โรคจิตป่วนหอหญิงโทรชวนร่วมเพศทั้งวัน

กรี๊ด ! โรคจิตป่วนหอหญิง โทรชวนร่วมเพศ ครวญครางตั้งแต่เช้า สาย บ่าย เย็น หนักสุดถึงกับเปลื้องผ้าโชว์ของลับทุกวัน สาวด่ากลับยิ่งเข้าทาง หอพักจนปัญญาเหตุเป็นสายนอก ตร.ชี้เอาผิดได้แต่โทษน้อย แค่เตือนและปรับไม่กี่บาทก็ปล่อยตัวไป


ใครว่าอยู่หอพักจะปลอดภัยจากพวกโรคจิตบ้ากาม "เหมียว" พนักงานเอกชนสาววัย 27 ปี คงเถียงใจขาดดิ้น เพราะเธอต้องเผชิญปัญหาโทรศัพท์ก่อกวนชวนร่วมเพศ ส่งเสียงร้องครวญคราง หรือแม้กระทั่งเปลื้องผ้าโชว์ของลับอยู่แทบทุกวัน
 

 "เหมียว" เป็นเด็กสาวจาก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เข้ามาเรียนและทำงานอยู่ใน กทม.ด้วยการเช่าหอพักอยู่ในซอยลาดพร้าว 88 ตามลำพังมานานกว่า 2 ปีแล้ว บางคืนอาจจะมีเพื่อนมาค้างด้วย แต่ไม่ว่าจะคืนไหนๆ เธอก็ได้รับโทรศัพท์ลึกลับจากชายนิรนามที่โทรเข้าเบอร์ห้องพักอยู่เป็นประจำทุกวัน หากเป็นโทรศัพท์สายปกติคงไม่เท่าไรนัก ยกเว้นสายนี้ที่เป็นพวกโรคจิตบ้ากาม ชวนคุยแต่เรื่องเซ็กส์ การมีเพศสัมพันธ์ ส่งเสียงร้องครวญคราง เหมือนคนกำลังมีเพศสัมพันธ์ หรือบางวันถึงกับเปิดซีดีลามกให้ฟังกันเลยทีเดียว


 โทรศัพท์โรคจิตเจ้าปัญหารู้เวลาและตรงเวลาเหมือนนาฬิกาปลุก ทุกๆ เช้าตอน 7 โมงก็จะโทรเข้ามาเป็นสายแรก หลังจากนั้นบ่ายโมงก็โทรเข้ามาอีกครั้ง กรณีนี้จะเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก่อนจะหมดวันด้วยสายสุดท้ายตอน 5 ทุ่ม


หากว่าทั้งหมดที่กล่าวมาหนักหนาสร้างความเดือดร้อนรำคาญแล้ว สิ่งที่ "เหมียว" เจอยังมีหนักกว่านี้ถึงขั้นเปลื้องผ้าโชว์ของลับและสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองต่อหน้าเธอเลย ซึ่งเป็นอย่างนี้มาประมาณ 4 เดือนแล้ว


 "หอเหมียวกับหอข้างๆ จะห่างกันไม่กี่เมตร และห้องของเหมียวก็ตรงกับห้องของผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตายังเด็กๆ อยู่เลย พอออกไปตากผ้าที่ระเบียงเขาเห็นเราก็ออกมา กำแพงระเบียงมันสูงเลยเอวขึ้นมา เขาก็เอาเก้าอี้มาวางแล้วก็ขึ้นไปยืนแก้ผ้าโชว์ของลับ จนต้องรีบกลับเข้าห้อง เป็นอย่างนี้แทบทุกครั้ง หรือไม่บางวันกลับจากทำงานดึกๆ หรือไปเที่ยวกลับมาพอเขาเห็นเราเปิดไฟก็ออกมานอกระเบียงยืนโชว์ของลับให้ดูอยู่อย่างนั้น"


 แรกๆ หญิงสาวพยายามหาทางแก้ปัญหาด้วยการด่าตอบโต้กลับไปทุกครั้งที่รับโทรศัพท์ หวังจะให้พวกโรคจิตสำนึกแต่ไม่สำเร็จ นอกจากจะไม่เป็นผลแล้วยังทำให้ปลายสายรู้สึกสนุกและเห็นเป็นเรื่องขำๆ ยกหูโทรศัพท์ไว้นอกแป้นวางก็แล้ว ผ่านไปหลายวันวางกลับเข้าที่ก็โทรเข้ามาใหม่ แจ้งให้ผู้ดูแลหอพักช่วยตรวจสอบก็พบว่าเป็นสายนอกที่ต่อเข้ามา ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร


 เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรเหมียวจึงปรึกษาเพื่อนว่า

จะไปแจ้งความดีไหม เพื่อนแนะนำว่าเอาผิดยาก สุดท้ายเมื่อความอดทนมาถึงขีดจำกัดเลยใช้ไม้ตาย ด้วยการออกอุบายพาเพื่อนที่เป็นกะเทยหรือเกย์มาพักที่ห้องด้วย ตั้งใจจะแก้เผ็ดคนโรคจิต แต่โทรศัพท์โรคจิตก็ไม่มีเข้ามาและชายนิรนามชอบโชว์ก็ไม่โผล่มาให้เห็น เหมือนกับจะรู้ตัว กระทั่งเพื่อนกลับไปแล้วจึงเริ่มก่อกวนอีกครั้ง เมื่อเกิดความอิดหนาระอาใจมากๆ เข้าเธอจึงโพล่งออกไปอย่างประชดประชัน


