จี้พธม.เลิก-นปช.ก็เลิก ย้ำน้อมรับ รักในหลวง-อยู่บ้าน


"จำลอง" ไม่คิดอยู่บ้านหลับฝันหวาน หากจะปก ป้องสถาบันต้องออกมาชุมนุมกับพธม. ส่วนนปช.น้อมรับ หากพธม.กลับบ้าน นปช.ก็จะกลับบ้านทั้งหมด หากปิดเอเอสทีวีก็จะเลิกรายการความจริงวันนี้ อยากให้ผบ.ทบ.เป็นคนกลางไกล่เกลี่ย มือมืดป่วนปาระเบิดถล่มบ้าน "จรัญ ภักดีธนากุล" ตุลาการศาลรธน.กลางดึก โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ ก่อนมีคนร้ายปาระเบิดลูกเกลี้ยงถล่มการ์ดพธม.ที่มัฆวานเจ็บระนาวนับ 10 คน พอรุ่งเช้าพบศพหนุ่มโดนยิงแสกหน้าตายหลังบช.น. มีพยานระบุก่อนถูกยิงตาย เห็นเมาแล้วบุกไปยืนด่าพธม. นายกฯ สั่งด่วนดูแลเข้มบ้านตุลาการศาลรธน. ตร.ชี้เป็นบึ้มแบบเดียวกับบ้านประธานศาลปกครอง โฆษกรัฐบาลแถลงยันไม่เกี่ยวบึ้มป่วน ตั้งข้อสงสัยเวลาพธม.กระแสตกมักเกิดเรื่องร้ายๆ เสมอ สงสัยเป็นระเบิดเรียกทหารรัฐประหาร พธม.ดาวกระจายจี้ทูตอังกฤษส่งแม้วกลับมารับโทษ ก่อนเคลื่อนขบวนไปห้างเอ็มโพเรียม ระบุปิดถนนสุขุมวิททำเอารถราติดหนึบทั้งเมือง โชเฟอร์แท็กซี่ด่าลั่นทำรถติดก็โดนการ์ดพธม.ล้อมหาเรื่อง มีผู้หญิงตัวคนเดียวสุดทนออกมายืนต่อว่าพธม.ทำรถติดไม่กลัวโดนรุม ตร.ยืนยันชัดการ์ดพธม.ห้ามพกปืนเด็ดขาดเพราะผิดกฎหมาย

-ปาบึ้มบ้าน"จรัญ ภักดีธนากุล"

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 29 ต.ค. ร.ต.ต.สมชาย สาระเกษ ร้อยเวร สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุระเบิดที่บ้านเลขที่ 92/37 หมู่บ้านศรีเชาวลา ซอยปรีดี พนมยงค์ 45 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบช.น. พล.ต.ต. โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รองผบก.น.5 พ.ต.อ.ศิวโรจน์ สุขัควานนท์ ผกก.สน.คลองตัน จากการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านของนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จุดเกิดเหตุอยู่ระหว่างตัวบ้านกับกำแพงรั้วบ้าน ซึ่งจะจัดทำเป็นสวนเล็กๆ ปลูกต้นไม้และสนามหญ้า แรงระเบิดทำให้ดินเป็นหลุมลึกประมาณ 25 เซนติเมตร กว้างประมาณ 50 เซนติเมตร เศษดินใบไม้กระจายออกไปยังภายนอกรั้วบ้านไปทั่ว ตู้คอมเพรสเซอร์แอร์ได้รับความเสียหาย กระจกบานเกล็ดและกระจกประตูบานเลื่อนแตกกระจาย

ร.ต.ต.สมชาย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายจรัญให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ อยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงมีของบางอย่างตกลงบนหลังคาบ้าน จากนั้นประมาณ 2 นาทีก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว เมื่อเดินออกมาดูก็พบว่ามีบานกระจกหน้าต่าง และบานประตูกระจกเลื่อน ทางด้านทิศตะวันตก แตกกระจายได้รับความเสียหาย เครื่องปรับอากาศที่อยู่บริเวณด้านนอกของบ้านได้รับความเสียหาย

-ได้ยินเสียงจยย.ก่อนตูมสนั่น

ร.ต.ต.สมชาย กล่าวว่า บริเวณสนามหญ้าพบหลุมขนาดความกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ลึกประมาณ 25 เซนติเมตร แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่สายตรวจของสน.คลองตัน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามาแล้วก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น

นายพิธิวัฒน์ โกษาแสง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเพิ่งรับเวรจากเพื่อนรปภ.เมื่อเวลา 05.00 น. เห็นนายจรัญออกมาจากบ้าน พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาการณ์ และตามปกติ นายจรัญจะพักอยู่ภายในบ้านพร้อมครอบครัวประมาณ 6-7 คน และที่บริเวณภายในบ้านกำลังซ่อมแซมต่อเติมอยู่ภายใน

-จรัญชี้บึ้มข่มขู่-ยันไม่หวั่นไหว

ส่วนนายจรัญ ภักดีธนากุล กล่าวถึงกรณีมือมืดปาระเบิดเข้าไปในบ้านพักเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ไม่ทราบว่าสาเหตุกิดจากอะไร แต่วิธีการเช่นนี้น่าจะเป็นการข่มขู่ ซึ่งเป็นวิธีปกติที่ซื้อไม่ได้ก็ดิสเครดิต เมื่อดิสเครดิตไม่ได้ก็ข่มขู่คุกคาม ตนและครอบครัวไม่ได้หวั่นไหว และไม่จำเป็นต้องขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม เพราะตำรวจคุ้มครองเรามา 2 ปีเต็ม และดูแลมาด้วยดีตลอด เพราะเกรงจะเกิดเรื่อง แต่คนกลุ่มนี้จะลงมือในจังหวะที่เราเผอเรอ ซึ่งตนก็ได้เตือนให้คนในครอบครัวระมัดระวังตัวมากขึ้น และยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และจะเกิดในอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุการลอบวางระเบิดครั้งนี้หรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า เราไม่คาดเดา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ เพราะหากคาดเดาไปอาจจะไม่ถูก เมื่อถามว่ากรณีนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ม็อบพันธมิตรเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ตนไม่อยากเดาสุ่มไปอย่างนั้น เพราะไม่ใช่วิสัย การพูดถึงเรื่องอะไรต้องมีหลักฐานชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนแล้วพูดไปจะทำให้คนอื่นแปดเปื้อน เมื่อถามว่าคิดว่ากรณีนี้เชื่อมโยงกับคดียุบพรรคที่กำลังอยู่ในการพิจารณาหรือไม่ นายจรัญกล่าวว่า คงไม่เกี่ยว เพราะเรื่องยุบพรรคก็ไม่ได้รุนแรงจนต้องข่มขู่คุกคามกันขนาดนี้ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบกระเทือนกับการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน

"ผมไม่กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เรารับเงินเดือนที่เป็นภาษีประชาชน ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้ากลัวแล้วไม่ทำ ก็ไม่ต้องไปรับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน และทำให้เพื่อนเดือดร้อนที่ต้องมาให้กำลังใจและต้องระวังกันมากขึ้น ตอนนี้ตุลาการทุกคนเตือนกันอยู่ว่าอย่าประมาท และอย่างวันนี้ประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญก็ได้พาเพื่อนตุลาการมาเยี่ยมให้กำลังใจ" นายจรัญกล่าว

-มือมืดปาบึ้มถล่มมัฆวานอีก

เวลา 03.20 น. ร.ต.อ.ป้อมเพชร โชติกลาง ร้อยเวรสน.นางเลิ้ง รับแจ้งมีเหตุปาระเบิดที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานฯ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศูตรพ่าย กทม. ตรงข้ามสำนักปลัดบัญชีกองทัพบก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นรุดไปตรวสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้บาดเจ็บได้มีการ์ดพันธมิตรนำส่งร.พ.วชิรพยาบาลไปแล้ว จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบวัตถุคล้ายสลักระเบิดเอ็ม 26 ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 3 ซ.ม. กว้าง 5 ซ.ม.

