ปปช.สอบสลายม็อบ บี้3บิ๊กตร. พัชรวาท-ผบช.น.


"อานันท์"ปธ.พิธีศพสว.จ๊าบ ติง"หมอพรทิพย์"ด่วนสรุป ตาย-สาหัสจากแก๊สน้ำตา

"อานันท์ ปันยารชุน"เป็นประธานพิธี พระราชทานเพลิงศพ "สารวัตรจ๊าบ" การ์ดพันธมิตรฯ ที่ตายคารถจิ๊ปเชโรกีระเบิดท่ามกลางแกนนำ-ม็อบ พันธมิตรฯ-ผู้นำฝ่ายค้าน-ส.ส.ปชป.เข้าร่วมพิธีพร้อมหน้า นัดทำบุญใหญ่ตักบาตรพระอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายเช้าวันนี้ ด้านรัฐบาลตั้งแล้วคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง-คณะกรรมการเยียวยาเหตุการณ์สลายม็อบ แต่แกนพันธมิตรฯไม่ยอมรับ อ้างรัฐบาลไม่มีความชอบธรรม ป.ป.ช.รับลูกคำร้อง 20 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ตั้ง"วิชา มหาคุณ"เป็นประธานสอบรูดพัชรวาท-ผบช.น.-อำนวย นิ่มมะโน เตรียมขยายผลถึงนายกฯ-ครม.ด้วย อดีตผบช.ก."ชัจจ์ กุลดิลก"ติง"หมอพรทิพย์"อย่าด่วนสรุปคนตาย-ขาขาด-บาดเจ็บสาหัสเพราะระเบิดแก๊สน้ำตา ชี้บึ้มปิงปอง-ระเบิดขวดที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุก็มีสารอาร์ดีเอ็กซ์เหมือนกัน "จาตุรนต์"อัดพันธมิตรฯเคลื่อนไหวสวนแนวทาง 14 ตุลา ขัดขวางประชาธิปไตย เพราะต้องการจุดชนวนให้ปฏิวัติและย้อนกลับไปสู่ปี 2475

-"ตือ"เผยรัฐหาตัวผู้สั่งสลายม็อบ

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 14 ต.ค. ที่ศูนย์บัญชาการรัฐบาล ดอนเมือง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ และแกนนำพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงหลายองค์กรออกมาโจมตีรัฐบาลกรณีสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ว่า เรารับฟังทุกเสียงที่วิจารณ์ ขณะเดียวกันก็รับฟังข้อเสนอที่มีเหตุผลว่า สิ่งที่เกิดขึ้น รัฐบาลทำไปตามกระบวนการและกรอบที่สามารถทำได้หรือไม่ ส่วนการหาคนที่เป็นต้นเหตุความรุนแรง หรือกระทำเกินกว่าเหตุนั้น รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนผู้ที่ดำเนินการให้เกิดเหตุปะทะจนมีผู้บาดเจ็บ ล้มตาย นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการและละเลยไม่ได้ ตนเชื่อว่าขณะนี้รัฐบาลรีบทำอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในเมื่อมอบหมายภารกิจการเจรจาให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ไปแล้ว ถือเป็นหน้าที่ของพล.อ.ชวลิตที่จะสั่งการในฐานะประธาน และเมื่อเกิดความผิดพลาด พล.อ. ชวลิตได้แสดงสปิริตลาออกไปแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องหาผู้กระทำผิด

เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบหรือไม่ว่า พล.อ.ชวลิต เป็นผู้สั่งการให้สลายการชุมนุม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้คือเรื่องที่รัฐบาลต้องหาผู้สั่งการ จะมัวมาตั้งสมมติฐานบนความเคลือบแคลงและความไม่มั่นใจไม่ได้ อย่าลืมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลต้องทำความจริงให้ปรากฏ


ต่อข้อถามว่าวันนี้ตำรวจยอมรับว่าประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการยิงแก๊สน้ำตา ดังนั้น คงไม่จำเป็นต้องตั้งสมมติฐานใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้คณะกรรมการสอบสวนต้องพิจารณาด้วยความเป็นธรรม ไม่บิดเบือนหรือเบี่ยงเบนประเด็นให้ใครมารับเคราะห์

เมื่อถามว่าจะสอบถามรัฐมนตรีในห้องประชุมครม. หรือไม่ว่าใครเป็นผู้สั่งการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อบอกไปแล้วจะมีคนเชื่อหรือไม่ เพราะขนาดรัฐบาลตั้งกรรมการที่มาจากคนกลางเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยังถูกวิจารณ์ว่าไม่ใช่บุคคลที่เป็นกลางจริงๆ ดังนั้น หากบอกว่าเป็นใครแล้วทุกคนจะเชื่อหรือไม่

ระทึก"อภิรักษ์"หวิดเจอรองเท้าตบ

ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม มูลนิธิ 14 ตุลา จัดงานรำลึกให้แก่วีรชนเดือนตุลาคม เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 โดยระหว่างพิธีกล่าวสดุดีวีรชน มีหญิงวัยกลางคน ระบุว่าเป็นญาติวีรชนจาก จ.สระแก้ว ลุกขึ้นยืนและเดินถือรองเท้าปรี่เข้าหานายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. พร้อมกับร้องตะโกนต่อว่าผู้ว่าฯกทม. ที่ดูแลพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้ผู้ร่วมงานต้องช่วยกันพาตัวไปนั่งพักสงบสติอารมณ์ ซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้นั่งอยู่กับนายอภิรักษ์ด้วย

"อ๋อย"อัดพธม.สร้างเงื่อนไขปฏิวัติ

เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่นำโดยพันธมิตร สวนทางเหตุการณ์ 14 ตุลาชัดเจน และพันธมิตรยังมีข้อเสนอการเมืองใหม่ที่ไม่เคารพเชื่อถือและไม่เป็นประชาธิป ไตย ล้าหลังมาก ไม่เคารพและดูถูกเหยียดหยามประชาชนทั่วประเทศ ข้อเสนอการเมืองใหม่ไม่มีทางปรากฏจริงขึ้นได้ ยกเว้นเกิดรัฐประหารก่อน สิ่งที่พันธมิตรทำคือสร้างเงื่อนไขเหตุพื้นฐานให้เกิดความรุนแรง และเป็นข้ออ้างให้เกิดรัฐประหาร ซึ่งมีคนอ้างความเป็นกลางและหวังดีต่อสังคมก็บอกว่าถ้านองเลือดควรมีนายกฯ คนกลาง ตีความไม่พ้นว่าเมื่อนองเลือดรัฐบาลต้องออกไป แล้วรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญก่อน จากนั้นให้นายกฯ คนกลางเข้ามา ถือว่าล้าหลังสวนทางเหตุการณ์ 14 ตุลา อย่างมาก

