เสธ.แดง ขู่มีคนจ้องเล่นพธม.อื้องวดหน้าเอ็ม79-อาร์พีจี ตร.ยันระเบิดควันกลางดึกแค่ประทัดเล็กๆ

"เสธ.แดง" กร้าวมีคนจองกฐินจ้องเล่นงานพธม.เพียบ ครั้งต่อไปเจอเอ็ม79-อาร์พีจีแน่ รองผบช.น.ยืนกรานเหตุปาระเบิดกลางดึกแค่ประทัดเล็กๆ มุ่งเป้าก่อกวนให้เกิดความกลัว เสธ.อู้ หวั่นบานปลายนำไปสู่ความรุนแรง ผบช.น.เชื่อหลัง 3 เหตุการณ์ป่วนเวทีพันธมิตรฯ ทั้งการขว้างระเบิด-ยิงชายปริศนา-เผารถแกนนำเชียงใหม่ ยังมีระเบิดป่วนเมืองอีก แจงระเบิดที่นำมาปาใส่เป็นระเบิดสังหาร

"เสธ.แดง"ขู่คนจองกฐินพธม.เยอะ ส่อเจอเอ็ม79-อาร์พีจี


พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า คงไม่สามารถระบุได้ว่ามือระเบิดเป็นกลุ่มใด แต่แน่นอนว่าขณะนี้มีหลายกลุ่มที่ไม่พอใจพฤติกรรมของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มนักรบศรีวิชัย พร้อมจะปฏิบัติการให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล


"น่าจะมีคนจองกฐินเล่นงานพันธมิตรฯ หลายกลุ่ม แต่ครั้งนี้น่าจะหนักกว่าทุกครั้ง เพราะเป็นอาวุธสงครามเป็นของจริง มั่นใจว่าน่าจะเป็นระเบิดเอ็ม 67 เป็นลูกเกลี้ยงแบบขวาง ระยะหวังผล 200 – 300 เมตร ระเบิดรุ่นนี้มี 2 ขนาด ถ้าเป็นอเมริกันจะลูกใหญ่ อีกรุ่นผลิตให้กับคนฝั่งเอเชีย ซึ่งให้เหมาะกับกำลังในการขว้างสู่เป้าหมาย ผู้ที่จะใช้ระเบิดประเภทนี้ได้แค่ฝึกฝนวิธีถอดสลัก รู้น้ำหนัก ระยะทาง รวมทั้งใจกล้า ก็ทำได้" พล.ต.ขัตติยะกล่าว


พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เชื่อว่าคนที่จองกฐินงานนี้ ต้องงัดอีกหลากหลายวิธีการมาจัดการแน่ ต่อไปก็คงเจอระเบิดเอ็ม 79 หรือ อาร์พีจี ที่ใช้ปืนยิงสู่เป้าหมาย ซึ่งระยะในการยิงได้ระยะทางไกลกว่า 700 เมตร หรืออาจจะมีการเผารถที่จอดไว้แถวนั้น เพื่อสร้างความหวาดกลัว ไม่ให้ผู้ชุมนุมไม่มาชุมนุม



ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็นกรณีที่มีข่าวว่า เป็นฝีมือของสมาชิกนักรบพระเจ้าตากที่ออกปฏิบัติหน้าที่ หลังได้ฝึกฝนมาอย่างดี แต่ยอมรับว่าในการฝึกนั้น นอกจากฝึกท่าเตรียมอาวุธตามพื้นฐานแล้ว ก็มีการขว้างระเบิดด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝึกที่สนามหลวงแล้ว ก็อยากแย่งกันไปปฏิบัติจริง 



ตร.บอกเสียงบึ้มใกล้ม็อบตีสองแค่"ประทัดเล็กๆ"

พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุโยนประทัดบริเวณแยกวัดมกุฎกษัตริย์ ใกล้การชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ว่า เป็นข่าวจากเว็บไซต์ผู้จัดการ โดยขณะนี้ ตำรวจตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ ทะเบียน 444 อยู่ แต่การจากการตรวจสอบเหตุ ไม่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นแต่อย่างใดและไม่ได้รับรายงาน มีแต่เสียงประทัดเล็กๆ ดังขึ้นมา 1 นัดเท่านั้น ซึ่งอาจจะก่อกวนให้เกิดความกลัวได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีการปาระเบิด


ส่วนความคืบหน้าเหตุปาระเบิดบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ทางฝ่ายสืบสวนกำลังประสานงานหน่วยงานในบริเวณดังกล่าว เพื่อขอตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้จะกล้องวงจรปิดมีหลายแห่ง บางแห่งก็ปิดอยู่ เรากำลังตรวจสอบอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลของการตรวจสอบว่าเป็นวัตถุระเบิดชนิดใดต้องรอจากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง เพื่อความแน่ชัด ตอนนี้ทราบเบื้องต้นว่าเป็นระเบิดสังหาร แต่จะเป็นชนิดใด ประเภทใดต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน


ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 1 พฤศจิกายน กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จำนวนมากจะมาชุมนุมที่รัชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก มีการเตรียมพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างไร พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังปรับกำลังกันอยู่ ถ้ากำลังตำรวจไม่เพียงพอ ต้องดูทั้งการชุมนุมของพันธมิตรฯ และนปช. ถ้ามีการตรวจสอบแล้วพบว่ากำลังตำรวจไม่เพียงพอ เราก็อาจจะร้องขอไปยังฝ่ายทหารเพื่อขอกำลังสนับสนุนในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานด้วย



"เสธ.อู้"ฟันธงสัญญาณระเบิดก่อเหตุนองเลือด

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งโดยเฉพาะการวางวัตถุระเบิดที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสัญญาณที่เกิดขึ้นใน 2-3 วันที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นความใจร้อนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าแกนนำแต่ละฝ่ายจะมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้เกิดการปะทะกันจนกว่าจะศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต่อการยุบพรรคการเมือง ตอนนั้นก็คงจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคน่าจะทำให้ตัวละครหลักๆ หายไปจากแวดวงการเมืองบ้าง

 

“จากประสบการณ์เหตุเหล่านี้ระเบิดเหล่านี้อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ โดยเชื่อว่าหากจะเกิดความรุนแรงช่วงนี้จนถึงเดือนธันวาคมคงไม่มีอะไรและคงไม่เกิดก่อนงานพระราชพิธี หากทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดความรุนแรงควรอยู่ในที่ตั้ง ถ้าเกิดการจลาจลบ้านเมืองเราตายแน่ คงไม่มีใครอยากเห็นทหารออกมาปฏิวัติและยึดอำนาจ เพราะไม่มีเกิดประโยชน์ประโยชน์ต่อฝ่ายใด ถ้าจำเป็นก็ต้องทำเพื่อรักษาบ้านเมืองไว้

 
รายงานล่าสุดเมื่อเช้ามืดวันที่ 31 ตุลาคม มีผู้ขับรถเบนซ์สีดำปาระเบิดควันใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์อีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์ขว้างระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุยิงชายที่มีอาการเมาสุราเสียชีวิตบริเวณใกล้ที่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร และการเผารถของแกนนำพันธมิตรที่เชียงใหม่
 
อีกแล้ว! โยนระเบิดควันใส่พธม. โชคดีไม่มีคนเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 31 ต.ค. มีผู้ขับรถเบนซ์สีดำ และปาระเบิดควันใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า เห็นบุคคลในรถเบนซ์ดังกล่าวใส่เสื้อสีดำ และจำหมายเลขรถทะเบียน 4444 แต่จำตัวอักษรหน้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ระเบิดดังกล่าวส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มีควันพวยพุ่งออกมา และมีสะเก็ดระเบิดเล็กกระเด็น โดยไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ


 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าวันนี้ กลุ่มรักษาความปลอดภัยพันธมิตรฯ ได้ตรึงกำลังเข้มงวดมากขึ้น โดยได้ตรวจตราผู้ที่เข้าออกภายในทำเนียบรัฐบาลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจสิ่งของก่อนเข้ามาภายใน
 
