ชูวิทย์ ทำหนังสือแจงสมาคมสื่อยอมรับผิด อ้างสุดทนถึงได้ลงมือ วิศาล โลกหมุนพักฟื้น 7 วัน


ตร.รอผลแพทย์ก่อนออกหมายเรียก "ชูวิทย์" เจ้าตัวทำหนังสือแจงสมาคมสื่อยอมรับผิด ย้ำพิธีกรข่าวทำไม่ถูกต้อง สุดทนถูกยั่วยุบันดาลโทสะ "วิศาล" ไม่หายมึนยังมีอาการโลกหมุน หมอให้พักฟื้น 7 วัน

 
ตร.รอผลแพทย์ก่อนเรียก"ชูวิทย์"
 
ส่วนความคืบหน้าคดีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายวิศาล ดิลกวณิช ผู้ดำเนินรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นั้น เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ ว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ประมาณ 1-2 คน ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงแต่วินิจฉัยทางการแพทย์จากแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกายนายวิศาล ว่ามีอาการบาดเจ็บมากน้อยอย่างไร
 
"พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหา นายชูวิทย์ทำร้ายร่างกายธรรมดา ซึ่งเป็นข้อหาลหุโทษ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000  บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำ ทั้งปรับ แต่หากวินิจฉัยทางการแพทย์ระบุเป็นอาการบาดเจ็บอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ" พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าว
 
พ.ต.อ.จิรพัฒน์กล่าวว่า เรื่องการออกหมายเรียกนายชูวิทย์มารับฟังข้อกล่าวหานั้น เชื่อว่าไม่น่าจะใช้ระยะเวลานาน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเมื่อไร ต้องรอวินิจฉัยทางการแพทย์จากแพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายเป็นสำคัญ
 
"วิศาล" ยังมีอาการโลกหมุนพัก7วัน
 
ที่โรงพยาบาลสมิติเวช นายวิศาลที่ห้องพัก 4302 ชั้น 4 เปิดเผยว่า ยังมีอาการปวดศีรษะ ปวดที่ท้ายทอยทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งหูซ้ายและหูขวา ปวดคอ มีอาการระบม แพทย์ได้ให้ยา และบอกให้พักฟื้นรอดูอาการ เพราะว่าจะมีภาวะโลกหมุน ซึ่งขณะนี้ ยอมรับว่าโลกหมุน มึน ทรงตัวไม่ค่อยดี ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 วัน ส่วนเรื่องงาน ทางผู้ใหญ่เข้าใจ ให้หยุดงานไปก่อน หากอาการเป็นปกติแล้วจึงค่อยกลับมาทำงานใหม่
 
นายสำราญ ฉัตรโท รองผู้จัดการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เปิดเผยว่า นายวิศาล ซึ่งจะต้องมาจัดรายการปกติ ในช่วงวิเคราะห์เลือกตั้งอเมริกา ไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากสภาพร่างกายยังไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งจากการวินิจฉัยของนายแพทย์ธีรพร ชัยจินดา อายุรแพทย์ระบบประสาท โรงพยาบาลสมิติเวช ระบุว่านายวิศาล ต้องพักฟื้นร่างกายเป็นระยะเวลา 7 วัน ทางรายการได้ประสานให้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล มาดำเนินรายการแทน โดยนายวิศาลได้พักรักษาอยู่ที่บ้านตามปกติ ไม่ได้มาทำงานแต่อย่างใด
 
"ชูวิทย์"แจงสมาคมสื่อยอมรับผิด
 
บ่ายวันเดียวกัน นายชูวิทย์ได้ทำบันทึกความยาว 2 หน้ากระดาษถึงสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ เรื่อง "ความจริงหลังจอ" เนื้อหาสรุปว่า ขอยอมรับผิดในเหตุการณ์ที่ใช้กำลังและขอโทษต่อสมาคมสื่อ ผู้สื่อข่าวทุกคน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจอซึ่งไม่มีใครเห็น นอกจากช่างกล้อง หรือผู้กำกับ คือ หลังจบรายการนายวิศาลได้วางไมค์และหุนหันลุกขึ้นก่อนตนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และหันหลังกลับมาใช้กระดาษในมือชี้มาที่ตนพร้อมกล่าวว่า "ผมให้เกียรติคุณแล้วนะคุณชูวิทย์" เมื่อถูกตอกย้ำความรู้สึกจึงหมดความอดกลั้นและได้บันดาลโทสะใช้กำลัง
 