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะนี้หลายฝ่ายวิตกถึงสถานการณ์ยึดทำเนียบรัฐบาล สภาประชุมไม่ได้ และมีแนวโน้มไปล้อมสถานที่ราชการ เช่น สตช. จะทำให้เกิดวิกฤตกลไกราชการ รัฐบาลทำงานไม่ได้ปกติ คนในสังคมไม่มีเวลาคิดรับมือเศรษฐกิจโลก เพราะต้องกังวลกับปัญหาภายในประเทศ ทางออก ไม่ใช่นายกฯ ลาออกหรือยุบสภา เพราะทำไม่ได้ ยิ่งทำให้เกิดความรุนแรงและรัฐประหารยังอยู่ต่อไป

"ทางออกสังคมไทยที่สำคัญที่สุดคือให้ทั้งสังคมยึดหลักนิติธรรมให้ได้ กฎหมายต้องชอบธรรม ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายเท่าเทียมกัน จะยึดทำเนียบแล้วบอกว่าอยู่ในที่ตั้งอย่างสงบถือว่าผิดเพี้ยนกับหลักนิติธรรม ส่วนการปิดล้อมรัฐสภาขัดขวางระบอบประชาธิปไตย นอกจากนั้นต้องส่งเสริมเจ้าหน้าที่ รัฐให้รักษากฎหมายได้ หากปล่อยให้คนไม่รักษากฎหมายจะมีคนเอาอย่าง หาทางนำการไม่รักษากฎหมายนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น ใครคิดทำรัฐประหารคิดว่าอาจจะไม่สำเร็จหรือถ้าสำเร็จก็ปกครองบ้านเมืองไม่ได้" นายจาตุรนต์กล่าว

หนุนกระบวนการตั้งสสร.แก้รธน.

อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องทุกฝ่ายต่อต้านคัดค้านรัฐประหารไม่ว่ากรณีใด และต้องไม่ยอมรับว่าหากนองเลือดแล้วต้องรัฐประหาร แต่ต้องให้รักษากฎหมาย เมื่อกฎหมายไม่ชอบธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น รัฐธรรมนูญ ต้องไปแก้ไขให้เป็นธรรม กระบวนการสร้างส.ส.ร. ควรเดินหน้าต่อไป

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องคนที่เคยผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือคนที่สนใจรักระบอบประชา ธิปไตยควรมาร่วมคิดถึงทางออกประชาธิปไตยและกติกาที่เหมาะสม ระบบที่ดีกับสังคมไทยคิดไปข้างหน้า ไม่ต้องพะวงว่าจะตอบโต้พันธมิตรเท่านั้น เพราะพันธมิตรกำลังเสนอให้ประเทศไทยถอยหลังไปสู่ปี พ.ศ.2475 ตนอยากเรียกร้องนักวิชาการ ประชาชน เอกชน ตั้งหลักให้ได้ช่วยกันคิดไปข้างหน้า ต่างประ เทศคิดไปถึงปี 2020 แล้ว ขอให้ไทยคิดถึงการเมืองปี 2575 อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ประเทศจะก้าวหน้า ควรมีการเมืองการปกครองอย่างไร ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ใช่เผด็จการอย่างที่พันธมิตรเสนอ

ชี้ถ้ายึดอำนาจทำประเทศหายนะ

อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ท่าทีกองทัพแสดงความเห็นให้รัฐบาลรับผิดชอบเหตุ การณ์ 7 ตุลาได้ แต่ต้องรับผิดชอบตามข้อเท็จจริงว่าใครซื้อแก๊สน้ำตาไม่ได้มาตรฐาน ทำไมไม่ทดลอง แต่ถ้าถามว่าพันธมิตรยึดทำเนียบ ล้อมสภาเตรียมไปฆ่าคนในสภา ผิดกฎหมายอาญา ข้อหากบฏ เจ้าหน้าที่ต้องทำอย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ ผบ.ทบ.ยืนยันไม่รัฐประหารยึดอำนาจ แต่ถ้าคนนี้พ้นอำนาจไป คนอื่นจะยึดหรือไม่ ต้องทำให้สังคมเห็นว่ารัฐประหารเสียหาย วันนั้นหากมีรัฐประหารสิ่งที่ควรเกิด คือ อารยะขัดขืนไม่ยอมรับการยึดอำนาจ คิดว่าผู้นำเหล่าทัพเห็นบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นอย่าไปกลัวถึงขั้นต้องลาออกหรือยุบสภา จะได้ไม่ถูกยึดอำนาจ เพราะใครที่คิดจะยึดอำนาจนำประเทศไปสู่หายนะต้องรับผิดชอบ และต้องพบจุดจบอันอัปยศที่สุด

ปปช.รับลูกสอบผบ.ตร. - 2 นายพล

เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายกล้า นรงค์ จันทิก โฆษกกรรมการป.ป.ช.แถลงผลการประชุมป.ป.ช.ว่า ที่ประชุมป.ป.ช.ได้พิจารณากรณีการกล่าวหานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. กับพวก ได้รู้เห็นเป็นใจสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธสลายการชุมนุมบริเวณรัฐสภา ทำให้ประชาชนบาดเจ็บ 400 คน บาดเจ็บสาหัส 6 คน และเสียชีวิต 2 คน ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 20 คน ได้ยื่นหนังสือต่อประธานป.ป.ช. ทั้งนี้ ที่ประชุมพิจารณาทั้งจากข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ และข้อมูลจากสื่อมวลชนตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. มีข้อเท็จจริงชั้นต้นพอฟังได้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.ท.สุชาติ และพล.ต.ต.อำนวย ได้สั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุม โดยใช้อาวุธร้ายแรงเกินกว่าเหตุจริง อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามข้อกล่าวหา

นายกล้านรงค์กล่าวว่า ส่วนนายสมชายและพล.ต.อ.จงรัก ในชั้นนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพียงพอจะฟังได้ว่า มีส่วนร่วมสั่งการดังกล่าวด้วย ที่ประชุมป.ป.ช.จึงมีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนพล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.ท.สุชาติ และพล.ต.ต. อำนวย โดยมีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน หากการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนปรากฏว่ามีบุคคลอื่นร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้ด้วย ให้คณะอนุกรรม การไต่สวนรวมดำเนินการต่อไป

