สมชาย ยกทักษิณเป็นคนดีของผม

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะเขยเชียงใหม่ ที่เดินทางกลับ จ.เชียงใหม่

เป็นครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนเป็นภาษาคำเมือง เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ศาลาเข็มทอง ภายในวัดวัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ว่า ต้องขออภัยคน กทม. เพราะวันนี้กลับมาที่ อ.สันกำแพง แล้วพูดไทยไม่ได้ แต่อยากจะบอกว่าดีใจที่วันนี้ได้มาพบชาวสันกำแพง ไม่ได้ดีใจที่ได้เป็นนายกฯ แต่ดีใจที่ทุกอย่างที่ผ่านมา ชาวสันกำแพงยินดีต้อนรับคนคนหนึ่ง ที่ระเหเร่ร่อนมาปักหลักฝากชีวิตไว้กับคนสันกำแพง จนบัดนี้ได้ดิบได้ดีขึ้นมา ก็ไม่เคยลืมคนสันกำแพง และ อ.สันกำแพงนั้น เป็นบ้านเกิดของนายกฯ   ทักษิณ และบ้านเกิดของภรรยา


"วันนี้ดีใจที่มีโอกาสได้ขึ้นมาทำงาน ได้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารประเทศ ที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ ทั้งตอนที่มีการโปรดเกล้าฯจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าจะตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตั้งมั่นอยู่ในความมีคุณธรรมศีลธรรม ยึดหลักกฎหมายและกระบวน การต่างๆ สำคัญที่สุด ผมไม่ได้ขึ้นมาเพื่อทำงานเฉพาะการเมือง วัตถุประสงค์สูงสุดคือ ต้องการมาดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนคนทุกข์คนยากในชนบท และขอขอบคุณชาวเชียงใหม่ที่สนับสนุน ต้องบอกจากใจจริงว่าคนที่สนับสนุนผมมาตั้งแต่เริ่มต้น คือท่านทักษิณ ฉะนั้นพวกเราก็มีความผูกพันอยู่ ท่านจะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่ท่านเป็นคนดีของผม เป็นคนที่ผมให้ความเคารพเชื่อมั่น ยึดถือ ศรัทธา และมั่นใจว่าท่านเป็นคนดี เรื่องต่างๆ ที่ผ่านไปผ่านมา ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการ" นายสมชายกล่าว
 
ก่อนหน้านี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมา จ.เชียงใหม่ เพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอัฐิตระกูลชินวัตร

ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากกลุ่มพลังมวลชนใน จ.เชียงใหม่ ขณะเดียวกันก็ถูกต่อต้านจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่เหตุการณ์ไม่รุนแรง ก่อนที่นายสมชายพร้อมคณะจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันเดียวกัน
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 2 ตุลาคม ได้มีข้าราชการ นักธุรกิจ และกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ทยอยนำกระเช้าดอกไม้เข้าแสดงความยินดีกับนายสมชาย ที่บ้านพักเลขที่ 275 หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ แต่บรรยากาศไม่ค่อยเอิกเกริก เนื่องจากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย ไม่ต้องการให้เกิดความคึกคักมากนัก ซึ่งนายสมชายกล่าวถึงการเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ ว่า ความรู้สึกก็เหมือนกับทุกๆ ครั้ง เพราะตรงนี้ก็เป็นบ้าน และบ้านหลังนี้ก็อยู่มากว่า 10 ปีแล้ว บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่มาพักผ่อนปกติ แต่เวลาเดินทางมาแต่ละครั้ง ไม่ได้มาเฉยๆ ชอบไปทำบุญ

ต่อมาเวลา 09.30 น. นายสมชายพร้อมคณะเดินทางถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร โดยมีชาวเชียงใหม่กว่า 300 คน รวมทั้งชาวเขาและชาวพื้นเมืองเผ่าต่างๆ รอต้อนรับและตะโกนว่า "สมชายสู้ๆ"

นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองล้านนา ด้วยเครื่องดนตรีพื้นเมือง อาทิ สะล้อ ซอ ซึง รวมทั้งการฟ้อนเล็บ และการโปรยกลีบดอกไม้ต้อนรับ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อนางเบญจมาศ ยุทธวิริยา ชาวบ้าน ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ล้วงมือตบออกมากระพือ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง 2 นาย ได้เชิญตัวออกจากบริเวณ


ต่อมานายสมชายได้เข้าสักการะพระพุทธรูปโดยรอบองค์พระธาตุ พร้อมถวายผ้าห่มองค์พระธาตุ ก่อนจะเข้าสักการะพระประธานในพระอุโบสถ และสนทนาธรรมกับพระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุฯ เกี่ยวกับเรื่องการบูรณะองค์พระธาตุ

ทั้งนี้ พระเทพวรสิทธาจารย์ได้ฝากให้นายสมชายตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ซึ่งนายสมชายรับคำพร้อมบอกว่าตั้งใจเช่นนั้นอยู่แล้วอย่างเต็มที่ จากนั้นนายสมชายลงจากวัดพระธาตุฯ และได้แวะหยุดสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ ท่ามกลางกองเชียร์เสื้อแดงกว่า 100 คน มาที่รอให้กำลังใจและบอกให้นายสมชายสู้ๆ


เวลา 11.00 น. นายสมชายเดินทางไปยังวัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพื่อสักการะอัฐิตระกูลชินวัตร โดยมีประชาชนชาวสันกำแพงกว่า 1,000 คน รอต้อนรับ

