้วแบ่งข้าง อยากให้เหตุการณ์สงบเรียบร้อยโดยเร็ว

ส่วนหนังสือลาออกของรมช.มหาดไทยนั้น นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ค่อนข้างสับสน นายประสงค์ ต้องการลาออกจริงหรือไม่ จะเข้าข่ายความเป็นรัฐมน ตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 หรือไม่นั้น กกต.มีอำนาจยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ หากมีคนร้องเข้ามา กกต.จะนำมาพิจารณาความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงด้วยเหตุใด ก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป ขณะนี้กกต.ยังไม่ได้รับการร้องเรียน

นายประพันธ์ยังกล่าวถึงกรณีนายสุวิทย์ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินว่า เมื่อหัวหน้าพรรคลาออก กรรมการบริหารชุดเก่าต้องพ้นจากตำแหน่งตามด้วย แต่ยังต้องอยู่รักษาการต่อไปจนกว่าจะได้กรรม การบริหารชุดใหม่ พรรคเพื่อแผ่นดินต้องจัดประชุมใหญ่เพื่อตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดใหม่ ส่งรายชื่อใหม่ให้กกต.รับรองภายใน 60 วัน

ส.ว.จี้ปธ.วุฒิแจ้งจับพธม.ล้อมสภา

เวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ในช่วงท้ายได้เปิดให้สมาชิกหารือ ปรากฏว่าเกิดการปะทะคารมเล็กน้อย โดยนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี กล่าวว่า การประชุมวุฒิสภา นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ฝากถามถึงมาตรการป้องกันบุคคลภายนอกเข้าห้องประชุม นอกจากนี้เรื่องที่มีผู้ชุมนุมมาปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทำให้สมาชิกออกไปภายนอกไม่ได้ และวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่โทร.มาถามว่า มีสมาชิกประสงค์จะแจ้งความผู้ชุมนุมข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้สูญเสียอิสรภาพหรือไม่ ทั้งนี้ตนยังไม่ได้ไปแจ้งความ แต่จะถามท่าทีประธานวุฒิสภาและจะมอบให้ประธานซึ่งเป็นผู้นำองค์กร ไปแจ้งความแทน ส่วนที่ประธานถอนตัวจากที่ประชุม 4 ฝ่าย มีการไปลงสื่อว่าประธานไม่ประชุม เพราะถูก 40 ส.ว.กดดัน จึงขอให้ชี้แจงด้วย นอกจากนี้การประชุมวุฒิสภาวันที่ 24 ต.ค. ตนเสนอให้นับองค์ประชุม แต่นายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา บอกว่าไม่ประชุมก็ไปที่ชอบๆ ถามว่าใช้คำอย่างนี้เหมาะสมหรือไม่

ด่ากันไปกันมา-สุดท้ายจูบปาก

ด้านนายประสงค์ชี้แจงว่า ไม่นึกว่าส.ว.ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ที่ตนพูดหมายความว่าชอบตรงไหนก็ไปตรงนั้น ไม่รู้ว่าเพื่อนพี่น้องตนที่ราชบุรีเลือกส.ว.ที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องมาได้อย่างไร ทำให้นายเกชา ประท้วงว่า ขอให้ถอน ถ้าตนบอกว่าให้นายประสงค์ ไปที่ชอบๆบ้าง จะว่าอย่างไร ดังนั้น นายประสพสุข จึงขอร้องให้ถอน เพราะเป็นคำเสียดสี ซึ่งนายประสงค์ ยอมถอน

จากนั้นพ.ต.อ.สนธยา แสงเภา ส.ว.สรรหา อภิปรายขอให้อย่าพูดถึงเรื่องเก่าๆและขอให้สมาชิกถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ทำให้นายต่วน อับดุลเลาะ ดาโอ๊ะมารียอ ส.ว.ยะลา ขอให้ปิดประชุม เพื่อให้สมาชิกปรองดอง นายประสพสุข จึงสั่งปิดประชุมเวลา 12.30 น. ทั้งนี้หลังปิดประชุม นายประสงค์ และนายเกชา ได้เดินเข้ามาจับมือและกอดกันกันกลางห้องประชุม และก่อนจะผละจากกัน นายประสงค์ได้หอมแก้มนายเกชาด้วยสีหน้าที่เอ็นดู ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อส.ว.ที่อมยิ้มด้วยความชอบใจ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์