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุบริเวณดังกล่าว เป็นเต็นท์รักษาการณ์ของการ์ดพันธมิตร ซึ่งอยู่บนสะพานดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุได้มีชายขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมีคนซ้อนท้าย 1 คน สวมเสื้อคลุมสีดำคาดขาว ขับมาจากแยก จปร.ถนนราชดำเนินนอก เข้ามายังสะพานมัฆวานฯ ถึงหน้าสำนักปลัดบัญชีกองทัพบก คนซ้อนท้ายได้ลงมาจากรถจักรยานยนต์ แล้วปาระเบิดไปบนสะพานเสียงดังสนั่น ทำให้การ์ดพันธมิตร ซึ่งนอนพักผ่อนอยู่ในเต็นท์ และรักษาการณ์อยู่บริเวณนอกเต็นท์บนสะพานได้รับบาดเจ็บ 10 ราย และยังมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ สีดำ ทะเบียน 7 ฟ-3764 กทม. สะเก็ดระเบิดทำให้ถังน้ำมันรั่ว น้ำมันไหลนองพื้น

-แฉข่มขู่หวังให้ม็อบแตกตื่น

นายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าการ์ดพันธมิตร เปิดเเผยว่า จากการสอบถามการ์ดพันธมิตร ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุขว้างระเบิด สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ มีแถบสีขาวคาดด้านหลัง โดยใน 2-3 วันที่ผ่านมา ทางการ์ดพันธมิตรได้เฝ้าระวังมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ เนื่องจากมีการกดดันให้เปิดการจราจรจากหลายๆ ฝ่าย ซึ่งสาเหตุน่าจะเกิดจากฝ่ายตรงข้ามจงใจที่จะสร้างสถานการณ์ เพื่อทำให้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมเกิดความกลัว ที่สำคัญก่อนหน้านี้การ์ดพันธมิตรได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 1 คน และเมื่อตรวจค้นตัว พบผ้าชุบน้ำมันจนชุ่มติดตัวมา 1 ผืน จึงนำตัวไปสอบสวน ซึ่งชายคนดังกล่าวรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งต้องการให้มาก่อเหตุป่วนพันธมิตร ในราคาเพียง 200 บาทเท่านั้น

สำหรับการ์ดพันธมิตรที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 10 ราย นั้น 6 รายได้ นำส่งร.พ.วชิรพยาบาล มี 1.นายเสถียร ทับมะลิผล อายุ 40 ปี (บาดเจ็บสาหัส) 2.นายราชัน จันทร์ปลูก 3.นายจีรศักดิ์ อินทรีย์ 4.นายสงกรานต์ คำด้วง 5.นายทศพล สุขอิ่มใจ 6.นายปัญญา กติกา และอีก 4 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทางหน่วยพยาบาลของพันธมิตรได้ดูแลรักษาให้เอง

-หนุ่มโดนยิงหัวดับปริศนา

เวลา 06.30 น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดุสิต รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตด้านข้างที่ทำการสำนักนายกรัฐมนตรี แยกมิสกวันตัดแยกวังแดง แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 กำลังฝ่ายพ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สส.บก.น.1 แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณริมฟุตปาธถนนพบศพชายทราบชื่อต่อมา นายสังเวียน รุจิโมละ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/51 ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อโปโลสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าแตะสีแดง ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่แสกหน้าทะลุท้ายทอย 1 นัด จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุน ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ที่พื้นถนนอีกจำนวนมาก และพบใบเสร็จชำระค่าเหล้าตกอยู่ใกล้ศพผู้ตายเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน

-เมาจะไปหาเรื่องพันธมิตร

ต่อมา นางรัตนา สุขล้ำเลิศ อายุ 50 ปี พี่สาวของผู้ตายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เปิดร้านขายเครื่องเสียงอยู่แถวบ้านหม้อ โดยน้องชายทำงานอยู่ที่ร้าน และพักอยู่ที่บ้านเช่าย่านสวนจิตรลดากับพ่อ ก่อนเกิดเหตุคาดว่าน้องชายน่าจะไปกินเหล้ากับเพื่อน และกำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงมาเกิดเหตุเช่นนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าโทรศัพท์ไปบอกพ่อ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนร้ายต้องลงมือทำกับคนเมาขนาดนี้ด้วย

ด้านพล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายได้เดินผ่านกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เวรรักษาการณ์เข้ามาทางแยกวังแดง มุ่งหน้าไปหาแนวป้องกันพันธมิตร ในลักษณะคล้ายคนเมาสุรา พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า "ลุยแม่งเลย" หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ประมาณ 4-5 นัด ซึ่งในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรอยรูกระสุนที่บริเวณป้ายหยุดรถประจำทาง จำนวน 1 นัด ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ รวมทั้งการสอบพยานและญาติของผู้ตาย รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุมเพื่อหารือและกำหนดแนวทางในด้านการรักษาความปลอดภัยต่อไป

-สอบการ์ดยันมือบึ้มขี่จยย.

เวลา 10.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.ช่วยราชการ สน.นางเลิ้ง พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รองผกก.สส.สน.นางเลิ้ง ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร โชติกลาง ร้อยเวรเจ้าของคดี และฝ่ายสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดีระเบิดที่สะพานมัฆวานฯ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมให้ฝ่ายสืบสวนประสานไปยัง หน่วยงานราชการ และกองทัพบก ซึ่งอยู่ใกล้ บริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อขอตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด เพื่อหาบุคคลต้องสงสัยที่ก่อเหตุครั้งนี้

ด้านร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุได้สอบปากคำนายเชิดศักดิ์ ศรีสุบิน อายุ 50 ปี การ์ดพันธมิตร ให้การว่า เป็นการ์ดอาสาของพันธมิตรโดยเข้าเวร เวลา 00.00-06.00 น. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พบชายต้องสงสัยสวมหมวกกันน็อกเต็มใบขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง ผ่านถนนราชดำเนินนอก ช่องทางเดินรถที่ 2 เมื่อถึงแยกสะพานมัฆวานฯ ได้เลี้ยวขวาออกไปทางวัดโสมนัส 2 รอบ กระทั่งรอบที่ 3 พบว่า ชายดังกล่าวขับรถจักรยานยนต์มาอีก และมีคนซ้อนท้าย 1 คน เมื่อถึงสะพานมัฆวานฯ คนซ้อนได้ลงมาและปาระเบิดเข้าใส่ ก่อนหลบหนีไป จากนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ที่สะพานชมัยมรุเชฐและได้ยินอีก 1 นัด ที่แยกสวนมิสกวัน

-ระบุพธม.บาดเจ็บ 10 ราย

ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร กล่าวต่อว่า หลังสอบปากคำได้สักครู่ นายเชิดศักดิ์ ได้ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งในส่วนของสถานที่เกิดเหตุได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบโดยจุดเกิดเหตุมีหลุมระเบิดลึก 3 เซนติเมตร กว้าง 10 เซนติเมตร ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นระเบิด เอ็ม 67 เนื่องจากที่เกิดเหตุมีสะเก็ดไข่ปลา

ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประสานไปยังสำนักงานปลัด ซึ่งตั้งภายในกองทัพบก เพื่อนำกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้ามาตรวจสอบดู เพราะกล้องตัวนี้เชื่อว่าน่าจะอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุพบมีผู้บาดเจ็บ 10 ราย มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย ส่วนอีก 6 ราย ส่งโรงพยาบาลวชิระ ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 4 ราย ยังรักษาตัวอีก 2 รายประกอบด้วย นายจีระศักดิ อินทรีย์ มีแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่คอด้านขวา และนายเสถียร ทับมะลิผล มีแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะด้านซ้าย ส่วนผู้ก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กลุ่มไหนซึ่งเป็นไปได้ทุกกลุ่ม

-ผบ.ทอ.ห่วงบึ้มป่วนเมือง

เวลา 08.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ให้สัมภาษณ์เหตุการณ์ระเบิดหลายจุดเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ทราบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ประมาณเที่ยงคืน โดยมีการขว้างระเบิดเข้ามาในบ้านตุลาการรัฐธรรมนูญ ช่วงตี 3 มีการระเบิดที่สะพานมัฆวานฯ ซึ่งเรื่องนี้น่าเป็นห่วง ยิ่งใกล้ช่วงการชุมนุมที่จะมีแนวโน้มของเหตุการณ์ความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ทางรัฐบาลและตำรวจต้องรีบเข้ามาดำเนินการอย่างจริงจัง หมายถึงเรื่องการดำเนินการตามกฎหมายให้เข้มงวด ต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถคุ้มครองชีวิตทรัพย์สินกำลังใจของประชาชนได้ โดยทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายไม่เช่นนั้นจะมีกลุ่มต่างๆออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้นเรื่อยๆ และจะทำให้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้ลำบาก จะนำมาซึ่งเหตุความรุนแรงมากขึ้น

ผบ.ทอ.กล่าวว่า ในวันที่ 1 พ.ย. เป็นวันที่น่าห่วง เพราะถ้ามีการออกมาชุมนุมจำนวนมาก และนำสื่อของรัฐถ่ายทอดสัญญาณจะแสดงว่า รัฐบาลไม่เป็นกลาง ไปอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งจะทำให้เกิดกระแสต่อต้านและจะทวีความรุนแรง ตนไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบในอดีต ซึ่งจะเห็นว่าทุกครั้งที่มีความขัดแย้งจะนำมาซึ่งการเดินขบวนครั้งใหญ่และนักการเมืองก็จะเอาจุดนั้นไปเป็นเครื่องมือ จากนั้นจะมีการทำลายทรัพย์สินราชการเกิดขึ้น เพราะทนกลุ่มที่เห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม เขาจึงต้องมาแสดงออกอะไรสักอย่าง เช่นในอดีตกรมประชาสัมพันธ์ถูกเผา เราคงไม่อยากเห็นสื่อของรัฐ หน่วยงานของรัฐถูกทำลายอีก สิ่งที่น่าจะเป็นแนวทางลดกระแสได้คือรัฐบาลต้องเตรียมตัวไม่ใช่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้วยังปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาอีก ถ้าเกิดขึ้นมาคงแก้ตัวไม่ได้ว่าทำดีที่สุดแล้ว รู้ตัวว่าอะไรจะเกิดต้องดำเนินการทำอะไรขึ้นมาอย่าปล่อยเอาสื่อของรัฐมาเป็นเครื่องมือ