ผบ.ตร.เพิ่มมาตรการป้องกันเหตุ
 
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมคม ว่า ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนก่อน ที่ผ่านมาตำรวจก็ดูแลความปลอดภัยตามปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น คิดว่าต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจมีการเคลื่อนย้ายกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ในช่วงมีเหตุระเบิดนั้น พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า คิดว่าไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะตำรวจเราทำหน้าที่ทุกวัน มีการสับเปลี่ยนกำลังทุกวัน และต้องเจรจากับพันธมิตรในส่วนที่ต้องแยกแยะว่าส่วนไหนของพันธมิตร และส่วนตรงไหนของตำรวจที่จะเข้าไปได้

วงจรปิดจับภาพหนุ่มใหญ่ถูกยิง

พล.ต.ท.สุชาติ  เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบ.ช.น.) กล่าวว่า ส่วนเกิดเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานฯเบื้องต้น พบกระเดื่อง น่าเชื่อว่าเป็นลูกเกลี้ยงชนิดเอ็ม 87 ซึ่งเป็นระเบิดชนิดที่มีกันทั่วไป เหมือนระเบิดขว้างแต่เป็นลูกเกลี้ยง เป็นระเบิดสังหาร
 
พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ส่วนเหตุนายสังเวียนถูกยิงที่หน้าผากทะลุท้ายทอย 1 นัด เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับทั้งแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และพันธมิตร ก่อนเกิดเหตุตำรวจห้ามว่าอย่าเข้าไปในบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตามนายสังเวียนถูกยิงก่อนถึงจุดดังกล่าว โดยถูกยิงขณะยังไม่ได้เข้าไปในสี่แยกสวนมิสกวัน โดยมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบันทึกภาพคนตายขณะที่เข้าไป และขณะถูกยิง เห็นได้ชัดเจนว่ากระสุนมาจากทางไหน คนถูกยิงทำอย่างไรบ้าง เคลื่อนไหวอย่างไร วิถีชัดเจนว่ามาจากทางใด แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ต้องรอการสอบสวนบางอย่าง ประกอบกับมีกระสุนบางส่วนไปโดนกำแพงและป้ายรถเมล์ด้วย แต่ขอเวลาอีกสักนิดอย่าเพิ่งฟันธง

ผบช.น.เชื่อยังมีระเบิดป่วนอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า นายสังเวียนไม่น่าจะเชื่อมโยง เมื่อถามว่ากรณีขว้างระเบิดสังหารใส่การ์ดพันธมิตร มีการวิเคราะห์ว่ามีเป้าประสงค์เพื่ออะไร พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ถ้าโยนระเบิดสังหาร คิดว่าไม่ก่อกวนแน่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินสถานการณ์ว่าจะรุนแรงหรือไม่ พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ในช่วงนี้คงจะมีลักษณะระเบิดป่วนเมือง น่าจะยังมีอยู่ ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยมีจุดวางกำลังเพิ่มเติมและมีจุดตรวจต้องรบกวนประชาชนที่เดินทางยามค่ำคืน อาจจะพบจุดตรวจเพิ่มขึ้นโดยเน้นตรวจรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ

พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวก่อนร่วมประชุมสภากลาโหม ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าสะพานมัฆวานฯน่าเป็นห่วงว่า ยิ่งใกล้ในช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จะมีแนวโน้มของเหตุการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น รัฐบาลและตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายให้เข้มงวด ต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถคุ้มครองชีวิต ทรัพย์สิน ความปลอดภัยของประชาชนได้ หากกฎหมายไม่เป็นกฎหมายแล้วจะมีกลุ่มอะไรต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รัฐบาลควบคุมเหตุการณ์ได้ลำบาก นำมาซึ่งเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้น

ประสาน "ทบ."ขอดูวงจรปิด

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ สน.นางเลิ้ง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ประชุมเรียกพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดีระเบิดที่สะพานมัฆวานฯใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยให้ฝ่ายสืบสวนเร่งประสานไปยังกองทัพบก ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเพื่อขอดูภาพกล้องวงจรปิด

ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชรกล่าวว่า สอบพยานผู้เห็นเหตุการณ์คือ นายเชิดศักดิ์ ศรีสุบิน อายุ 50 ปี อยู่ที่ 124/7 หมู่ 2 แขวง-เขตบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการ์ดพันธมิตร ให้การว่า เข้าเวรเวลา 24.00 น. ถึง 06.00 น. ระหว่างที่ชงกาแฟที่เต๊นท์บริเวณสะพานมัฆวานฯ พบชายต้องสงสัยสวมหมวกกันน็อคขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง ผ่านถนนราชดำเนินนอกช่องกลาง ถึงแยกสะพานมัฆวานฯและเลี้ยวขวาออกไปทางวัดโสมนัส 2 รอบ กระทั่งรอบที่ 3 พบว่าชายดังกล่าวขับรถมาอีก และมีคนซ้อน 1 คน เมื่อผ่านสะพานมัฆวานฯสักพัก คนซ้อนลงมาและวิ่งปาระเบิดเข้าใส่ ก่อนหลบหนีไป จากนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ที่สะพานชมัยมรุเชฐ และได้ยินอีก 1 นัดที่แยกสวนมิสกวัน

ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชรกล่าวว่า หลังสอบปากคำได้สักพัก นายเชิดศักดิ์ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนหลบหนีออกไป อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว และประสานไปยังสำนักงานปลัดบัญชี ในกองทัพบก เพื่อนำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบดู

"มหา" ชี้รบ.ทำสงครามเต็มรูปแบบ

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าว ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลองแถลงว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าทำสงครามเต็มรูปแบบ ต้องการที่จะทำร้ายพันธมิตรทั้งในที่ตั้งและนอกที่ตั้ง อย่างเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม รัฐบาลส่งคนเข้ามาก่อกวนบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งพันธมิตรจับกุมผู้ที่มาก่อกวน โดยรับสารภาพว่าเป็นชาวจังหวัดหนองคาย และรับจ้างมาจากฝ่ายรัฐบาล ด้วยเงินเพียง 200 บาท ให้เข้ามาสร้างความวุ่นวาย โดยนำผ้าชุบน้ำมันเบนซินหวังที่จะเผาทำเนียบ และเมื่อเวลา 03.00 น. มีกลุ่มคนเข้ามาปาระเบิดสังหารใส่กลุ่มพันธมิตรบริเวณสะพานมัฆวานฯ

พล.ต.จำลองกล่าวว่า นอกจากนี้ เวลา 04.00 น. ฝ่ายรัฐบาลเข้ามาบริเวณแยกมิสกวัน แต่งชุดดำพกอาวุธสงครามครบมือ เข้ามาระดมยิงใส่ผู้ชุมนุมและการ์ดพันธมิตร คนที่พกอาวุธอย่างไม่ผิดกฎหมายเช่นนี้ มีเพียงแค่ตำรวจและทหารเท่านั้น

ขอสารวัตรทหารดูแลพันธมิตร

พล.ต.จำลองกล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรเคยเรียกร้องกองทัพบกให้ส่งสารวัตรทหารเข้ารักษาความปลอดภัย แต่ไม่มีการตอบรับจากกองทัพ ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องอีกครั้ง เพื่อไม่ให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายไปมากกว่านี้ โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พันธมิตรทำหนังสือไปถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อีกครั้ง ให้ส่งสารวัตรทหารมาดูแลความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมชน ทั้งนี้ พันธมิตรพร้อมที่จะออกค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับสารวัตรทหาร และเลี้ยงอาหารเป็นอย่างดี
 
"อยากฝากบอกทหารว่าจะนิ่งดูดาย จะรอให้ประชาชนตายซักกี่คน และบาดเจ็บซักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เคยประกาศว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน"  พล.ต.จำลองกล่าว

ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้ประสานงานภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย และแกนนำพันธมิตรนครราชสีมา กล่าวถึงเหตุการณ์ขว้างระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรว่า เป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามแน่นอน จะยิ่งทำให้พันธมิตรขยายเครือข่ายออกไปทั่วประเทศ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน พันธมิตรโคราชระดมสมาชิกและผู้ร่วมอุดมการณ์ใน 32 อำเภอ ไปร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลให้มากที่สุด คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4,000 คน