วิชา"ปธ.-เตรียมสอบสวนขยายผล

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ประธานอนุ กรรมการไต่สวน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. กรณีสั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุมบริเวณรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต กล่าวถึงแนว ทางการสอบสวนคดีนี้ว่า ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ป.ป.ช. มีทีมงานที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้อยู่แล้ว เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นกลางเมือง เบื้องต้นจะต้องเรียกข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งการในการสลายการชุมนุมทั้งหมด ตลอดจนมติครม. นัดพิเศษเมื่อวันที่ 6 ต.ค. มาพิจารณา ดูว่าใครเป็นผู้สั่งการให้สลายการชุมนุม และสั่งให้สลายการชุมนุมด้วยวิธีการอย่างไร โดยจะต้องพิจารณาว่าเป็นการสลายการชุมนุมด้วยวิธีการเกินกว่าเหตุหรือไม่ นอก จากนี้ ทางคณะอนุกรรมการจะเรียกพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจน สุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาให้ปากคำด้วย

นายวิชา กล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่ดู พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.ท.สุชาติ และพล.ต.ต.อำนวย มีพฤติกรรมความผิดที่ค่อนข้างชัดเจน เพราะปรากฏตัวอยู่ในระหว่างที่ตำรวจกำลังสลายการชุมนุม ส่วนการสอบ สวนจะสาวไปถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และรมว.กลา โหม หรือไม่นั้น ต้องดูว่ามติครม.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายสมชายสั่งการอย่างไร รวมถึงต้องดูว่าพยานที่มาให้ปากคำนั้น มีใครให้การพาดพิงไปถึงนายสมชายหรือไม่ เชื่อว่าคณะอนุกรรม การไต่สวนข้อเท็จจริงคงใช้เวลาในการสอบสวนคดีนี้ไม่นานนัก


ตั้งแล้ว10กก.สอบเหตุสลายม็อบ

เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบดอนเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมครม.รับทราบตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 โดยมีนายปรีชา พานิชวงศ์ เป็นประธาน และกรรมการประกอบด้วย นายเจริญจิตต์ ณ สงขลา พล.ร.อ.ชลินทร์ สาครสินธุ์ นายสหาย ทรัพย์สุนทร นายจรัส สุวรรณเวลา นายประเสริฐ บุญศรี คุณพรทิพย์ จาละ นายยุวรัตน์ กมลเวชช นายสมชาย ผลเอี่ยมเอก นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ และนายวิชัย ตันติกุลานันท์

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คณะกรรมการอิสระฯ มีอำนาจรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ รับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับเหตุ การณ์ พร้อมกันนี้คณะกรรมการสามารถขอความร่วมมือหน่วยงานของรัฐทุกกระทรวง กรมและรัฐวิสาห กิจให้ความร่วมมือสนับสนุนจัดส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ และสามารถแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ตามความจำเป็น พร้อมทั้งจัดทำรายงานข้อเสนอแนะมาตรการอื่นเพื่อความเข้าใจอันดีและปรองดองสมานฉันท์ ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการสำนักนายกฯ เป็นผู้จัดหาสถานที่ปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ บุคลากร เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าว

-พร้อมตั้งกก.เยียวยาผู้บาดเจ็บ-ตาย

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังได้รับทราบคำสั่งนายกฯ ที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยา และช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกฯ เป็นประธานและกรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวงต่างๆ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผบ.ตร. ปลัดสำนักนายกฯ รวม 24 คน โดยคณะกรรมการเยียวยาฯ มีอำนาจกำหนดกรอบพิจารณาเยียวยาและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. และเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องก่อนหน้าและลับหลัง รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องฯ รับรองบุคคลที่สมควรได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ได้ตามความจำเป็น อย่างไรก็ตาม ต้องจัดทำรายงานข้อเสนอแนะมาตรการอื่นๆ ในการเยียวยาเสนอต่อนายกฯ และครม. ทั้งนี้ คณะกรรมการต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 วัน แต่อาจขอขยายเวลาดำเนินการได้ตามความจำเป็น และให้สำนักปลัดสำนักนายกฯ และสำนักงบประมาณ จัดสรรงบฯ ดำเนินการให้อย่างเพียงพอด้วย

-คนสนิทบิ๊กจิ๋วโดนม็อบพปช.ต่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชาชนว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า มีแกนนำสมาชิกพรรคพลังประชาชนในเขตจังหวัดปริมณฑล อาทิ สมุทรปราการ กทม. พระนคร ศรีอยุธยา กว่า 500 คน เดินทางเข้าเยี่ยมชมพรรค กระทั่งเวลา 14.00 น. ซึ่งมีการประชุมส.ส.พรรค โดยมีส.ส.ทยอยมาร่วมประชุม ขณะที่พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน คนสนิทของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ เดินทางเข้ามาร่วมประชุม ได้มีหญิงกลางคนที่อยู่ในกลุ่มแฟนคลับของพรรคพลังประชาชน และร่วมชุมนุมกับนปก.ที่ท้องสนามหลวงเป็นประจำ ได้ตรงเข้าต่อยที่แขนขวาของพล.ต.ศรชัย เบาๆ 1 ครั้ง จนพล.ต.ศรชัยได้หันกลับมามองด้วยสีหน้างุนงง โดยหญิงคนดังกล่าวบอกว่า "ฝากไปให้บิ๊กจิ๋วด้วย พูดออกมาได้ไงเรื่องปฏิวัติ อยู่ๆ ไปเข้าข้างพันธมิตร แล้วยังจะพูดเรื่อง 50:50 อีก" พล.ต.ศรชัยได้หันมาชี้แจงว่า การพูดของพล.อ. ชวลิต เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกให้สังคมเท่านั้น แต่หญิงคนดังกล่าวไม่ฟัง ทำให้พล.ต.ศรชัย เดินหนีขึ้นลิฟต์เพื่อเข้าร่วมประชุมพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ศรชัยได้ขึ้นไปยังห้องประชุม โดยเล่าเหตุการณ์ให้นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายวัน อยู่บำรุง ลูกชายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. สาธารณสุข ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นพล.ต.ศรชัยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องปกติที่คนอาจจะไม่เข้าใจ แต่ยืนยันว่าการที่พล.อ.ชวลิตลาออกนั้นเป็น การกระทำที่ใช้สติแล้ว