-ผบ.ทร.ยันท.ทหารอดทน

ส่วนพล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวว่า เรื่องเหตุระเบิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่า ทางกองทัพได้เตรียมรับมือการชุมนุม 1 พ.ย. อย่างไร หลายฝ่ายเกรงว่าจะมีการปะทะกันระหว่าง 2 กลุ่ม ผบ.ทร. กล่าวว่า เขาจะโฟนอินหรือไม่ยังไม่ทราบ ติดตามสถานการณ์ก่อน เมื่อถามว่าจะขอร้องนายกฯ ให้ดูแลปัญหานี้เป็นพิเศษหรือไม่ ผบ.ทร.กล่าวว่า คงไม่ต้องขอร้องเพราะนายกฯ ดูแลอยู่แล้ว


เมื่อถามว่าจะเป็นสัญญาณหรือไม่ว่าจะเกิดความวุ่นวายระหว่างคนไทยถึงขั้นปะทะเข่นฆ่ากันเอง ผบ.ทร. กล่าวว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปจะดีกว่า หากพูดผิดไปคงจะยุ่ง ทางกองทัพติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา และการดำเนินการของทหารนั้นมีขอบเขต มีกฎหมายกำหนดอยู่ เมื่อถามว่าขีดความอดทนของทหารอยู่ที่ไหน ผบ.ทร.กล่าวว่า ทหารนั้นเป็น ท.ทหารอดทน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ซึ่งเข้าร่วมประชุมสภากลาโหมด้วย ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ แก่ผู้สื่อข่าว

-นายกฯประชุมบิ๊กเหล่าทัพ

เวลา 09.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนเข้าห้องประชุมผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น นายกฯ พยายามปฏิเสธให้สัมภาษณ์แต่หันมาบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ขอไปรับฟังรายงานก่อนเดี๋ยวจะลงมาให้สัมภาษณ์

จากนั้นเวลา 10.05 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ได้เดินทางมาที่กระทรวงกลาโหมและเข้าห้องประชุมด้วย จากนั้นไม่นาน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุรรณ ผบ.ตร. ได้เดินทางเข้าประชุมที่ห้องประชุมสภากลาโหมด้วยเช่นกัน

-สั่งตร.คุมเข้มบ้าน"จรัญ"

หลังการประชุม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมสภากลาโหมไม่ได้พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ตนได้เชิญตำรวจมาให้ข้อมูลและได้กำชับว่าเมื่อเหตุเกิดขึ้นที่บ้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ตำรวจส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคนเพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุขึ้นกับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ซึ่งผบ.ตร.ได้แจ้งให้ทราบว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคนแล้ว คิดว่าคงไม่เกิดเหตุขึ้นอีก แต่ไม่ประมาท ป้องกันไว้ก่อน ทั้งนี้ เมื่อทราบเหตุตนได้กำชับให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนหาคนร้ายให้เร็วที่สุด และให้ตำรวจดำเนินการก่อน รอฟังผลการสืบสวนสอบสวน

เมื่อถามว่า เหตุระเบิดที่ผ่านๆ มายังไม่เคยหาตัวคนร้ายได้ นายกฯ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ จะยากง่ายแล้วแต่รูปคดี เมื่อถามว่าประเมินว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด นายสมชาย กล่าวว่า ต้องรอผลการสอบสวนของตำรวจ ต่อข้อถามว่าประเมินสถานการณ์ในฐานะรมว.กลาโหมว่าจะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ของบางอย่างคงพูดอะไรมากไม่ได้

-เผยนายกฯย้ำรักษาสถาบัน

พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมซึ่งมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรกว่า ในที่ประชุมนายสมชาย ได้มอบนโยบายโดยให้ยึดหลักกฎหมายของประเทศ เน้นการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสมเกียรติ และยังเน้นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ยุติปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยน้อมนำแนวทางพระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" มาใช้แก้ไขปัญหา

พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้มารายงานสถานการณ์ให้กับนายกฯ รับทราบถึงเหตุระเบิดบริเวณสะพานมัฆวานฯ และเหตุระเบิดที่บ้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งการหารือนอกรอบครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังการประชุมสภากลาโหม โดยมีพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ร่วมหารือ โดยใช้เวลาหารือไม่นาน

พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ส่วนที่มองว่ารัฐบาลไม่ยอมทำอะไรทั้งที่อาจเกิดความรุนแรงนั้น เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก การคาดเดาว่าการโฟนอินจะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะทุกเหตุการณ์จะมีหลายตัวแปรที่เป็นเหตุ

-ผบก.น.1แจงเหตุบึ้มพธม.

ที่บช.น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 กล่าวว่า เหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบแล้วน่าเชื่อว่าเป็นระเบิด เอ็ม 26 ซึ่งเป็นระเบิดสังหาร แต่จะต้องรอผลยืนยันอย่างเป็นทางการมาอีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นมีพยานเห็นว่ามีผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์มาทางแยก จปร.มุ่งหน้ามาทางสะพานมัฆวานฯ ก่อนจะขว้างระเบิดเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ตรงสะพานมัฆวานฯ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 คน ต้องสอบสวนหาข้อมูลให้ชัดเจน ยังไม่สามารถตอบได้ว่า การขว้างระเบิดดังกล่าวมีสาเหตุมาจากเรื่องใดแน่

พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า สำหรับกรณีพบศพผู้เสียชีวิตใกล้ประตูหลังบช.น.ทราบชื่อว่านายสังเวียน รุจิโมระ อายุ 46 ปี น่าจะมีอาการมึนเมา เดินผ่าแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา อาจจะเป็นช่วงที่ตำรวจไม่ได้ระวังเท่าที่ควร ทำให้เดินเลยแนวกั้นเข้าไปในช่องว่างระหว่างแนวกั้นตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร หลังจากนั้นก็เกิดเหตุมีเสียงปืนดังขึ้น สำหรับข้อมูลและความชัดเจนต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง

-ไม่เกี่ยวศพโดนยิงปริศนา

ผบก.น.1 กล่าวว่า น่าเชื่อว่าผู้ตายเป็นบุคคลภายนอกไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับทางพันธมิตร ขณะนี้ติดต่อญาติผู้ตายได้แล้ว พักอยู่ย่านถนนสุโขทัย มีอาชีพค้าขาย สาเหตุที่มาเมื่อคืนจะต้องสอบถามจากญาติและเพื่อนเพื่อความชัดเจน สำหรับวิถีกระสุนยังระบุไม่ได้ว่ายิงมาจากทิศทางใด กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสำนักข่าวกรองแห่งชาติว่า มีและใช้การได้หรือไม่ กระสุนปืนที่ยิงไม่ทราบขนาด แต่ถูกยิงเข้าทางหัวคิ้วขวาทะลุออกท้ายทอย อย่างไรก็ตาม 2 เหตุการณ์ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน การขว้างระเบิดมีเจตนามากกว่า ส่วนการยิงนายสังเวียนไม่น่าจะมีเจตนาเป็นอย่างอื่น จะต้องหาสาเหตุอีกครั้ง

ส่วนจะไปเชื่อมโยงถึงเหตุระเบิดที่บ้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท้องที่ สน.คลอง ตัน เมื่อคืนที่ผ่านมา ผบก.น.1 กล่าวว่า ต้องรอตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่การ์ดพันธมิตรให้ข่าวว่ามีการยิงที่สะพานชมัยฯ นั้น ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ยิงปืนแต่อย่างใด ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อน รวมทั้งที่มีการให้ข่าวว่าการ์ดพันธมิตรจับคนรับจ้างมาวางเพลิงยางรถยนต์แนวกั้นถนนของพันธมิตรในราคา 200 บาท และส่งมอบตัวตำรวจสน.นางเลิ้งก็ไม่มีเช่นกัน

-สั่งตั้งด่านตรวจรอบทำเนียบ

พล.ต.ต.อนันต์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรายังไม่มีความชัดเจนว่า เกิดจากฝ่ายใดแน่ เราจะต้องรอการรวบรวมหาข้อมูลอีกครั้งว่าเกิดจากฝ่ายใดแน่ ทางบก.น.1 จะเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลบริเวณโดยรอบทำเนียบให้มากขึ้น นอกจากกำลังตำรวจที่ระดมมารักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว จะให้ตั้งจุดตรวจค้นเพิ่มขึ้นทุกด้าน จะต้องให้ผู้บังคับบัญชาประเมินสถาน การณ์อีกครั้งว่าสมควรจะต้องขอกำลังทหารออกมาช่วยหรือไม่

ผบก.น.1 กล่าวว่า ส่วนในช่วงเย็นที่มีการนัดชุมนุมที่สนามหลวงคงจัดกำลังตำรวจไปดูแลตามปกติ ไม่น่าจะมีการเคลื่อนมาทางทำเนียบ นปก.ดำเนินการเป็นปกติ ส่วนที่ลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมเกษตรกรรายย่อย มาปักหลักชุมนุมตั้งแต่วานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายใด เรียกร้องเรื่องการชำระหนี้ของเกษตรกร ทางตำรวจเราไม่คิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นไปกว่านี้

