ได้แล้วพิมพ์เขียวส.ส.ร.3 2รูปแบบ ชงที่ประชุมผู้นำ 4ฝ่ายตัดสิน ปชป.มาไม้เดิม เลิกสังฆกรรมรัฐบาล


กก.ยกร่าง รธน. ได้ข้อสรุปพิมพ์เขียว "ส.ส.ร.3" เสนอ 2 รูปแบบให้ที่ประชุมผู้นำ 4 ฝ่ายตัดสิน ไม่ดึงสภาพัฒนาการเมืองเข้าร่วม หลัง"สุจิต"คัดค้าน "สุขุมพงศ์" ยันไม่ได้ดึงดันให้รัฐบาลอยู่รอด แต่เป็นทางออกที่เหมาะสม ปชป.ฟอร์มเดิมเลิกสังฆกรรม รบ.

พิมพ์เขียว2รูปแบบ ส.ส.ร.3

ที่ประชุมคณะกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 3 (ส.ส.ร. 3) ได้ข้อสรุปรูปแบบที่มาของ ส.ส.ร.จำนวน 2 รูปแบบ ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุมผู้นำ 4 ฝ่าย ตัดสินว่าจะเลือกแบบใดในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ โดยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ในฐานะเป็นประธาน แถลงว่า ที่ประชุมได้ข้อยุติเกี่ยวกับโครงสร้าง และที่มาของ ส.ส.ร. 3 ซึ่งขณะนี้มี 2 แนวทาง คือ แนวทางแรกเสนอโดยนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ได้เสนอโครงสร้าง ส.ส.ร. จำนวน 120 คน ประกอบด้วย ภาคประชาชนรายจังหวัด 76 จังหวัด โดยให้ไปเลือกตั้งกันเองทางอ้อม เนื่องจากการเลือกตั้งตรงต้องใช้งบประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท ที่ประชุมจึงเห็นว่าการเลือกตั้งทางอ้อมเหมาะสมที่สุด และนักวิชาการ สายนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ กฎหมายมหาชน จำนวน 24 คน โดยให้ไปเลือกกันเองเหมือนกับ ส.ส.ร.ปี 40 ส่วนสุดท้ายอีก 20 คน มาจากกลุ่มสาขาอาชีพภาคต่างๆ โดยให้ไปเลือกกันเองในทางอ้อมเช่นเดียวกัน

นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า สำหรับแนวทางที่ 2 นายไชยยศ จิรเมธากร โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน เสนอว่าผู้ที่จะมาเป็น ส.ส.ร. 3 ต้องมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับกฎหมาย ทั้งเอกชนและมหาชน จึงเสนอให้มี ส.ส.ร. 3 จำนวน 100 คน ประกอบด้วย ตัวแทนจากอธิการบดี อาจารย์นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ทั่วประเทศจำนวน 60 คน โดยให้ไปเลือกกันเองในทางอ้อม และที่เหลืออีก 40 คน ให้เป็นตัวแทนจากกลุ่มสาขาอาชีพ

ขีดเส้นยกร่างไม่เกิน240วัน

"กรอบระยะเวลาในการยกร่างไม่เกิน 240 วัน โดยคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็น ส.ส.ร. 3 กำหนดคุณสมบัติเหมือนปี 2540 โดยต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป จบปริญญาตรี และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง" นายสุขุมพงศ์กล่าว และว่า รูปแบบ ส.ส.ร. 3 ทั้ง 2 แนวทาง คณะกรรมการจะเสนอให้ที่ประชุมผู้นำ 4 ฝ่ายได้พิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้  ซึ่งถือว่าคณะกรรมการชุดนี้ได้ทำงานเสร็จสิ้นแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีผู้บัญชาการเหล่าทัพออกมายืนยันว่า ทางออกทางการเมืองคือยุบสภาหรือลาออกเท่านั้น นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ โดยคณะกรรมการได้รับมอบหมายให้มาศึกษาแนวทางการยกร่างรัฐธรรมนูญและรูปแบบการตั้ง ส.ส.ร. 3 อนาคตข้างหน้าต้องไปถามที่ประชุมชุดใหญ่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร อย่างไรก็ตาม ว่าการเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร. 3 ไม่ได้ดึงดันเพื่อให้รัฐบาลอยู่รอด แต่คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยระบบรัฐสภาเป็นทางออกที่เหมาะสมในขณะนี้