-"ชัจจ์"เผยครม.ตั้ง"บิ๊กจิ๋ว"รับผิดชอบ

เวลา 14.00 น. ที่พรรคพลังประชาชน พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกฯ กล่าวถึงนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน คนสนิทของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ระบุพล.อ.ชวลิตไม่ได้สั่งให้ปราบปรามการชุมนุมอย่างรุนแรงในวันที่ 7 ต.ค.ว่า ต้องดูว่าใครเป็นผู้สั่งการ เพราะตามที่มีการประชุมครม.วันที่ 6 ต.ค. ครม.มีมติให้พล.อ.ชวลิต รับผิดชอบรักษาความเรียบ ร้อยและให้มีการประชุมสภาในวันที่ 7 ต.ค. จากนั้นพล.อ.ชวลิต เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจนคร บาล แล้วสั่งการอะไรต่ออะไร ถ้าจะมาบอกว่าไม่ได้สั่งการ เหมือนกับทำคนท้องแล้วไม่รับ อย่างไรก็ตาม อยู่ที่ประเด็นการสั่งการ ถ้าสั่งการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ตำรวจต้องปฏิบัติตาม ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง ส่วนที่มีข่าวว่าพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทยเป็นคนสั่งการนั้น พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เพราะพล.ต.อ.โกวิทไม่ได้คุมตำรวจ น่าจะเป็นรองนายกฯที่มีอำนาจสั่งการ แต่ต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร

-ติง"หมอพรทิพย์"อย่าด่วนสรุปง่ายๆ

พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวอีกว่า น่าสังเกตคือการออกมาเผยผลการสอบสวนของพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บขาขาดแขนขาด มาจากสะเก็ดระเบิดจากแก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำจากจีน ที่ตำรวจเป็นผู้ยิง น่าสงสัยว่าผู้เชี่ยวชาญสามารถวินิจฉัยได้ละเอียดถึงรู้ว่าเป็นวัตถุระเบิดประเภทไหน ใครยิงได้เลยหรือ เท่าที่เคยเห็นผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุ จะบอกเพียงว่าบาดแผลอย่างนี้เกิดจากอะไร มีส่วนประกอบจากอะไร แล้วอะไรที่ทำให้มั่นใจว่าระเบิดจากแก๊สน้ำตา ไม่ใช่จากระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง ที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะระเบิดอย่างนี้ก็มีองค์ประ กอบทางเคมีเหมือนกัน

พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า แม้จะคลางแคลงใจในการออกมาเผยผลการตรวจสอบของพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ก็ตาม แต่ก็คงไม่จำเป็นต้องเรียกร้องให้ตั้งคนกลางคนอื่นมาตรวจสอบ เพราะองค์กรอย่างคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเองก็ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่แล้ว หากพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์อยากจะพูดอะไรก็คงต้องปล่อยไป แล้วทุกอย่างผลการสอบสวนก็จะรู้ข้อเท็จจริงเอง เพราะตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญที่เก่งๆ ก็น้ำท่วมปากกันหมด จึงเป็นที่น่าสงสารข้าราชการตำรวจที่ถูกมองในแง่ลบตลอดมา

-ผบช.น.กัน2ม็อบไม่ให้เผชิญหน้า

ที่บช.น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ได้รับมอบสิ่งของจากประชาชนผู้ใช้ชื่อแฟนชมรมคนแท็กซี่ เอฟเอ็ม 92.75 และกลุ่มแสงจันทร์ส่องหล้า ที่นำอาหาร เครื่องดื่ม มาเลี้ยงตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และนปช. พร้อมให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ท้อได้ แต่อย่าถอย ปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไม่ต้องกลัว รักความยุติธรรมและความถูกต้อง กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ซึ่งพล.ต.ท.สุชาติกล่าวขอบคุณในนามของตำรวจนครบาลและตำรวจที่มาช่วยปฏิบัติหน้าที่ทุกคน ก่อนนำข้าวปลาอาหารไปแจกจ่ายบรรดาตำรวจ

ต่อข้อถามถึงเรื่องการใช้แก๊สน้ำตาของจีนแดงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า เราเป็นผู้ปฏิบัติ ถือว่าสิ่งที่เบิกจ่ายให้ตำรวจมาใช้ ต้องตอบว่าพวกเราไม่ได้ซื้อมาเอง การจัดหามามีสเป๊กทางพลาธิการหรือผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงต้องตอบคำถามนี้

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวถึงการสั่งการในวันที่ 7 ต.ค. ว่า ตนไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่จะตอบ ถ้าจำกันได้ในวันนั้นสื่อที่เฝ้าทำข่าวอยู่จะจำได้ว่าตอนตี 2 ตนอยู่ที่ไหน ไม่ได้อยู่ในนครบาล

ต่อข้อถามกรณีพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ระบุว่าตำรวจถูกกดดันจากฝ่ายการเมืองถึง 2 ครั้งให้ปฏิบัติการเปิดเส้นทางรัฐสภาให้มีการแถลงนโยบายของรัฐบาล พล.ต.ท.สุชาติตอบว่าตอนที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ เดินทางมาระหว่างตี 2-3 ตนมีภารกิจบางอย่างต้องออกไปดำเนินการ ที่ผบช.น.ทุกคนต้องออกไปปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ช่วงนั้นตนไม่ได้ฟัง เพียงแต่รู้ว่าท่านมา ตรงนั้นรายละเอียดเป็นอย่างไร ถ้าพูดไปแล้วไม่ใช่จะเป็นการไม่ดี เพราะไม่ได้อยู่ในห้องประชุม พอตนเสร็จภารกิจแล้วกลับเข้ามา บช.น. ประมาณตี 3 กว่าๆ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้

-ยันดำเนินการไปตามแผนกรกฎ

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวถึงภารกิจในการเป็นผบ.เหตุการณ์ช่วงเวลา 6 โมงเช้าวันที่ 7 ต.ค.ว่า การเป็นผบ.เหตุการณ์ต้องขอเรียนให้ทราบเป็นตามแผนกรกฎ ใครเป็นผบช.น.ก็ต้องเป็นผบ.เหตุการณ์ แต่คนที่เข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่ต่างๆ ก็เป็นไปตามแผนการปฏิบัติ เราพูดคุย มีการหารือกัน ภารกิจที่มอบหมายแบบนี้มีการคิดวางแผนกันตั้งแต่ต้น จะต้องทำหรือไม่ ทำไมถึงต้องทำ ถ้าจำเป็นจะต้องทำ จะทำอย่างไร มีการประเมินว่าจะมีการสูญเสีย ทำอย่างไรว่าจะสูญเสียน้อยที่สุด นี่คือหลักการก็เป็นไปตามแผนฯหมด

