คนยอมรับได้คอรัปชัน ถ้าทำให้ประเทศรุ่งเรือง

วานนี้ (23 ต.ค.) นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง ศึกษาทัศนคติของประชาชนต่อรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชัน กรณีศึกษาประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 18 จังหวัดของประเทศ จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 3,880 ตัวอย่าง ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1-22 ต.ค. 2551 พบข้อมูลวิจัยที่น่าเป็นห่วงสำหรับประเทศไทยในเวลานี้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 63.2 คิดว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลมีการทุจริตคอรัปชันด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าทุจริตคอรัปชันแล้วทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดี อยู่ดี ก็ยอมรับได้ ในขณะที่ร้อยละ 36.8 ไม่ยอมรับแนวคิดเช่นนี้

นายนพดล กล่าวต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีกเมื่อจำแนกประชาชนออกตามลักษณะทางประชากรศาสตร์


พบว่า ทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับการศึกษา ทุกอาชีพ และรายได้ ต่างก็มีแนวคิดทัศนคติในเชิงยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชัน ถ้าทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดี อยู่ดี โดยผลสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นชายร้อยละ 64 หญิงร้อยละ 62.6 ยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชัน และเมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่า ร้อยละ 54.5 ของตัวอย่างที่อายุต่ำกว่า 20 ปี
, ร้อยละ 59.6 ของคนที่อายุระหว่าง 20-29 ปี, ร้อยละ 65.2 ของคนอายุ 30-39 ปี, ร้อยละ 67.7 ของคนอายุ 40-49 ปี และร้อยละ 64.2 ของคนอายุ 50 ปีขึ้นไป มีทัศนคติยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชัน


ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล กล่าวด้วยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชัน ก่อนที่บ้านเมืองในอนาคตอันใกล้จะแตกสลาย ยากที่จะเยียวยา


เพราะประชาชนส่วนใหญ่กำลังยึดมั่นและมุ่งกอบโกยผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องของตนเป็นสำคัญมากกว่าจะมีจิตสำนึกคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมาต่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์