-จตุพรชี้บึ้มป่วนให้ทหารปฏิวัติ

ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มผู้จัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิด และมีผู้เสียชีวิตจากการโดนยิงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ขอประณามว่าคนที่ก่อเหตุ มีพฤติการณ์ที่ผิดมนุษย์ และมีพฤติการณ์ที่เลวที่สุด คนที่ทำต้องการให้ผู้บริสุทธิ์เป็นเหยื่อ เพื่อให้ประชาชนหวาดกลัว ไม่กล้าเข้ามาร่วมงานวันที่ 1 พ.ย. และหวังสร้างสถานการณ์ เพื่อให้ปฏิวัติ เพราะเป็นทางเดียวที่จะให้พันธมิตรกลับบ้านได้ ยืนยันว่าในเวทีความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปเผชิญหน้ากับกลุ่มพันธมิตรเด็ดขาด

"เมื่อคืนผมได้คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงยืนยันว่าจะโฟนอินในรายการเหมือนเดิม และยังบอกด้วยว่าคนที่ออกมาวิจารณ์ รู้ได้อย่างไรว่าจะพูดเรื่องอะไร เป็นการตีตนไปก่อนไข้ ควรฟังให้ครบถ้วนก่อนแล้วจึงวิจารณ์ โดยในรายการ หากเห็นนายวีระ มุสิกพงศ์ ขึ้นเวทีตอนไหน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะพูดตอนนั้น โดยเนื้อหาจะมีหลายเรื่องและเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย" นายจตุพรกล่าวและว่า การที่กองทัพมีความเป็นห่วงและอยากให้สกรีนคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณก่อนโฟนอินนั้น ตนอยากให้สบายใจได้ว่าจะไม่เป็นอย่างที่ห่วงแน่นอน

-ถ้าพธม.กลับบ้าน-นปช.ก็กลับ

เมื่อถามว่า นายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุอยากให้ทุกคนอยู่กับบ้าน ไม่ให้มาชุมนุม นายจตุพรกล่าวว่า ตนน้อมรับ แต่ถ้าพันธมิตรกลับบ้าน คืนทำเนียบให้รัฐบาล เสื้อแดงก็พร้อมกลับบ้านเช่นกัน หรือถ้าเอเอสทีวีปิด รายการความจริงวันนี้จะปิดทันทีเช่นกัน ส่วนที่มองว่าเป็นการไม่น้อมรับฟังนั้น อยากถามว่าอยากให้พันธมิตรทำร้ายคนอื่นฝ่ายเดียวหรืออย่างไร

เมื่อถามถึงกลุ่มพันธมิตรเผยแพร่คลิปคนหน้าเหมือนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ควง 2 สาวเข้าโรงแรม นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยมีคนหน้าเหมือนเต็มไปหมด ถือเป็นการจับโยงทำลายเรื่องส่วนตัว แต่การทำเรื่องอย่างนี้ คนที่รู้จักนายสนธิเป็นอย่างดี จะรู้ว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่ง

ที่รัฐสภา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำนปช. เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 โดยเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรเชิดชูเกียรตินายนวมทอง ไพรวัลย์ เป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย โดยแขวนคอตายต่อต้านการรัฐประหาร

-อยากให้"อนุพงษ์"เป็นคนกลาง

จากนั้น พ.อ.อภิวันท์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ระเบิดที่สะพานมัฆวานฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ต้องวิเคราะห์ว่าใครเป็นผู้ได้ประโยชน์ในฐานะที่ตนทำงานด้านการข่าวมา คิดว่าน่าจะเป็นการกระทำของมือที่ 3 ของกลุ่มที่ได้ประโยชน์ ตอนนี้มีข่าวลือเรื่องมือที่ 3 อยู่มาก เพราะไม่อยากให้บ้านเมืองสงบ และการพูดของนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาทำให้เห็นแสงสว่างของความรักความสามัคคี แต่การก่อเหตุดังกล่าวจะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดได้ยากขึ้น

พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขณะนี้ความแตกแยกกระจายไปทั่วทุกหัวระแหง ทหารในกองทัพยังมีความคิดแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ส่วนของสภาส.ส.และส.ว.ก็แตกแยกกัน ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นตัวกลางเจรจา 4 ฝ่ายหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เข้ามาเป็นเจ้าภาพเชิญทุกฝ่ายมาเจรจาจะเหมาะสมกว่า เพราะถือว่ามีหน้าที่โดยตรงในการรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งในและนอกประเทศ จะมองว่าปัญหาเริ่มมาจากการเมืองคงไม่ได้ เพราะตอนนี้การเมืองเกี่ยวพันไปในทุกเรื่อง แม้ช่วงแรกพล.อ.อนุพงษ์เคยทำแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตนอยากให้ทำต่อไปด้วยความอดทนและเสียสละ

-ส.ส.พปช.น้อมรับฟัง"ดิสธร"

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงนายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์และรองเลขาธิการฯ พระราชวัง ระบุหากรักในหลวง ให้กลับบ้าน เพื่อคลี่ คลายปัญหาบ้านเมืองว่า เป็นความคิดที่ดี และทุกฝ่ายควรรับฟังเพื่อนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะกลุ่มที่สร้างปัญ หาให้บ้านเมืองอยู่ในขณะนี้ ควรจะทบทวนบทบาทของตัวเองว่าทำถูกต้องหรือไม่ แล้วยอมเข้าสู่กระบวน การยุติธรรม รวมทั้งส.ส.ควรกลับไปทำหน้าที่ ใช้กระ บวนการของระบอบรัฐสภาช่วยแก้ปัญหาให้ยุติลงโดยเร็ว

นายประชา กล่าวถึงทหารกังวลว่าการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นว่า เชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น เพราะการจัดกิจกรรมของกลุ่มนปช.เป็นการรวมตัวอย่างสงบอยู่ในที่ตั้ง ไม่ได้เคลื่อนไหวสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ต่างกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่ใช้สถานที่ราชการทำความเดือดร้อนให้คนอื่น ดังนั้น ทหารควรออกมาดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรมากกว่าจะกังวลกับการรวมตัวของนปช. โดยทหารจะต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันกับผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย และที่สำคัญทหารต้องอยู่ในความสงบไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น

-มาร์คซัดแผนจากลอนดอน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุระเบิดจุดต่างๆ ในกทม. เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ว่า นายสมชายเอาชีวิตประชาชนไปเสี่ยงทุกวัน ไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไร หากรัฐบาลยังมีท่าทีเหมือนเดิม สถานการณ์จะดีขึ้นอย่างไร มีแต่ความเลวร้าย ความเสี่ยง ความเครียดและความกังวล โดยเฉพาะใน 3-4 วันที่จะเกิดขึ้น ส่วนการวางระเบิดบ้านนายจรัญมีความพยายามลากกระบวนการยุติธรรมและสถาบันต่างๆเข้ามาสู่ความขัดแย้ง แต่นายกฯ ก็นั่งเฉย ไม่คิดว่าเป็นปัญหา ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเราก็เป็นห่วง แต่รัฐบาลไม่รู้ร้อนรู้หนาว หรือนั่นคือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น เป็นยุทธศาสตร์การเมืองจากลอนดอน สำหรับคำเตือนของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้หรือไม่นั้น ผู้ใหญ่ได้เตือนมา แต่ผู้มีอำนาจต้องมีท่าทีชัดเจนที่ต้องทำ เมื่อถามถึงกองทัพควรทำอย่างไรกับวิกฤตที่เกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บทบาทกองทัพคือทำอย่างไรไม่ให้สถานการณ์เกิดการปะทะอย่างรุนแรง เท่าที่ทราบกองทัพก็ห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ติดขัดข้อกฎหมาย

ต่อข้อถามถึงนปช.ระบุจะมีคนจำนวนมากร่วมรายการความจริงวันนี้ที่สนามราชมังคลาฯ 1 พ.ย. และไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมสามารถทำได้ หากไม่มีจุดมุ่งหมายนำไปสู่ความรุนแรงหรือการปะทะกัน แต่สงสัยว่ารัฐบาลส่งเสริมหรือไม่ ส่วนที่อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย 1 คน จะเข้าไปร่วมงานก็เป็นเรื่องของเขา ตำรวจจะทราบว่าความเสี่ยงความล่อแหลมเป็นอย่างไร ต้องวางมาตรการไว้

-ยังจี้นายกฯลาออก-ยุบสภา

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงสภาพัฒนาการเมืองเสนอให้มีการหารือร่วมกัน 4 ฝ่าย คือรัฐบาล ฝ่ายค้าน พันธมิตร และนปช.ว่า ถ้าจัดเวทีได้ ไปหยั่งท่าทีของแต่ละฝ่ายว่าจะคุยอะไรบ้างและยอมรับได้ ก็เป็นเรื่องดี ตนไม่มีปัญหา จริงๆ แล้วปัญหาพื้นฐานคือคู่กรณีหลัก รัฐบาลกับพันธมิตรต้องยอมรับกัน ทุกฝ่ายต้องหาทางออก ยอมรับว่าปัญหาพื้นฐานคือปัญหาการเมือง วิธีแก้สากลก็ไม่ยากเพราะมีอยู่ไม่กี่ทาง คือ ลาออก ยุบสภา ปรับ ครม. เป็นมาตรฐานที่เกิดปัญหาแล้วต้องแสดงความรับผิดชอบ ความไม่รับผิดชอบหลายอย่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เหตุการณ์ยืดยื้อ ต้องแก้จากจุดหลักตรงนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดกลุ่มพันธมิตรที่รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.วชิรพยาบาล ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย


น.ส.ทิพวัลย์ ทับมะลิผล อายุ 25 ปี ลูกสาวคนโตของนายเสถียร ทับมะลิผล ที่อาการหนักที่สุด เพราะถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะด้านซ้าย ได้เดินทางมาเฝ้าดูอาการของผู้เป็นพ่ออย่างใกล้ชิด โดยน.ส.ทิพวัลย์กล่าวว่า ได้รับแจ้งข่าวจากการ์ดพันธมิตรที่นำบิดาส่งโรงพยาบาล และเดินทางมาที่โรงพยาบาลเมื่อเวลา 07.00 น. ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าบิดาได้มาร่วมชุมนุมกับทางกลุ่มพันธมิตร เพราะปกติไม่ค่อยได้คุยกับบิดา หากตนทราบว่าบิดาจะมาร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ตนจะไม่ให้มาเด็ดขาด

-หนุ่มจยย.แจ้งจับถูกพธม.รุม

เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน สน.ดุสิต นายแอม ดาวสิงห์ อายุ 39 ปี อาชีพวิน จยย.รับจ้าง บริเวณหน้าสยามสแควร์ ย่านปทุมวัน เดินทางเข้าพบร.ต.ท.ขรรค์ชัย เดิมยิริง พงส.(สบ 1) สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มการ์ดพันธมิตร กรณีถูกการ์ดพันธมิตรรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

นายแอมให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา มีหญิงคนหนี่งว่าจ้างตนให้ไปส่งที่ทำเนียบรัฐบาล ค่าจ้าง 70 บาท ตนจึงขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีส้ม ทะเบียน รคล-129 กทม. ไปส่งถึงเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่ตนกำลังเลี้ยวรถกลับกลุ่มการ์ดพันธมิตรที่อยู่บริเวณสะพานชมัยมรุ เชษฐ์ประมาณ 4-5 คนกรูเข้ามาหาและไม่ให้ตนเข้าไป ตนจึงถามว่าผิดอะไร พวกนั้นบอกว่าที่หน้ารถตนติดสติ๊กเกอร์ "เบื่อพันธมิตร โว้ย" ตนบอกว่าเพื่อนติดให้ตั้งนานแล้ว และไม่ได้คิดอะไร จากนั้นกลุ่มการ์ดพันธมิตรหิ้วตนเข้าไปในห้องคล้ายห้อง รปภ.ตรงศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่ติดกับโรงเรียนพาณิชยการพระนคร ก่อนมีการ์ด 2 คนเข้ามาซักถามพร้อมลงมือตบและเตะเข้าที่ใบหน้าและลำตัว และปล่อยตัวตนกลับบ้านและมีอาการเจ็บปวด ฟกช้ำตามร่างกายและที่ขมับซ้าย จากการถูกทำร้ายร่างกาย จึงต้องเข้ารักษาตัวที่ร.พ.ตำรวจ ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความ

-ตร.ชี้แบบบึ้มบ้านปธ.ศาลปค.

เวลา 14.20 น. ที่บช.น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิด 2 แห่งและมีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงว่า เมื่อคืนมีเหตุการณ์น่าสนใจ 3 เหตุการณ์ เรื่องแรกเกิดเหตุระเบิดที่บ้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง โดยนายจรัญให้ข้อมูลว่า เวลาดังกล่าวขณะลงมาเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงคล้ายสิ่งของหล่นบนหลังคา สังเกตดูสักครู่ก็เกิดเสียงระเบิดเกิดขึ้น ไม่ทำอันตราย ใคร เสียหายเพียงกระจกบานเกล็ดหน้าต่างประตูแตก ผลการตรวจพิสูจน์ทราบพบว่าเป็นลักษณะของระเบิดทีเอ็นที จุดถ่วงเวลาด้วยฝักแค มีแค็ปขยายการระเบิด ไม่มีสะเก็ดระเบิดทำอันตรายมีเพียงแรงดัน น่าเชื่อว่าเป็นเรื่องของการก่อกวนไม่ประสงค์ชีวิต

ผบช.น.กล่าวต่อว่า น่าสังเกตว่าเหตุระเบิดที่บ้านนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครอง และบ้านนายจรัญ เป็นลักษณะเดียวกัน เชื่อว่ากลุ่มเดียวกันเป็นคนกระทำ จะต้องสืบสวนว่าเป็นกลุ่มใด สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนอื่นๆ แม้จะไม่ขอรับความคุ้มครองแต่เป็นหน้าที่ตำรวจต้องไปดูแลป้องกัน โดยอยู่ในเขตพื้นที่นครบาล 5 ท่าน คือ คลองตัน ลาดพร้าว เราจะส่งตำรวจไปคอยดูแล ใน จ.นครปฐม 1 ท่าน นนทบุรี 3 ท่าน ประสานให้ บช.ภ.1 และ 7 ไปดูแล โดย สตช.จะดำเนินการสั่งการ

-กล้องวงจรปิดเห็นนาทีโดนยิง

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ตอนตี 3 เศษ เกิดเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานฯ จากคำให้การเบื้องต้นของการ์ดพันธมิตร ไม่เห็นคนโยนระเบิดเข้ามา จากการตรวจจุดเกิดเหตุพบกระเดื่องระเบิดน่าเชื่อว่าจะเป็นระเบิดลูกเกลี้ยง เอ็ม 87 ส่วนรายละเอียดกำลังตรวจสอบกล้องซีซีทีวี วงจรปิดอยู่ ผู้บาดเจ็บมี 10 คน สาหัสอยู่โรงพยาบาล 2 คน บาดเจ็บรักษาโรงพยาบาล 4 คน ให้กลับบ้านได้ ที่เหลือ 4 คนดูแลรักษาเอง

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์นายสังเวียนถูกยิงเข้าหน้าผากทะลุท้ายทอยเสียชีวิต ตรงถนนพิษณุโลกใกล้แยกสวนมิสกวัน จากการตรวจสอบเบื้องต้นระบุได้ว่านายสังเวียนไม่เกี่ยวข้องกับทั้งฝ่าย นปช.หรือพันธมิตร มีการมาพูดคุยกับตำรวจที่ห้ามปรามว่าอย่าเข้าไป แต่กลับเข้าไป ตอบได้ว่าถูกยิงก่อนถึงสี่แยกสวนมิสกวัน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงบันทึกภาพเหตุการณ์ก่อนถูกกระสุนปืนเสียชีวิต ขณะเดินเข้าไปและถูกยิงเห็นได้ชัดเจนว่ากระสุนมาจากทางไหน ประกอบกับกระสุนปืนที่โดนกำแพงและป้ายรถเมล์ ยังไม่ขอฟันธงว่ายิงมาจากทิศทางใด เนื่องจากเป็นภาพถ่ายในเวลากลางคืน ไม่เห็นคนยิง เห็นเพียงคนถูกยิงเคลื่อนไหวอย่างไร และโดนยิงตอนไหน รอการสอบพยานอีกนิด ส่วนใหญ่เป็นคำให้การของการ์ดพันธมิตร 2 เหตุการณ์แรกน่าจะเชื่อมโยงกัน ยกเว้นกรณีของนายสังเวียนถูกยิงไม่น่าเกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ตายมีอาชีพไปช่วยญาติขายของย่านกระทรวงมหาดไทย

-เชื่อมีระเบิดป่วนโผล่อีก

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์เชื่อว่าต่อไปน่าจะมีลักษณะของระเบิดป่วนเมือง ซึ่งเราวางกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และมีจุดตรวจต้องประชาสัมพันธ์ประชาชนทราบจะมีจุดตรวจรถ เน้นรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ ส่วนการชุมนุมวันที่ 1 พ.ย.ที่สนามราชมังคลาฯ จะให้กำลังเสริมทั้งสิ้น 624 นายตั้งแต่คืน 31 ต.ค.ตรวจพื้นที่ในและรอบสนามราชมังคลาฯ ตรวจประสานร่วมกับทาง กกท.จากนั้นปิดประตูทั้งหมดจนเช้า วางกำลังตำรวจเป็น 3 ชั้น เวลาเปิดให้คนเข้าไปฟังรายการความจริงวันนี้สัญจรในสนามจะตรวจสิ่งของที่นำเข้ามา ตำรวจหญิงตรวจผู้หญิง ตำรวจชายตรวจผู้ชาย มีการตรวจรถที่นำเข้าไปหาสิ่งที่อาจเป็นอันตราย เช่น วัตถุระเบิด มีเครื่องตรวจสัญญาณ และเครื่องตรวจระเบิดชนิดมือถืออีกรอบ นอกจากนี้ยังให้ฝ่ายสืบสวนเข้าไปปะปน เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ไม่ใช่เลือกปฏิบัติฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ช่วงกลางคืนจะเทกำลังรถยนต์สายตรวจ 191 ลงมาเสริมอีกส่วนหนึ่งด้วย ทราบว่าจะเลิกงานหลัง 4 ทุ่ม และขอยืนยันไม่มีตำรวจไปใส่เสื้อแดงร่วมฟังรายการดังกล่าวแน่นอน เพราะแค่ดูแลผู้ชุมนุม