"ผมเป็นผบ.เหตุการณ์จริงแต่อยู่ข้างบนนี้ หน้าตาแบบผมคุณลองดูถ้าเห็นบาดเจ็บมีแต่จะวิ่งไปช่วย ถ้ารู้ว่ายิงแก๊สน้ำตายิงไปแล้วเป็นแบบนี้ผมก็จะวิ่งไปตรงกลางแล้วบอกให้ทุกคนหยุดยิง เรายอมรับว่าเป็นผบ. เหตุการณ์จริง แต่อยู่ข้างบนนี้ ไม่ได้ลงไปในพื้นที่ ในพื้นที่นั้นเป็นผู้ปฏิบัติ แต่ละชุดปฏิบัติจะมีรองผบก. คุมหมดทุกชุด พูดไปก็เหมือนกับเราแก้ตัว ถ้าเอาผิดผบ.เหตุการณ์คนเดียวก็เอาได้เลย ไม่มีปัญหา จบได้เลย" ผบช.น.กล่าว

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวถึงเหตุการณ์หลังจากเปิดทางเข้าออกรัฐสภาให้ประชุมแถลงนโยบายได้แล้ว ว่ามีเหตุการณ์ปะทะต่อเนื่องอีก 3 เหตุการณ์ คือ ตอนเช้า ตอนเย็น และตอนค่ำ ของวันที่ 7 ต.ค.นั้น เรามีความจำเป็นที่จะต้องยับยั้ง ไม่ใช่การสลายหรือขับไล่ เราต้องป้องกันและดำเนินการ ถ้าในที่สุดแล้วตำรวจถูกตัดสินว่าผิดพลาด ตนก็ไม่คิดอย่างไร ก็ต้องรับผิดชอบ เราไม่ได้ปฏิเสธหากผลพิสูจน์ทางนิติวิทยา ศาสตร์ผลออกมาอย่างไรก็ต้องว่าไปอย่างนั้น ใครจะไปสั่งซื้อได้เอง จะต้องมีการระบุสเป๊กในการจัดซื้อ ซื้อมาแล้วก็บรรจุเป็นยุทธปัจจัย ซึ่งมีการเขียนไว้หมดว่าจะทำแบบไหน ป้องกันอย่างไร ให้ได้ตอนไหนแค่ไหน

-"จตุพร"แฉแก๊สน้ำตาสั่งซื้อสมัยชวน

เวลา 15.30 น. ที่พรรคพลังประชาชน นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า หลังจากนี้นปช.จะจัดงานครอบครัวความจริงวันนี้ครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 พ.ย. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 15.00 น. โดยจะมีทีมงานเดิมเป็นแกนนำ เช่น ตน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระ มุสิกพงศ์ นอกนี้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ได้รับปากจะมาช่วยปราศรัยในงานด้วย โดยนายสมัครจะออกจากโรงพยาบาลได้ใน 1-2 วันนี้ และคนอยู่ไกลอาจส่งเสียงมาถึงแฟนรายการด้วย คาดว่าในสนามราชมังคลาฯ ในวันนั้น จะมีคนมา 50,000-60,000 คน ระหว่างนี้หากมีการปฏิวัติรัฐประหารขึ้น จะเปลี่ยนสถานที่ไปรวมตัวกันที่สนามหลวง เพราะล่าสุด ทราบข่าวว่ามีความพยายามของทหารจะปฏิวัติ โดยมีกระแสข่าวหนาหูมากในคืนวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา

"ยอมรับว่าขณะนี้มีกระแสกดดันทุกฝ่าย ให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออก โดยเฉพาะเมื่อคืนกระแสข่าวปฏิวัติแรงมาก มาจากสาเหตุการสลายม็อบหน้ารัฐสภาวันที่ 7 ต.ค. แต่เรื่องนี้ถ้าจะตรวจสอบก็ต้องบอกว่า กรณีที่ถกเถียงกันเรื่องแก๊สน้ำตานั้น มีการสั่งซื้อแก๊สน้ำตาเมื่อปี 2536 สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ เรื่องนี้อยากเรียกร้องให้คณะกรรมการตรวจสอบประเด็นนี้ด้วย ส่วนเรื่องจะกดดันให้เรายุบสภานั้น ต้องถามพรรคประชาธิปัตย์ว่ากล้าออกมารับปากหรือไม่ว่าถ้ายุบสภาแล้ว มีการเลือกตั้งใหม่ ประชาธิปัตย์จะยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้ารับ ผมจะเสนอให้ยุบสภา" นายจตุพรกล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า หากจะพูดให้ถูก ต้องบอกว่าสถานการณ์วันนี้เป็น 3 เส้า หากยึดอำนาจเมื่อไหร่ จะต้องเจอสีแดง คือกลุ่มนปช.ออกมาเคลื่อนไหวอย่างยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่ากลุ่มพันธมิตร ขอฝากชมพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. แม้เจอสถานการณ์กดดันจากหลายฝ่าย เจอมือตบไปขับไล่ในงานศพ ก็ยังมีสติ ไม่คิดปฏิวัติตามคำสั่งของใคร"

-แฉคำสั่งแกนนำม็อบสั่งจับส.ส.