ย้ำพิธีกรรายการกระทำไม่ถูกต้อง
 
นอกจากนี้ ในระหว่างการสัมภาษณ์นายวิศาลไม่ได้ให้เกียรติและไม่มีมารยาท เรียกชื่อไม่ใช่ คุณŽ นำหน้าเหมือนผู้สมัคร 3 คนที่มาร่วมรายการ อีกทั้งใช้คำถามยั่วยุและชี้นำในลักษณะไม่ให้เกียรติเย้ยหยัน ตอนจบยังพูดอีกว่า "เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไรก็ฉายให้ผู้ชมได้ดู"
 
"ผมถูกข่มเหงทางความรู้สึกอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จากพิธีกรที่ยั่วยุปลุกปั่นอารมณ์ ทำให้อารมณ์ของผมและพิธีกรไม่เป็นไปตามปกติ ผมจึงบันดาลโทสะ ผมเป็นปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง การพูดต่อสื่อออกอากาศสด ทั้งใกล้วันเลือกตั้งย่อมมีแรงกดดัน การกระทำของผมยอมรับผิด แต่ขอความเป็นธรรมจากพฤติกรรมของคุณวิศาลที่กระทำไม่ถูกต้องด้วย" นายชูวิทย์ระบุในบันทึกตอนท้าย
 
เอแบคโพลล์เตรียมสำรวจพฤติกรรม
 
นายนพดล กรรณิการ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ทำร้ายร่างกายพิธีกรรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนช่วงโค้งสุดท้าย พบว่าคนเลือกนายชูวิทย์ร้อยละ 20 เพราะชอบที่ตรงไปตรงมา เด็ดขาด และไม่เสแสร้ง กรณีนี้จะทำให้คะแนนนิยมในตัวนายชูวิทย์เปลี่ยนแปลงหรือไม่ เอแบคโพลล์จะมีการสำรวจพฤติกรรมของผู้ไปใช้สิทธิหน้าหน่วยเลือกตั้งอีกครั้ง หากคะแนนนิยมในตัวนายชูวิทย์ลดลง ก็อาจเป็นผลมาจากพฤติกรรมดังกล่าว 
 
ปธ.สภากทม.เชื่อถูกกลั่นแกล้ง
 
ขณะที่นายธวัชชัย ปิยนนทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีนายสมชาย ไพบูลย์ หมายเลข 15 ร้องเรียน กกต.กทม.ว่ามีการแจกหนังสือราชการที่ออกโดยสภา กทม.พร้อมบัตรแนะนำตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.รายหนึ่งให้กับข้าราชการ ลูกจ้าง เขตลาดกระบัง ระบุว่าข้าราชการ ลูกจ้างที่มีเงินเดือนไม่เกิน 13,500 บาท จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเดือนละ 2,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไปว่า ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับ กกต.กทม.แล้ว ยืนยันว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยสภา กทม.จริง และเป็นเอกสารแจกทั่วไปที่มอบให้สมาชิกสภา กทม.ทุกเขต นำไปเผยแพร่ ทุกคนมีสิทธิขอรับได้ ส่วนเรื่องการเพิ่มค่าครองชีพ 2,000 บาท เป็นที่รับรู้ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ข้อความเพิ่มไปในเอกสาร
"หลังจากตรวจดูเอกสารร้องเรียนแล้ว ยืนยันว่ามีการพิมพ์ข้อความเพิ่มขึ้นจริง เพราะเอกสารตัวจริงที่ผมเป็นผู้ลงนามนั้น ไม่มีข้อความดังกล่าว กรณีนี้น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกันมากกว่า" นายธวัชชัยกล่าว และว่า เรื่องนี้ได้เคยหารือกับ กกต.ไปแล้ว เพราะกลัวผิดข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์