ซึ่งนายสมชายได้เดินทักทายและจับมือกับประชาชน ก่อนเข้ากราบแทบตักนางจันสม ชินวัตร ที่มีศักดิ์เป็นอานางเยาวภา ซึ่งนางจันสมได้อวยพรให้นายสมชายประสบความสำเร็จในการทำงาน อย่าได้มีศัตรู จากนั้นนายสมชายได้พบกับประชาชนที่ศาลาเข็มทองที่อยู่ภายในวัด และเป็นสถานที่ที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้พบปะประชาชนทุกครั้งที่เดินทางมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ ทั้งนี้ โฆษกบนเวทีได้กล่าวเชิดชูเกียรติประวัติของนายสมชายว่าเป็นคนนุ่มนวล ประนีประนอม เหมาะยิ่งต่อการสร้างความสามัคคีในหมู่คนไทยวันนี้ 


จากนั้นนายสมชายเดินทางต่อไปยังวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสักการะสรีระของพระพุทธพจนวราภรณ์ เจ้าอาวาส โดยมีกองเชียร์เสื้อแดงติดตามรอรับ

อย่างไรก็ตาม ได้มีกลุ่มพันธมิตรราว 10 คน เดินทางติดตามมา แต่เจ้าหน้าที่ได้สกัดไม่ให้เข้าใกล้ตัววัด ทั้งนี้ พระราชเจติยาจารย์ รักษาการเข้าอาวาสได้มอบพระแก้วมรกตสีเขียวองค์เล็กให้นายสมชายนำไปบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายสมชายพร้อมคณะเข้ารับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารเจี่ยทัวเฮง และเมื่อเดินทางกลับ กลุ่มพันธมิตรประมาณ 4-5 คน ที่มารออยู่ด้านล่าง ได้ควักมือตบออกมากระพือ สร้างความตกใจให้บรรดาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ซึ่งติดตาม ขณะที่นายสมชายไม่ได้แสดงทีท่าตกใจ กลับเดินเข้าไปสอบถามประชาชนกลุ่มดังกล่าวว่า เป็นพันธมิตรเชียงใหม่หรือ ซึ่งได้รับคำตอบว่า เป็นชาวเชียงใหม่ มาทำงานที่เชียงใหม่ นายสมชายยังถามซ้ำอย่างอารมณ์ดีว่า เป็นคนเชียงใหม่แน่นะ กลุ่มพันธมิตรยังคงยืนยันเช่นเดิม พร้อมกล่าวกับนายสมชายว่าให้ทำงานเพื่อชาติแล้วกันนะ ทำให้นายสมชายตอบกลับไปว่า "ก็เป็นไปตามที่ผมเข้ามาอยู่แล้ว คือทำงานเพื่อประเทศชาติ"

ทั้งนี้ ระหว่างขบวนรถนายสมชายเคลื่อนตัวออกไป มีหญิงวัยกลางคน 2 คน ในรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ควักมือตบออกมากระพือเช่นกัน

จากนั้นนายสมชายเดินทางต่อไปยังตลาดวโรรส เพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้า และเยี่ยมร้านหนังสือที่เคยมาซื้อเป็นประจำ โดยมีประชาชนสนใจเข้ามุงดูและขอลายเซ็นจำนวนมาก ก่อนที่นายสมชายจะโบกมือลา แล้วเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่ามกลางกลุ่มพันธมิตรที่คอยดักรอกระพือมือตบตามเส้นทางเป็นระยะ เมื่อมาถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายสมชายได้ลงจากรถเข้าทักทายกองเชียร์เสื้อแดง และเดินเท้าจากหน้าสนามบินถึงตัวอาคารผู้โดยสารโดยมีกองเชียร์เสื้อแดงเดินประกบมาส่งอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ในเวลา 14.40 น. นายสมชายได้เดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี-111 กลับ กทม. เป็นอันเสร็จภารกิจการเดินทางเยี่ยมบ้านที่ จ.เชียงใหม่


นายสมชายให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่ประสงค์จะใช้กำลัง แต่คิดว่าให้เห็นแก่บ้านเมืองก็ต้องพูดกัน

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เรียน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ว่าขอให้ช่วยประสานด้วยเพราะอาจมีประสบการณ์ รู้จักคนและมีความนุ่มนวล คือต้องพยายามทำอย่างนี้ก่อน เพราะคิดว่ามันเป็นภาพที่ค่อนข้างเสียหาย และเสียความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติไปเยอะ


เมื่อถามว่า เท่าที่ พล.อ.ชวลิตได้ไปเจรจากับพันธมิตรมีสัญญาณในทางบวกหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า พล.อ.ชวลิตก็บอกว่าดี พล.อ.ชวลิตเป็นผู้ใหญ่ เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน คิดว่าน่าจะช่วยได้ในระดับที่ดี

เมื่อถามว่า ในการเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.อ.เปรมได้ให้คำแนะนำถึงการแก้ปัญหาวิกฤตความขัดแย้งทางความคิดในบ้านเมืองอย่างไร นายสมชายกล่าวว่า พล.อ.เปรมแนะนำ ให้ข้อสังเกต ให้ความรู้ แต่ขออนุญาตไม่พูดในรายละเอียด


"คิดว่าท่านเป็นคนที่มีความเมตตาต่อทุกๆ คนอยู่แล้ว เราก็ติดตามท่าน ดูแลท่านมา ก็เห็นว่าท่านมีความเมตตาอยู่แล้ว" นายสมชายกล่าว และว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะต้องหาทางออกให้ได้ โดยทางออกนั้นต้องเป็นทางออกที่สงบเรียบร้อย แล้วประชาชนมีความสุข ไม่ใช่ทางออกที่มารบรากัน อันนั้นเป็นทางที่นำไปสู่ความเสียหายล่มจมของประเทศ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์