จยย.รับจ้างเจอ"การ์ดพธม."ซ้อม

วันเดียวกัน นายแอม ดาวสิงห์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 3 ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ อาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้าง หน้าสยามสแควร์ เข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต ว่า ถูกการ์ดพันธมิตรรุมทำร้าย โดยนายแอมให้การว่า เมื่อเวลา 17.00 น วันที่ 29 ตุลาคม มีป้าคนหนี่งว่าจ้างจากสยามสแควร์ให้ไปส่งที่ทำเนียบรัฐบาล ไปถึงเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่กำลังเลี้ยวรถกลับ มีการ์ดพันธมิตรบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐประมาณ 10 คน เข้ามาหาพร้อมถือไม้บังคับให้ลงจากรถ ตนจึงถามว่าผิดอะไร พวกนั้นบอกว่าที่หน้ารถติดสติ๊กเกอร์ "เบื่อพันธมิตร โว้ย" จึงบอกไปว่าเพื่อนนำมาติดให้ตั้งนานแล้ว และไม่ได้คิดอะไร

นายแอมให้การว่า จากนั้นกลุ่มการ์ดบางคนฉุดกระชากลงจากรถ ก่อนจะพาไปเข้าห้องปิดตาย บริเวณศาลกรมหลวงชุมพรฯ จากนั้นการ์ดข่มขู่ให้รับสารภาพว่า ใครเป็นผู้จ้างวานมาก่อกวน ตนพยายามอธิบายว่าแค่มาส่งผู้โดยสาร จึงถูกรุมตบและเตะเข้าที่ใบหน้าและลำตัว จากนั้นกลุ่มการ์ดพันธมิตรค้นตัวนำบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่ไปถ่ายรูปทำหลักฐานไว้

"ผมยังถูกยึดบัตรเอทีเอ็มพร้อมถูกบังคับให้บอกรหัสบัตร เมื่อไม่บอกก็โดนตบตี จนทนไม่ไหวต้องยอมบอก แต่เมื่อมีคนนำไปกดที่ตู้เอทีเอ็มปรากฏว่าไม่มีเงิน จึงนำบัตรมาคืน กว่าจะถูกปล่อยตัวกลับบ้านก็นานกว่า 4 ชั่วโมง จนวันต่อมาบาดแผลเริ่มบวมช้ำจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนแจ้งความกับตำรวจ" นายแอมกล่าว

ปิดแยก-ถนนตลอดทั้งคืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้าหลังเกิดเหตุรุนแรง พันธมิตรได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตรวจตราทุกคนที่เข้า-ออกทำเนียบ จัดกำลังการ์ดเดินตรวจเวรยามตามแนวรั้วรอบทำเนียบเป็นระยะๆ

ต่อมานายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร แถลงว่า หลังเกิดเหตุปาระเบิดก่อกวน พันธมิตรตัดสินใจปิดถนนตลอดทั้งคืน เบื้องต้นที่สะพานเทวกรรม สี่แยก จปร. ถนนหน้าวัดมกุฏกษัตริยาราม และหน้าสนามม้านางเลิ้ง เพื่อรักษาความปลอดภัย แต่จะเปิดให้รถสัญจรไปมาในตอนเช้าถึงค่ำ

การ์ดพธม.จับชายรับจ้างป่วน

ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงเช้า นายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าการ์ดพันธมิตร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุการ์ดพันธมิตรควบคุมตัวชายฉกรรจ์ 1 คน อยู่ในอาการเมาสุราที่สะพานชมัยมรุเชฐ สวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ ด้านหลังเสื้อมีโลโก้พรรคไทยรักไทย จากการตรวจค้นอาวุธพบถุงใส่เสื้อผ้าที่ชุบน้ำมันเบนซิน จากการสอบถามชายดังกล่าว ยอมรับว่ามีชายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจจ้าง 200 บาท ให้เข้ามาก่อกวนในที่ชุมนุมของพันธมิตร และขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เคยประจำอยู่ที่ป้อมตำรวจตามจุดต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.40 น. มีชายฉกรรจ์ 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากแยกนางเลิ้ง มุ่งหน้ายังสะพานชมัยมรุเชฐได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด แล้วขับหลบหนี