ที่พรรคพลังประชาชน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่าตนพร้อม 3 ส.ส.พรรคประชาชน พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี นายธเนศ เครือรัตน์ นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ ได้รับมอบหมายจากวิปรัฐบาลให้เดินทางเข้าแจ้งความที่สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรที่บุกปิดล้อมรัฐสภา และมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบริเวณรัฐสภา ซึ่งได้มีหลักฐานภาพรอยกระสุนปืนหลายแห่งที่มีการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในบริเวณประตูทางเข้ารัฐสภาชั้น 2 และผนังอาคารรัฐสภา

นายสุชาติ กล่าวว่า การบุกปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เราได้ยินแกนนำพันธมิตรประกาศชัดเจนบนเวทีว่าให้มีการฆ่า ส.ส.จับตัวมาเป็นเชลย พร้อมยิงปืนเข้ามาในสภาด้วยโดยเฉพาะที่มีการเตรียมนำยางรถยนต์มาวางกั้น มีการราดน้ำมัน ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สลาย แล้วมีการบุกเข้ามาในรัฐสภาอะไรจะเกิดขึ้น อาจเกิดเหตุวุ่นวายและมีการทำร้าย ส.ส. และส.ว. ทำให้หลายคนต้องปีนอย่างทุลักทุเลอย่างมาก

-พปช.บุกแจ้งจับ 3 แกนนำพธม.รุ่น 2

เวลา 15.30 น. นายสุชาติ และส.ส.พลังประชาชน เดินทางเข้าพบพ.ต.ต.ธันยวัต ชวาฤทธิ์ พนักงานสอบสวน สบ.2 สน.ดุสิต ดำเนินคดีกับนายสาวิทย์ แก้วหวาน นายสำราญ รอดเพชร นายอมร อมรรัตนานนท์ นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรรุ่น 2 ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ ข่มขู่อาฆาตมาดร้าย โดยนำหลักฐานเอกสารภาพถ่ายที่เจ้าหน้าที่ถ่ายไว้เป็นภาพที่กลุ่มพันธมิตรปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา

นายสุชาติ กล่าวว่า วันที่ 7 ต.ค. ส.ส.พรรคพลังประชาชน มาประชุมแถลงนโยบายตามที่ประธานสภาเรียกประชุม ถูกกลุ่มพันธมิตรปิดล้อมไม่ให้เข้า โดยระหว่างปิดล้อมได้พูดจาข่มขู่ ตะโกนฆ่ามันๆ จนเกิดความกลัว ต่อมาสมาชิกมีการหารือกันภายในพรรคมีมติให้เข้าแจ้งว่าเพื่อดำเนินคดีกับ 4 แกนนำ ในเบื้องต้น หากพบหลักฐานว่ามีคนอื่นเชื่อมโยงอาจแจ้งความเพิ่มเติม

ด้านพ.ต.ต.ธันยวัต กล่าวว่า คดีเกี่ยวกับม็อบกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเช่นกัน เมื่อสอบปากคำเรียบร้อยแล้วจึงจะรวบรวมสำนวนส่งนครบาล เพื่อรวบรวมเป็นคดีเดียวกัน

-"อานันท์"ปธ.พิธีศพสารวัตรจ๊าบ

ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร ซึ่งมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือสารวัตรจ๊าบ การ์ดพันธมิตรฯ เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถจี๊ปเชโรกีระเบิดที่หน้าพรรคชาติไทย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. กลุ่มพันธมิตรเริ่มทยอยไปร่วมพิธีตั้งแต่เวลา 12.00 น. โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ เป็นประธานในพิธี โดยพิธีกรกล่าวสรรเสริญพ.ต.ท.เมธี พร้อมทั้งโจมตีรัฐที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ทั้งนี้ผู้ร่วมงานมีทั้งแกนนำพันธมิตรทั้ง 2 รุ่น รวมถึงตัวแทนจากพรรคฝ่ายค้าน อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายกรณ์ จาติกวณิช คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ขณะที่ส.ว.ประกอบด้วยนายวรินทร์ เทียมจรัส นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส่วนอดีตส.ว. ประกอบด้วยพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ นายบุญเลิศ ไพรินทร์ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า นายพิเชฐ พัฒนโชติ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มราชนิกูลและกลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์ นำโดย ม.ร.ว.รำภิอาภา เกษมศรี ภริยา ม.ล.พีรพงศ์ เกษมศรี อดีตราชเลขาธิการ มาร่วมงานด้วย

-"อภิสิทธิ์-แกนพธม."ทอดผ้าบังสุกุล

จนถึงเวลา 15.30 น. พิธีจึงเริ่มและมีประชาชนมาร่วมแน่นบริเวณเมรุ และศาลาโดยรอบกระทั่งล้นออกไปรอบบริเวณวัด นอกจากนี้ยังมีการ์ดพันธมิตรอีก 15 คน บวชหน้าไฟอุทิศส่วนกุศล ให้พ.ต.ท.เมธี ขณะที่ก่อนเริ่มงาน โฆษกได้ให้ผู้ร่วมชุมนุมนำผ้าพันคอและผ้าโพกหัวกู้ชาติมาผูกด้วย

เมื่อเจ้าหน้าที่อัญเชิญเพลิงพระราชทานมาถึง นางเพ็ญพิมล ใสงาม ภรรยาของพ.ต.ท.มนตรี กล่าวสดุดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้นผู้ร่วมงานทั้งหมดร้องเพลง "เทียนแห่งธรรม" เสร็จแล้วเชิญประธานในพิธี แกนนำพันธมิตรและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านขึ้นทอดผ้าบังสุกุล ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ ขึ้นทอดผ้า ผู้มาร่วมงานตะโกนเรียกว่า "นายกฯ คนใหม่" และหลังจากได้ยินคำดังกล่าว ผู้ร่วมงานพร้อมใจกันหยิบมือตบขึ้นมาเขย่า และตะโกนโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง เมื่อเสร็จพิธีนายอภิสิทธิ์ ช่วยเป็นเจ้าภาพโปรยทานให้แก่ผู้ร่วมงาน

นอกจากนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ยังมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวของพ.ต.ท.เมธี เพิ่มอีก 5 แสนบาท จากที่เคยช่วยก่อนหน้านี้ 1 แสนบาท และสถาบันพัฒนาเยาวชนและผู้นำมอบทุนการศึกษาให้บุตรทั้งสามของพ.ต.ท.เมธี เป็นเงิน 624,000 บาท ทยอยมอบให้เป็นรายเดือนรวมเป็นเวลา 10 ปี

-"อานันท์"เรียกร้อง"ทักษิณ"ปลดล็อก

นายอานันท์ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่า ทุกคนรู้ว่าจุดที่น่าห่วงใยอยู่ตรงไหน แต่ปัญหาการเมืองเป็นปัญหาความแตกแยก และขอกล่าวด้วยความเคารพว่าปัญหาที่เกิดขึ้นรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นคนเดียวที่จะปลดล็อกได้ ไม่ได้กล่าวหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวาย แต่ดูจากเหตุการณ์ทั่วไป และเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หากพ.ต.ท.ทักษิณไม่ออกมาปลดล็อกเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ต้องหวังว่าจะดี

