นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความช่วยเหลือรัฐบาลในการฟื้นคืนความเชื่อมั่น โดยขอเสนอหลักในการแต่งตั้งบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 5 ข้อ คือ
1.กระทรวงที่มีบทบาทในเรื่องการฟื้นความเชื่อมั่น ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้ความสามารถไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน อยากให้คนนอกเข้ามา ครม.จะได้ไม่ขี้เหร่
2.รัฐมนตรีที่มีปัญหาติดคดีหวยบนดิน ปราสาทพระวิหาร หรือการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไม่ควรรับตำแหน่งอีก
3.การเป็นรัฐมนตรีเพียงเพราะเป็นคู่สมรส ญาติพี่น้องของคนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งในสังคมโลกมายอมรับเท่าไหร่ ควรที่จะเสียสละไม่ตำแหน่ง
4.รัฐมนตรีที่เข้ามาเพราะเป็นนายทุนพรรค ซึ่งข้อกล่าวหาเรื่องการซื้อขายตำแหน่งเป็นข้อหาที่รุนแรง ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ ก็ไม่ควรรับตำแหน่ง
5.ไม่ควรปูนบำเหน็จให้ที่มีส่วนในการนำผู้ชุมนุมมาสร้างความรุนแรง
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสมชายควรใช้โอกาสที่กรรมการบริหาร พปช.มอบอำนาจการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้
ในการพิสูจน์ภาวะผู้นำ ด้วยการไม่แต่งตั้งคนสีเทา ทั้งอำนาจทางการเมืองและอำนาจเงินตรา เข้ามาร่วม ครม. โดยสรรหาบุคคลเข้ามาบริหารบ้านเมือง เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า ไม่ได้เข้ามาเป็น ครม.ชั่วคราว หรือปฏิบัติภารกิจเฉพาะหน้า หรือเพื่อช่วยเหลือบางคนบางกลุ่มเท่านั้น แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายสมชาย ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดโผ ครม.เป็นเพียงการสร้างภาพว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่นายสมชาย
แต่ข้อเท็จจริงอำนาจคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้ง ครม. ครั้งนี้มี 3 คนคือ นายใหญ่ นายหญิง และนายในบ้าน ถ้าหากนายสมชาย มีอำนาจที่จะจัด ครม.จริงก็ต้องรอดูโฉมหน้า ครม.ที่ออกมา ถ้ามีคนเก่าเกินครึ่ง นายสมชาย ก็ไม่มีอำนาจที่แท้จริง
"เวลานี้พรรคที่เรียบร้อยที่สุดน่าจะเป็นพรรคชาติไทย เพราะคนที่สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งต่างๆ ก็คือหลงจู๊คนเดียว ตอนนี้ก็เอาลูกชายมานั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ว่าเป็นปรากฏการณ์หวานคอแร้งของพรรคการเมืองนั้น ผมไม่แน่ใจว่าพรรคการเมืองไหนหวานคอแร้งกันแน่" นายเทพไทกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