ต่อมาเวลา 04.00 น. มีเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 10 นัด บริเวณแยกมิสกวันฝั่งประตูหลัง บช.น.ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายหลังเกิดเหตุการ์ดพันธมิตรประมาณ 20 คน ตรึงกำลังพื้นที่บริเวณแยกมิสกวันเพื่อรอดูสถานการณ์จนถึงช่วงเช้า จากนั้นเวลาประมาณ 06.15 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ออกมาตรวจบริเวณแยกมิสกวันพร้อมกำชับการ์ดให้เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย

หนุ่มใหญ่เจอยิงดับปริศนา

ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าเวลา 06.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตบริเวณริมทางเท้าด้านข้างที่ทำการสำนักนายกรัฐมนตรี แยกมิสกวันตัดแยกวังแดง รุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 พบศพนายสังเวียน รุจิโมละ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/51 ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อโปโลสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าแตะสีแดง ตรวจสอบตามร่างกายถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าบริเวณตาขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด พบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่เกลื่อนพื้นถนนหลายปลอก และพบใบเสร็จชำระค่าเหล้าตกอยู่ใกล้ศพ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเดินผ่านกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เวรรักษาการณ์เข้ามาทางแยกวังแดง ในลักษณะคล้ายคนเมาสุรา พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า ลุยแม่งเลยŽ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ประมาณ 4-5 นัด ส่วนสาเหตุเสียชีวิตยังไม่ชัดเจน ต้องรอการตรวจสอบก่อน

พล.ต.จำลองกล่าวว่า ผู้ชายที่ถูกยิงเสียชีวิตน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับคนที่มาก่อกวนพันธมิตร

บึ้ม พธม.-เผารถแกนนำ เชียงใหม่

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 03.20 น. ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร โชติกลาง ร้อยเวร สน.นางเลิ้ง รับแจ้ง เหตุปาระเบิดที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานฯ ตรงข้ามสำนักปลัดบัญชีกองทัพบก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย การ์ดพันธมิตรนำส่งโรงพยาบาลวชิระ 6 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ทางพยาบาลของพันธมิตรฯให้การรักษา ที่เกิดเหตุพบวัตถุคล้ายสลักระเบิดเอ็ม-87 ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาย 2 คน ขับรถรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนคนนั่งซ้อนท้ายสวมเสื้อคลุมสีดำคาดขาว ขับมาจากแยก จปร. ถนนราชดำเนินนอก เข้ามายังสะพานมัฆวานฯ ถึงหน้าสำนักปลัดบัญชีกองทัพบก คนซ้อนท้ายได้ลงมาจากรถจักรยานยนต์ แล้วปาระเบิดเข้าไปบนสะพาน ทำให้การ์ดพันธมิตรได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บ 6 รายที่รักษาตัวในโรงพยาบาลวชิระ มีอาการสาหัส 1 ราย คือนายเสถียร ทับมะลิผล อายุ 53 ปี โดย นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระ เปิดเผยว่า นายเสถียรถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะด้านซ้าย หลังจากแพทย์ผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออกจากสมองแล้ว ล่าสุด อาการดีขึ้น แพทย์สามารถห้ามเลือดที่ออกในสมองได้ และได้ศัลยกรรมตกแต่งกะโหลกศีรษะเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะมีโอกาสฟื้นหรือไม่ ส่วน
นายจีระศักดิ์ อินทรีย์ อายุ 16 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่คอด้านขวา ล่าสุด ยังพักฟื้นอยู่ในห้องฉุกเฉิน แต่อาการปลอดภัยแล้ว 

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 03.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์วอลโว่ รุ่น 960 ทะเบียน ค 4546 เชียงใหม่ ของนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา เจ้าของสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ซึ่งอ้างตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารเสือพระราชา และแกนนำพันธมิตรใน จ.เชียงใหม่ เหตุเกิดในโรงรถห่างจากสถานีวิทยุ เลขที่ 126/42 หมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ต.หายยา ประมาณ 30 เมตร

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์