นายอานันท์ กล่าวว่า ไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้มีความอิสระเพียงพอหรือไม่ที่จะปลดล็อก แม้เคยดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะพูดได้ แต่ไม่มีอำนาจ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เป็นการลำบากที่คนข้างนอกจะไปพูด เพราะอาจจะไม่มีข้อมูลเพียงพอ แต่ละคนต้องรู้ว่าตัวเองมีบทบาทว่าที่ผ่านมาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจที่ให้มีการแบ่งค่ายกันระหว่างระบอบทักษิณ กับคนที่บอกว่าปกป้องระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ละฝ่ายควรรู้ดีว่าบทบาทตัวเองที่จะดำเนินการปลดล็อกอย่างไร

นายอานันท์ กล่าวอีกว่า ไม่มีอะไรแนะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่หากตั้งใจจริงที่จะให้การเมืองผ่อนคลาย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนฉลาด มีวิจารณญาณเพียงพอที่จะทำได้เลย โดยไม่ต้องมีใครแนะนำ ส่วนเหตุการณ์รุนแรงหลังจากนี้ มีแต่ความหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นรุนแรง เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาวันที่ 7 ต.ค. ได้นำความเศร้าโศก ผิดหวัง มาสู่ประชาราษฎร์ เมื่อถามว่าหากมีรัฐบาลแห่งชาติจริง พร้อมจะเป็นนายกฯ หรือไม่ นายอานันท์ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ขอตอบคำถามที่เกิดจากการสมมติ

-ไปเยี่ยมแม่น้องโบว์มา-ดีขึ้นมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.เมธีนั้น นายอานันท์ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนางวิชชุดา ระดับปัญญาวุฒิ มารดา น.ส.อังคณา โดยใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 10 นาที และกล่าวภายหลังจากเยี่ยม นางวิชชุดาว่า อาการของนางวิชชุดาในขณะนี้รู้สึกว่าหน้าตายิ้มแย้ม ลุกขึ้นมาพูดคุยได้ ส่วนแผลที่บริเวณเท้าใกล้แห้งแล้ว ส่วนจิตใจนั้นดีมากมั่นคงแน่วแน่ ดีใจที่ได้มาพบเห็นกับนางวิชชุดาสภาพร่างกายที่กำลังกลับเข้าสู่ปกติคงที่ ส่วนทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าให้เกิดขึ้นอีกเพราะเกิดมา 3 ครั้งแล้ว พอกันที การฆ่าประชาชนไม่ใช่เป็นสิ่งที่สวยงาม จะฆ่าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือแม้แต่ตำรวจหรือทหารเสียชีวิตก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่สวยงาม

-"แจ๊ค ชุมพร"กระเตื้อง-"รุ่งทิวา"คงเดิม

วันเดียวกัน น.พ.ธันต์ สุภัทร์พันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงอาการล่าสุดของนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ศิลปินอิสระ ที่ได้รับบาดเจ็บมือขวาและลำคอ หลอดลมฉีกขาดว่า วันนี้ (14 ต.ค.) นายชิงชัย ยังคงรักษาตัวในห้องไอซียู มีอาการไข้ต่ำๆ แพทย์เริ่มให้อาหารทางสายยาง รวมทั้งลดการใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนได้ โดยวางแผนเย็บซ่อมแซมหลอดลมที่ฉีกขาด ซึ่งต้องรอให้หลอดลมที่ยังมีอาการบวมลดก่อน

"ต้องดูอีกทีว่า จะซ่อมหลอดลมได้มากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ผู้ป่วยสามารถพูดได้แต่ไม่มีเสียง แม้กล่องเสียงจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ผู้ป่วยยังไม่มีแรง ทำให้ไม่สามารถเปล่งเสียงได้ อย่างไรก็ตาม นายชิงชัยคงไม่เป็นปกติ 100% ต้องสูญเสียสมรรถภาพบางส่วน แต่จะมากน้อยแค่ไหนจะต้องดูอาการต่อไป แต่ที่แน่ชัดแล้วคือผู้ป่วยต้อสูญเสียมือขวาไป" น.พ.ธันต์ กล่าวและว่า ส่วนผู้ป่วยรายอื่นๆ อาการดีขึ้น รวมแล้วยังคงมีผู้ป่วยนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งสิ้น 6 คน ออกจากโรงพยาบาลวันเดียวกันนี้ 4 คน ทางโรงพยาบาลได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลการจัดการเงินพระราช ทานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย

น.พ.ธีรพงศ์ เจริญวิทย์ รักษาการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้อาการของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการผ่าตัดทางสมองต้องใช้ระยะเวลาเฝ้าสังเกตอาการนาน ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดวันต่อวัน

-พธม.ทำบุญตักบาตรใหญ่วันนี้

เวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิป ไตย กล่าวว่า ในวันที่ 15 ต.ค. เวลา 06.00 น. พันธมิตรจะจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยจะนิมนต์พระสงฆ์จากหลายวัดมาบิณฑบาต ซึ่งจะเริ่มเดินจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ผ่านถนนราชดำเนินนอก แยกมิสกวันแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนพิษณุโลกก่อนจะเข้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่บนเวทีจะจัดพิธีรำลึกไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตตามพิธีกรรมทั้ง 3 ศาสนา

นายพิภพ กล่าวว่าขณะนี้ พันธมิตรยังไม่มีแผนดาวกระจายเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเชื่อว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเร็วๆนี้ ซึ่งพันธมิตรจะดูว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะมีประโยชน์ต่อรูปแบบการเมืองใหม่หรือไม่ ทั้งนี้พันธมิตรจะจับตาดูการตัดสินคดีที่ดินรัชดาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 21 ต.ค. แต่ยืนยันว่าในวันดังกล่าวจะไม่มีการกดดันศาล