ไม่ดึงสภาพัฒนาการเมืองร่วม

"ก่อนหน้านี้คณะกรรมการได้เสนอรูปแบบ ส.ส.ร. 3 โดยยึดตามรูปแบบของสภาพัฒนาการเมือง แต่จากการหารือกับนายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากสภาพัฒนาการเมืองเป็นองค์กรอิสระที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยมีจุดยืนเพื่อพัฒนาการเมืองภาคประชาชนควบคุมไปกับการเมืองรัฐสภา และมีความเป็นอิสระ จึงไม่อยากเข้ามามีบทบาทหรือเกี่ยวข้องการเมืองในรัฐสภา ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่าไม่ได้เอาสภาพัฒนาการเมืองมาเป็นโครงสร้างของ ส.ส.ร. 3Ž" นายสุขุมพงศ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า 40 ส.ว.ได้ส่งหนังสือถึงประธานวุฒิสภาให้ทบทวนกรณีที่รองประธานวุฒิสภาเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า เป็นเพียงความคิดเห็นของ ส.ว. ซึ่งนายนิคมได้ยืนยันในที่ประชุมว่ามีอำนาจเต็มในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากประธานวุฒิสภาให้เข้ามาเป็นคณะกรรมการ ซึ่งไม่ทราบว่า ส.ว. 40 คนมีแนวคิดอย่างไร แต่ขณะนี้กระบวนการยกร่างได้เดินหน้าไปแล้ว และยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวิธีการเดียวที่จะแก้ไขปัญหาทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย

40ส.ว.ลอยแพประธานวุฒิฯ

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า กรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นตัวแทนวุฒิสภาไปประชุมร่วม 4 ฝ่ายนั้น ต้องขอบอกว่าประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาไม่ใช่ตัวแทนของวุฒิสภาทั้งหมด เพราะ ส.ว.มีความเห็นหลากหลาย ซึ่งกลุ่ม 40 ส.ว.ได้ทำหนังสือทักท้วงไปยังประธานวุฒิสภาแล้วว่า การเข้าร่วมประชุมดังกล่าวไม่ใช่ทำในนามตัวแทน ส.ว. เพราะไม่เคยเรียกประชุมวุฒิสภา เพื่อขอมติที่ประชุมให้ไปทำหน้าที่แทน 

"ประธานวุฒิสภาไม่ควรนำวุฒิสภาไปรับรองความชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้ และไม่ควรไปร่วมกิจกรรมใดที่ดำเนินการของรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมไปแล้ว ประธานวุฒิสภาไปประชุมด้วยตัวของท่านเอง เราเป็น ส.ว.กลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วยจึงท้วงติง และไม่ควรอย่างยิ่งไปประชุมร่วม 4 ฝ่ายในวันที่ 20 ตุลาคมนี้" น.ส.รสนากล่าว

ปชป.แจงเหตุบอยคอตรัฐบาล

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคฝ่ายค้าน แถลงถึงการตั้ง ส.ส.ร. 3 ว่า การที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แต่งตั้งคณะกรรมการให้มีการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้เชิญพรรคประชาธิปัตย์ด้วย แต่พรรคไม่เข้าร่วม ทำให้ถูกกล่าวหาว่าต้องหัดฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้างนั้น ขอชี้แจงว่า เดิมให้ความร่วมมือ ส.ส.ร. 3  เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขความขัดแย้งในบ้านเมือง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พรรคเห็นว่าแนวทาง 4 ฝ่าย และการยกร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้ง ส.ส.ร. 3 ได้เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์จากเดิมไป เพราะหลังเกิดเหตุการณ์นี้ก็พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลสมคบกับประธานรัฐสภาใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และแนวทาง ส.ส.ร. 3 กลายเป็นเครื่องมือทำให้รัฐบาลอยู่ในอำนาจต่อไป

"เหตุการณ์ทั้งหมด พรรคได้ทำหนังสือถึงนายชัยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา และทำหนังสือยืนยันไปอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าพรรคปฏิเสธการเข้าร่วมกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 291 และจะไม่เข้าร่วมประชุม 4 ฝ่าย เพราะเห็นว่าวัตถุประสงค์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ถ้ารัฐบาลแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือลาออกแล้วมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และมีการยกร่างรัฐธรรมนูญมาตรานี้ขึ้นมาอีก พรรคพร้อมทบทวนท่าทีของเราและเข้าร่วมกระบวนการในการแก้ไขความขัดแย้งในบ้านเมือง" นายสาทิตย์กล่าว

ยื่นสอบแถลงนโยบายขัด รธน.

นายสาทิตย์กล่าวว่า พรรคได้ยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อตรวจสอบการประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 7 ตุลาคม เนื่องจากมีความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 3 ข้อ คือ องค์ประชุมไม่ครบ แต่ประธานสภา กลับให้มีการโหวตลงมติใหม่ และรัฐมนตรีที่มีส่วนได้เสียกับนโยบาย กลับให้ความเห็นชอบในนโยบาย ซึ่งขัดตามมาตรา 177 รวมทั้งยังมี ส.ส.ของรัฐบาลกดบัตรแทนกัน ก็ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 126 ซึ่งถ้าผลการวินิจฉัยสรุปว่าการแถลงนโยบายเป็นโมฆะ ก็อาจจะมีผลต่อมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้ง สัญญาต่างๆ ที่ทำกับต่างประเทศ ดังนั้น พรรคจึงเห็นว่าต้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องแล้วส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตร กล่าวว่า การตั้ง ส.ส.ร. 3 เข้ามาแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองนั้น อาจเป็นการดำเนินงานที่ช้าไปสำหรับการแก้ไขปัญหาของประเทศ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์