-โฆษกตร.ยันห้ามพธม.พกปืน

พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ระเบิดที่บ้านนายจรัญจะเป็นชนิดเดียวกับที่เกิดขึ้นที่บ้านนายอักขราธรหรือไม่นั้น ต้องรวบรวมพยานหลักฐานวัตถุพยานว่าเป็นสารระเบิดประเภทไหน ยังไม่สามารถสรุปได้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนให้ข้อมูล

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การ์ดพันธมิตรใช้เป็นข้ออ้างในการพกพาอาวุธปืนจะดำเนินการอย่างไร โฆษกตำรวจกล่าวว่า การพกพาอาวุธปืนมีกฎหมายชัดเจนอยู่แล้วหากใครทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นก็ดำเนินการจับกุมได้ทันที หรือหากมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเข้าไปดำเนินการ กฎหมายระบุไว้ชัดเจนไม่มีการยกเว้นใครพกพาอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายก็ถือว่าผิด

-หวั่นมือที่ 3 ป่วนสถานการณ์

พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยการชุมนุมของ นปช.ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่า นครบาลเตรียมกำลังดูแลความเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลด้านการข่าวมีสันติบาล นครบาลร่วมกับหน่วยข่าวอื่นๆ ติดตามความเคลื่อนไหว เหตุที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องเพิ่มความเข้มในการดูแลเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีสร้างความเสียหายต่อประเทศ ขณะนี้สังคมแตกแยก รุนแรงมีข่าวไม่ดีมาก อาจมีบางกลุ่มกลุ่มอื่นที่ไม่มีความปรารถนาดีต่อประเทศ มือที่ 3 มือที่ 4 ก็ต้องหาข้อมูลมาป้องกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ไปเร็วเพราะความแตกแยกที่เกิดขึ้นไม่สามารถอาศัยการเจรจาได้ ตำรวจขอวิงวอนประชาชน สื่อมวลชน หากรู้เรื่องไม่ดีหรือทราบว่าจะมีก่อเหตุก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะลำพังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอาจไม่เพียงพอ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชนก็ต้องทำอย่างดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด แต่เมื่อทำได้ไม่สมบูรณ์เราก็เสียใจนำมาเป็นบทเรียนวางแผนการทำงานครั้งต่อๆ ไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ เสธ.แดงออกมาระบุว่าจากนี้ไปจะมีคนเสียชีวิตทุกวัน โฆษก ตร.กล่าวว่า เป็นคำพูด แต่หน่วยข่าวกรองต่างๆ ทั้งทหาร-ตำรวจ มีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง ต้องนำข่าวต่างๆ มาวิเคราะห์ การพูดของคนใดคนหนึ่งอาจทำให้เกิดความตกใจ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูข้อเท็จจริง เตรียมการดำเนินการไปตามแผนการทำงาน ส่วนข่าวที่ว่า ตชด.2 กองร้อย จะแต่งชุดแดงไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.นั้นตนเองยังไม่มีข้อมูลขอไปตรวจสอบก่อน

-ถกดูแลรปภ.บ้านตุลาการ

นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายหลังจากเหตุการณ์ระเบิดที่บ้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ว่า ในวันที่ 31 ต.ค. ประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้นัดตุลาการมาร่วมประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการ ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่บ้านนายจรัญ หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงกันมาก ซึ่งสำนักงานได้ติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถือว่าเป็นผู้มีหน้าที่โดยตรงในการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยในพื้นที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประสานกับกองบัญชา การตำรวจนครบาล สน.พระราชวัง และ สน.จักรวรรดิ ที่ดูแลพื้นที่โดยรอบอย่างใกล้ชิด ส่วนบ้านพักของตุลาการแต่ละท่านก็ได้ประสานกับ สน.ท้องที่ให้ช่วยดูแลอยู่แล้ว แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ก็คงต้องดูแลให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้วิเคราะห์หรือไม่ว่าสาเหตุของการปาระเบิดครั้งนี้เกิดจากอะไร นายไพบูลย์กล่าวว่า ตนคงยังไม่สามารถแสดงความเห็นได้ คงต้องรอการประชุมของตุลาการในวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งอาจมีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุดังกล่าว เท่าที่ทราบตุลาการทุกคนไม่มีใครที่จะหวั่นไหว และยังจะทำหน้าที่ต่อไปตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พระราช วัง เดินทางมาดูแลรักษาความปลอดภัย ในขณะที่มีตุลาการเดินทางเข้ามาทำงานที่สำนักงานไม่กี่คน เนื่องจากไม่มีวาระการประชุมใดๆ

-20 ส.ว.มอบเงินช่วยตร.เจ็บ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ขจร สัยวัตร์ ส.ว. พร้อมคณะส.ว.จำนวน 20 คน เข้าพบพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อมอบเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 150,000 บาท โดยพล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวภายหลังว่า ส.ว.มาให้กำลังใจและมาเยี่ยมตำรวจที่เจ็บป่วย ซึ่งตำรวจดีใจและขอบคุณมากที่ส.ว.ยังเห็นอกเห็นใจการทำงานของตำรวจ ซึ่งตำรวจจะทำหน้าที่ดูแลประชาชน ดูแลรัฐสภา ดูแลสถานที่ราชการอย่างดีที่สุด

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวถึงเหตุระเบิดและเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งมีการกล่าวโจมตีบนเวทีพันธมิตรว่าเป็นการกระทำของตำรวจว่า เหตุที่เกิดขณะนี้คงไปสรุปไม่ได้ว่าฝ่ายไหนผิด ใครเป็นคนทำ นอกจากจะรอผลการสืบสวนสอบสวนให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตำรวจก็ดูแลความปลอดภัยตามปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นตนคิดว่าต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยต้องหมุนเวียนกำลังตำรวจเข้ามาเพิ่มเติม

-คุ้มเข้ม 9 ตุลาการศาลรธน.

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจมีการเคลื่อนย้ายกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุในช่วงมีเหตุระเบิดนั้น พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า คิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะตำรวจเราทำหน้าที่ทุกวัน มีการสับเปลี่ยนกำลังทุกวัน ซึ่งจากนี้ต้องเพิ่มกำลังมากขึ้น และต้องเจรจากับพันธมิตร ในส่วนที่ต้องแยกแยะว่าส่วนไหนของพันธมิตร และส่วนตรงไหนของตำรวจที่จะเข้าไปได้ ซึ่งการเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ก็มีการใช้อาวุธปืน ก็รอตรวจสอบว่าใครเป็นคนทำ

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวถึงเหตุระเบิดที่บ้านพักนายจรัญ ภักดีธนากุล ว่าต้องรอผลการตรวจสอบ ซึ่งเหตุระเบิดที่บ้านนายจรัญนั้น ผลจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบว่าวัตถุที่ใช้เหมือนๆ กับเหตุระเบิดที่บ้านนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ คนทำจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามตนได้สั่งให้จัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนแล้ว

-ม็อบดาวกระจาย-รถติดหนึบ

ก่อนหน้านี้ เวลา 09.00 น. ที่สถานทูตอังกฤษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้กลุ่มพันธมิตรประกาศดาวกระจายไปหน้าสถานทูตอังกฤษและห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม แต่สถานทูตยังคงเปิดทำงานตามปกติ มีชาวต่างชาติทยอยเดินทางเข้ามาติดต่องานอยู่เป็นระยะ เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานทูตโดยนำแผงรั้วเหล็กมากั้นบริเวณบาทวิถีตลอดแนวถนนวิทยุ ป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกและเข้าไปสร้างความวุ่นวายภายใน จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 50 นาย ดูแลความปลอดภัยทั้งภายในและนอกสถานทูต พร้อมทั้งกระจายกำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนไปดูแลความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไป

เวลา 09.30 น. กลุ่มพันธมิตรเคลื่อนรถบรรทุก 6 ล้อ ติดตั้งเครื่องขยายเสียง 2 คัน รถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียง 4 คัน เข้ามาจอดหน้าสถานทูต การ์ดพันธมิตรประสาน สน.ลุมพินีขอให้ปิดเส้นทางการจราจรบริเวณถนนวิทยุ ต่อมาเจ้าหน้าที่นำแผงรั้วเหล็กมาปิดเส้นทางบริเวณแยกเพลินจิตและแยกถนนวิทยุตัดถนนเพชรบุรี ทำให้ผู้ชุมนุมที่ยืนอยู่บริเวณบาทวิถีนับพันคน ส่วนใหญ่สวมเสื้อสีเหลืองและนำมือตบมาด้วย ต่างเริ่มลงมายืนชุมนุมบนพื้นผิวถนน ผลจากการปิดถนนเส้นดังกล่าวทำให้การจราจรบริเวณถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรีติดขัดเป็นอย่างมาก