-แถลงไม่ยอมรับกก.สอบสลายล็อบ

นายพิภพ กล่าวถึงเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ว่า เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมและนายกฯต้องลาออก ซึ่งรัฐบาลไม่มีความชอบธรรมจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ต้องเป็นหน้าที่ของคนกลางไม่ว่าฝ่ายค้าน ส.ว. อย่างไรก็ตามหากตั้งนายปรีชา พานิชวงศ์ อดีตรองประธานศาลฎีกาขึ้นมา ต้องดูว่าคณะกรรมการมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ ตัวกรรม การคนอื่นเป็นคนดีและมีความสามารถในการสอบ สวน และต้องใช้เวลาสั้น รวมถึงต้องดูว่าภายหลังจากมีผลการศึกษารัฐบาลจะปฏิบัติตามหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดเหตุการณ์รบระหว่างไทยกัมพูชา พันธมิตรจะลดการกดดันเพื่อให้เกิดความ ปรองดองในชาติหรือไม่ นายพิภพกล่าวว่า เรื่องนี้พันธมิตรเดินหน้าตั้งแต่ต้นให้รักชาติ รักดินแดน ไม่ว่ากรณีปราสาทเขาพระวิหาร หรือพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งเราได้เคลื่อนไหวให้ประชาชนรักชาติและรักษาอธิปไตย ซึ่งเราสนับสนุนให้กองทัพต้องเข้มแข็ง และให้ข้อมูลกับประชาชนให้รู้เท่าทันเกี่ยวกับเรื่องพื้นที่ชายแดน ที่ผ่านมารัฐบาลฮุน เซน ข่มขู่รัฐบาลไทยอย่างมาก รวมทั้งปรามาสว่าไทยไม่มีความสามารถจัดประชุมผู้นำอาเซียนได้ ทำให้รัฐบาลเสียศักดิ์ศรี ดังนั้นรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องลาออกเพราะไม่สามารถรักษาอธิปไตยของชาติได้

"ตอนนี้รัฐบาลดูแลประเทศไม่ได้เพราะอ่อนแอและมีผลประโยชน์ทับซ้อน พันธมิตรให้การสนับสนุนกองทัพเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างเต็มที่ ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด" นายพิภพกล่าว

-นำญาติคนเจ็บ-ตายยื่นร้องปปช.

เวลา 19.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตร แถลงว่า จะเร่งเอาผิดต่อข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองทุกคน ที่มีส่วนเกี่ยว ข้องกับการใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชน เพราะคณะอนุกรรมการที่ป.ป.ช.ตั้งขึ้นมีอำนาจเพียงการสอบสวน เพื่อเอาผิดข้าราชการประจำเท่านั้น ต้องมีเจ้าทุกข์ไปร้องทุกข์กล่าวโทษข้าราชการการเมืองด้วย ป.ป.ช.จึงมีสิทธิ์ดำเนินการได้ โดยวันที่ 17 ต.ค. เวลา 14.00 น. จะนำผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตไปร้องทุกข์ต่อป.ป.ช. โดยจะกล่าวโทษตั้งแต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ รมว.มหาดไทย ผบ.ตร. ผบช.น. และตำรวจอีกหลายนายไปจนถึงระดับนายสิบที่ก่อเหตุนับ 10 ราย

นายสุริยะใส กล่าวถึงวิปรัฐบาลมีมติให้ออกหมายจับแกนนำพันธมิตรรุ่นที่ 2 และนายอมร อมรรัตนานนท์ รวม 4 คนว่า แสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชาชนไม่รู้สึกเสียใจหรือรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น มุ่งแต่จะกล่าวโทษกลุ่มพันธมิตร เพื่อแก้เกี้ยวเท่านั้น เพราะพรรคพลังประชาชนกำลังตกเป็นจำเลยสังคม ถูกตั้งกรรมการสอบจากหลายหน่วยงาน ไม่สามารถอธิบายต่อประชาชนและสังคมโลกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงใช้วิธีแจ้งความเพื่อเอาผิดพันธมิตร ขอเตือนวิปรัฐบาลที่มีมติดังกล่าวออกมา รวมถึงตัวแทนที่ไปร้องทุกข์เรื่องดังกล่าว ระวังว่าจะเป็นการแจ้งความเท็จ เพราะกลุ่มพันธมิตรกำลังปรึกษาทีมทนายความ เพื่อหาช่องทางตามกฎหมายฟ้องกลับในกรณีดังกล่าวได้หรือไม่

-โวพธม.เห็นตรงกับความคิดอานันท์

ส่วนกรณีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ มีความเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นผู้ปลดล็อกเหตุการณ์ทั้งหมดได้นั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า เป็นความคิดตรงกับกลุ่มพันธมิตร ที่ยืนยันมาตลอดว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย มีพ.ต.ท. ทักษิณชักใยอยู่เบื้องหลัง ส่วนที่จะให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ดำเนินรายการความจริงวันนี้ในวันที่ 1 พ.ย. เป็นความพยายามเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ตามแผนที่นายจักรภพ เพ็ญแข เคยประกาศไว้ และเป็นการลวงโลกของนายสมชาย ที่เคยแถลงว่าจะสมานฉันท์ เพราะการนำนายสมัครมาออกรายการจะทำให้อุณหภูมิ การเมืองสูงขึ้น การขัดแย้งและการเผชิญหน้าจะมีมากขึ้น ยืนยันว่าระหว่างนี้ยังอยู่ในช่วง 7 วันอันตราย ก่อนถึงวันตัดสินคดีที่ดินรัชดา

นายสุริยะใส กล่าวว่า สิ่งที่จะหยุดเหตุการณ์ทุกอย่างได้ คือพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหยุดการกระทำทุกอย่างตามที่พูดไว้ แต่ในทางปฏิบัติไม่เป็นตามนั้น ยังพยายามตัดตอนปัดความผิดในการปราบปรามประชา ชนไปให้ตำรวจ บีบตำรวจระดับบัญชาการออกมาขอโทษและยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นทยอยให้ลาออกเพื่อตัดตอนทุกสิ่งออกไป ส่วนการเคลื่อนขบวนของกลุ่มนปช. ที่จะไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลา 22.00 น. ไม่กลัวว่าจะเลยมาที่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร เพราะหน่วยรักษาความปลอดภัยระวังป้องกันเป็นการพิเศษตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.เป็นต้นมา ไม่หวั่นว่าจะเกิดเหตุขึ้น

-ตีนตบ200อันเวทีนปช.ขายเกลี้ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.30 น. บริเวณท้องสนามหลวง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่เป็นวันสุดท้าย เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ครบรอบ 35 ปี 14 ตุลา ภายใต้ชื่อ"ประชาธิปไตยภายใต้อุ้งเท้าใคร เมื่อกบฏถูกปกป้อง" โดยมีกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมใส่เสื้อสีแดงทยอยมาร่วมชุมนุมกว่าพันคน ทั้งนี้ มีแกนนำนปช. อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคพลังประชาชน นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวราวุธ ฐานังกรณ์ หรือสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย สลับการขึ้นเวทีปราศรัย โดยเนื้อหาส่วนใหญ่กล่าวถึงการต่อต้านเผด็จการและปราศรัยโจมตีพันธมิตร

ขณะที่บริเวณโดยร

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์