 "เดี๋ยวสิอย่าเพิ่งเสร็จ เอาไว้เสร็จพร้อมกัน"


 ปรากฏว่าปลายสายรีบวางโทรศัพท์ทันที ครั้งนี้เธอเป็นฝ่ายมีชัย แม้จะเป็นเพียงชัยชนะเล็กๆ แต่ก็มีความหมาย เพราะช่วยให้อีกฝ่ายหายไประยะหนึ่ง แม้ว่าต่อมาโทรศัพท์จิตป่วนจะหวนกลับมาเหมือนเดิมอีกก็ตาม


 ในขณะที่ "ก้อย" นักศึกษาปี 3 สาขาการโรงแรม มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง

ก็ต้องประสบปัญหาไม่ต่างไปจากเหมียว เธอเช่าหอพักอยู่ย่านพัฒนาการ ทุกๆ เช้าและดึกๆ มักจะมีโทรศัพท์โรคจิตเข้ามาในห้องพักและบทสนทนาก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย โดยแรกๆ จะแกล้งทักชื่อแบบผิดๆ พอปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็เซ้าซี้ถามชื่อ ในที่สุดก็ต้องเอาหูโทรศัพท์ออกเพื่อตัดความรำคาญ


 "เขาจะโทรมาบ่อยๆ ถามว่ามีแฟนหรือยัง มีแล้วใช่ไหม เคยมีอะไรกับแฟนใช่ไหม เขาแอบมองอยู่ อยากจะมีอะไรบ้าง พอได้ยินแบบนี้ก็รู้แล้วว่าเป็นพวกโรคจิตแน่ๆ เลยวางหูไป"


 นอกจากยกหูโทรศัพท์ทิ้งแล้ว ก้อยยังใช้วิธีด่ากลับด้วยอารมณ์โกรธ แต่เหมือนยิ่งทำให้พวกเขาชอบใจ ดังนั้น ทุกครั้งที่มีโทรศัพท์เข้ามาช่วงเช้าๆ หรือดึกๆ เธอจะสันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าเป็นโทรศัพท์โรคจิต ทางออกสุดท้ายที่ก้อยเลือกทำขณะนี้คือการถอดสายโทรศัพท์ห้องพักออกเลย เนื่องจากเธอเชื่อว่าน่าจะเป็นคนในหอพักที่เคยเห็นเธอ รู้ว่าพักอยู่คนเดียวหรือว่าอยู่กับใคร แต่แทนที่จะใช้เบอร์ต่อภายในก็ใช้มือถือโทรเข้ามาแทน หอพักเลยตรวจสอบไม่ได้


 จากการพูดคุยกับชาวหอสาวๆ ทั้งหลายต่างก็ประสบพบเจอปัญหานี้กันถ้วนทั่ว เพียงแต่ว่าเจอมากเจอน้อยเท่านั้นเอง หรืออย่าง "ฮิลล์" สาวออฟฟิศวัย 28 ปี ที่แม้จะอยู่กับแฟนหนุ่ม และบ่อยครั้งที่ให้แฟนหนุ่มเป็นคนรับสายก็ยังไม่ช่วยให้โทรศัพท์โรคจิตหายไปได้ ปัญหาเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนแก่สาวๆ ชาวหอไม่น้อย จากการสอบถามผู้ประกอบการหอพักย่านลาดพร้าว 88 และ 130 ยอมรับว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอยู่บ้างเหมือนกัน เคยแจ้งให้ตำรวจท้องที่ได้รับรู้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถหาตัวคนผิดได้ เพราะส่วนใหญ่ใช้สายนอกโทรเข้ามา จึงจนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน


 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า
 
ในพื้นที่ สน.หัวหมาก มีหอพักอยู่จำนวนมากก็จริง แต่ที่ผ่านมาไม่มีผู้เสียหายหรือคนที่ได้รับความเดือดร้อนเข้ามาแจ้งความแม้แต่รายเดียว อย่างไรก็ตาม ความผิดลักษณะนี้หากจับกุมดำเนินคดีได้เพียงก่อความเดือดร้อนรำคาญ มีโทษแค่เตือนหรือปรับ ทางออกที่ดีสำหรับหญิงสาวที่เจอกับปัญหาอย่างนี้ควรตัดบทสนทนาไปเลย


 ด้าน พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.ศูนย์เทคโนโยลีสารสนเทศ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กล่าวว่า

เคยได้ยินเรื่องลักษณะนี้มาบ้าง แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่มีใครแจ้งความร้องทุกข์เข้ามา จึงอยากแนะนำว่าหากใครได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำเหมือนอย่างข้างต้น ให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้

 "ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความ โดยแจ้งเบอร์ติดต่อของหอพัก วัน เวลาที่โทรศัพท์โรคจิตโทรมาเข้า เพื่อให้พนักงานสอบสวนขออนุญาตศาล แจ้งไปยังบริษัทที่ให้บริการคู่สัญญาณ ชี้แจงว่าในวันและเวลาดังกล่าวมีใครติดต่อเข้ามาบ้าง เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็จะเรียกผู้ต้องสงสัยเข้ามาให้ปากคำและดำเนินคดี" พ.ต.อ.สมประสงค์ กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์