-จี้ทูตอังกฤษส่งตัว"แม้ว"กลับ

จากนั้นนายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำกลุ่มพันธมิตร และนายอมร อมรรัตนานนท์ แนวร่วมกลุ่มพันธมิตร เดินทางมาถึงหน้าสถานทูตอังกฤษ มีการ์ดพันธมิตร 30 คน ยืนห้อมล้อมดูแลความปลอดภัย เป็นที่น่าสังเกตว่าการ์ดพันธมิตรทุกคนใช้ผ้าปิดใบหน้า พกพาไม้กระบอง ท่อนเหล็กและหนังสติ๊ก

ต่อมานายสมศักดิ์ขึ้นรถบรรทุกติดตั้งเครื่องขยายเสียงและอ่านแถลงการณ์ถึงรัฐบาลอังกฤษทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ใจความสรุปว่ามายื่นหนังสือถึงนายควินตัน มาร์ก เวลส์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ให้รัฐบาลอังกฤษส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย จากนั้นนายสมศักดิ์เป็นตัวแทนยื่นหนังสือ พร้อมซีดี หนังสือภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค. และมือตบขนาดใหญ่ 2 อัน โดยมีนายแพรี่ พล็อกเตอร์ เจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษ เป็นตัวแทนรับหนังสือ

-การ์ดพธม.ฉุนโดนแท็กซี่ด่า

เวลา 11.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรเคลื่อนการชุมนุมไปห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม แจกจ่ายซีดีและหนังสือภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมให้กับประชาชน โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าบางนา มีการ์ดพันธมิตรบางส่วนใช้รถจักรยานยนต์ขับนำขบวนเพื่อปิดเส้นทาง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงบริเวณทางด่วนเพลินจิต กลุ่มพันธมิตรได้ปิดถนนเส้นดังกล่าวตลอดทั้งสาย ทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้นกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางที่กลุ่มพันธมิตรเคลื่อนการชุมนุมได้ปิดการจราจรตามจุดสำคัญต่างๆ ชั่วคราว อาทิ แยกนานา แยกอโศกและแยกสายน้ำผึ้ง ทั้งนี้เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณแยกสายน้ำผึ้ง มีชายวัยกลางคนโชเฟอร์แท็กซี่ซึ่งขณะนั้นรถติดอยู่บริเวณถนนสุขุมวิทฝั่งตรงข้าม ได้เปิดกระจกลงมาพร้อมตะโกนต่อว่ากลุ่มพันธมิตรว่าสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง การจราจรติดขัด ทำให้การ์ดพันธมิตรที่ขับรถจักรยานยนต์นำขบวนอยู่ไม่พอใจ ขับรถย้อนกลับมาที่รถแท็กซี่คันดังกล่าว ก่อนใช้ถุงน้ำขว้างไปที่คนขับรถแท็กซี่ ถูกเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง ทำให้คนขับรถแท็กซี่ไม่พอใจ เดินลงมาจากรถและมีปากเสียงกันแต่ไม่มีเหตุรุนแรง ก่อนจะแยกย้ายกันไป

-ผู้หญิงยืนด่า-สาดน้ำไล่พธม.

เมื่อกลุ่มพันธมิตรเคลื่อนการชุมนุมไปถึงหน้าอาคารสมัชชาวานิช หรืออาคารยูบีซี 2 มีหญิงสาววัยกลางคนเดินออกมายืนที่หน้าอาคาร ก่อนตะโกนต่อว่าและขับไล่ ทำให้ผู้ชุมนุมราว 20 คนไม่พอใจ วิ่งกรูเข้าไปที่หญิงคนดังกล่าว ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะเข้ามากันหญิงคนดังกล่าวเข้าไปหลบในอาคาร เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย

ขณะนั้นมีชาย 3 คนยืนอยู่บริเวณดาดฟ้าของอาคาร ได้สาดน้ำลงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่จับกลุ่มกันอยู่ถึง 2 รอบ สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างมาก ตะโกนต่อว่าอย่างรุนแรง ก่อนจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังห้างเอ็มโพเรียม

เวลา 12.50 น. ขณะที่กลุ่มพันธมิตรเคลื่อนการชุมนุมมาถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ต่างวิ่งหลบฝนเข้าไปที่บริเวณอาคารและใต้สถานีรถไฟฟ้ากันอย่างวุ่นวาย บางส่วนยังคงปักหลักเดินขบวนต่อท่ามกลางฝนที่ตกลงมา ก่อนจะเข้าไปปักหลักและยึดพื้นที่ถนนสุขุมวิทบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียมทั้ง 2 ฝั่ง เป็นเวลากว่า 30 นาที ส่งผลทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวต้องหยุดชะงักชั่วคราว ระหว่างนั้นผู้ชุมนุมบางส่วนนำซีดีและหนังสือเหตุการณ์ 7 ต.ค.แจกจ่ายให้กับประชาชนภายในห้าง และบริเวณใกล้เคียง ก่อนจะสลายการชุมนุมเวลา 13.30 น.

-พฐ.ตรวจระเบิดบ้านจรัญ

เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐ ผกก.พฐ. พ.ต.อ.วรชิต กาญจนะเสน ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.เข้าตรวจสอบที่บ้านของนายจรัญ เพื่อเก็บหลักฐานร่องรอยระเบิด พบเศษท่อน้ำพีวีซี สีฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า และเศษดิน โดยเบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายต้องการข่มขู่

นายจรัญกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่คิดติดใจเอาความอะไร เพราะตนเข้าใจว่าสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้ต้องมีแรงกระเพื่อมบ้าง ที่ผ่านมามีผู้ใหญ่คอยเตือนอยู่ตลอด ซึ่งตนก็ระวังเต็มที่แล้ว แต่คนจ้องกับคนระวังไม่เหมือนกัน ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดีแล้ว คิดว่าคนร้ายไม่น่าจะประสงค์ชีวิต เพียงแค่ข่มขู่

"การคุกคามแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมันเป็นกฎแห่งกรรม คิดว่าคงเป็นกรรมเก่า ไม่ขอคาดเดาว่าเป็นฝีมือของใคร เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่มีคำว่าขวัญเสีย ยิ่งเป็นตุลาการต้องไม่กลัว แต่ไม่ใช่ท้าทาย เหตุที่เกิดขึ้นที่บ้านของผมไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่พันธมิตร" นายจรัญกล่าว

ต่อมา นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เดินทางมาพบนายจรัญ สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนายชัชกล่าวว่า ในวันที่ 31 ต.ค.นี้จะมีการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นวาระพิเศษ พูดเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย โดยจะกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น

-จำลองโต้-ให้ฝันหวานอยู่บ้าน?

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร แถลงถึงเหตุระเบิดทำให้การ์ดพันธมิตรบาดเจ็บหลายคนว่า ที่ผ่านมาเคยขอกำลังสารวัตรทหารจากกองทัพบกแต่ไม่ได้รับความสนใจ ฝากสื่อมวลชนไปถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ว่าจะยังนิ่งดูดายอยู่อีกหรือ ขอให้ส่งสารวัตรทหารมาดูแล พันธมิตรยินดีออกค่าเบี้ยเลี้ยงและเลี้ยงอาหารให้

ต่อข้อถามถึงกรณีนายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ระบุหากรักในหลวงขอให้อยู่ที่บ้าน พล.ต.จำลองกล่าวว่า ถ้าอยู่บ้านแล้วปกป้องสถาบันได้ผล เราทำไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเราสติปัญญาน้อย การจงรักภักดีในใจทำได้ทุกคน แต่ถามว่าเกิดประโยชน์หรือไม่ ขณะที่สถาบันสูงสุดถูกกระหน่ำมาแล้วหลายเดือน ทหารและรัฐบาลก็เพิ่งตื่น ถ้าไม่มีพันธมิตรจะมีใครปกป้อง

"ถ้าคนไทยรักในหลวง รักประเทศชาติแล้วนอนฝันหวานอยู่บ้านสบาย อย่างนี้หรือจะปกป้องสถาบันได้หรือ เป็นไปไม่ได้ ถ้าทำได้เราไม่มาชุมนุมถึง 159 วัน หากไม่ชอบพันธมิตรก็ให้หากลุ่มอื่นมาแทน จะเป็นทหารหรือราชการก็ได้ เราจะกลับบ้านทันที" พล.ต. จำลองกล่าว

-ไม่แน่ใจ"ป๋า"รับเป็นคนกลาง

พล.ต.จำลองยังกล่าวถึงข้อเสนอให้มีการสานเสวนาร่วมกัน 4 ฝ่ายว่า คนที่ไม่ได้ติดตามการเมืองแล้วมา บอกให้ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้เจรจา มันไม่เกี่ยว ผู้ที่เกี่ยวข้องมีเพียง 2 ฝ่ายเท่านั้นคือพันธมิตรกับรัฐบาล ส่วนกรณีเสนอให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยนั้น ไม่แน่ใจว่าจะรับหรือไม่ รัฐบาลนี้ทำให้พล.อ.เปรมเจ็บช้ำน้ำใจมาแล้ว เมื่อครั้งพาคณะไปบุกรุกหน้าบ้านด่าท่าน 6-7 ชั่วโมง พอมีเรื่องก็ไปเชิญท่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ถูกขว้างระเบิดจนมีผู้บาดเจ็บหลายราย การ์ดพันธมิตรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ทุกประตูเพิ่มกำลังมากขึ้นเป็นสองเท่า ขนล้อยางรถยนต์มาเป็นบังเกอร์เพิ่ม โดยเฉพาะบริเวณสะพานมัฆวานฯ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ติดกับถนน ถูกบุกรุกได้หลายช่องทาง และเป็นจุดที่เกิดเหตุบ่อยที่สุด จึงขยายพื้นที่ชุมนุมออกไปทางเวทีมวยราชดำเนินอีก 500 เมตร พร้อมนำล้อยางรถยนต์ไปขวางถนน ทำให้พันธมิตรสามารถปิดเส้นทางจราจรบนถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่หน้าเวทีมวยราชดำเนินไปจนถึงแยกลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้การ์ดพันธมิตรยังปิดถนนบริเวณเทวกรรมอีกด้วย ขณะที่ผู้ที่เข้ามายังพื้นที่ชุมนุมต้องถูกตรวจค้นกระเป๋าอย่างละเอียด พร้อมซักประวัติการเข้าร่วมชุมนุม ไม่เว้นแม้แต่ผู้สื่อข่าวที่ติดบัตรสื่อมวลชน

-โฆษกรัฐบาลโต้ไม่เกี่ยวบึ้ม

ที่ทำเนียบดอนเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวกรณีเกิดเหตุระเบิดและมีการใช้อาวุธปืนยิงกันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในบริเวณพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในช่วงเช้ามืดวันที่ 30 ต.ค. ว่า พล.ต.จำลองออกมาพูดว่าเหตุรุนแรงดังกล่าวเป็นฝีมือของรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน รัฐบาลไม่เคยมีความคิดนี้ ไม่เคยมีการสั่งการหรือดำเนินการใดๆ ถ้าเราพิจารณากันโดยเหตุผลก็จะไม่เห็นประโยชน์ใดๆ เลยที่จะเกิดขึ้นกับรัฐบาล ในการไปดำเนินการให้เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นระเบิด การยิงกัน มีแต่จะสร้างปัญหาหรือแรงเสียดทาน ความกดดันในการทำงานของรัฐบาลให้เพิ่มขึ้น

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตอยู่อย่างเดียวเท่านั้นว่าเมื่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรทำท่าที่จะอ่อนกระแสลง มักจะมีเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์มาเป็นตัวฉุดกระแส และขอเรียกร้องให้กลุ่มคนบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรยุติการกล่าวอ้างว่าเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสถาบันเบื้องสูง และไปชี้ว่ากลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเองเป็นบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีต่อสถาบันเบื้องสูง คนไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจในชีวิตที่ได้เกิดเป็นคนไทย ใต้ร่มพระบารมี และสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่อยู่ในความเคารพ เทิดทูนของคนไทยมานับร้อยนับพันปี และยังคงสง่างามอยู่อย่างนั้นโดยไม่จำเป็นต้องมีกลุ่มพันธมิตรออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด เพราะหน้าที่ในการปกป้องและเทิดทูนสถาบันเบื้องสูงนั้น เป็นหน้าที่ร่วมกันของคนไทยทุกคนอยู่แล้ว

-นปช.ยืนยันรื้อเวที 1 พ.ย.นี้

เวลา 17.00 น. ที่ท้องสนามหลวง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดงานรำลึกครบรอบ 2 ปีของการเสียชีวิตของนายนวมทอง ไพรวัลย์ ที่ผูกคอตายบนสะพานลอยวิภาวดีใกล้สำนักงานไทยรัฐเพื่อต่อต้านการยึดอำนาจโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยในช่วงเย็นได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การเปิดเวทีต้องล่าช้าไปจนเมื่อฝนหยุดจึงเริ่มเปิดเวทีในเวลา 18.30 น. มีผู้เข้าร่วมชุมนุมบางตากว่า 200 คน ขณะที่บริเวณโดยรอบสนามหลวงมีการขายเสื้อสีแดงและอุปกรณ์ตีนตบ รวมทั้งซีดีเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งมีผู้สนใจเลือกซื้อพอสมควร

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำนปช. กล่าวว่า นปช.จะจัดงานเพื่อรำลึกให้นายนวมทอง โดยจะชุมนุมในคืนวันที่ 30 และ 31 ต.ค. โดยวันที่ 31 ต.ค. เวลา 10.00 น. จะชุมนุมกันที่เชิงสะพานลอยวิภาวดีฝั่งสำนักงานไทยรัฐ เพื่อวางพวงหรีดรำลึกการเสียชีวิต จากนั้นในช่วงเย็นจะมาร่วมชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง และหากฝนไม่ตกในเวลา 20.00 น. จะเดินขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและจะปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและขึงรูปไว้อาลัยนายนวมทองลงมา จากนั้นจะเดินกลับมาชุมนุมต่อที่ท้องสนามหลวง จากนั้นวันที่ 1 พ.ย.จะรื้อเวทีชุมนุมของนปช.ที่ท้องสนามหลวง เพื่อเปิดทางให้งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพพระพี่นางฯ และนปช.จะหยุดเคลื่อนไหว 14 วันจนกว่างานพระราชพิธีจะเสร็จสิ้น

-มท.สั่งผวจ.สกัดทั้ง 2 ม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 30 ต.ค. 2551 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีเนื้อหาว่า ด้วยปรากฏข่าวสารว่าในช่วงวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย. กลุ่มนปช.กำหนดจัดชุมนุมทางการเมือง เพื่อแสดงพลังต่อต้านกลุ่มพันธมิตร ที่ชุมนุมต่อเนื่องภายในทำเนียบรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าการระดมมวลชนจากจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมสมทบการชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่าย อาจส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้า และก่อความไม่สงบเรียบร้อยให้กับบ้านเมือง จึงแจ้งให้จังหวัดดำเนินการ ดังนี้ 1. ติดตามข่าวสาร และตรวจสอบข่าวสารความเคลื่อนไหวของมวลชนในพื้นที่ หากปรากฏว่ามีมวลชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มใด ให้รายงานกระทรวงมหาดไทยโดยทันที 2. เจรจาทำความเข้าใจทางความคิดของประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมทั้งยับยั้งมิให้เดินทางเข้าร่วมชุมนุม หรือสนับสนุนทางการเมืองแก่กลุ่มใด

-ยะใสยันการ์ดยิงปืนป้องกัน

เวลา 19.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตร แถลงว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาทั้ง 3 จุด เป็นการกระทำจากคนกลุ่มเดียวกัน ลักษณะเป็นมืออาชีพ ขี่รถจักรยานยนต์มาแล้วชะลอ จากนั้นคนที่ซ้อนท้ายตรงเข้ามาขว้างลูกระเบิด ก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่เกิน 10 นาที ยังปฏิบัติซ้ำที่บริเวณแยกสวนมิสกวัน มีการปะทะกับการ์ดพันธมิตร ขอย้ำว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นจากกลุ่มพันธมิตร เป็นการป้องกันตัว เพราะยึดถือคำสั่งไม่ให้มีผู้หลุดเข้ามาก่อเหตุวุ่นวายภายในที่ชุมนุมโดยเด็ดขาด และการ์ดคนใดจะพกอาวุธต้องเป็นปฏิบัติการพิเศษที่ขออนุญาตจากแกนนำ โดยแกนนำจะเป็นผู้ประเมินสภาวะความจำเป็น และดูว่าฝ่ายตรงข้ามมีพฤติกรรมรุนแรงแค่ไหน

นายสุริยะใส กล่าวว่า จากนี้จะเพิ่มความเข้มงวดในการปิดเส้นทางจราจร บริเวณสะพานเทวกรรม หน้าวัดมกุฏกษัตริย์ หน้าสนามม้านางเลิ้ง แยกจปร. โดยจะปิดการจราจรตลอดทั้งคืน เพราะตามข้อมูลทราบว่าจะมีการปฏิบัติการเหมือนเมื่อคืนอีก โดยฝ่ายตรงข้ามจะแบ่งกำลังเป็นกลุ่มละ 5-10 คน กระจายกันไปก่อเหตุในจุดต่างๆ แต่การ์ดพันธมิตรได้ประชุมและวางแผนการรักษาความปลอดภัย มั่นใจว่าไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมาไม้ไหนและรุนแรงเท่าไร กลุ่มพันธมิตรรับมือได้ทุกกรณี

-สมชายเข้าแจงกก.สิทธิฯแล้ว

เวลา 19.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายสมชายเดินทางไปชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตรวจสอบเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อ 7 ต.ค ที่มีนายสุรสีห์ โกศลนาวิน เป็นประธาน ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง นายสมชายจึงเดินทางกลับ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการจะนำคำชี้แจงพร้อมผลสอบทั้งหมดเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิฯ ชุดใหญ่ในเช้าวันที่ 31 ต.ค. เพื่อนำไปประกอบกับผลสอบของนิติเวช ก่อนจะมีข้อสรุปต่อ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์